เรื่องของชีวิตเรามันก็จะคล้ายๆกับนิยายหน่อย แต่มันเป็นเรื่องจริงค่ะ...
คือเรามีเพื่อนผู้หญิงคนนึงชื่อมีจองค่ะ(นามสมมุติ) มีจองเป็นคนเกาหลีแท้แต่พูดไทยได้เพราะมาอยู่ไทยตั้งแต่เด็กๆ ตอนเรียนอนุบาลเราไม่มีเพื่อนเลย ทั้งที่บ้านและโรงเรียนเพราะมีแต่คนบอกว่าเราเป็นลูกเมียน้อยซึ่งเอาจริงๆคือเราเป็นลูกเมียหลวงนี่แหละ พ่อเราก็แต่งงานกับแม่คนเดียวไม่มีคนอื่น เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอาข่าวลือนี้มาจากไหน เราพยายามบอกคนพวกนั้นแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเราเลย เราก็เลยแบบ..โอเคไม่ต้องเชื่อก็ได้ไม่มีเพื่อนก็คงไม่ตาย ละจากนั้นเราก็อยู่คนเดียวมาตลอดจนอนุบาล3(เราเรียนเอกชน) มีนักเรียนเข้ามาใหม่ก็คือมีจองนั่นแหละค่ะ ในสายตาเรานะ มีจองเป็นคนที่แบบ หน้าตาน่ารักมากๆๆ แต่นิสัยก็จะแบบห่าวๆหน่อย เป็นพวกรักความยุติธรรม ไม่ชอบคนที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า ทำนองนั้นอ่ะค่ะ มีจองเดินมาถามเราว่า 'เธอชื่ออะไร' เราก็ตอบไปว่าชื่ออะไร ละมีจองก็บอกว่า 'ไม่มีเพื่อนเหรอ เห็นอยู่แต่ในบ้านไม่ออกมาเล่น' เราก็แบบ..ไปรู้ได้ไงว่าเวลาอยู่บ้านเราไม่ค่อยออกมาเล่น ละมีจองก็บอกว่าบ้านของมีจองก็คือบ้านข้างๆเรา เราก็..ห๊ะ!จริงดิ ตั้งแต่นั้นเรากับมีจองก็อยู่ด้วยกันสองคน มีจองเริ่มเรียนเทควันโดรตั้งแต่ป.1 พ่อแม่ของเราและมีจองคอยกีดกั้นไม่ให้เราคบหากันเพราะว่าพ่อแม่เราบอกว่า มีจองดูเป็นห่วงเรามากไป(แบบว่า ใครมาแกล้งเราก็ใช้เท้ายันหน้า//นางเคยเข้าห้องปกครองเพราะว่ามีเพื่อนผู้ชายมาว่าเราว่าลูกเมียน้อยจนเราร้องไห้) พ่อแม่เรากลัวว่าจะคิดกันเกินเพื่อนหรือไม่ก็จะติดกันจนแยกกันไม่ออก ส่วนพ่อแม่ของมีจอง ไม่อยากให้มีจองมายึดติดกับเรา มาคอยเป็นห่วงว่าวันนี้จะโดนแกล้งมั้ย จะร้องไห้รึป่าว ถ้าร้องแล้วใครละปลอบ ประมาณนั้น ละประมาณป.3(เราอยู่คนละห้องกับมีจอง) ละตอนนั้นเราก็นั่งเรียนปกติ อยู่ดีๆเพื่อนห้องมีจองก็วิ่งมาบอกเราว่ามีจองจมน้ำ(โรงเรียนเรามีคาบสอนว่ายน้ำ) เราก็แบบ เชี่ย!ห๊ะอะไรนะ แล้วก็วิ่งออกจากห้องเรียนไปแบบไม่คิดชีวิตเลยอ่ะ คือเราก็ไปที่สระว่ายน้ำ เพราะเพื่อนของมีจองวิ่งนำ พอไปถึงก็แบบ เห็นมีจองสลบอยู่ข้างสระ มีครูมีเพื่อนๆมุงกันเต็มเลย ครูก็บอกแบบ..