สวัสดีค่าเพื่อนๆ พี่ๆ ชาว pantip ค่ะ หน่อยเองก็หายไปนานเลยหลังจากกระทู้ทำเลสิค ฮ่าๆๆๆๆๆ
ไม่ค่อยมีเวลา มาอัพกระทู้เท่าไหร่ เลยยยย
แต่วันนี้ว่างงง และเห็นว่าฤกษ์งามยามดีที่จะขอมารีวิว รองพื้น ที่ใช้บ่อยๆ ในช่วงนี้เจ้าค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกเรื่องของสภาพผิวของหน่อยก่อนนะคะ ว่าเป็นคนผิวมันมากกกกกก(ก.ไก่ 30 ล้านตัว)
รูขุมขนเฮิบบบบมากก กว้างเว่อร์ รีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของหน่อยเท่านั้นนะคะ ใครมีข้อเสนอแนะอย่างไร บอกได้เลยจ้า
เริ่มต้นด้วย ภาพหมู่ของเด็กๆ ก่อนนะคะ
ทีนี้มาดูแต่ละชิ้นกันนะคะ เริ่มต้น ด้วย ตัวแรกค่ะ
1. Revlon photoready airbrush effect #004 Nude
ชื่อก็บอกอยู่แล้วค่ะ ว่า Photo Ready อารมณ์ประมาณผิวสวย หน้าผ่อง ขึนกล้องเวลาถ่ายรูปเด้ออออ ซึ่งเนื้อรองพื้นค่อนข้างที่เป็นแนวครีมมี่นิดๆค่ะ และในเนื้อรองพื้นจะผสมชิมเมอร์เม็ดเล็กๆ ละเอียดๆ เอาไว้ เพื่อช่วยในการกระจายแสง เพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับผิวหน้าค่ะ
แต่เอาจริงๆ พอทาแล้วไม่ได้รู้สึกถึงชิมเมอร์เท่าไหร่ เพราะแค่ลงแป้งฝุ่นชิมเมอร์ก็แทบมองไม่ค่อยเห็นแล้วค่ะ 555555
ซึ่งพอเนื้อรองพื้นบาง การปกปิดก็ทำได้น้อย ไม่ค่อยปกปิดใดๆ และใช้แล้วไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ สาวผิวผสมหรือผิวแห้งน่าจะเหมาะกว่า
ข้อดี :
- ราคาถูก เพราะราคาแค่หลักร้อย (4xx)
- หาซื้อง่าย
- เนื้อบางเบา
- เฉดสีมีให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย :
- คุมมันได้น้อย
- ปกปิดน้อย ช่วงไหนมีรอยสิวต้องโบกคอนซีลเลอร์หนักๆ
- เหมาะสำหรับสาวผิวผสม – ผิวแห้ง
******************************
2. NYX Total Control Drop Foundation #True Beige
อย่าตกใจทำไม รองพื้นขาวขนาดนี้ T_________T #รักเพื่อนต้องช่วยเพื่อนเลือกรองพื้นนะคะซิส
เนื้อรองพื้นคือเหลวมากกก เรียกว่าเป็นน้ำก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นไปที่เคาท์เตอร์ของ NYX มาค่ะ แล้วเจอคุณป้อม วินิจ เดินผ่านมาทักทายกับ BA แล้วเราแอบได้ยินเค้าคุยกัว่า “รองพื้นขายดีมั้ย ? เอออ มันเริ่ดมากเลยนะ” พร้อมชูนิ้วโป้งแล้วเดินจากไป ทิ้งเราไว้ตรงนั้น! เท่านั้นหล่ะค่ะคู๊ณณณณ อารมณ์เหมือนโดนป้ายยา
เลยได้มา 1 ขวด ซึ่งก็ใช้ดีเกลี่ยง่าย แต่เรื่องของการปกปิดนั้นอาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับเรา และแอบมีความมันในระหว่างวันจ้ะ ต้องซับมันตอนบ่ายๆ อีกที ที่สำคัญคือ อยากตีมือตัวเอง ทำไมถึงกล้าใช้รองพื้นสีสว่างขนาดนั้น หลังๆ รู้สึกว่า มันแอบขาวกว่าคอเลยใช้เหลือแต่ก้นๆ ขวด และเก็บเข้ากรุไปไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้เท่าไหร่
