[CR] ทริปหนีงาน เที่ยวเชียงใหม่ช่วง"โลซีซั่น"

สวัสดีค่ะทุกคน ^^
ใครๆก็บอกว่าเชียงใหม่อะควรไปช่วงหน้าหนาวนะ แต่ว่าครั้งนี้ เราจะไปเชียงใหม่กันช่วง "หน้าฝนและโลซีชั่น" ค่ะ!
ก่อนอื่นเลยขอบอกก่อนว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขียนรีวิวค่ะ แต่เพราะการไปครั้งนี้เราประทับใจมากเลยอยากมาเล่าให้ทุกๆคนฟังกัน หัวใจ

ถ้าพร้อมแล้ว ไปผจญภัยกันเลยดีกว่าา กับ "แม่แจ่ม" เมืองเงียบๆที่ซ่อนอยู่ในเชียงใหม่ : )
เพิ่มเติมคือ เพราะทริปนี้คือทริปหนีงานค่ะ เราจึงต้องหอบโน้ตบุ๊คเตรียมพร้อมทำงานไปด้วย อมยิ้ม20



มาเริ่มกันเลย....แต่ แม่แจ่ม ไปยังไงหล่ะ ผู้หญิง 2 คน ขับรถก็ไม่เป็น แถมยังไกลจากเมืองอีก

ก่อนผจญภัย Day 1
ขึ้นรถจาก กรุงเทพ โดยนครชัยแอร์  แบบ Gold class ราคาอยู่ที่ 589 บาท
นั่งสบาย ปลอดภัย มีข้าวและของว่างให้เรียบร้อย สบายไป 1 คืน



Day 1
เราไปถึงเชียงใหม่ ประมาณ 6.30 น.  จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังบริเวณใกล้ๆกับกาดประตูเชียงใหม่เพื่อขึ้นรถเหลืองไปยังอ .จอมทอง
เพราะในเมืองไม่มีรถตรงไปแม่แจ่มเลย
เราขึ้นจากประตูเชียงใหม่ เวลา 8.00 ซึ่งเราต้องไปถึงจอมทอง 9.30 น. เพื่อจะให้ทันรถรอบแรก ซึ่งใช้เวลาจากตัวเมืองไปจอมทองประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ราคา 30 บาท
ความซวยครั้งที่ 1 คือ รถไม่ออกจ้า เศร้า ต้องรอผู้โดยสารให้เยอะกว่านี้ เริ่ด ! และผลต่อยอดคือ เราไปไม่ทันรถรอบแรก T_T และรถก็ออกไปต่อหน้าต่อตา เจ็บช้ำมาก
พี่คนขับรถมาพูดปลอบใจและให้ฝากกระเป๋าไว้ นั่งหน้าเลย ดีใจ ขอบคุณค่ะพี่

คิวรถออก จอมทอง-แม่แจ่มจ้า


เวลาคิวรถ จอมทอง - แม่แจ่ม มีแค่ 5 เที่ยวต่อวัน และ ทุกรอบคนแน่น(มาก)
คิวรถแม่แจ่ม เราต้องเดินเลยที่จอดรถวัดพระธาตุมาหน่อยนึงนะคะ
โอเค เรามารอรถรอบที่ 2กัน รอบนี้ 11.30 ระหว่างรอเรา 2 คนเลยไปไหว้พระที่ "วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร" ซึ่งเป็นวัดคู่เมืองเชียงใหม่และอำเภอจอมทองนั้นเองค่ะ



จากนั้นก็หาอาหารตามสั่งแถวๆวัดกินรองท้องกันไปก่อน ก่อนจะออกเดินทางกันอีกรอบ
เมื่อถึง เวลา 11.30 ก็ไปขึ้นรถเหลือง พร้อมออกเดินทางไปแม่แจ่มแล้วจ้า เย้
ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง เช่นกัน โดยทางไปแม่แจ่มนั้นเป็นทางเดียวกันกับทางไปดอยอินทนนท์ ราคาค่าโดยสารก็อยู่ที่ 70 บาท
พี่คนขับรถน่ารักมากค่ะ พี่เค้ารู้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวที่ดู งงๆ กันอยู่สองคน555 พี่เค้าก็เลยเหมือนมาเป็นไกด์ให้เรา 2 คนไปเลย คอยบอกว่าที่เที่ยว มีที่ไหนบ้าง สถานที่ที่ขับผ่านระหว่างนั่งรถคืออะไร แล้วคือข้อมูลที่พี่เค้าบอกเป็นประโยชน์กับเรามากค่ะ จะได้ใช้สำหรับเดินทางในครั้งต่อไป (เผื่อหนีงานมาอีกรอบค่ะ อิอิ) แต่ก็ดั้น ลืมขอเบอร์โทรพี่เค้าไว้ ยังเสียใจถึงทุกวันนี้...

