สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ความเห็นส่วนตัวหลังอ่านนิยายไปมากกว่าหนึ่งรอบ ต้องบอกว่าในความเป็นตัวหนังสือเรียงร้อยผูกเรื่องได้ครบรสมาก สอดแทรกประวัติศาสตร์ สถานที่ในยุคพระนารายณ์ เหตุบ้านการเมืองในยุคนั้น ความรู้สึกนึกคิดของคนยุคปัจจุบันที่ไปอยู่ในยุคนั้นผ่านมุมมองนางเอกที่เคยศึกษาจากบันทึกของฝรั่งและคนไทยบอกเล่าต่อกันมา มีบทวิเคราะห์ที่นางเอกมองบ้านเมืองผู้คนเทียบกับเรื่องราวที่เคยเรียน มีบทบรรยายเยอะมากอยู่ มีบทนึกคิดแต่ไม่รู้ว่าแสดงออกอย่างไรมากอยู่
การแปลงนิยายเป็นบทละคร เรียกได้ว่ายากมาก ดีใจที่เป็นคุณศัลยา มือถึงที่ทำให้คนดูรู้ประวัติศาสตร์ได้แบบไม่น่าเบื่อ แปลงความนึกคิดบทบรรยายเป็นภาพได้ชัดเจนคม
วันนี้ดูสัมภาษณ์ทีมบุพเพสันวาสจากCh3Fanpage Liveจากเซ็นทรัลลาดพร้าว
ทำให้รู้ว่าโป๊บได้รับการทาบทามมาแสดงบุพเพสันนิสาวเมื่อ 5 ปีก่อนเปิดกล้อง
ด้วยบทคุณศัลยาใช้เวลาทำ 2 ปีเต็มตามที่คุณหน่องอรุโณชาบอกไว้ว่าติดตามถามคุณศัลยาไปทีไรก็ตอบกลับมาว่ายากมากต้องค้นคว้าเยอะมาก ถ่ายทำอีก 1 ปี 8 เดือน
ตัดต่อใส่CGอีกนานพอควรและยังคงตัดต่อไปออกอากาศไปจนฉายจบ
ในความเป็นบทละครจึงทำได้ยากพอควรด้วยต้องแปลงบทบรรยายเหล่านั้นให้ออกมาอยู่ในรูปที่น่าสนใจแบบละครไม่ใช่สารคดีที่เน้นบรรยายไปเพราะคนดูละครอาจหนีหายไปหมด
บทนึกคิดต้องแปลงมาเป็นการปูเรื่องราวให้เข้าใจพื้นเพที่มาที่ไปทำไมพระเอกคิดอย่างนี้แสดงออกอย่างนี้ต่อนางเอกต่อผู้คนรอบข้าง นางเอกในปัจจุบันเป็นคนแบบไหนมีความคิดการแสดงออกแบบไหนแล้วตอนไปอยู่ในร่างแม่หญิงการะเกดจะแสดงออกแบบไหนพูดแบบไหนให้ไม่ต้องมีแต่บทนึกบทคิดโดยไม่ปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นในเรื่อง
ถ้าเป็นคนดูละครแล้วถามว่าควรซื้อนิยายมาอ่านไหม บอกเลยว่าควรมากๆ
หรือคนอ่านนิยายแล้วน่าดูละครหรือไม่ ก็บอกเลยว่ามากโดยอย่าไปยึดติดต้องเหมือนทุกเม็ดด้วยการขยับขยายลงลึกทำให้เห็นภาพแบบละครค่ะ
เหมือนตอนดูละครข้าบดินทร์ แล้วไปซื้อนิยายอ่านจะได้อรรถรสครบถ้วน คนเคยอ่านนิยายแล้วไม่ยึดติดสามารถดูละครได้อย่างเพลิดเพลิน
เติมเต็มซึ่งกันและกันมากค่ะ
การแปลงนิยายเป็นบทละคร เรียกได้ว่ายากมาก ดีใจที่เป็นคุณศัลยา มือถึงที่ทำให้คนดูรู้ประวัติศาสตร์ได้แบบไม่น่าเบื่อ แปลงความนึกคิดบทบรรยายเป็นภาพได้ชัดเจนคม
วันนี้ดูสัมภาษณ์ทีมบุพเพสันวาสจากCh3Fanpage Liveจากเซ็นทรัลลาดพร้าว
ทำให้รู้ว่าโป๊บได้รับการทาบทามมาแสดงบุพเพสันนิสาวเมื่อ 5 ปีก่อนเปิดกล้อง
ด้วยบทคุณศัลยาใช้เวลาทำ 2 ปีเต็มตามที่คุณหน่องอรุโณชาบอกไว้ว่าติดตามถามคุณศัลยาไปทีไรก็ตอบกลับมาว่ายากมากต้องค้นคว้าเยอะมาก ถ่ายทำอีก 1 ปี 8 เดือน