ข้อดี :
- ราคาถูก เพราะราคาแค่หลักร้อย (4xx)
- หาซื้อได้ตาม Shop NYX / eveandboy
- เนื้อบางเบา / ใช้นิ้วเกลี่ยง่าย
- เฉดสีมีให้เลือกเยอะมาก ประมาณ 20เฉดสี
ข้อเสีย :
- คุมมันได้ปานกลาง
- ยังไม่ Full Coverage
******************************
รองพื้นตัวถัดไปค่ะ สังเกตุว่ารองพื้นสีจะเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ เพราะ หลังๆ มานี่จะเริ่มใช้รองพื้นที่สี พอดี หรือ เข้มกว่าผิว เพราะหน้าเราปกติจะขาวกว่าคอกันอยู่แล้ว และที่สำคัญคือ เวลาถ่ายรูปหน้าจะดูสวย ดูไม่วอก ไม่ลอย ไม่เทา #สีเทาที่ดูแพงคือแบงค์พันเท่านั้นนะคะหน้าอย่าเทาจ้า 5555555
3. ศรีจันทร์ / SRICHAND Luminescence Splendorous Under Makeup
(Airy Oil-controlled Liquid Foundation for Combination & Oily Skin SPF 35 PA+++) #SC50 WARM HONEY
โอ๊ยชื่อยาวมากเว่อร์ 2 บรรทัดเลยทีเดียว 555
อันนี้เป็นรองพื้นสูตรน้ำเช่นกัน ก่อนใช้ต้องทำการเขย่าๆ ขวดก่อนนะคะ ไม่งั้นเวลาเทและจะแยกชั้นกันออกมา ซึ่งเนื้อเค้าดีนะ ไม่หนามาก เกลี่ยง่าย ทาแล้ว จะกลายเป็นแป้งนิดๆ ส่วนเรื่องของการปกปิดก็ ทำได้ปานกลาง
ส่วนคุมมันนั้น สำหรับเรารู้สึกว่า นางยังคุมมันได้น้อย บางทีเจอแดดแรงๆ หน้าจะเยิ้มๆ หน่อย
เรื่องของเฉดสี เค้ามีประมาณแค่ 5 เฉดสีค่ะ เราเลยเลือกใช้เฉดเข้มสุด คือเบอร์ 05 รู้สึกว่าสีมันเข้ากับคนไทย ผิวเข้มๆ ผิวสองสีดีนะคะ ชอบตรงนี้ เวลาถ่ายรูปหน้าจะดูเนียนๆ
ข้อดี :
- ราคาถูก เพราะราคาแค่หลักร้อย (5xx)
- หาซื้อได้ตาม drug store
- เนื้อบางเบา / ใช้นิ้วเกลี่ยง่าย
ข้อเสีย :
- คุมมันได้ปานกลาง
- ยังไม่ Full Coverage
- มีเฉดสีให้เลือกน้อย
******************************
4. Double Wear Nude Water Fresh Makeup SPF 30/PA++ #3N1 Ivory Beige
รองพื้นขวดแก้วในตำนานของใครหลายๆ คนมาแล้วววววว ขอมาฝั่งเคาท์เตอร์แบรนด์บ้างนะคะ อันนี้เชื่อว่าทุกคนรู้จักแน่นอน เพราะนี่คือความดีงามที่เราไม่สามารถหาใครมาแทนที่ได้
เนื้อครีมมีความเข้มข้น เป็นรองพื้น medieum - full coverage แต่ค่อนไปทาง full coverage และเนื้อ matte ออกจะแห้งเร็วมากด้วย เลยทำให้เกลี่ยค่อนข้างยาก เราต้อง tap แล้ว tap เลย อยากเกลี่ยย้อนไปย้อนมา มันจะเป็นคราบทันทีแต่ความดีงามของมันคือ การควบคุมความมัน ติดทน และการปกปิดที่ทำได้แบบ The Best มากสำหรับเรา และที่สำคัญคือ กลิ่นของแอลกอฮอล์ ค่อนข้างแรง และที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องล้างหน้าให้สะอาดมากๆๆๆ เพราะไม่อย่างนั้น สิวอุดตันจะตามมาจ้ะพี่จ๋า