ระหว่างทางไป ฝนตกตลอดเวลาเลยค่ะ แล้วก็มีหมอกลงตลอดด้วย อากาศเย็นๆกำลังสบายเลยหล่ะ  

เมื่อถึงท่ารถแม่แจ่มแล้ว เวลาประมาณเกือบบ่ายสองพอลงจากรถปุ๊บ พี่คนขับรถรอบที่แล้วเดินมา เขาก็บ่นเป็นภาษาเหนือ ได้ความประมาณว่า "พี่เห็นหนูตั้งแต่จอมทองแล้ว แต่พวกหนูไม่ยอมมองมาที่ถนนเลย เนี่ยต้องรออีก 2 ชั่วโมงเลย"
เราก็ "อ้าว หนูขอโทษค่ะพี่ หนูเพิ่งเคยมาครั้งแรก หนูไม่รู้จริงๆT^T"
จากนั้น เราก็รอสักพัก พี่ไกด์ก็มารับจากท่ารถไปยังที่พักต่อ

เราจองที่พักไว้ที่ ”มนต์เมืองแจ่ม” และจ้างไกด์ของที่พักเพื่อเที่ยวรอบๆแม่แจ่มและไปบ้านป่าปงเปียง
ที่เราจ้างไกด์เพราะบ้านป่าปงเปียงนั้นต้องใช้รถกระบะ 4 WD เท่านั้นค่ะ
ซึ่งราคาในเว็บก็คือ ที่พัก 1,500 บาท และค่าไกด์อีก 1,200 บาท
แต่เพราะนี้คือโลซีชั่นค่ะ ขอดีของการมาช่วงโลซีซั่นก็คือจะได้ราคาถูกลงนั้นเอง ดังนั้น ค่าที่พักจึงเหลือแค่ 1,000 บาท และค่าไกด์ก็ลดเหลือ 900 บาท นี่แหล่ะความดีงามของโลซีซั่นน
พอไปถึงที่พัก ป้าเจ้าของบอกว่า "เลือกห้องได้เลยหนู เพราะวันนี้มีหนูคนเดียวทั้งที่พัก" ไม่รอช้าค่ะ เราได้เลือกบ้านตรงกลาง เพราะ วิวดีมาก!

และนี้คือวิวหน้าบ้านพักค่ะ


จากนั้น เริ่มเดินทางไปยังบ้านป่าปงเปียงต่อเลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีก็ถึงค่ะ ตลอดทางไปฝนก็ตก แอบเสียใจนิดๆว่า ถ้าขึ้นไปแล้วฝนตกต้องไม่สวยแน่ๆเลย


ส่วนทางขึ้นบ้านป่าปงเปียงนั้น คือ สุดยอดมาก เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมถึงต้องใช้ กระบะ...


4WD เท่านั้น เพราะไม่มีพื้นตรงไหนเรียบเลยระหว่างทางขึ้นไปทั้ง หิน ดินแดงและฝนตกด้วย ถนนก็เลยลื่นอีก Advantureสุดๆ
แต้มบุญ
และเหมือนแต้มบุญสูงมาก555 พอขึ้นไปข้างบน ฝนตกแถมแดดออกด้วยและท้องฟ้าสวยมากๆค่ะ
ช่วงที่มาเป็นเดือนกรกฏาคม ที่แม่แจ่มเพิ่งเริ่มปลูกข้าวกันค่ะ ทั้งข้าวในแปลงและข้าวที่ปลูกในดิน
วิวระหว่างทางที่พี่ไกด์จอดแวะให้ค่ะ





หลังจากนี้แวะมุมชมวิวต่างๆ เราได้ขอพี่ไกด์ว่าอยากนั่งหลังกระบะ  พี่เค้าก็ให้นั่งแล้วบอกว่า เกาะดีดีนะเดี๋ยวตก และปิดแคปหลังไว้
ซึ่งนั้นเป็นความคิดที่ผิดสุดแล้ว เพราะทางขึ้นบ้านป่าปงเปียงเป็นทางชันขึ้นและทั้งหมดเป็นหิน ย้ำนะคะว่า"หิน" ค่ะ
ทางดิฉันจึงตัวติดแคปหลังกระบะและเกาะแน่นมาก...