อย่ามุงๆ คือตอนนั้นขาเราแข็งมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี มันแบบ โอมายก้อดดด เพื่อนรักตรูตกน้ำหรือนี่ ว้อท? เกิดอะไรขึ้น จะร้องก็ร้องไม่ออก แล้วจากนั้นรถพยาบาลก็มารับตัวมีจองไป เราก็ขอติดรถไปด้วยแต่ครูไม่ให้ไปค่ะ ก็เลยได้อยู่โรงเรียน ละก็โดนไล่ให้ไปเรียนต่อ เราก็เข้าห้องเรียน พอก้นถึงเก้าอี้เท่านั้นล่ะ น้ำตานี่ไหลออกมาแบบหนักมาก เพื่อนเราก็ไม่สนใจไง คือแบบฉายาลูกเมียน้อยไม่ได้หายไปไหนเลย ครูก็เลยโทรหาพ่อแม่เราให้มารับกลับบ้าน เราขอพ่อแม่ไปหามีจองที่โรงพยาบาล แต่พ่อบอกว่าเอาไว้ย้ายไปห้องพักส่วนตัวแล้วเราค่อยไปเยี่ยมก็ได้ เราก็โอเค ละเราก็ไปเยี่ยมมีจองที่โรงพยาบาล พ่อแม่เรากับมีจองคือสนิทกันระดับนึง ไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่แค่ไม่อยากให้เรากับมีจองสนิทกันมากเกินไป ทำนองนั้น ละพอกลับจากวันนั้นเราก็ไม่เจอมีจองอีกเลยค่ะ คือบ้านของมีจองเขาย้ายออกไป ซึ่งไปไหนก็ไม่รู้ พอขึ้นป.6เราก็ถามพอว่ามีจองไปไหน พ่อเลยตอบว่ามีจองอ่ะเสียชีวิตแล้ว เขาไปทำพิธีกันที่เกาหลี เราก็แบบห๊ะ!ช็อคมากเวอร์ ชีวิตป.6ของชั้นทำไมต้องมาเจออะไรที่โหดร้ายอย่างนี้ เราไม่กินไม่นอนขังตัวเองอยู่ในห้อง3วัน โรงเรียนก็ไม่ไป(แต่ดื่มน้ำนะ ไม่งั้นตายไปแล้ว) สุดท้ายเราก็ป่วย ละก็เข้าโรงพยาบาล เราเสียใจมากเลย คือ เพื่อนชั้นต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อย ผ่านมาประมาณ1-2ปี เราก็ใกล้จะจบม.1ละ จะขึ้นม.2 (ย้ายโรงเรียนแล้ว) คือชีวิตในวัยม.1ของเรา เรามีเพื่อนมาก ไม่มีคนด่าว่า ไม่มีคนแกล้ง มีความสุขดี ก็เลยแบบถ้ามีมีจองอยู่ด้วยก็คงจะดี เราตัดสินใจเรียนเทควันโดตั้งแต่ป.6 ละปัจจุบันก็เรียนอยู่ เพราะเราคิดว่ามีจองไม่อยู่ดูแลแล้ว เราควรจะดูแลตัวเอง(ตอนป.1มีจองเคยจะลากเราไปเรียนเทควันโดด้วย แต่เราไม่ไปเพราะว่าไม่อยากทำคนอื่นเจ็บ) ละตอนนั้นใกล้จะวันเกิดเราแล้ว เราเลยพิมพ์ข้อความไปที่message ของมีจอง(เราเล่นfacebook)ตั้งแต่ป.3-ป.4นู่นน่ะ) คือเราแค่อยากลองพิมพ์ไปเผื่อว่ามีจองจะรับรู้บ้างเราพิมพ์ไปประมาณว่า
'จะวันเกิดเราแล้วนะ'
'ปีที่แล้วไม่มาเราไม่โกรธ แต่ปีนี้ต้องมานะ'
'เราเรียนเทควันโดแล้วนะ มีจองไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว'
'อย่าลืมเอาของขวัญมาด้วย'
'แค่มีจองกลับมาหาเราก็เป็นของขวัญแล้ว'
เราพิมพ์ไปประมาณนั้นละก็มีคนอ่าน เราก็เลยคิดว่าคงจะเปิดพ่อแม่ของมีจองละมั้ง
พอวันเกิดเรา ซึ่งพ่อแม่จัเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆให้ มีญาติ มีเพื่อนเรามา ละคือนั่งอยู่ดีๆเค้กก็เดินเข้ามาละคือคนถือเค้กคือมีจอง เราก็แบบงงแล้วน้ำตามันไหลออกมาเอง จำได้ขึ้นใจมีจองบอกเราว่า 'เป่าเค้กได้แล้วขี้แย' เราก็ร้องไห้มากกว่าเดิมอีก สุดท้ายพ่อแม่ก็สารภาพว่าจริงๆแล้วมีจองไปเรียนต่อที่เกาหลี ที่บอกว่าตายไปแล้วอ่ะ เพราะว่า ถ้าพูดว่าไปเรียนต่อเราต้องไม่ยอมแน่ๆ ส่วนมีจองก็สารภาพว่า รู้อยู่แล้วแหละว่า จะต้องย้ายไปเรียนที่เกาหลี ตอนนั้นคือแบบเดือดเวอร์วังมาก คือมีอะไรทำไมไม่บอกอ่ะ ตอนนี้เราก็ยังคงโกรธทั้งพ่อแม่ ทั้งมีจอง
คือเราควรจะหายโกรธม่ะ ไอดีใจมันก็ดีใจนะแต่ว่าพ่อแม่โกหก แถมมีจองก็ไม่เคยติดต่อมาเลย
เขียนเรื่องราวชีวิตละมันเหมือนแต่งนิยายเลยง่ะ
บอกเราทีเราควรทำยังไง
ควร 'โกรธ' หรือควร 'ดีใจ' ดีคะ?
คือเรามีเพื่อนผู้หญิงคนนึงชื่อมีจองค่ะ(นามสมมุติ) มีจองเป็นคนเกาหลีแท้แต่พูดไทยได้เพราะมาอยู่ไทยตั้งแต่เด็กๆ ตอนเรียนอนุบาลเราไม่มีเพื่อนเลย ทั้งที่บ้านและโรงเรียนเพราะมีแต่คนบอกว่าเราเป็นลูกเมียน้อยซึ่งเอาจริงๆคือเราเป็นลูกเมียหลวงนี่แหละ พ่อเราก็แต่งงานกับแม่คนเดียวไม่มีคนอื่น เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอาข่าวลือนี้มาจากไหน เราพยายามบอกคนพวกนั้นแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเราเลย เราก็เลยแบบ..โอเคไม่ต้องเชื่อก็ได้ไม่มีเพื่อนก็คงไม่ตาย ละจากนั้นเราก็อยู่คนเดียวมาตลอดจนอนุบาล3(เราเรียนเอกชน) มีนักเรียนเข้ามาใหม่ก็คือมีจองนั่นแหละค่ะ ในสายตาเรานะ มีจองเป็นคนที่แบบ หน้าตาน่ารักมากๆๆ แต่นิสัยก็จะแบบห่าวๆหน่อย เป็นพวกรักความยุติธรรม ไม่ชอบคนที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า ทำนองนั้นอ่ะค่ะ มีจองเดินมาถามเราว่า 'เธอชื่ออะไร' เราก็ตอบไปว่าชื่ออะไร ละมีจองก็บอกว่า 'ไม่มีเพื่อนเหรอ เห็นอยู่แต่ในบ้านไม่ออกมาเล่น' เราก็แบบ..