อยากให้ทุกคนได้อ่าน "ความรักที่คอยโดนผู้ใหญ่กีดกัน(แม่แฟน)"

นี้เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดประการได้ต้องขออภัยด้วยนะคับ
         
          ก่อนเข้าเรื่อง สาเหตุที่ผมตั้งกระทู้นี้หลักๆคือ ให้กำลังใจเพื่อนๆที่ประสบปันหาแบบเดียวกันผม กับ ขอคำปรึกษาจากเพื่อนที่เคยเผชิญปันหาแบบเดียวกัน และที่สำคัน ผมอยากให้ผู้ใหญ่หลายๆคนที่มีลูก ได้อ่านกระทู้นี้

          สวัสดีคับก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคับ ผมชื่อ K (ขอใช้นามสมมุตินะคับ) ผมอายุ 25 ปี เป็นคนจังหวัด นครราชสีมา ปัจจุบันกำลัง ฝึกงานที่บริษัทแห่งนึง และ กำลังจะจบการศึกษา(ปวส)ในปีหน้า
          ส่วนแฟนผมขอเป็นชื่อ N แล้วกันนะคับ อายุ 20 ปี เป็นคนจังหวัด นครสวรรค์ ปัจจุบัน แฟนผมไม่ได้เล่นต่อแล้ว ช้วยที่บ้านทำกิจการร้านอาหารแถวๆตลาดริมน้ำ(ร้านดังด้วย)

เรื่องนี้อาจจะยาวไปสะหน่อยนะคับ แต่ผมคงต้องเล่าตั้งแต่ผมได้เจอกับแฟนครั้งแรกเลย เพื่อทุกคนที่เข้ามาอ่านอาจจะได้เข้าใจความรู้สึกของพวกเรา

