ก่อนอื่นต้องบอกว่าช่วงที่ผ่านมาผมเข้า Youtube หรือ Facebook ก็จะเจอโฆษณา Business class ของสายการบิน ANA บ่อยมากๆ เห็นแล้วก็อยากลองใช้บริการดูสักครั้ง
ทำไปทำมาอดใจไม่ไหว พอดีมีแผนต้องเดินทางไปโตเกียวพอดีเลยขอจัดสักหน่อยครับ ANA มีไฟลท์ไปลงทั้งฮาเนดะและนาริตะ เลือกได้ตามความสะดวกเลย แต่รอบนี้เลือกไฟลท์ NH808 ไปลงนาริตะออกจากสุวรรณภูมิเวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้วไปถึงสนามบินนาริตะช่วงเช้า ข้อดีคือนอนยาวแล้วตื่นมาเที่ยวได้เลยเต็มๆ วัน
แต่เอาเข้าจริงคือไม่ได้นอนครับ ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรือไม่สบายนะ แต่เป็นเพราะตื่นเต้นที่ได้นั่ง Business class ของเครื่องบินรุ่น B777-300ER เป็นครั้งแรก และอยากใช้ facility บนเครื่องให้มากที่สุด ฮ่าๆๆ
สำหรับราคาค่าตั๋วรอบนี้อยู่ที่ 49,xxx บาท ลองมาดูรีวิวกันเลยว่าสมราคากับความสบายเหนือระดับเหมือนในโฆษณาหรือเปล่า ^^
#เที่ยวเอง #AllNipponAirways #ANA #businessclass #review
แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมพรีเมียมตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็คอินที่เป็นช่องพิเศษได้ใบ premium lane ผ่านเข้าไปที่เกทโดยไม่ต้องต่อคิวนาน รวมทั้งก่อนขึ้นเครื่องเราจะได้บัตรเข้าเลาจน์ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับสายการบินไทย และ EVA เพราะอยู่ในเครือ Star Alliance เหมือนกัน
อย่างที่บอกว่าเป็นเครื่อง B777-300ER การจัดที่นั่งก็จะเป็น 1 - 2 - 1 สำหรับคนมาเป็นคู่ก็จะได้นั่งใกล้ๆ กันส่วนผมมาคนเดียวเลยได้นั่งริมหน้าต่างครับบรรยากาศที่นั่งในชั้นธุรกิจของสายการบิน ANA
เปิดเมนูอาหารออกมาเจอรางวัลเยอะแบบนี้ คิดในใจสบายแล้วเรา 555 หน้าในมีเชฟมากฝีมือแต่ผมไม่รู้จักหรอก 555 เเต่อาหารบนเครื่องน่าจะดีเลยทีเดียว
สำรวจอุปกรณ์และที่นั่งสักหน่อย ในส่วนระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ก็จัดเต็มตามมาตรฐานของบิสสิเนสคลาสครับหน้าจอกว้าง ดีไซน์เรียบๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น, สลิปเปอร์ใส่สบายบนเครื่อง, หูฟังของ ANA ใช้ของ Panasonic ครับ เสียงชัดแจ๋ว
ปุ่มปรับเบาะขึ้นลงได้ตามใจชอบ กดเลือกว่า "ขอพักผ่อน ห้ามรบกวน" ก็ได้เช่นกัน ช่องเสียบปลั๊กไฟมีพร้อมทุกแบบ
จริงๆ ตรงช่องล่างนี้เป็นช่องเก็บของนะครับ ช่องวางรองเท้าอยู่อีกที่หนึ่ง แต่วางรองเท้าก็สะดวกดีเหมือนกันนอกจากเอาเท้าเข้าไปได้แล้ว เรายังสามารถเปิดปิดไฟสีฟ้าเองได้ด้วยนะ