ข้อดี :
- หาซื้อได้ตาม Shop / eveandboy
- ปกปิดรอยสิวได้ดี
- ปกปิดรูขุมขนได้ดี
- ควบคุมความมันได้ดีมาก
- เฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย :
- ราคาสูง (1,XXX)
- เนื้อหนา / หนักผิวหน้า
- มีกลิ่นแอลกอฮอล์
- มือใหม่อาจจะเกลี่ยยากต้องพยายามเกลี่ยดีๆ
******************************
5. Cute Press 1-2 Beautiful Matte Coverage Liquid Foundation #05 Honey
ตัวนี้เพิ่งสอยมาใหม่ เมื่อกลางเดือน ที่ผ่านมา ซึ่งตัวนี้ คือ เห็นบิวตี้ บล็อกเกอร์ รีวิวหนักมากเลยต้องไปสอยตามทันที อันนี้เป็นรองพื้น Liquid อีกเช่นเคยค่ะ ซึ่งเกลี่ยง่าย เนื้อดูเบาทาแล้วจะแห้งเป็นแป้งนิดๆ แต่คุมมันได้โอเคอยู่ ปกปิดระดับปานกลางถ้าอยากให้ปกปิดมากกว่านี้ต้องบิวท์กันอีกรอบและพรางรูขุมขนได้ดีเกินกว่าที่คาดคิดอยู่นะ
เฉดสีมีแค่ 5 เฉดค่ะ แต่ชอบตรงที่สีเข้มสุด คือ เหมาะกับคนไทยผิวสองสี ผิวน้ำผึ้งแบบเราอีกแล้วจ้า
ซึ่งมีทริคแนะนำดังนี้ เวลาเพื่อนๆ ซื้อรองพื้นมาผิดเบอร์ วิธีแก้ก็จะมี
1. รองพื้นเข้ม ให้หาแป้งเบอร์สว่างกว่าลงทับ หรือลงแป้งใช้เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง จะดีกว่านะคะ
2. ส่วนรองพื้นอันไหนขาวไป ให้หารองพื้นสีเข้มมาผสมเข้าไป หรือหาแป้งเบอร์เข้มกว่า มาลงทับค่ะ จะได้ไม่ต้องทิ้งให้รองพื้นผิดเบอร์นอนเหงาๆ ในลิ้นชักเนอะ
ข้อดี :
- ราคาไม่แพง (4XX)
- หาซื้อได้ตาม Shop / eveandboy
- ควบคุมความมัน
- เกลี่ยง่าย
ข้อเสีย :
- เฉดสีมีให้เลือกน้อย แค่ 5 เฉด
- ปกปิดปานกลาง อยากให้หนาต้องรองเพิ่ม
- ถ้ารอยสิวเข้มมาก ต้องใช้คอนซีลเลอร์ปิดทับ
******************************
6. Diorskin Forever Flawless Perfect Makeup Everlasting Wear SPF35/PA+++ / Shine Control #021
อันนี้คือรองพื้นที่แพงที่สุดในชีวิตของน้องล้าวววววว แต่ได้ยินเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง ว่าดีงาม ให้งานผิว แต่ปกปิดและคุมมันได้ดีอยู่ก็เลยขอลองสักครั้งนะเจ้าคะ
ตัวนี้ออกครีมมี่อยู่นะคะ แต่ matte ไม่มาก เนื้อมีความแห้งเร็ว เลยอาจจะเกลี่ยยากไปนิสสส เราว่าเอสเต้เกลี่ยยากแล้วนะ อันนี้รู้สึกยากกว่า มีกลิ่นหอมนิดๆ ให้อารมณ์ความเป็น Dior ที่แท้ทรู