ไปรู้ได้ไงว่าเวลาอยู่บ้านเราไม่ค่อยออกมาเล่น ละมีจองก็บอกว่าบ้านของมีจองก็คือบ้านข้างๆเรา เราก็..ห๊ะ!จริงดิ ตั้งแต่นั้นเรากับมีจองก็อยู่ด้วยกันสองคน มีจองเริ่มเรียนเทควันโดรตั้งแต่ป.1 พ่อแม่ของเราและมีจองคอยกีดกั้นไม่ให้เราคบหากันเพราะว่าพ่อแม่เราบอกว่า มีจองดูเป็นห่วงเรามากไป(แบบว่า ใครมาแกล้งเราก็ใช้เท้ายันหน้า//นางเคยเข้าห้องปกครองเพราะว่ามีเพื่อนผู้ชายมาว่าเราว่าลูกเมียน้อยจนเราร้องไห้) พ่อแม่เรากลัวว่าจะคิดกันเกินเพื่อนหรือไม่ก็จะติดกันจนแยกกันไม่ออก ส่วนพ่อแม่ของมีจอง ไม่อยากให้มีจองมายึดติดกับเรา มาคอยเป็นห่วงว่าวันนี้จะโดนแกล้งมั้ย จะร้องไห้รึป่าว ถ้าร้องแล้วใครละปลอบ ประมาณนั้น ละประมาณป.3(เราอยู่คนละห้องกับมีจอง) ละตอนนั้นเราก็นั่งเรียนปกติ อยู่ดีๆเพื่อนห้องมีจองก็วิ่งมาบอกเราว่ามีจองจมน้ำ(โรงเรียนเรามีคาบสอนว่ายน้ำ) เราก็แบบ เชี่ย!ห๊ะอะไรนะ แล้วก็วิ่งออกจากห้องเรียนไปแบบไม่คิดชีวิตเลยอ่ะ คือเราก็ไปที่สระว่ายน้ำ เพราะเพื่อนของมีจองวิ่งนำ พอไปถึงก็แบบ เห็นมีจองสลบอยู่ข้างสระ มีครูมีเพื่อนๆมุงกันเต็มเลย ครูก็บอกแบบ..อย่ามุงๆ คือตอนนั้นขาเราแข็งมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี มันแบบ โอมายก้อดดด เพื่อนรักตรูตกน้ำหรือนี่ ว้อท? เกิดอะไรขึ้น จะร้องก็ร้องไม่ออก แล้วจากนั้นรถพยาบาลก็มารับตัวมีจองไป เราก็ขอติดรถไปด้วยแต่ครูไม่ให้ไปค่ะ ก็เลยได้อยู่โรงเรียน ละก็โดนไล่ให้ไปเรียนต่อ เราก็เข้าห้องเรียน พอก้นถึงเก้าอี้เท่านั้นล่ะ น้ำตานี่ไหลออกมาแบบหนักมาก เพื่อนเราก็ไม่สนใจไง คือแบบฉายาลูกเมียน้อยไม่ได้หายไปไหนเลย ครูก็เลยโทรหาพ่อแม่เราให้มารับกลับบ้าน เราขอพ่อแม่ไปหามีจองที่โรงพยาบาล แต่พ่อบอกว่าเอาไว้ย้ายไปห้องพักส่วนตัวแล้วเราค่อยไปเยี่ยมก็ได้ เราก็โอเค ละเราก็ไปเยี่ยมมีจองที่โรงพยาบาล พ่อแม่เรากับมีจองคือสนิทกันระดับนึง ไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่แค่ไม่อยากให้เรากับมีจองสนิทกันมากเกินไป ทำนองนั้น ละพอกลับจากวันนั้นเราก็ไม่เจอมีจองอีกเลยค่ะ คือบ้านของมีจองเขาย้ายออกไป ซึ่งไปไหนก็ไม่รู้ พอขึ้นป.6เราก็ถามพอว่ามีจองไปไหน พ่อเลยตอบว่ามีจองอ่ะเสียชีวิตแล้ว เขาไปทำพิธีกันที่เกาหลี เราก็แบบห๊ะ!