ตัดต่อใส่CGอีกนานพอควรและยังคงตัดต่อไปออกอากาศไปจนฉายจบ
ในความเป็นบทละครจึงทำได้ยากพอควรด้วยต้องแปลงบทบรรยายเหล่านั้นให้ออกมาอยู่ในรูปที่น่าสนใจแบบละครไม่ใช่สารคดีที่เน้นบรรยายไปเพราะคนดูละครอาจหนีหายไปหมด
บทนึกคิดต้องแปลงมาเป็นการปูเรื่องราวให้เข้าใจพื้นเพที่มาที่ไปทำไมพระเอกคิดอย่างนี้แสดงออกอย่างนี้ต่อนางเอกต่อผู้คนรอบข้าง นางเอกในปัจจุบันเป็นคนแบบไหนมีความคิดการแสดงออกแบบไหนแล้วตอนไปอยู่ในร่างแม่หญิงการะเกดจะแสดงออกแบบไหนพูดแบบไหนให้ไม่ต้องมีแต่บทนึกบทคิดโดยไม่ปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นในเรื่อง
ถ้าเป็นคนดูละครแล้วถามว่าควรซื้อนิยายมาอ่านไหม บอกเลยว่าควรมากๆ
หรือคนอ่านนิยายแล้วน่าดูละครหรือไม่ ก็บอกเลยว่ามากโดยอย่าไปยึดติดต้องเหมือนทุกเม็ดด้วยการขยับขยายลงลึกทำให้เห็นภาพแบบละครค่ะ
เหมือนตอนดูละครข้าบดินทร์ แล้วไปซื้อนิยายอ่านจะได้อรรถรสครบถ้วน คนเคยอ่านนิยายแล้วไม่ยึดติดสามารถดูละครได้อย่างเพลิดเพลิน
เติมเต็มซึ่งกันและกันมากค่ะ
ความคิดเห็นที่ 15
คล้ายกัน 80% ได้เลยมั้ง
ต่างตรงลำดับไทม์ไลน์ ในละครมีสลับจากนิยายบ้าง
เอาบางเหตุการณ์มาไว้ก่อนหลัง คงเพื่อให้เหมาะกับการดึงคนดู
เพราะตามนิยาย กลางๆเรื่องเหมือนอยุธยาทัวร์ เข้าขั้นสารคดีนาวิเกเตอร์
ถ้าปล่อยให้รันตามไทม์ไลน์นิยายอาจจะดึงคนดูไม่อยู่ในบาง ep. ได้
อ้ายจ้อยไม่มีในนิยาย
ป้าปริกไม่มีปากดีขนาดนี้ เรียกว่าไม่มีบทดีกว่า
จันทร์วาดในนิยายแทบไม่มีบทพูด ในละครนี่ยังดูไม่ออกว่าตกลงชอบพอกับหมื่นสุนทรจริงรึเปล่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นิยายไม่มีตัวร้าย นางเอกไม่ก๋ากั่นขนาดเถียงคุณป้าขนาดนี้
ไม่วีดว้ายกระตู้วู้หรือไม่รู้ธรรมเนียมโบราณขนาดนี้ (พวกโบกมือให้คนริมน้ำหรือทำผมไปวัด)
ในนิยาย นางก็มีแหกขนบบ้าง แต่เป็นแบบที่เราเข้าใจได้
เช่น ไม่ชอบผมแสกก็ทำผมแสกข้าง (มันไม่เหวอเท่าถักเปียปล้องอะนะ)
หรือใส่เสื้อทับสไบไปตลาด ทั้งที่คนสมัยนั้นไม่นิยม(จะใส่เฉพาะไปวัด ไปตลาดห่มผ้าพอ ไม่ต้องใส่เสื้อ)แต่นางเอกอยากใส่
คิดไว แต่คิดอยู่แต่ในใจ ภาษาสมัยใหม่มาเพียบเหมือนกันแต่มีแค่ในใจ
ซึ่งเข้าใจได้ถ้าละครทำเหมือนเป๊ะ เบลล่าคงต้องวอยซ์ตัวเองทั้งเรื่องแน่
นางเอกจะหลุดแค่บางคำที่เคยปากคนสมัยใหม่จริงๆ เช่นคำว่าโอเค
แต่จะไม่ตั้งใจพูดคำยุคใหม่กับคนอื่นขนาดในละครแบบนี้
ในหนังสือมันมีวงเล็บอธิบายคำต่างๆได้ สำหรับสิ่งโบราณระดับ easy - medium
ในหนังสือมันก็บรรยายเป็นในความคิดของนางเอกได้โดยไม่ต้องพูดออกมา
ส่วนแบบ hard ที่แทบไม่มีใครเคยได้ยิน รวมทั้งนางเอกด้วย นางก็ถามพี่เลี้ยงได้
แต่พอเป็นแบบละคร มันจะคิดในใจไม่ได้หมด เลยกลายเป็นถามคนอื่นหมด