เมื่อรอดพ้นจากทางเหล่านั้นแล้ว ก็ถึงสักที "บ้านป่าปงเปียง" !!!
บ้านป่าปงเปียงเป็นนาขั้นบันไดที่สวยเป็นระดับต้นของเชียงใหม่เลย
ย้ำอีกทีว่าช่วงที่ไปนั้น แม่แจ่มเพิ่งเริ่มปลูกข้าวเอง แต่ก็รู้สึกว่า สวยไปอีกแบบนึงนะ



พี่ไกด์ของเราา

เราสามารถลงไปเดินที่คันนาได้เลยนะ แต่ต้องเดินให้ระวังมากๆเพราะทางแคบ บางทีก็ลื่นและดินดูด
ไม่งั้นจะเกิดการลื่นล้มได้ ซึ่งเราลื่นมาแล้ว

เราอยู่ที่บ้านป่าปงเปียงประมาณ ชั่วโมงกว่าๆร่างกายก็เริ่มงอแงอยากกลับที่พักแล้ว ซึ่งพี่ไกด์บอกว่า แสงที่นี่ตอนเย็นสวยมากนะ แต่ทางเราไม่ไหวเพราะเราเดินทางกันมาตั้งแต่เช้าตาจะปิดแล้วค่ะพี่
แล้วก็จบไปอีก 1 วันสำหรับทริปชิคๆของ 2 สาว
......................................................


Day 2
วันนี้เราสองคนตั้งใจไว้ว่า เดี๋ยวจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ประมาณ 6 โมงครึ่งนะ ตั้งนาฬิกาปลุกอะไรเรียบร้อยแต่ผลสรุปว่า ปิดเสียงนาฬิกาและนอนต่อ คือมันไม่ไหวจริงๆ อ่อนเพลียมาก
จากนั้นประมาณ 7 โมงครึ่ง ป้าเจ้าของที่พักมาเคาะประตู พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้า นั่นก็คือ ข้าวต้มหมูร้อนกับไข่ต้มที่ยังไม่ได้ปลอกเปลือกที่ร้อนมาก นั่นเอง ซึ่งภาชนะที่ใช้เป็นปิ่นโต ในปัจจุบันเราไม่ค่อยเห็นแล้ว น่ารักมากได้ความรู้สึกธรรมชาติสุดๆ เห็นแล้วก็จับมาถ่ายรูปซะเลย  

นอกจากวันนี้จะกินข้าวต้มหมูร้อนกับไข่ต้มในปิ่นโตแล้ว ก็แอบมีทุเรียนทอดนิดนึง พอดีเราชอบกินทุเรียนทอดมากๆ ยิ่งช่วงนี้โลซีซั่น ทุเรียนทอดหากินยากมากก เลยซื้อติดมาด้วยเคี้ยวๆเพลิน


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากเสร็จภารกิจจากอาหารเช้า เรากลับคิวรถรอบเที่ยงตรง ขากลับได้นั่งข้างหลัง และได้รับรู้เกี่ยวกับสภาพเส้นทางทุกอย่าง เช่น ทางโค้งที่เยอะมากๆ ซึ่งขาไปไม่รู้อะไรเลยเพราะนั่งข้างหน้าและรถไปส่งถึงท่ารถจอมทองที่มีรถต่อเข้าเมืองเลย
พอเข้าเมืองเราก็ไปเช่าจักรยานกัน ที่ร้าน Best bicycle shop ที่ซอยนิมมาน 13 เพื่อไปวัดอุโมงค์และขับในนิมมาน

เราเลือกจักรยาน 21 Speed เพราะ 6 และ 7 speed หมดพอดี
ใช้ระยะเวลาปั่นไปนิมมานไปวัดอุโมงค์ประมาณ 15-20  นาที ขึ้นอยู่กับความเร็วในการปั่นของแต่ละคนด้วย


พอไปถึงวัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม เป็นวัดที่สงบและร่มรื่นมาก ทางเราจึงไม่กล้าพูดคุยกันเลย


และแล้วก็จบ Day 2 ด้วยการกลับที่พัก ซึ่งเราได้จองห้องพักไว้ที่ R1 Boutique service apartment อยู่ระหว่างนิมมานซ.2 และ ซ.4
แนะนำมาก เพราะราคาไม่แพงและห้องอยู่ในระดับดีด้วยค่ะ

................................................................

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาดูนะคะ ปลื้มปริ่มติชมได้เลยย ใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาได้เลยจ้า อมยิ้ม07
ชื่อสินค้า:   แม่แจ่ม แม่ริม เชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่