ในส่วนของห้องน้ำ ผมว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ สิ่งจำเป็นหลักมีครบถ้วน เช่น เเปรงสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า น้ำยาบ้วนปากและสำหรับปุ่มกดโถส้วมญี่ปุ่นสไตล์จริงๆ
ก่อนจะนอนก็มีอาหารน่ารักๆ มาเสิร์ฟ พร้อมเครื่องดื่ม
หลังกินๆ เล่นๆ มานานก็ได้เวลานอนยาวบ้างแล้ว ทางแอร์โฮสเตสจะมาปูที่นอนให้ครับ และพีคในพีค! ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันคืออะไร เเต่พออ่านๆ ไป เห้ย เป็น Aroma ชอบเลย ตรงด้านขวาล่างมีปุ่มให้กด พอกดแล้วก็จะมีกลิ่นออกมาให้เราหลับสบายระหว่างเดินทาง ชอบมากครับ
หลับแปปเดียวก็ต้องตื่นอีกแล้วเพราะผมแจ้งแอร์โฮสเตสให้ปลุกมาทานอาหารเช้าก่อนเครื่องลง 2 ชั่วโมงจริงๆ จานนี้ต้องทานตั้งแต่ก่อนนอน แต่ผมขอทานตอนเช้าเเทนเพราะไม่อยากนอนตอนท้องอิ่ม อาหารเช้าเลยไปข้าวหน้าแกงกะหรี่ไก่ที่ฟินมากและยังไม่อิ่มเลยขออาหารเช้าแบบ Japanese Style ต่อมาด้วยเลยก่อนเครื่องลง 555
สุดท้ายแล้วขอบอกว่าผมเป็นคนหนึ่งที่คิดเสมอว่านั่ง Economy Class ก็โอเคแล้ว แต่พอได้นั่ง Business Class แล้วต้องยอมรับว่าเเตกต่างกันมากจริงๆ เรียกได้ว่าเป็น "Coolest Experience" สุดๆ ครับถ้าไม่ได้เดือดร้อนอะไร บางครั้งการลงทุนเพื่อแลกกับประสบการณ์พิเศษในชีวิต ผมว่ามันก็คุ้มอยู่นะ
[Advertorial]
ANA Business class review!
ทำไปทำมาอดใจไม่ไหว พอดีมีแผนต้องเดินทางไปโตเกียวพอดีเลยขอจัดสักหน่อยครับ ANA มีไฟลท์ไปลงทั้งฮาเนดะและนาริตะ เลือกได้ตามความสะดวกเลย แต่รอบนี้เลือกไฟลท์ NH808 ไปลงนาริตะออกจากสุวรรณภูมิเวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้วไปถึงสนามบินนาริตะช่วงเช้า ข้อดีคือนอนยาวแล้วตื่นมาเที่ยวได้เลยเต็มๆ วัน
แต่เอาเข้าจริงคือไม่ได้นอนครับ ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรือไม่สบายนะ แต่เป็นเพราะตื่นเต้นที่ได้นั่ง Business class ของเครื่องบินรุ่น B777-300ER เป็นครั้งแรก และอยากใช้ facility บนเครื่องให้มากที่สุด ฮ่าๆๆ
สำหรับราคาค่าตั๋วรอบนี้อยู่ที่ 49,xxx บาท ลองมาดูรีวิวกันเลยว่าสมราคากับความสบายเหนือระดับเหมือนในโฆษณาหรือเปล่า ^^
#เที่ยวเอง #AllNipponAirways #ANA #businessclass #review
แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมพรีเมียมตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็คอินที่เป็นช่องพิเศษได้ใบ premium lane ผ่านเข้าไปที่เกทโดยไม่ต้องต่อคิวนาน รวมทั้งก่อนขึ้นเครื่องเราจะได้บัตรเข้าเลาจน์ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับสายการบินไทย และ EVA เพราะอยู่ในเครือ Star Alliance เหมือนกัน