บางทีเลยดูเหมือนนางเอกเวอชั่นละคร มันไม่รู้เรื่องรู้ราวสมกับเป็น นร.โบรารคดีเลย
แต่ถ้าทำให้ไม่ถาม เดี๋ยวคนดูบางกลุ่มก็ไม่เกตกันอีก
วันก่อนเห็นคนถามว่า เผลอไผล แปลว่าอะไร ฤๅ แปลว่าอะไร แค่นี้ก็พอจะรู้ละว่า
ละครมันต้องทำให้ง่ายมากๆ เลยกลายเป็นต้องให้นางเอกดูโง่กว่านิยาย
ถามมันให้หมดทุกสิ่ง เด๋อมันให้หมดทุกอย่าง ถามแทนคนดูไปเลย
เพราะถ้ารู้เยอะเกิน กลุ่มคนที่ดูเข้าใจมันจะน้อยมากๆ จะให้ขึ้นกราฟฟิกอธิบายก็ใช่ที่
ต่างตรงลำดับไทม์ไลน์ ในละครมีสลับจากนิยายบ้าง
เอาบางเหตุการณ์มาไว้ก่อนหลัง คงเพื่อให้เหมาะกับการดึงคนดู
เพราะตามนิยาย กลางๆเรื่องเหมือนอยุธยาทัวร์ เข้าขั้นสารคดีนาวิเกเตอร์
ถ้าปล่อยให้รันตามไทม์ไลน์นิยายอาจจะดึงคนดูไม่อยู่ในบาง ep. ได้
อ้ายจ้อยไม่มีในนิยาย
ป้าปริกไม่มีปากดีขนาดนี้ เรียกว่าไม่มีบทดีกว่า
จันทร์วาดในนิยายแทบไม่มีบทพูด ในละครนี่ยังดูไม่ออกว่าตกลงชอบพอกับหมื่นสุนทรจริงรึเปล่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นิยายไม่มีตัวร้าย นางเอกไม่ก๋ากั่นขนาดเถียงคุณป้าขนาดนี้
ไม่วีดว้ายกระตู้วู้หรือไม่รู้ธรรมเนียมโบราณขนาดนี้ (พวกโบกมือให้คนริมน้ำหรือทำผมไปวัด)
ในนิยาย นางก็มีแหกขนบบ้าง แต่เป็นแบบที่เราเข้าใจได้
เช่น ไม่ชอบผมแสกก็ทำผมแสกข้าง (มันไม่เหวอเท่าถักเปียปล้องอะนะ)
หรือใส่เสื้อทับสไบไปตลาด ทั้งที่คนสมัยนั้นไม่นิยม(จะใส่เฉพาะไปวัด ไปตลาดห่มผ้าพอ ไม่ต้องใส่เสื้อ)แต่นางเอกอยากใส่
คิดไว แต่คิดอยู่แต่ในใจ ภาษาสมัยใหม่มาเพียบเหมือนกันแต่มีแค่ในใจ
ซึ่งเข้าใจได้ถ้าละครทำเหมือนเป๊ะ เบลล่าคงต้องวอยซ์ตัวเองทั้งเรื่องแน่
นางเอกจะหลุดแค่บางคำที่เคยปากคนสมัยใหม่จริงๆ เช่นคำว่าโอเค
แต่จะไม่ตั้งใจพูดคำยุคใหม่กับคนอื่นขนาดในละครแบบนี้
ในหนังสือมันมีวงเล็บอธิบายคำต่างๆได้ สำหรับสิ่งโบราณระดับ easy - medium
ในหนังสือมันก็บรรยายเป็นในความคิดของนางเอกได้โดยไม่ต้องพูดออกมา
ส่วนแบบ hard ที่แทบไม่มีใครเคยได้ยิน รวมทั้งนางเอกด้วย นางก็ถามพี่เลี้ยงได้
แต่พอเป็นแบบละคร มันจะคิดในใจไม่ได้หมด เลยกลายเป็นถามคนอื่นหมด
บางทีเลยดูเหมือนนางเอกเวอชั่นละคร มันไม่รู้เรื่องรู้ราวสมกับเป็น นร.โบรารคดีเลย
แต่ถ้าทำให้ไม่ถาม เดี๋ยวคนดูบางกลุ่มก็ไม่เกตกันอีก
วันก่อนเห็นคนถามว่า เผลอไผล แปลว่าอะไร ฤๅ แปลว่าอะไร แค่นี้ก็พอจะรู้ละว่า
ละครมันต้องทำให้ง่ายมากๆ เลยกลายเป็นต้องให้นางเอกดูโง่กว่านิยาย
ถามมันให้หมดทุกสิ่ง เด๋อมันให้หมดทุกอย่าง ถามแทนคนดูไปเลย
เพราะถ้ารู้เยอะเกิน กลุ่มคนที่ดูเข้าใจมันจะน้อยมากๆ จะให้ขึ้นกราฟฟิกอธิบายก็ใช่ที่
แสดงความคิดเห็น
บุพเพสันนิวาส ถามคนที่เคยอ่านนิยายค่ะ ในนิยายบทจะแตกต่างจากละครมากมั้ย