ทริปต่างประเทศทริปแรกของปีนี้ ขอประเดิมด้วย ประเทศฮ่องกง
เนื่องจากเป็นประเทศที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ไปต่างประเทศครั้งแรกก็ฮ่องกง
Backpack เที่ยวครั้งแรกก็ฮ่องกง
มาบ่อยสุด ก็คงจะไม่พ้นที่นี่แหละ
แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ มาทีไรก็มาตระเวนไหว้พระขอพรตลอด
หลังๆเราเลยไปประเทศอื่น ฮ่องกงเลยห่างหายจากชีวิตเราไปสักพัก
รอบนี้พยายามหาข้อมูลฮ่องกงในมุมมองอื่นๆบ้างและก็พบว่า
ที่นี่มีเส้นทาง trekking ที่นิตยสาร Time magazine ให้เป็น The best urban hike in Asia อีกด้วย
มีมุมถ่ายรูปแบบ hipster มากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และไหนๆมาแล้ว
เราก็ไม่พลาดที่จะตระเวณหาของกินอร่อยๆอย่างแน่นอน ห่างหายจากฮ่องกงไปราวๆ 6 ปี
กลับมาใหม่รอบนี้ตั้งใจว่าจะไปที่ๆไม่เคยไปทั้งหมดเล้ยยยย
Day 1
ทริปนี้เราบินกับสายการบินแอร์เอเชีย หางแดงนี่เอง เพราะด้วยไฟล์ทที่มีหลากหลาย และมีไฟล์ทเช้ากลับดึก ได้เที่ยวแบบเต็มๆวันถูกใจเรามากๆ
นี่เป็นไฟล์ททั้งหมดของสายการบินแอร์เอเชีย ดอนเมือง – ฮ่องกง
ขาไปใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
FD 508 06.35 – 10.15
FD 504 15.30 - 19.10
FD 502 16.35 - 20.20
ขากลับ ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที
FD 509 10.45 - 12.35
FD 505 19.50 - 21.45
FD 503 21.35 - 23.20
เราเลือกไฟล์ทขาไป FD 508 เป็นไฟล์ทเช้า พอถึงฮ่องกงก็สามารถเที่ยวได้เลย ส่วนไฟล์ทกลับ เลือก FD505 กลับมาจะได้ไม่ถึงบ้านดึกมาก
เดินทางไฟล์ทเช้าขนาดนี้ คิดว่าต้องหิวข้าวแน่ๆ เราเลยสั่งอาหารบนเครื่องมาก่อนด้วย เมนูที่สั่งคือ Japanese-style salt&chilli salmon
ได้ปลาชิ้นโตไม่ใช่เศษปลานะ และ Onigiri ต้มยำกุ้ง ที่สามารถสั่งบนเครื่องได้อีกด้วย พร้อมน้ำเปล่า
กินอิ่มนอนหลับสัก 1 ตื่น ก็ถึงฮ่องกงพอดี๊ พอดี แล้วเรากฌเตรียมตัวเที่ยวได้เลยยยยยยย
ส่วนเรื่อง internet เราใช้ pocket wifi ของ Tripizee wifi สัญญานโอเคนะ มีปัญหาบ้างบางช่วงแต่เราก็ line คุยกับเจ้าหน้าที่เลย แก้ไขปัญหาให้เร็วมาก โดยเราสามารถใช้ความเร็ว 4Gได้สูงสุด 1GB แล้วความเร็วที่เหลือจะลดลง แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าช้าลงเท่าไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Website: www.tripizee.com
Facebook: Tripizee
Instagram: _tripizee_
มีความพีคตั้งแต่เริ่มทริปคือ ทำนาฬิกาหาย และ ยังไม่ได้แต่งหน้า ทีนี้หน้าก็จะซีดๆเซียวๆหน่อยเนอะ
ตื่นตั้งแต่ตี 4 หลับมาบนเครื่องอีก มีความอิดโรย เลยโดนเจ้าหน้าที่เรียกเลยจ้า ขอวัดอุณหภูมิหน่อย
ดูมีความแพร่เชื้อเบาๆ 555 สุดท้ายก็รอดมาได้แบบหน้ามึนๆ
วิธีการเข้าเมือง
จากสนามบินเข้าไปในเมืองก็มีด้วยกันหลายวิธีทั้ง รถไฟ Airport Express รถBus รถTaxi โดยสนามบินที่ลงเครื่องคือ Chek Lap Kok อยู่ที่เกาะลันเตา เป็นเกาะเดียวกับ Disneyland พระใหญ่นองปิง และ city gate outlet ต้องดูด้วยว่าที่พักเราอยู่ที่ไหนและวิธีไหนเหมาะที่สุดในการเดินทางจากสนามบินมาที่พัก (ง่ายทีสุดคือ mail ไปถามโรงแรมเลยว่าไปยังไงสะดวกและดีที่สุด)
