คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. กำไรที่เป็นตัวเงิน กับกำไรที่เป็นเปอร์เซ็นต์
ปกติถ้าจะดูว่ากำไรโต ส่วนใหญ่จะเจอว่า โตทั้งจำนวนที่เป็นตัวเงิน และ % กำไร
ที่สงสัยคือหุ้นบางตัว เช่น SAPPE ปี 59-60 จะเห็นว่า กำไรสุทธิ (ที่เป็นจำนวนเงิน) ลดลง
ในขณะที่ กำไรที่เป็น % เพิ่มขึ้น แบบนี้ยังถือว่าดีหรือเปล่าครับ (คุมค่าใช้จ่ายได้ดี)
คำถามนี้มันชวนงง เลยต้อง ไปดูงบ ของ sappe ถึงเข้าใจ
คือ จริงๆ กำไรสุทธิ ทั้งหมด และ กำไรต่อหุ้น หรือกำไร นำไปคิดเป็น % มันต้องไปด้วยกัน
แต่คิดว่า กำไรเป็น% ที่คุณถาม คงเป็น อัตรากำไรสุทธิ หรือ Net Profit margin ratio คือ อัตรากำไร คิดเป็นกี่ % ของรายได้รวม
ถ้าถามว่าอันไหนดีกว่ากัน ผมชอบ ตัวกำไรสุทธิ ที่สูงมากกว่า ตัว อัตรากำไร
คิดง่าย คุณขายของ ด้วยทุนก้อนเดียวกัน ขายของอย่างเดียวกัน ถ้าคุณขายของทำยอดขายได ้100 กำไร 20 บาท (อัตรากำไรสุทธิ 20%)
เทียบกับคุณขายของได้ 10 บาท กำไร 5 บาท ( อัตรากำไรสุทธิ 50%)
คุณจะเลือก อันไหน ส่วนตัวผม เลือก อันบน มันมีเม็ดเงินมากกว่า
2. บริษัทที่กำไรดีอย่างสม่ำเสมอ กับ บริษัทที่กำไรน้อยกว่าในปีปัจจุบัน แต่ว่ากำไรโตมาเรื่อยๆ
ตลาดจะให้ค่าตัวไหนมากกว่ากันครับ
ยกตัวอย่างเช่น
PB กำไรย้อนหลัง 4 ปี (%) 15-17-19-17
OISHI กำไรย้อนหลัง 4 ปี (%) 4-5-8-10
อันนี้บอกยากต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน ดูธุรกิจนั้นด้วยว่า กำไรนั้นมันจะสม่ำเสมอมั้ย และ มันกำลัง จะรุ่ง หรือ จะร่วง หรือ นิ่งๆ คงที่อย่างนั้น
3. หุ้นบางตัวในตลาดหลักทรัพย์ขึ้นงบ Q3/61 กันแล้ว ทั้งๆที่ตอนนี้เพิ่งจะเดือนมีนา ไม่ทราบว่าพิมพ์ผิดหรือ เกิดจากอะไรครับผม
หุ้นในตลาดส่วนใหญ่ งบปี เริ่ม 1 มค. จบ 31 ธค. ไตรมาศแรกเริ่ม 1 มค.