ช็อคมากเวอร์ ชีวิตป.6ของชั้นทำไมต้องมาเจออะไรที่โหดร้ายอย่างนี้ เราไม่กินไม่นอนขังตัวเองอยู่ในห้อง3วัน โรงเรียนก็ไม่ไป(แต่ดื่มน้ำนะ ไม่งั้นตายไปแล้ว) สุดท้ายเราก็ป่วย ละก็เข้าโรงพยาบาล เราเสียใจมากเลย คือ เพื่อนชั้นต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อย ผ่านมาประมาณ1-2ปี เราก็ใกล้จะจบม.1ละ จะขึ้นม.2 (ย้ายโรงเรียนแล้ว) คือชีวิตในวัยม.1ของเรา เรามีเพื่อนมาก ไม่มีคนด่าว่า ไม่มีคนแกล้ง มีความสุขดี ก็เลยแบบถ้ามีมีจองอยู่ด้วยก็คงจะดี เราตัดสินใจเรียนเทควันโดตั้งแต่ป.6 ละปัจจุบันก็เรียนอยู่ เพราะเราคิดว่ามีจองไม่อยู่ดูแลแล้ว เราควรจะดูแลตัวเอง(ตอนป.1มีจองเคยจะลากเราไปเรียนเทควันโดด้วย แต่เราไม่ไปเพราะว่าไม่อยากทำคนอื่นเจ็บ) ละตอนนั้นใกล้จะวันเกิดเราแล้ว เราเลยพิมพ์ข้อความไปที่message ของมีจอง(เราเล่นfacebook)ตั้งแต่ป.3-ป.4นู่นน่ะ) คือเราแค่อยากลองพิมพ์ไปเผื่อว่ามีจองจะรับรู้บ้างเราพิมพ์ไปประมาณว่า
'จะวันเกิดเราแล้วนะ'
'ปีที่แล้วไม่มาเราไม่โกรธ แต่ปีนี้ต้องมานะ'
'เราเรียนเทควันโดแล้วนะ มีจองไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว'
'อย่าลืมเอาของขวัญมาด้วย'
'แค่มีจองกลับมาหาเราก็เป็นของขวัญแล้ว'
เราพิมพ์ไปประมาณนั้นละก็มีคนอ่าน เราก็เลยคิดว่าคงจะเปิดพ่อแม่ของมีจองละมั้ง
พอวันเกิดเรา ซึ่งพ่อแม่จัเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆให้ มีญาติ มีเพื่อนเรามา ละคือนั่งอยู่ดีๆเค้กก็เดินเข้ามาละคือคนถือเค้กคือมีจอง เราก็แบบงงแล้วน้ำตามันไหลออกมาเอง จำได้ขึ้นใจมีจองบอกเราว่า 'เป่าเค้กได้แล้วขี้แย' เราก็ร้องไห้มากกว่าเดิมอีก สุดท้ายพ่อแม่ก็สารภาพว่าจริงๆแล้วมีจองไปเรียนต่อที่เกาหลี ที่บอกว่าตายไปแล้วอ่ะ เพราะว่า ถ้าพูดว่าไปเรียนต่อเราต้องไม่ยอมแน่ๆ ส่วนมีจองก็สารภาพว่า รู้อยู่แล้วแหละว่า จะต้องย้ายไปเรียนที่เกาหลี ตอนนั้นคือแบบเดือดเวอร์วังมาก คือมีอะไรทำไมไม่บอกอ่ะ ตอนนี้เราก็ยังคงโกรธทั้งพ่อแม่ ทั้งมีจอง
คือเราควรจะหายโกรธม่ะ ไอดีใจมันก็ดีใจนะแต่ว่าพ่อแม่โกหก แถมมีจองก็ไม่เคยติดต่อมาเลย
เขียนเรื่องราวชีวิตละมันเหมือนแต่งนิยายเลยง่ะ
บอกเราทีเราควรทำยังไง