เราพักย่าน Tsim Sha Tsui เลยเลือกที่จะนั่ง Airport express ไปลงสถานี Kowloon
แล้วจะมี Shuttle bus ไปส่งฟรีตามโรงแรมหรือละแวกใกล้เคียงเลย สะดวกมากๆ
จัดการทุกอย่างเสร็จก็ประมาณเที่ยง หิวพอดี แถวโรงแรมมีร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดังที่เราหามาพอดี ชื่อร้าน Lung Kee Wanton เป็นร้านครึ่งห้องแถว เราสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้งน้ำ กับบะหมี่ลูกชิ้นปลา น้ำซุปหวาน อร่อย ไม่ต้องปรุงเลย และบะหมี่เส้นเล็กๆ ลวกมาสุกกำลังดี เกี๊ยว ลูกชิ้นๆโต อร่อยมาก
(รีวิวของกินจะแยกไปอีกอันนึงนะ อันนี้จะให้ดูภาพรวมของทริปก่อน)
วันแรกแพลนไม่ได้แน่นมาก เน้นเดินเล่นเดินกินมากกว่า จุดหมายต่อไปคือไปจิบกาแฟที่ร้าน Urban coffee roaster ที่อยู่ละแวกเดียวกันเลย กาแฟที่นี่รสชาติดี ถ้าชอบเปรี้ยวๆก็แนะนำเลย เราสั่ง Picolo latte หอมมาก ร้านสวยและแนวๆดี นั่งสักพักก็ได้เวลาเดินเล่นต่อย่าน Tsim Sha Tsui ก็คล้ายๆ Siam Square บ้านเรานี่แหละ มีร้านค้ามากมาย ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งให้เลือกช้อปปิ้งกัน แต่ทริปนี้จะไม่ค่อยได้ช้อปสักเท่าไร เพราะเราว่าเดี๋ยวนี้ที่ไทยก็มีทุกอย่างแล้ว ราคาไม่ได้แตกต่างกันมาก (ยกเว้นแบรนด์เนมนะ 555)
เจอร้าน Sheratea เลยแวะซื้อชานมไข่มุก กินแล้วชอบ Mister shake ที่บ้านเรามากกว่า 555 และแถวนี้มีร้าน Flamingo Bloom ที่หาไว้พอดี เลยเดินเล่นสักพักแล้วไปพักอีกที่ร้านนี้ นี่คงเรียกว่าเดินกินจริงๆ ร้านนี้ตกแต่งโทนสีชมพูเขียว มีความ Tropical Vibes มาก นกฟลามิงโกสีชมพูเต็มร้านเลย เราสั่ง HK Waffle กับชากุหลาบ รสชาติเฉยๆนะ ราคาค่อนข้างสูงนิดนึง
เย็นนี้เราจองร้าน Mott32 ไว้ แต่ยังเหลือเวลาเลยไปเดินเล่นถ่ายรูปกับผนัง street art กัน ฮ่องกงได้เชิญศิลปินดังๆหลายท่าน มีคนไทยมา paint ผนังตามมุมต่างๆให้ได้ถ่ายรูปกันด้วบนะ ในธีม crazy for art เรามีลายแทง ถ้าใครสนใจก็ตามนี้เลย (ขอเขียนรีวิวแยกไว้อีกอัน เดี๋ยวจะยาวเกินไป) โดยเราเริ่มจากสถานี Sheung wan เดินไปจนถึง Central
และแล้วก็ถึงเวลาที่จองร้าน Mott32 ไว้ ร้านอยู่ที่ตึก Standard Chartered ชั้นใต้ดิน reception แอบงานดีนะ >,< บรรยากาศร้านจะทึมๆหน่อย แนวหรูหราเลยแหละ มื้อนี้ตั้งใจมากว่าจะมากิน โดยเฉพาะหมูแดง ที่มีแค่วันละ 8 ชิ้นเท่านั้น อะไรมันจะยากขนาดเน้ !! แต่เราสามารถจองก่อนได้นะจะได้ไม่นก มีสั่งหมูกรอบ ขนมจีบ ฮะเก๋า ซุป และ ขนมหวาน รวมๆแล้วก็ประมาณ 6,000 บาท (รวม tips แล้วนะเด้อ) อาหารก็อร่อยจริงๆแหละ อร่อยมาก แต่ราคาก็แรงเช่นกัน เดือนพฤษภาคมจะมาเปิดที่ไทยแล้ว รอได้เลยย
อากาศดีมาทั้งวัน จนกินเสร็จนี่แหละ ออกมาราวฟ้ากับเหว ลมแรงตัวแทบปลิว และฝนก็เริ่มตก T____T เลยไปเดินเล่นหลบฝนที่ IFC mall เจอกับติ่งฮ่องกงราวนับร้อยนับพันชีวิตมาตาม Zhang Yi Xing วง EXO ทุกคนสู้ตายมาก และมีเก้าอี้ประจำตัวด้วย ปรบมือเลยย นี่ก็แอบไปดูกับเค้านะ เห็นแว้บๆ 55555