         ผมได้เจอกับแฟนครั้งแรกบนอินเตอร์เน็ต มันเป็นโปรแกรมแชทรูปแบบนึง ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่คิดจะคบกัน แต่พอเราลองคุยกันไปมา พอหลายวันเขาพวกเราก็เริ่มพูดถูกคอกันมาก เพราะจากนิสัยต่างๆแล้ว 90% นิสัยเดียวกันเลย (คือผมชอบอะไรเขาก็ชอบแบบนั้น เขาชอบอะไรผมก็ชอบแบบนั้น) ความคิดเราเหมือนกันไปทางเดียวกันตลอด เลยถูกใจกันมาก จนตกลงใจกันลองคบหากันแบบแฟนกันดู ซึ่งก็ไปกันได้ดีมาก คุยด้วยกันตลอด แชทบ้าง
โทร(Line)บ้าง มีแต่ความสุขถึงแม้นานๆที แฟนจะมีงอลผมบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปันหาใหญ่อะไรเลย วันเดียวก็กลับมาคุยกันใหม่ จนเราคบกันได้ประมาน 2 3 เดือน พวกเราจึงตกลงกันว่า หน้าจะหาเวลามาเจอกันบ้าง(เจอกันตัวจริง) เพราะผมเองก็อยากไปหาพ่อแม่เขา อยากไปพูดกับพ่อแม่เขาว่าอยากขอคบกับลูกสาวของเขาให้เป็นเรื่องเป็นราวไม่ใช่แอบคบๆกัน ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่เขาก็รู้ว่าลูกเขามีแฟนแล้วแล้วแฟนเคยบอกว่า พ่อแม่ อยากให้ไปเจอด้วย  พอเรานัดวันและเวลาได้แล้ว พอก่อนหน้าวันนัด 1 วัน อยู่ๆผมก็ติดต่อแฟนไม่ได้ ไม่ว่าจะทักเข้าไปทางไหนก็ไม่มีตอบกลับมาไม่อ่านข้อความ (โทรเบอร์ไม่ได้เพราะเขาไม่มี) แต่ผมก็ไม่คิดอะไร พอถึงวันนัดผมก็ยังคงติดต่อไม่ได้ผมเลยตัดสินใจลองเสี่ยงไปดู เพราะเรานัดเจอเขาไว้ที่หมู่บ้านแห่งนึง (เขาบอกว่าอยู่ที่นั้น) ผมก็เลยขี่รถมอไซค์คู่กาย จาก โคราช ออกตอนประมาน 6 โมงเช้า ขี่ไปเลื่อยๆจนไปถึง นครสวรรค์ ตอนประมาน 10 โมงเกือบๆ 11 โมงได้ เป็นระยะ
ทางประมาน 300 กว่าโล เราก็ขี่ไปตรงที่เรานัดกัน ผมก็รอเขาจนเวลาล่วงเลยจากที่นัดไว้หลายชั่วโมง ผมเลยตัดสินใจขี่รถตามหาเขาในหมู่บ้านนั้นหลายรอบมาก ตามหาลักษณะบ้านที่เขาเคยบอกๆมา แต่กลับไม่มีหลังไหนเข้าเค้าว่าจะใช้เลย ถามใครต่อใครแล้วก็ไม่รู้จัก จนมืดผมเลยเข้าพักที่โรงแรมเพราะกลางคืนไม่อยากขี่รถในหมู่บ้านเพราะเขาจะหนวกหูเอา แต่ตอนตี 4 5 ผมก็ไปวนในนั้นอีกรอบนึงแล้วกลับไปโรงแรมใหม่ พอก่อนจะกลับผมก็ไปวนหาที่หมู่บ้านนั้นอีกหลายรอบ แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ผมเลยตัดสินใจขี่รถกลับบ้าน และ 1 วันให้หลังเขาได้ติดต่อผมกลับมา เขาบอกว่ามือถือเขาเสียแล้วช่องทางการติดต่อระหว่างผมกับเขาพวกรหัดต่างๆ เข้าใช้งานไม่ได้ เลยต้องสมัครใหม่ทั้งหมด แล้วตอนนั้นเขาถามผมว่าได้มาตามนัดมั้ย ผมก็บอกว่าได้ไปตามนัดแต่ไม่เจอ เขาก็ขอโทษผมใหญ่เลย และบอกว่ากำลังจะไปรอตามนัด แต่ตัวแฟนโดนแม่เขาหลอก โดยการ ชวนเขาไปซื้อของข้างนอก และพาเขาหนีไปเที่ยวต่างจังหวัดเลย เขาก็ไม่รู้จะติดต่อผมยังไง แต่ผมแปลกใจตรงที่ทำไมแม่เขาต้องหลอกลูกเขาพาหนีผมด้วย ผมถามแฟน แฟนผมก็บอกไม่รู้เหมือนกัน และผมลองถามแล้วว่า จริงๆบ้านเขาอยู่ในหมู่บ้านนั้นมั้ย เขาก็ยอมบอกว่าไม่ใช่แฟนโดนแม่เขาสั่งห้ามบอก แฟนเลยบอกที่ๆเคยอยู่ให้ผมรู้แทน แต่ครั้งนั้นผมก็ไม่อะไร เพราะเรื่องมันแล้วไปแล้ว พวกผมก็คุยกันตามปกติ และมีอีกหลายครั้งมากเราจะนัดเจอกันแต่ไม่เคยได้เจอกัน(เพราะฝนตกบ้างน้ำท่วมบ้างเขาไม่สบายบ้างเกิดอุบัติเหตุกับเขาบ้าง) เป็นอยู่แบบนี้เป้น 10 รอบ จนอีกครั้งนึก ผมกับแฟนได้คุยกันว่าอยากเจอกันอีกเพราะบ้านเขามีงานแล้วผมเป็นช่างภาพเลยกะจะอาสาช้วยถ่ายภาพให้ พอไกล้ถึงเวลาที่ผมจะได้ไปแฟนผมก็บอกว่าแม่เขาไม่ให้มา โดยอ้างว่ายุ่งไม่มีเวลาต้อนรับผม ผมก็เลยไม่ได้ไปเจอ แต่ตรงนี้คือจุดเปลี่ยน เพราะแฟนผมเล้าว่า เหมือนแม่เขากำลังจะจับคู้ให้เแฟนกับ ลูกชายเพื่อนเขา โดยการแนะนำให้รู้จักกันแต่ นิสัยแฟนผมคือรักเดียวใจเดียว แฟนเลยไม่คุยกับเขาแล้วพยามตีตัวออกห่าง แต่ไอ้หมอนั้น ก็ยิ่งตามตื้อด้วยการมาหาที่บ้านแฟนทุกวัน (ประมานว่าผู้ใหญ่ถือหาง เข้าออกบ้านแฟนผมได้ตามสบาย) และดูเหมือนนิสัยแม่แฟนจะเปลี่ยนไปมาก แบบหน้ามือเป็นหลังมือตั้งแต่ไอ้หมอนี้มา เปลี่ยนเป็นยังไงเช่น แม่แฟนผมเขาชอบบังคับให้แฟนผมอยู่คุยกับไอ้นั้น แต่แฟนเกลียดไอ้นั้นมาก พอไอ้นั้นมาแฟนก็จะหนีไม่คุยด้วย เกลียดขนาดไหนเพื่อนๆ ลองคิดเอานะเกลียดที่ว่าเอาน้ำมาสาดใส่ต่อหน้าแม่แฟนและแม่ของไอ้นั้น(แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมาตื้ออยู่ทุกวันนี้) แต่แม่แฟนก็ยังคงบังคับเขาจนถึงขั้นลงไม้ลงมือตีแฟนผม แฟนเล่าว่าแม่เขาไม่เคยตีเขาเลยแต่วันนี้กลับลงไม้ลงมือกับเขา บังคับให้อยู่คุยด้วยเอ่ย(แฟนได้แต่นั่งเงียบไม่ตอบไร) ไปกินข้าวกับเขาเอ่ย ไปเที่ยวกับเขาเอ่ย สารพัด จนแฟนผมเขาเก็บกดมาก เขาเคยร้องไห้บอกความรู้สึกไปว่าไม่อยากโดนบังคับไม่ชอบไอ้นั้น แต่พวกเขาก็ไม่เคยจะฟังแฟนผม ยังคงพยายามจับคู้ไอ้นั้นกับแฟนผมต่อไป และ ทุกอย่างมันเริ่มที่จะแย่ลงคือ แม่แฟนเขาเริ่มกีดกันพวกเราออกจากกันมากคือ ด้วยการยึดมือถือเขา ห้ามใช้คอม ยึดกรุแจรถไม่ให้ขับ ขังเขาไว้ให้อยู่ในบ้านห้ามออกไปไหน(สาเหตุที่โดนขังเพราะแฟนผมเคยขู่แม่เขาว่าจะหนีมาหาผมถึงตอนนี้ก็ยังโดนขังอยู่) แต่ถึงจะโดนทำแบบนั้นพวกเราก็ยังคงหาวิธีแอบติดต่อกันได้ และ เมื่อเร็วๆนี้แฟนผมก็โดนพวกแม่ๆจับให้หมั้นกับไอ้นั้น โดยที่ไม่ฟังความรู้สึกของแฟนผมที่ร้องไห้พยายามบอกพวกเขาว่าไม่ต้องการแบบนี้ แต่สิ่งที่แม่ของไอ้นั้นตอบกลับมาคือ "ถึงตอนนี้หนูจะยังไม่รักลูกของน้าแต่อยู่ด้วยกันไปเดี๊ยวหนูจะรักเอง" แฟนผมเสียใจมากแต่ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาบีบบังคับแฟนมากตอนนั้น จนพวกผมวางแผนให้เขาหนีมาอยู่กับผมก่อนจะถึงวันงาน เพื่อนๆเชื่อมั้ยว่า ตั้งแต่วันผมรู้ว่าเขาโดนจับหมั้นกำหนดวันหมั่นเขาคืออีก 7 วันข้างหน้า (ประมานว่ารีบให้หมั่นๆกันสะ) ซึ่งผมก็ไม่อยากพาเขาหนีมาแต่ผมก็ทนดูน้องเขาโดนบังคับแบบนั้นไม่ได้อีกต่อไปเหมือนกัน ผมเลยกะจะพาหนีแล้วจะเอาเขาไปส่งให้พี่ชายกับพ่อของเขาอีกที แต่โชคยังพอเข้าข้างพวกเราตรงที่ก่อนหน้าวันงาน 2 วันอยู่พ่อเขากลับมาบ้านแล้วเห็นความผิดปกติของบ้าน(กำลังเตรียมจัดงาน) เลยถามว่าอะไรเท่านั้นล่ะคับบ้านแตก เพราะเรื่องนี้เป็นอย่างที่ผมคาดเดาเอาไว้ว่า พ่อแฟนคงไม่รู้เรื่องด้วยแน่ๆ และ งานหมั้นก็ได้ยกเลิกไป แฟนผมเลยรอดตัวไป แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะ ไอ้นั้นยังมาตามตื้อแฟนผมแล้วผมก็ยังโดนแม่เขากีดกันอยู่ดี แล้วตอนนี้เหมือนทุกอย่างเริ่มบีบบังคับมากขึ้นกว่าตอนที่คบกัน จนแฟนผมเริ่มเป็นโรคเครียดแล้ว แต่เหมือนแม่แฟนจังยังไม่เข้าใจว่าสาเหตุมาจากอะไรยังคงโทษว่าเป้นเพราะมาคบกับผม แฟนเคยถามแม่เขาว่าทำไมถึงไม่ชอบผม แม่แฟนเขาบอกแค่ว่า "ผมดูแลเขาได้ไม่ดีเท่าแม่" แค่นั้น ทั้งที่ผมอยากจะพิศูจน์ตัวผม ให้พ่อแม่เขาเห็น แต่แม่เขากับกีดกันผม ผมไม่ให้ทำได้ ตั้งแต่คบมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะ 1 ปีแล้วคับแต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นหน้าได้พบเจอตัวแฟนผมจริงๆ แม้แต่ครั้งเดียว