ส่วนเรื่องของการควบคุมความมันนั้น เราว่าโอเคเลยทำได้ดีมาก แต่เรื่องของการปกปิดอันนี้ ถือว่ากลางๆ รอยสิว รอยดำ ต้องอาศัยคอนซีลเลอร์เช่นกัน ฮรือออ สองพันกว่าบาทควรปกปิดให้เนียนกริบแบบขั้นเทพไปเลยสิคะ แต่ถ้าใครชอบงานผิว หรือผิวดีๆ ไม่มีร่องรอยอารยธรรมมากมาย และที่สำคัญถ้าเงินกระเป๋าโอเค เราก็โอเคคคคคค
ข้อดี :
- ให้งานผิว
- กลิ่นไม่ฉุน หอมอ่อนๆ
- เนื้อบางเบา
- คุมมันได้ดี
- มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย :
- ราคาสูง (2,XXX)
- หาซื้อยาก ต้องไปตาม เคาท์เตอร์ในห้างฯ
- เนื้อแห้งเร็ว / เกลี่ยยาก
- ปกปิดได้ปานกลาง
******************************
สรุปว่า สำหรับตัวหน่อยเองเนี่ยขอให้คะแนน 3 อันดับตามความชอบดังนี้นะคะ (อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)
อันดับ 1 : ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ = Estee Lauder & Dior & Cute Press
อันดับ 2 : ❤ ❤ ❤ ❤ = Revlon & NYX
อันดับ 3 : ❤ ❤ ❤ = ศรีจันทร์
เอาหล่ะค่า พอหอมปากหอมคอ ซึ่งเอาจริงๆ รองพื้นของหน่อยในกรุ มีอีกเยอะมาก ทั้งคุชชั่น และ ตัวที่ใช้แล้วเฉยๆ ก็มีอีกไม่น้อย
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะซื้อรองพื้นนะคะ
ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้า
ขอบคุณค่า xoxo
[CR] [CR] เรียนเชิญออเจ้าเข้ามาชม 6 รองพื้นทั้งถูกและแพง อันไหน อันไหนเด็ด เชิญจ้า
ไม่ค่อยมีเวลา มาอัพกระทู้เท่าไหร่ เลยยยย
แต่วันนี้ว่างงง และเห็นว่าฤกษ์งามยามดีที่จะขอมารีวิว รองพื้น ที่ใช้บ่อยๆ ในช่วงนี้เจ้าค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกเรื่องของสภาพผิวของหน่อยก่อนนะคะ ว่าเป็นคนผิวมันมากกกกกก(ก.ไก่ 30 ล้านตัว)
รูขุมขนเฮิบบบบมากก กว้างเว่อร์ รีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของหน่อยเท่านั้นนะคะ ใครมีข้อเสนอแนะอย่างไร บอกได้เลยจ้า
เริ่มต้นด้วย ภาพหมู่ของเด็กๆ ก่อนนะคะ
ทีนี้มาดูแต่ละชิ้นกันนะคะ เริ่มต้น ด้วย ตัวแรกค่ะ
1. Revlon photoready airbrush effect #004 Nude
ชื่อก็บอกอยู่แล้วค่ะ ว่า Photo Ready อารมณ์ประมาณผิวสวย หน้าผ่อง ขึนกล้องเวลาถ่ายรูปเด้ออออ ซึ่งเนื้อรองพื้นค่อนข้างที่เป็นแนวครีมมี่นิดๆค่ะ และในเนื้อรองพื้นจะผสมชิมเมอร์เม็ดเล็กๆ ละเอียดๆ เอาไว้ เพื่อช่วยในการกระจายแสง เพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับผิวหน้าค่ะ
แต่เอาจริงๆ พอทาแล้วไม่ได้รู้สึกถึงชิมเมอร์เท่าไหร่ เพราะแค่ลงแป้งฝุ่นชิมเมอร์ก็แทบมองไม่ค่อยเห็นแล้วค่ะ 555555