ส่วน DAY2 เดี๋ยวจะตามมานะคะ
[SR] HK TRAVEL GUIDE | ไปฮ่องกงแบบหว่องๆ 4 วัน 3 คืน
เนื่องจากเป็นประเทศที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ไปต่างประเทศครั้งแรกก็ฮ่องกง
Backpack เที่ยวครั้งแรกก็ฮ่องกง
มาบ่อยสุด ก็คงจะไม่พ้นที่นี่แหละ
หลังๆเราเลยไปประเทศอื่น ฮ่องกงเลยห่างหายจากชีวิตเราไปสักพัก
รอบนี้พยายามหาข้อมูลฮ่องกงในมุมมองอื่นๆบ้างและก็พบว่า
ที่นี่มีเส้นทาง trekking ที่นิตยสาร Time magazine ให้เป็น The best urban hike in Asia อีกด้วย
มีมุมถ่ายรูปแบบ hipster มากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และไหนๆมาแล้ว
เราก็ไม่พลาดที่จะตระเวณหาของกินอร่อยๆอย่างแน่นอน ห่างหายจากฮ่องกงไปราวๆ 6 ปี
กลับมาใหม่รอบนี้ตั้งใจว่าจะไปที่ๆไม่เคยไปทั้งหมดเล้ยยยย
ทริปนี้เราบินกับสายการบินแอร์เอเชีย หางแดงนี่เอง เพราะด้วยไฟล์ทที่มีหลากหลาย และมีไฟล์ทเช้ากลับดึก ได้เที่ยวแบบเต็มๆวันถูกใจเรามากๆ
ขาไปใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
FD 508 06.35 – 10.15
FD 504 15.30 - 19.10
FD 502 16.35 - 20.20
ขากลับ ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที
FD 509 10.45 - 12.35
FD 505 19.50 - 21.45
FD 503 21.35 - 23.20
เดินทางไฟล์ทเช้าขนาดนี้ คิดว่าต้องหิวข้าวแน่ๆ เราเลยสั่งอาหารบนเครื่องมาก่อนด้วย เมนูที่สั่งคือ Japanese-style salt&chilli salmon
ได้ปลาชิ้นโตไม่ใช่เศษปลานะ และ Onigiri ต้มยำกุ้ง ที่สามารถสั่งบนเครื่องได้อีกด้วย พร้อมน้ำเปล่า
กินอิ่มนอนหลับสัก 1 ตื่น ก็ถึงฮ่องกงพอดี๊ พอดี แล้วเรากฌเตรียมตัวเที่ยวได้เลยยยยยยย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตื่นตั้งแต่ตี 4 หลับมาบนเครื่องอีก มีความอิดโรย เลยโดนเจ้าหน้าที่เรียกเลยจ้า ขอวัดอุณหภูมิหน่อย
ดูมีความแพร่เชื้อเบาๆ 555 สุดท้ายก็รอดมาได้แบบหน้ามึนๆ
จากสนามบินเข้าไปในเมืองก็มีด้วยกันหลายวิธีทั้ง รถไฟ Airport Express รถBus รถTaxi โดยสนามบินที่ลงเครื่องคือ Chek Lap Kok อยู่ที่เกาะลันเตา เป็นเกาะเดียวกับ Disneyland พระใหญ่นองปิง และ city gate outlet ต้องดูด้วยว่าที่พักเราอยู่ที่ไหนและวิธีไหนเหมาะที่สุดในการเดินทางจากสนามบินมาที่พัก (ง่ายทีสุดคือ mail ไปถามโรงแรมเลยว่าไปยังไงสะดวกและดีที่สุด)
แล้วจะมี Shuttle bus ไปส่งฟรีตามโรงแรมหรือละแวกใกล้เคียงเลย สะดวกมากๆ
จัดการทุกอย่างเสร็จก็ประมาณเที่ยง หิวพอดี แถวโรงแรมมีร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดังที่เราหามาพอดี ชื่อร้าน Lung Kee Wanton เป็นร้านครึ่งห้องแถว เราสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้งน้ำ กับบะหมี่ลูกชิ้นปลา น้ำซุปหวาน อร่อย ไม่ต้องปรุงเลย และบะหมี่เส้นเล็กๆ ลวกมาสุกกำลังดี เกี๊ยว ลูกชิ้นๆโต อร่อยมาก
(รีวิวของกินจะแยกไปอีกอันนึงนะ อันนี้จะให้ดูภาพรวมของทริปก่อน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้