หมู่บ้าน ส. ย่านรามคำแหง
เรื่องมีอยู่ว่า พ่อแม่ซื้อบ้านเลขที่ 253/9 อยู่มานาน 20 กว่าปี บ้านอยู่ในซอยลึกควรจะเป็นที่อยู่อาศัย แต่ก่อนก็มีเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนบ้านที่ดี แต่ก็ย้ายไปและมีการให้เช่าบ้านคือบ้านเลขที่ 253/10 หลังจากนั้นก็ซื้อบ้านหลังนั้นและทำเป็นโกดังเฟอร์นิเจอร์ และซื้อบ้านหลังที่ติดกับบ้านเราอีกหลังคือ253/8  
โกดังสินค้ามีการประกอบเฟอร์นิเจอร์

ซึ่งบริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ข้างบ้านเราไปทำโกดังอีกที่นึง ในซอย50 คนในซอยมีการเซ็นไม่ยินยอมให้สร้างแต่สุดท้ายก็ได้สร้าง

ปัญหาหลักที่ได้รับจากการมีโกดังเฟอร์นิเจอร์อยู่ข้างบ้าน
1. มีกลิ่นของแล็กเกอร์เข้าบ้านทุกวันบางวันเหม็นจนไม่สามารถอยู่บ้านได้
2. มีรถบรรทุกวิ่งเข้าวิ่งออกทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7 โมง จนถึง เย็น บางวันจนถึง4ทุ่ม มีการจอดขว้างหน้าบ้าน มีการขนสินค้าพนักงานขับรถค่อนข้างเร็วเสียงเครื่องยนต์รถไอเสีย ทั้งเช้าและกลางคืน

เคยมีการร้องเรียนทั้งสำนักงานหมู่บ้าน สำนักงานเขตสะพานสูง ก็ไม่มีการดำเนินงาน     และมีการต่อเติมบ้านเลขที่ 253/8ก่อน
มีการทำกำแพงให้สูงขึ้นการต่อเต็มตัวบ้านจนชิดกำแพงบ้านทั้งที่ตัวบ้านควรห่างจากกำแพง 1 เมตรและไม่ทำรางน้ำได้มีตักเตือนและยอมทำ
จนเมื่อ 1 ปีกว่ามีการทุบบ้านเลขที่253/10 โดยไม่มีการบอกกล่าวเลยทั้งหลังและสร้างใหม่ เป็นบ้าน 3 ชั้นได้มีการสร้างกำแพงสูงเกินชั้น1ของบ้านเราทั้งสองฝั่ง มีการไปสอบถามทางเขตและสำนักงานหมู่บ้านเขตสะพานสูงบอกว่าสองชั้นครึ่งจึงอนุญาตให้สร้างรวมทั้งสำนักงานหมู่บ้านสัมมากรฝ่ายโยธา โดยที่ไม่มีการเซ็นยินยอมจากบ้านเราให้เพียงผู้รับเหมามาขอร้องเท่านั้นโดยขนาบข้างบ้านเรา อดทนกับสภาพบ้านแบบนี้มาเป็น10 ปี บ้านทั้งร้อนและอับเพราะลมไม่สามารถผ่านมีการสตาร์ทรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งกลิ่นท่อไอเสียของรถลอยเข้ามาในบ้านซอยที่ควรจะเป็นเขตที่อยู่อาศัยกับกลายเป็นพื้นที่ทำอะไรก็ได้ ตรวจการแผ่นดินเคยเข้ามาสอบถามแต่ไม่ได้มาสอบถามบ้านเราเลยว่า มีปัญหาอะไร


ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ ว่าควรทำยังไงดีจะขายแล้วย้ายที่อยู่ก็คงจะไม่มีใครมาซื้อ