เล่าประสบการณ์ “สอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นเข้ารับราชการสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.)”

เนื่องจากก่อนหน้าที่ผู้เขียนพยายามหาข้อมูลจากพันทิปและแหล่งอื่นๆในการสมัครสอบรวม ถึงข้อมูลต่างๆ แต่ก็น้อยเหลือเกิน
และอีกอย่างขอมาเขียนก่อน ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวลืมรายละเอียดต่างๆก่อนนะสิ
วันนี้มีโอกาสจึงอยากจะเล่าให้เพื่อนๆและผู้ที่สนใจทุกคนได้อ่านดู เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

ขอเล่าตั้งตั้งแต่วันแรกที่สมัครสอบจนถึงวันที่บรรจุเลยนะ
ผู้เขียนสอบในตำแหน่งนายทหารประทวนนะ สอบปลายปี 60 บรรจุ ต้นปี 61
ปีนี้เป็นปีแรกที่ในระเบียบการระบุไว้ว่า จะต้องบรรจุเป็นพนักงานราชการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายทหารประทวนก่อน 1 ปี
เมื่อผ่านเกณฑ์การประเมิน ก็จะบรรจุเป็นข้าราชการตามตำแหน่งที่ได้สอบไว้
เอาละสิ เป็นพนักงานราชการ เอาไงดี สมัครดีไหม เกิดทำงานไปแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ละ ปลิวนะเว้ยยยย
ในหัวเกิดคำถาม พนักงานราชการคืออะไร http://www.ocsc.go.th/ges/intro ไปอ่านกันเลยจ้า

การสมัครสอบของกองบัญชาการกองไทยจะใช้ระบบการสมัครสอบแบบออนไลน์
และไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
ตรงนี้จะรับสมัครประมาณ 10 วัน ช้าอดหมดนะจ๊ะ..

เมื่อสมัครเสร็จแล้ว จ่ายเงินเรียบร้อย ก็นั่งรอ ประกาศ วันเวลาและสถานที่สอบ
ระยะเวลาจากวันที่ประกาศรับสมัคร จนถึงวันสอบ ก็ประมาณ 1 เดือน

>>>>>สำหรับผู้ที่กำลังอ่านหนังสือสอบอยู่ แนะนำว่าอ่านเรื่อยๆสะสมไปเลย พอเวลาประกาศสอบจริง มันรวดเร็วมาก 1 เดือน อ่านแทบไม่ทัน เพราะเนื้อหาที่ออกสอบค่อนข้างกว้างและอัพเดทมาก เว้นแต่คุณจะ ไอคิวสูงมาก และความจำดีเยี่ยม อันนี้ไม่ว่ากัน แต่ที่แน่นอนเลย เนื้อหาที่ออกสอบ ตรงตามที่แจ้งไว้ในระเบียบการแน่นอน

สถานที่สอบ ปีนี้คือ ศูนย์สอบธรรมศาสตร์ รังสิต คนเยอะเหมือนเดิมจ้า
หลังจากสอบข้อเขียนเสร็จ ก็รอประกาศผลสอบ ระยะเวลาก็ประมาณ 2 สัปดาห์

ถึงประกาศผลสอบแล้ว การจัดลำดับในรอบแรกนั้น จะเรียงลำดับตามหมายเลขประจำตัวสอบ และคัดเลือกแค่ 3 เท่าของจำนวนที่รับจริง
ตรงนี้คะแนนจะยังคละกันอยู่  โดยจะเรียงลำดับมาเรื่อยๆ จนครบตามจำนวน ที่เหลือก็คือ “ไม่ผ่าน”

>>>>>ตรงนี้ขอแนะนำว่า อย่าทำแค่ผ่านเกณฑ์ ต้องให้ได้คะแนนเยอะๆไว้ เพราะคนที่ผ่านรอบแรกส่วนใหญ่คะแนนสูงมาก
เฉือนกันแค่คนละ 1 คะแนน 2 คะแนนเอง แต่ไอ้ 1 คะแนนตรงนี้ มันคือ คำว่า “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” เลยนะ

เอาล่ะ เมื่อประกาศผลรอบแรกแล้ว ก็เตรียมตัวเข้าสู่การสอบรอบที่ 2 กันเลยจ้า ขอบอกรอบนี้ดุเด็ดมาก
สอบรอบที่สอง จะประกอบไปด้วย สอบสัมภาษณ์ ทดสอบปฏิบัติในตำแหน่งที่สอบ ซึ่งบางตำแหน่งก็ไม่ต้องสอบนะ
และสุดท้ายคือ ทดสอบร่างกาย อันนี้ต้องสอบกันทุกคน
เริ่มแรกเลย คือสอบสัมภาษณ์ คำถามก็เหมือนสอบงานทั่วๆไป มีถามความรู้ในตำแหน่งบ้าง แล้วก็เกี่ยวกับงานที่ผ่านมา ประวัติการศึกษา
อันนี้ขอเน้นย้ำว่า ให้ตอบเสียงดังฟังชัด และตอบอย่างมั่นใจ เวลาในการสอบสัมภาษณ์ก็ประมาณ 25-35 นาที ต่อคน