ซึ่งพอเนื้อรองพื้นบาง การปกปิดก็ทำได้น้อย ไม่ค่อยปกปิดใดๆ และใช้แล้วไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ สาวผิวผสมหรือผิวแห้งน่าจะเหมาะกว่า
ข้อดี :
- ราคาถูก เพราะราคาแค่หลักร้อย (4xx)
- หาซื้อง่าย
- เนื้อบางเบา
- เฉดสีมีให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย :
- คุมมันได้น้อย
- ปกปิดน้อย ช่วงไหนมีรอยสิวต้องโบกคอนซีลเลอร์หนักๆ
- เหมาะสำหรับสาวผิวผสม – ผิวแห้ง
******************************
2. NYX Total Control Drop Foundation #True Beige
อย่าตกใจทำไม รองพื้นขาวขนาดนี้ T_________T #รักเพื่อนต้องช่วยเพื่อนเลือกรองพื้นนะคะซิส
เนื้อรองพื้นคือเหลวมากกก เรียกว่าเป็นน้ำก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นไปที่เคาท์เตอร์ของ NYX มาค่ะ แล้วเจอคุณป้อม วินิจ เดินผ่านมาทักทายกับ BA แล้วเราแอบได้ยินเค้าคุยกัว่า “รองพื้นขายดีมั้ย ? เอออ มันเริ่ดมากเลยนะ” พร้อมชูนิ้วโป้งแล้วเดินจากไป ทิ้งเราไว้ตรงนั้น! เท่านั้นหล่ะค่ะคู๊ณณณณ อารมณ์เหมือนโดนป้ายยา
เลยได้มา 1 ขวด ซึ่งก็ใช้ดีเกลี่ยง่าย แต่เรื่องของการปกปิดนั้นอาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับเรา และแอบมีความมันในระหว่างวันจ้ะ ต้องซับมันตอนบ่ายๆ อีกที ที่สำคัญคือ อยากตีมือตัวเอง ทำไมถึงกล้าใช้รองพื้นสีสว่างขนาดนั้น หลังๆ รู้สึกว่า มันแอบขาวกว่าคอเลยใช้เหลือแต่ก้นๆ ขวด และเก็บเข้ากรุไปไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้เท่าไหร่
ข้อดี :
- ราคาถูก เพราะราคาแค่หลักร้อย (4xx)
- หาซื้อได้ตาม Shop NYX / eveandboy
- เนื้อบางเบา / ใช้นิ้วเกลี่ยง่าย
- เฉดสีมีให้เลือกเยอะมาก ประมาณ 20เฉดสี
ข้อเสีย :
- คุมมันได้ปานกลาง
- ยังไม่ Full Coverage
******************************
รองพื้นตัวถัดไปค่ะ สังเกตุว่ารองพื้นสีจะเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ เพราะ หลังๆ มานี่จะเริ่มใช้รองพื้นที่สี พอดี หรือ เข้มกว่าผิว เพราะหน้าเราปกติจะขาวกว่าคอกันอยู่แล้ว และที่สำคัญคือ เวลาถ่ายรูปหน้าจะดูสวย ดูไม่วอก ไม่ลอย ไม่เทา #สีเทาที่ดูแพงคือแบงค์พันเท่านั้นนะคะหน้าอย่าเทาจ้า 5555555
3. ศรีจันทร์ / SRICHAND Luminescence Splendorous Under Makeup
(Airy Oil-controlled Liquid Foundation for Combination & Oily Skin SPF 35 PA+++) #SC50 WARM HONEY
โอ๊ยชื่อยาวมากเว่อร์ 2 บรรทัดเลยทีเดียว 555
อันนี้เป็นรองพื้นสูตรน้ำเช่นกัน ก่อนใช้ต้องทำการเขย่าๆ ขวดก่อนนะคะ ไม่งั้นเวลาเทและจะแยกชั้นกันออกมา ซึ่งเนื้อเค้าดีนะ ไม่หนามาก เกลี่ยง่าย ทาแล้ว จะกลายเป็นแป้งนิดๆ ส่วนเรื่องของการปกปิดก็ ทำได้ปานกลาง