อย่างที่บอกว่าเป็นเครื่อง B777-300ER การจัดที่นั่งก็จะเป็น 1 - 2 - 1 สำหรับคนมาเป็นคู่ก็จะได้นั่งใกล้ๆ กันส่วนผมมาคนเดียวเลยได้นั่งริมหน้าต่างครับบรรยากาศที่นั่งในชั้นธุรกิจของสายการบิน ANA
เปิดเมนูอาหารออกมาเจอรางวัลเยอะแบบนี้ คิดในใจสบายแล้วเรา 555 หน้าในมีเชฟมากฝีมือแต่ผมไม่รู้จักหรอก 555 เเต่อาหารบนเครื่องน่าจะดีเลยทีเดียว
สำรวจอุปกรณ์และที่นั่งสักหน่อย ในส่วนระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ก็จัดเต็มตามมาตรฐานของบิสสิเนสคลาสครับหน้าจอกว้าง ดีไซน์เรียบๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น, สลิปเปอร์ใส่สบายบนเครื่อง, หูฟังของ ANA ใช้ของ Panasonic ครับ เสียงชัดแจ๋ว
ปุ่มปรับเบาะขึ้นลงได้ตามใจชอบ กดเลือกว่า "ขอพักผ่อน ห้ามรบกวน" ก็ได้เช่นกัน ช่องเสียบปลั๊กไฟมีพร้อมทุกแบบ
จริงๆ ตรงช่องล่างนี้เป็นช่องเก็บของนะครับ ช่องวางรองเท้าอยู่อีกที่หนึ่ง แต่วางรองเท้าก็สะดวกดีเหมือนกันนอกจากเอาเท้าเข้าไปได้แล้ว เรายังสามารถเปิดปิดไฟสีฟ้าเองได้ด้วยนะ
ในส่วนของห้องน้ำ ผมว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ สิ่งจำเป็นหลักมีครบถ้วน เช่น เเปรงสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า น้ำยาบ้วนปากและสำหรับปุ่มกดโถส้วมญี่ปุ่นสไตล์จริงๆ
ก่อนจะนอนก็มีอาหารน่ารักๆ มาเสิร์ฟ พร้อมเครื่องดื่ม
หลังกินๆ เล่นๆ มานานก็ได้เวลานอนยาวบ้างแล้ว ทางแอร์โฮสเตสจะมาปูที่นอนให้ครับ และพีคในพีค! ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันคืออะไร เเต่พออ่านๆ ไป เห้ย เป็น Aroma ชอบเลย ตรงด้านขวาล่างมีปุ่มให้กด พอกดแล้วก็จะมีกลิ่นออกมาให้เราหลับสบายระหว่างเดินทาง ชอบมากครับ
หลับแปปเดียวก็ต้องตื่นอีกแล้วเพราะผมแจ้งแอร์โฮสเตสให้ปลุกมาทานอาหารเช้าก่อนเครื่องลง 2 ชั่วโมงจริงๆ จานนี้ต้องทานตั้งแต่ก่อนนอน แต่ผมขอทานตอนเช้าเเทนเพราะไม่อยากนอนตอนท้องอิ่ม อาหารเช้าเลยไปข้าวหน้าแกงกะหรี่ไก่ที่ฟินมากและยังไม่อิ่มเลยขออาหารเช้าแบบ Japanese Style ต่อมาด้วยเลยก่อนเครื่องลง 555
สุดท้ายแล้วขอบอกว่าผมเป็นคนหนึ่งที่คิดเสมอว่านั่ง Economy Class ก็โอเคแล้ว แต่พอได้นั่ง Business Class แล้วต้องยอมรับว่าเเตกต่างกันมากจริงๆ เรียกได้ว่าเป็น "Coolest Experience" สุดๆ ครับถ้าไม่ได้เดือดร้อนอะไร บางครั้งการลงทุนเพื่อแลกกับประสบการณ์พิเศษในชีวิต ผมว่ามันก็คุ้มอยู่นะ
[Advertorial]