นั้นคือเรื่องที่ผมกับแฟนได้เผชิญมาตั้งแต่คบกันจนถึงวันนี้
สิ่งที่อยากถามอยากให้เพื่อนแนะนำคือ
1.จะมีวิธีดีๆมั้ยที่ทำให้แม่เขาเลิกบังคับและทำร้ายจิตใจเขาแบบนั้น
2.มีเพื่อนๆคนไหนบ้างที่มีประสบการคร้ายแบบนี้แล้วฝ่าฟันมันมาได้บ้าง ทำยังไงบ้าง
3.ใครพอจะเดาสาเหตุที่แม่แฟนผมค่อยกีดกันผมออกได้บ้างว่าหน้าจะมีเรื่องอะไรอีก
4.พวกเราควรทำยังไงกันต่อไป (แน่นอนว่าไม่มีคำว่าเลิกกัน)
5.ผมควรให้กำลังใจแฟนผมยังไงดีเพราะบางเวลาเขาก้บอกว่าท้อกับที่เกิดขึ้น (ซึ่งผมก็ค่อยบอกเขาตลอดเวลาว่าถ้าเราฝ่ามันไปได้และได้เจอกันวันนั้นจะเป็นวันที่มีค่ามากที่สุดของเรา)

                                 
***ฝากถึงผู้ใหญ่หลายๆคนที่มีลูกสาวหรือชายก็ดี ที่กำลังกีดกันพวกเขาอยู่หรือไม่ก็ดี***

       ผมรู้ว่าใครๆก็อยากให้ลูกตัวเองนั้นได้ดีกันทั้งนั้น เพราะงั้นจึงค่อยเลือกแต่สิ่งที่ตัวเห็นดีให้แก่ลูกๆ แต่พวกท่านลืมอะไรบางอย่างไปมั้ย พวกท่านลืมนึกถึงจิตใจของลูกๆของพวกท่านมั้ยว่า "เขาต้องการแบบนั้นจริงๆนะเหลอ" เพราะถ้าเขาไม่ต้องการแล้วท่านไปยัดเยียดให้เขาบังคับเขา มันก็ไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายเขาทางอ้อมนั้นเอง สุดท้ายคนที่มีความสุขนั้นไม่ใช่ตัวลูกต้องท่านแต่จะมีแต่ตัวท่านเองที่เห้นแล้วมีความสุขแทนเขาในสิ่งที่ตัวเองบังคับให้เขา

ปล.ใครมีข้อสงสัยอะไรถามไว้ตรงความคิดเห็นได้เลยนะคับผมจะเข้ามาตอบให้นะคับ
ขอบคุณครับมีอะไรครืบหน้าผมจะมาตั้งกระทู้บอกเล่าใหม่นะคับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่