ส่วนคุมมันนั้น สำหรับเรารู้สึกว่า นางยังคุมมันได้น้อย บางทีเจอแดดแรงๆ หน้าจะเยิ้มๆ หน่อย
เรื่องของเฉดสี เค้ามีประมาณแค่ 5 เฉดสีค่ะ เราเลยเลือกใช้เฉดเข้มสุด คือเบอร์ 05 รู้สึกว่าสีมันเข้ากับคนไทย ผิวเข้มๆ ผิวสองสีดีนะคะ ชอบตรงนี้ เวลาถ่ายรูปหน้าจะดูเนียนๆ
ข้อดี :
- ราคาถูก เพราะราคาแค่หลักร้อย (5xx)
- หาซื้อได้ตาม drug store
- เนื้อบางเบา / ใช้นิ้วเกลี่ยง่าย
ข้อเสีย :
- คุมมันได้ปานกลาง
- ยังไม่ Full Coverage
- มีเฉดสีให้เลือกน้อย
******************************
4. Double Wear Nude Water Fresh Makeup SPF 30/PA++ #3N1 Ivory Beige
รองพื้นขวดแก้วในตำนานของใครหลายๆ คนมาแล้วววววว ขอมาฝั่งเคาท์เตอร์แบรนด์บ้างนะคะ อันนี้เชื่อว่าทุกคนรู้จักแน่นอน เพราะนี่คือความดีงามที่เราไม่สามารถหาใครมาแทนที่ได้
เนื้อครีมมีความเข้มข้น เป็นรองพื้น medieum - full coverage แต่ค่อนไปทาง full coverage และเนื้อ matte ออกจะแห้งเร็วมากด้วย เลยทำให้เกลี่ยค่อนข้างยาก เราต้อง tap แล้ว tap เลย อยากเกลี่ยย้อนไปย้อนมา มันจะเป็นคราบทันทีแต่ความดีงามของมันคือ การควบคุมความมัน ติดทน และการปกปิดที่ทำได้แบบ The Best มากสำหรับเรา และที่สำคัญคือ กลิ่นของแอลกอฮอล์ ค่อนข้างแรง และที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องล้างหน้าให้สะอาดมากๆๆๆ เพราะไม่อย่างนั้น สิวอุดตันจะตามมาจ้ะพี่จ๋า
ข้อดี :
- หาซื้อได้ตาม Shop / eveandboy
- ปกปิดรอยสิวได้ดี
- ปกปิดรูขุมขนได้ดี
- ควบคุมความมันได้ดีมาก
- เฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย :
- ราคาสูง (1,XXX)
- เนื้อหนา / หนักผิวหน้า
- มีกลิ่นแอลกอฮอล์
- มือใหม่อาจจะเกลี่ยยากต้องพยายามเกลี่ยดีๆ
******************************
5. Cute Press 1-2 Beautiful Matte Coverage Liquid Foundation #05 Honey
ตัวนี้เพิ่งสอยมาใหม่ เมื่อกลางเดือน ที่ผ่านมา ซึ่งตัวนี้ คือ เห็นบิวตี้ บล็อกเกอร์ รีวิวหนักมากเลยต้องไปสอยตามทันที อันนี้เป็นรองพื้น Liquid อีกเช่นเคยค่ะ ซึ่งเกลี่ยง่าย เนื้อดูเบาทาแล้วจะแห้งเป็นแป้งนิดๆ แต่คุมมันได้โอเคอยู่ ปกปิดระดับปานกลางถ้าอยากให้ปกปิดมากกว่านี้ต้องบิวท์กันอีกรอบและพรางรูขุมขนได้ดีเกินกว่าที่คาดคิดอยู่นะ
เฉดสีมีแค่ 5 เฉดค่ะ แต่ชอบตรงที่สีเข้มสุด คือ เหมาะกับคนไทยผิวสองสี ผิวน้ำผึ้งแบบเราอีกแล้วจ้า
ซึ่งมีทริคแนะนำดังนี้ เวลาเพื่อนๆ ซื้อรองพื้นมาผิดเบอร์ วิธีแก้ก็จะมี