แต่บางบริษัท มันไม่ได้เริ่มตรงนี้ บางคน อาจจะเริ่มนับไตรมาศแรก 1 เมษา บาง บ.นับ ไตรมาศแรก 1 กค. บาง บ.นับไตรมาศแรก 1 ตค. ดังนั้น ตัวเลขมันเลยต่างกัน ไป แล้ว แต่ว่าเริ่มนับตรงไหน ลองดูครับ Bland ก็ไม่ได้จบ ที่ 31 ธค.เหมือนกัน
ปกติถ้าจะดูว่ากำไรโต ส่วนใหญ่จะเจอว่า โตทั้งจำนวนที่เป็นตัวเงิน และ % กำไร
ที่สงสัยคือหุ้นบางตัว เช่น SAPPE ปี 59-60 จะเห็นว่า กำไรสุทธิ (ที่เป็นจำนวนเงิน) ลดลง
ในขณะที่ กำไรที่เป็น % เพิ่มขึ้น แบบนี้ยังถือว่าดีหรือเปล่าครับ (คุมค่าใช้จ่ายได้ดี)
คำถามนี้มันชวนงง เลยต้อง ไปดูงบ ของ sappe ถึงเข้าใจ
คือ จริงๆ กำไรสุทธิ ทั้งหมด และ กำไรต่อหุ้น หรือกำไร นำไปคิดเป็น % มันต้องไปด้วยกัน
แต่คิดว่า กำไรเป็น% ที่คุณถาม คงเป็น อัตรากำไรสุทธิ หรือ Net Profit margin ratio คือ อัตรากำไร คิดเป็นกี่ % ของรายได้รวม
ถ้าถามว่าอันไหนดีกว่ากัน ผมชอบ ตัวกำไรสุทธิ ที่สูงมากกว่า ตัว อัตรากำไร
คิดง่าย คุณขายของ ด้วยทุนก้อนเดียวกัน ขายของอย่างเดียวกัน ถ้าคุณขายของทำยอดขายได ้100 กำไร 20 บาท (อัตรากำไรสุทธิ 20%)
เทียบกับคุณขายของได้ 10 บาท กำไร 5 บาท ( อัตรากำไรสุทธิ 50%)
คุณจะเลือก อันไหน ส่วนตัวผม เลือก อันบน มันมีเม็ดเงินมากกว่า
2. บริษัทที่กำไรดีอย่างสม่ำเสมอ กับ บริษัทที่กำไรน้อยกว่าในปีปัจจุบัน แต่ว่ากำไรโตมาเรื่อยๆ
ตลาดจะให้ค่าตัวไหนมากกว่ากันครับ
ยกตัวอย่างเช่น
PB กำไรย้อนหลัง 4 ปี (%) 15-17-19-17
OISHI กำไรย้อนหลัง 4 ปี (%) 4-5-8-10
อันนี้บอกยากต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน ดูธุรกิจนั้นด้วยว่า กำไรนั้นมันจะสม่ำเสมอมั้ย และ มันกำลัง จะรุ่ง หรือ จะร่วง หรือ นิ่งๆ คงที่อย่างนั้น
3. หุ้นบางตัวในตลาดหลักทรัพย์ขึ้นงบ Q3/61 กันแล้ว ทั้งๆที่ตอนนี้เพิ่งจะเดือนมีนา ไม่ทราบว่าพิมพ์ผิดหรือ เกิดจากอะไรครับผม
หุ้นในตลาดส่วนใหญ่ งบปี เริ่ม 1 มค. จบ 31 ธค. ไตรมาศแรกเริ่ม 1 มค.
แต่บางบริษัท มันไม่ได้เริ่มตรงนี้ บางคน อาจจะเริ่มนับไตรมาศแรก 1 เมษา บาง บ.นับ ไตรมาศแรก 1 กค. บาง บ.นับไตรมาศแรก 1 ตค. ดังนั้น ตัวเลขมันเลยต่างกัน ไป แล้ว แต่ว่าเริ่มนับตรงไหน ลองดูครับ Bland ก็ไม่ได้จบ ที่ 31 ธค.เหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
กำไรโตแบบไหนดีกว่ากันครับ
1. กำไรที่เป็นตัวเงิน กับกำไรที่เป็นเปอร์เซ็นต์
ปกติถ้าจะดูว่ากำไรโต ส่วนใหญ่จะเจอว่า โตทั้งจำนวนที่เป็นตัวเงิน และ % กำไร
ที่สงสัยคือหุ้นบางตัว เช่น SAPPE ปี 59-60 จะเห็นว่า กำไรสุทธิ (ที่เป็นจำนวนเงิน) ลดลง
ในขณะที่ กำไรที่เป็น % เพิ่มขึ้น แบบนี้ยังถือว่าดีหรือเปล่าครับ (คุมค่าใช้จ่ายได้ดี)
2. บริษัทที่กำไรดีอย่างสม่ำเสมอ กับ บริษัทที่กำไรน้อยกว่าในปีปัจจุบัน แต่ว่ากำไรโตมาเรื่อยๆ
ตลาดจะให้ค่าตัวไหนมากกว่ากันครับ
ยกตัวอย่างเช่น
PB กำไรย้อนหลัง 4 ปี (%) 15-17-19-17
OISHI กำไรย้อนหลัง 4 ปี (%) 4-5-8-10
3. หุ้นบางตัวในตลาดหลักทรัพย์ขึ้นงบ Q3/61 กันแล้ว ทั้งๆที่ตอนนี้เพิ่งจะเดือนมีนา ไม่ทราบว่าพิมพ์ผิดหรือ เกิดจากอะไรครับผม
ดูตามรูปเลยครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