ต่อมาก็สอบปฏิบัติ ผู้เขียนสมัครในกลุ่มตำแหน่ง สารบรรณ จึงจะต้องสอบปฏิบัติในการใช้โปรแกรม Microsoft office ด้วย
ประกอบด้วย Microsoft word คือ พิมพ์เอกสารราชการ อันนี้ทาง บก.ทท. จะเตรียมเอกสารให้เราเอง
หน้าที่เราคือพิมพ์ตามรูปแบบที่ให้มาในเวลาที่กำหนด เวลาในการสอบ 30 นาที
Microsoft Excel จะเป็นการคำนวณและสร้างตาราง ทาง บก.ทท. ก็จะให้เอกสารเรามาประมาณ 2 แผ่น
แผ่นแรกเป็นตาราง แผ่นถัดมาก็เป็นคำสั่ง ให้เราทำอะไรบ้าง ซึ่งต้องทำให้เหมือนเป๊ะๆอย่างในเอกสาร และก็มีการคำนวณ
ซึ่งคะแนนจะเยอะกว่าส่วนอื่นๆเลย
Microsoft Power point ให้ทำงานนำเสนอ ซึ่งก็เหมือนกับ Excel ที่ให้ตัวอย่างมา ให้คำสั่งมาว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็ทำตามคำสั่งไป
เวลาในการสอบของ excel และ power point รวมกัน 1 ชั่วโมง
รวมเวลาในการสอบ ทั้งสามอย่างก็ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ต่อไป สถานีสุดท้าย คือ ทดสอบร่างกาย
จะมี วิ่ง 1 กม.
ดันพื้น 2 นาที
ลุกนั่งหรือซิทอัพ 2 นาที
เกณฑ์ของผู้หญิงคือ วิ่ง 1 กม. ใช้เวลา น้อยกว่า 5 นาที ได้คะแนนเต็ม
ดันพื้น เกิน 42 ครั้ง ได้คะแนนเต็ม
ลุกนั่ง เกิน 57 ครั้ง ได้คะแนนเต็ม
คะแนนจะเต็ม 10 หลังจากนั้นก็จะลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ ของผู้ชายไม่ทราบนะ เพราะผู้เขียนสอบในตำแหน่งของผู้หญิง ต้องขออภัยในข้อมูลด้วย

มาถึงวันประกาศผลสอบรอบที่ 2 แล้ว
    เพิ่มเติมนะ บางคนอาจจะยังสงสัยว่าการคิดคะแนนของ บก.ทท. นั้นเป็นอย่างไร ผู้เขียนจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆก่อน
    ขอเทียบกับการสมัครสอบนายสิบตำรวจนะ จะต่างกัน คือ ถ้าของตำรวจจะตัดกันไปที่ละสถานีเลย ใครได้ตัวจริงคือ ตัวจริงเลย สำรองก็ต้องทดสอบเหมือนตัวจริงทุกอย่าง เมื่อทดสอบครบทุกสถานี สำรองก็รอเรียกไป แต่ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์หรือเวลาที่ตั้งไว้ แค่สถานีเดียว คือ ตก แต่ของ บก.ทท. จะนำคะแนนทุกสถานีมารวมกันตั้งแต่ข้อเขียนเลย นั้นหมายความว่า คนที่ประกาศผลรอบแรก ได้ลำดับที่ 1 เมื่อประกาศผลรอบที่ 2 ลำดับอาจจะขยับลงมาหรืออยู่ที่เดิมก็ได้ เพราะเวลาประกาศผลจะนำคะแนนทุกอย่างมารวมกัน รวมไปถึงคะแนนที่ขอเพิ่มไว้ด้วย จะประกาศจากลำดับที่ได้คะแนนสูงที่สุดลงมาเรื่อยๆ จนได้จำนวนที่ต้องการตามที่ประกาศรับสมัครไว้ ที่เหลือจะถูกตัดเป็นสำรอง

เมื่อทราบผลสอบรอบที่ 2 กันไปแล้ว ยังไม่หมดนะ ยังเหลือส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ ตรวจประวัติอาชญากรรม และตรวจร่างกาย
รวมทั้งตรวจสุขภาพจิต ถึงตรงนี้ เราจะรู้แล้วว่าเราได้ตัวจริง ลำดับที่เท่าไหร่

หลังจากประกาศผลสอบที่ 2 นับต่อไปอีก ประมาณ 1 สัปดาห์ ทาง บก.ทท. จะเรียกมาส่งเอกสารรายงานตัว “ตัวจริง”  
ในวันที่ส่งเอกสาร ช่วงเช้าจะมีการตรวจประวัติอาชญากรรมด้วย
ช่วงบ่ายก็เลือกตำแหน่งที่เราอยากจะทำ หน่วยงานที่เราอยากจะอยู่ และเครื่องแบบที่เราอยากจะใส่

    ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า การแต่งกายของบก.ทท. นั้น แม้เราจะเลือกเครื่องแบบตามเหล่า แต่เมื่อปฏิบัติงาน ต้นสังกัดก็คือ บก.ทท. นะ ไม่ได้ ขึ้นตรงกับกองทัพตามสีของเครื่องแบบที่ใส่ ตรงนี้ขอยกตัวอย่าง เช่น บางคนเลือกหน่วยที่อยู่ ในเขตดอนเมือง  อาจจะแต่งเครื่องแบบ ทร. ก็ได้ และเมื่อเวลาขอย้ายไปส่วนราชการอื่น คนที แต่งเครื่องแบบ ทร. ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปประจำในหน่วยที่อยู่ในเขตทะเลหรือชายฝั่ง เพราะ บก.ทท. มีส่วนราชการแยกย่อยทั่วประเทศไทย ตอบเผื่อไว้เพราะตรงนี้หลายๆคนยัง งงๆ อยู่

กลับมาเล่าต่อ เวลาเลือกตำแหน่งก็เลือกตามลำดับที่ประกาศไว้ ใครสอบได้ต้นๆก็เลือกไปก่อน ใครสอบได้ท้ายๆก็เลือกที่หลัง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อาจจะมีการตกลงกันในกลุ่มก่อนก็ได้ ไล่ถามที่ละคน ตั้งแต่คนแรกถึงคนสุดท้ายเลย ว่าจะเลือกตำแหน่งอะไร
จะได้ไม่ต้องคิดหนักต้องขานตำแหน่งหน้าเวที

ถัดมาก็ไปตรวจร่างกายกัน เดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ก็ตรวจทั่วๆไป ตั้งแต่วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจหู คอ จมูก รอยสัก แผลเป็น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจสายตา และเอกซเรย์ ช่วงบ่ายก็ตรวจสุขภาพจิต

เสร็จแล้วก็เดินทางไปยังหน่วยที่เราเลือกไว้ เพื่อนัดแนะเวลา รับเอกสารและกรอกเอกสารข้อมูลเพิ่มเติม แล้วก็กลับไปนั่งรอรับโทรศัพท์กัน
ตรงนี้ จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการตรวจประวัติอาชญากรรมและผลตรวจร่างกาย หากไม่มีโทรศัพท์ติดต่อกลับมา เป็นอันว่า “ผ่าน”

เกือบแล้วจ้า เกือบจะได้บรรจุแล้ว ก่อนบรรจุ ก็จะมีการเรียกไปรับเอกสาร อีกนิดหน่อย
เราก็นำกลับไปกรอกให้เรียบร้อย แล้วก็ถือกลับไปส่งยังหน่วยที่เราเลือก
ถึงตรงนี้ก็จะทำสัญญาจ้างแล้วละ เราก็จะทราบว่าจะเริ่มงานวันไหนและต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

จากวันที่รายงานตัวรอบที่ 2 จนถึงวันที่ทำสัญญาจ้าง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนนะ
ขอย้ำว่า ระหว่างที่รอผลตรวจร่างกายซึ่งมั่นใจว่าร่างกายแข็งแรงและไม่เคยต้องคดีใดๆเลย
รีบๆไปตัดเครื่องแบบกันเลยนะ มันรวดเร็วมาก แทบไม่ทันเลย

วันแรกที่บรรจุจะต้องเดินทางไปที่ บก.ทท.อีกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ ตอนนี้ใครที่เครื่องแบบเสร็จเรียบร้อยก็สามารถใส่ไปได้เลยจ้า
แต่ถ้ายังไม่เสร็จ ก็ยังอนุโลมให้แต่งกายชุดสุภาพได้นะ

เป็นอันว่าเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่วันแรกที่สมัครสอบจนถึงวันที่บรรจุ ใช้เวลาก็ประมาณ 3 เดือนนะ

โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่า ในการสอบทุกหน่วยงาน สิ่งที่ยากที่สุดคือ การสอบข้อเขียน ถ้าเราผ่านข้อเขียนมาได้
ทุกอย่างมันก็จะลื่นไหลไปเองโดยอัตโนมัติ ขอแค่เราเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมไว้เสมอ คำว่าสำเร็จก็จะเกิดกับทุกคนแน่นอน

ทั้งหมดก็คือประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียน ที่อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนได้อ่าน
ใครมีข้อสงสัย หรือข้อมูลไม่ถูกต้อง ก็หลังไมค์มาได้เลยจ้า ผู้เขียนยินดีรับฟังและแก้ไข จะได้เป็นวิทยาทาน ให้แก่คนที่สนใจต่อไป

เดี๊ยวว่างๆจะกลับมาเล่าชีวิตการทำงานให้ฟังต่อนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่