1. รองพื้นเข้ม ให้หาแป้งเบอร์สว่างกว่าลงทับ หรือลงแป้งใช้เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง จะดีกว่านะคะ
2. ส่วนรองพื้นอันไหนขาวไป ให้หารองพื้นสีเข้มมาผสมเข้าไป หรือหาแป้งเบอร์เข้มกว่า มาลงทับค่ะ จะได้ไม่ต้องทิ้งให้รองพื้นผิดเบอร์นอนเหงาๆ ในลิ้นชักเนอะ
ข้อดี :
- ราคาไม่แพง (4XX)
- หาซื้อได้ตาม Shop / eveandboy
- ควบคุมความมัน
- เกลี่ยง่าย
ข้อเสีย :
- เฉดสีมีให้เลือกน้อย แค่ 5 เฉด
- ปกปิดปานกลาง อยากให้หนาต้องรองเพิ่ม
- ถ้ารอยสิวเข้มมาก ต้องใช้คอนซีลเลอร์ปิดทับ
******************************
6. Diorskin Forever Flawless Perfect Makeup Everlasting Wear SPF35/PA+++ / Shine Control #021
อันนี้คือรองพื้นที่แพงที่สุดในชีวิตของน้องล้าวววววว แต่ได้ยินเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง ว่าดีงาม ให้งานผิว แต่ปกปิดและคุมมันได้ดีอยู่ก็เลยขอลองสักครั้งนะเจ้าคะ
ตัวนี้ออกครีมมี่อยู่นะคะ แต่ matte ไม่มาก เนื้อมีความแห้งเร็ว เลยอาจจะเกลี่ยยากไปนิสสส เราว่าเอสเต้เกลี่ยยากแล้วนะ อันนี้รู้สึกยากกว่า มีกลิ่นหอมนิดๆ ให้อารมณ์ความเป็น Dior ที่แท้ทรู
ส่วนเรื่องของการควบคุมความมันนั้น เราว่าโอเคเลยทำได้ดีมาก แต่เรื่องของการปกปิดอันนี้ ถือว่ากลางๆ รอยสิว รอยดำ ต้องอาศัยคอนซีลเลอร์เช่นกัน ฮรือออ สองพันกว่าบาทควรปกปิดให้เนียนกริบแบบขั้นเทพไปเลยสิคะ แต่ถ้าใครชอบงานผิว หรือผิวดีๆ ไม่มีร่องรอยอารยธรรมมากมาย และที่สำคัญถ้าเงินกระเป๋าโอเค เราก็โอเคคคคคค
ข้อดี :
- ให้งานผิว
- กลิ่นไม่ฉุน หอมอ่อนๆ
- เนื้อบางเบา
- คุมมันได้ดี
- มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย :
- ราคาสูง (2,XXX)
- หาซื้อยาก ต้องไปตาม เคาท์เตอร์ในห้างฯ
- เนื้อแห้งเร็ว / เกลี่ยยาก
- ปกปิดได้ปานกลาง
******************************
สรุปว่า สำหรับตัวหน่อยเองเนี่ยขอให้คะแนน 3 อันดับตามความชอบดังนี้นะคะ (อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)
อันดับ 1 : ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ = Estee Lauder & Dior & Cute Press
อันดับ 2 : ❤ ❤ ❤ ❤ = Revlon & NYX
อันดับ 3 : ❤ ❤ ❤ = ศรีจันทร์
เอาหล่ะค่า พอหอมปากหอมคอ ซึ่งเอาจริงๆ รองพื้นของหน่อยในกรุ มีอีกเยอะมาก ทั้งคุชชั่น และ ตัวที่ใช้แล้วเฉยๆ ก็มีอีกไม่น้อย
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะซื้อรองพื้นนะคะ
ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้า
ขอบคุณค่า xoxo