ถ้าเกิดSMยอมเปลี่ยนแผนการตลาดของค่าย เช่น
- ใช้คนแต่งเพลงชาวเกาหลี
- ปรับลุคให้เข้าถึงง่าย
- จัดงานไซน์เปิด
- ขยันติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับ
- ทำเพลงแนวตลาด
จนทำให้วงขึ้นเป็นบอยแบรนด์อันดับ1ของยุคได้ แต่สูญเสียความมีเอกลักษณ์ของค่ายไป แสตนค่ายอยากให้ค่ายเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แล้วอยากให้เริ่มเปลี่ยนจากวงเก่าในค่ายหรือเริ่มทำการตลาดแบบนี้กับวงใหม่ไปเลย

5 ข้อที่ว่ามาน่ะ เอสเอ็มล้มทั้งกระดานเลยเมื่อมาถึงรุ่น Nct แต่ชูความมีเอกลักษณ์เข้ามาแทน ดังนั้นก็อาจจะไม่เป็นบอยแบนด์อันดับ 1 แห่งยุคก็ได้ สแตนค่ายเหรอ เราไม่ใช่สแตนค่ายค่ะ แต่ชอบลักษณะการทำตลาดบางอย่างของค่ายที่มันเป็นสเต็ป สามารถคาดเดาได้บางส่วน กับชอบแค่บางวง แต่ฟังได้หมด  ถ้าอยากให้เปลี่ยนอะไรสำหรับค่ายนี้ คือ การเก็บงานบางเล็กๆ น้อยที่ค่ายมองข้าม แต่มันกระทบกับภาพรวมและค่อนข้างเสียหาย ไม่ลงดีเทลล่ะกัน เยอะ พิมพ์ไม่หมด

เราอยากให้ค่ายวางโพสิชั่นแต่ละวงให้ชัดเจน วงไหนเน้นเพิร์ฟก็ไปทางสายนั้น  ส่วนวงไหนจะเน้นพับลิคออกวาไรตี้อะไรก็ว่าไป
เข้าใจว่าเด็กทุกคนในวงก็คงไม่เก่งรอบด้านไปหมด จะทำให้รายการเขาไม่สนุกเปล่าๆ ไปนั่งหัวเราะแห้งๆ งี้ อีกาบินผ่าน แล้วเราสังเกตพวกสายเพิร์ฟจัดๆ วาไรตี้ไม่ค่อยเก่งหรอก  หรือมีเมมเบอร์คนไหนเอาดีทางวาไรตี้ได้ก็ส่งไปเลย  หรือถ้าเขาไม่เชิญ ก็อาจจะออกวีไลฟ์หรือให้พูดคุยกันเองผ่านแชเนลวง แต่ก็ควรมีความถี่ที่พอเหมาะ  บ่อยไปตามเก็บไม่ทัน

- ใช้นักแต่งเพลงเกาหลี จะมีปัญหาเรื่องส่วนแบ่งไหม เอสเอ็มชอบใช้บริการนักแต่งเพลงต่างชาติมากกว่า ตรงนี้แก้ยากเลยนะ มันเป็นเรื่องธุรกิจ เงินๆ ทองๆ ของเขาโดยตรง แค่ความนิยมของวงนึงในตัวไอดอล ค่ายคงไม่ยอมเปลี่ยนทั้งระบบเพื่อไอดอลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรอกค่ะ ทางแก้คือ ถ้าจะใช้บริการต่างชาติก็เอามาปรับให้มันกลมกล่อมซะ

- ปรับลุคให้เข้าถึงง่าย ตอนนี้เปลี่ยนโคดี้ใหม่ก็น่าจะผีน้อยลง เพราะหมดสัญญาจ้างงานพอดี

- จัดงานไซน์เปิด ก็ดีนะ แต่ทำทั้งเปิดและปิดสลับกันไปก็ดีค่ะ ไม่จำเจดี แล้วแฟนคลับบางกลุ่ม ที่หากินกับงานแฟนไซน์ก็เยอะอยู่ เอสเอ็มเองคงเข้มงวดมากขึ้นล่ะ จุดนี้ เอสเอ็มมันไม่ให้ใครชุปมือเปิปหากินง่ายๆ กับไอดอลตัวเองหรอก ที่เข้มงวดหนักขึ้นแสดงว่าต้องไปเจออะไรเข้า เลยตัดไฟ ตัดทางทำมาหากินของคนพวกนั้นซะ

- ขยันติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับ ทางไหน ถ้าเป็นทางวีไลฟ์ นี่เราว่าโอเค  ไม่ต้องลงประชิดตัวกับแฟนคลับโดยตรง เพราะนิสัยของสแตนค่ายนี้ถูกปลูกฝังมานานว่าต้องได้อะไรยาก เพราะง่ายไปก็ใช่จะไม่มีปัญหา  ชั้นได้เธอไม่ได้ ตีกันอีก


- ทำเพลงแนวตลาด อันนี้ขึ้นกับคอนเซปต์วงนะคะ ไม่ใช่เพลงของทุกวงในค่ายที่ฟังยากหมด แต่ที่ยากสุดๆ ก็วงรุ่นหลังที่ฟันธงมาเลยว่าต้องการความแหวกแนว ไม่เหมือนใคร เพื่อหาตลาดใหม่ที่ยังไม่มีใครจับทางมาก่อน ด้วยความที่วงในค่ายนี่เยอะอะไรที่รุ่นพี่ทำมาหมดรุ่นน้องก็แทบจะไม่เหลือให้ทำแล้ว มันก็จะต้องพยายามฉีกออกไป คนที่มาดูภาพรวมต้องคิดให้เยอะขึ้น บางทีมันก็ซับซ้อนเกิน จนทำให้เสพดนตรียากขึ้น ฟังลำบาก กลายเป็นดนตรีนี่ไม่ได้แค่ฟังล่ะ เมโลดี้อิรุงตุงนังไปหมด ไม่น่าฟังแต่ดันหลอนแทน

แต่ถ้าได้ก็ฟันทารเก็ตกลุ่มนี้ไปไม่ต้องแย่งกับใคร   แต่จะพับลิคเท่าค่ายอื่นไหม คงไม่ ส่วนนึงคงใช้บริการนักแต่งต่างชาติด้วย แล้วค่ายไม่มีทางแก้แน่นอน บางอย่างไม่แก้ไม่ใช่เพราะมันดื้อนะ แต่มันโยงกับธุรกิจอะไรบางอย่างที่น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่ากันอยู่ รวมไปถึงนักออกแบบท่าเต้น โปรดิวเซอร์จากต่างประเทศเจ้าประจำที่ผูกขาดไว้ จะไล่ออกไปจ้างนักแต่งเพลงเกาหลีที่ทำเพลงฮิตก็ไม่ได้ บริษัทเอสเอ็มเนี่ย จ้างฝรั่งทำงานมาครึ่ึ่งบริษัทแล้วมั้ง ในส่วนโปรดิวซ์

คิดว่า ค่ายน่าจะอยากโฟกัสภาพรวมว่า   บริษัทประสบความสำเร็จในการปั้นไอดอล หาเงินมาซัพพอร์ตและต่อยอดไปกิจการด้านอื่นของค่ายๆ ได้อย่างไม่สะดุด เชื่อมกันเป็นภาพใหญ่มากกว่าจะชูว่าวงไหนเป็นบอยแบนด์อันดับ 1 ของค่าย หรือรับไม้ต่อกันเป็นรุ่นๆ

แต่ถ้าตอบในฐานะชอบวงใดวงหนึ่งโดยเฉพาะ ก็คิดแบบนี้อยู่ดี  คำว่า Mass มันมีจุดอ่อนของมันนะ คู่แข่งเข้ามาเยอะ ใครๆ ก็อยากลงมาชิงส่วนแบ่งตรงนี้  พยายามเข้ามาเจาะ  สู้กันจนเหนื่อยแล้วเวลาลงนี่ฮวบง่ายกว่าเฉพาะกลุ่มด้วย เฉพาะกลุ่มชื่อมันก็หมายความตามนั้นน่ะมันไม่มีตัวเลือกอย่างอื่น มันก็จะมีแฟนคลับที่เป็นกลุ่มเฉพาะอยู่ แต่แมส  ถ้าเมื่อไหร่ที่คนส่วนใหญ่เขาไม่ชอบกันแล้วนั่นล่ะ จะเห็นได้ชัดมาก ดังนั้นถ้าจะแมสก็ต้องทำให้ฉีกแนวออกมานิดถึงจะดี ถ้าง่ายหมด คนอื่นเค้าก็ก็อปตามสูตรสำเร็จ

  อีกอย่างนโยบายค่ายกับตัววงต้องไปในทางเดียวกันค่ะ  ถ้าจะปฎิวัติใหม่หมดก็ได้แป๊ปเดียว เพราะฐานของเอสเอ็มไม่ได้เป็นแบบนี้มาแต่แรก ทำได้แค่ปรับอย่างละนิดให้เข้ากับบริษัท แต่ถ้าจะปรับทั้ง 1-5 ที่ยกมา จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ถึงดีก็ระยะสั้นๆ ชั่วคราวเท่านั้น