มีใครรู้สึกบ้างว่าแม่การะเกด ตอนล่าสุดบทล้นเกิน

คือล้นเกินนิยายไปมาก ใช้คำตอกกลับผู้ใหญ่น่าเกลียด ไม่รู้กาลเทศะเอาซะเลย
ในนิยายแม่การะเกดก็ล้นอยู่แล้ว แต่ล้นแบบรับได้ แต่พอมาเป็นบทละครทำไมปรับให้ล้นไปอีก
ถ้าเกศสุรางค์เป็นเด็กที่ขาดการอบรม ขาดการศึกษา ยังพอทำเนา
แต่นี่เป็นคนที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีจากคุณ สิปางและคุณยาย
เรียนโบราณคดีอีก คือน่าจะพอรู้กาลเทศะบ้าง ในเรื่องความอยากรู้อยากเห็นนี่พอจะเข้าใจ
ว่าเพราะเป็นเพราะคิดว่าเขาฝากให้ช่วยทำความดี สักวันนึงก็ต้องกลับบ้าน อยากเก็บเกี่ยวให้ถึงที่สุด
แต่ความประพฤติอื่นๆ จารีต ธรรมเนียมประเพณี วิถีประชา เป็นสิ่งที่เกสสุรางค์รู้ดี แต่ทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย
2 ตอนแรกนี่สนุกมาก ผมนี่ชวนให้เพื่อนดูกันเพียบ นั่งเล่าประวัติ แม่มะลิกับฟาลคอลพระนารายณ์ให้เพื่อนฟัง
แต่บทเมื่อคืนทำให้ผิดหวังนิดๆ

ฉากเมื่อคืนทำให้นึกถึงฉากหลอกผีของแม่มณีเวอร์ชั่นแพนเค้ก บทโดยคุณบ๊วย
คือพอกันเลย แปลกใจเล็กน้อยที่บทนี้มาจากฝีมือ อ.ศัลยา
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อ่านนิยายจนจบแล้วอย่างละเอียดพบว่าเป็นนิยายที่สนุกมากสำหรับคนอ่าน
แต่ถ้านำทั้งหมดมาเป็นละครโดยไม่ดัดแปลงจะประหลาดมากด้วยนางเอกคิดนึกวนไปทั้งเรื่อง

ละครที่ได้รับการดัดแปลงโดยคนเขียนบทละครย้อนยุคมือหนึ่งในใจอย่างคุณศัลยา
จึงทำการถ่ายทอดการนึกคิดตามสมัยใหม่ของนางเอกที่เป็นคนคิดอะไรลึกซึ้งไม่ห่วงสวยทะเล้นมีความคิดแปลกแยกแม้ในยุคปัจจุบัน นางเอกในยุคปัจจุบันเป็นผู้หญิงมั่นใจดูจากการตอบคำถามอาจารย์ในห้องเรียกได้ว่าผู้หญิงแถวหน้ากล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงออกกล้าบอกความคิดเห็นกล้าแสดงความเก่งกาจไม่เก็บงำ  

ในนิยายมีบรรยายไว้ด้วยว่านางเอกมีปมด้อยเรื่องอ้วนไม่สวยจนพยายามเรียนเก่งเป็นผู้หญิงหาปมเด่นทดแทนปมด้อยให้ผู้คนยอมรับด้วยการแสดงสมองสติปัญญากล้าออกความคิดพูดแบบมั่นใจเกินผู้หญิงในสมัยนี้ด้วยซ้ำ ขนาดเทียบสมัยนี้ก็เป็นผู้หญิงที่ดูแสดงเยอะสิ่งร่าเริงลัลลามีสมองและแสดงออกโดดเด่นกล้าพูดจา กลบรูปร่างอวบอ้วนและมีน้ำใจจิตใจดีในรูปลักษณ์ไม่ดึงดูดนั้น ลองหลับตานึกภาพว่าผู้หญิงแบบนี้มีอยู่จริงในยุคปัจจุบัน แล้วนึกต่อว่าถ้าหญิงมั่นแบบนี้ย้อนยุคไปเจอสมัยหมอบคลานห้ามพูดห้ามเถียงและถูกกล่าวหาด่าทอในร่างแม่หญิงร้ายเช่นการะเกดที่เพิ่งอยู่ในระหว่างการสงสัยว่าฆ่าคนตายล่มเรือด้วยความหึงหวงริษยา จะเกิดอะไรขึ้น

นางเอกคนปัจจุบันที่เก่งกล้าสามารถมั่นใจตัวเองสูง ที่เพิ่งย้อนอดีตแล้วพบเจอเหตุการณ์ที่ผู้คนรอบข้างเกลียดชังระดับโคม่าจนนางเอกต้องหาวิธีจัดการและแสดงออกด้วยหัวสมองจากปัจจุบันไปใช้ในอดีตหลายร้อยปีก่อน  ยิ่งทำให้ความต่างระหว่างหญิงมั่นในปัจจุบันไปโผล่ในยุคผู้หญิงไร้ตัวตนในบ้านเรือนสมัยนั้นก็เยอะมาก  การเรียนโบราณคดีไทยและตะวันตกทำให้รู้เพียงเรื่องราวแต่มิใช่เข้าไปอยู่ในยุคนั้นแล้วปรับตัวได้ทันที

ส่วนตัวคิดว่าการแสดงออกของนางเอกหญิงมั่นมากในสมองคำพูดความคิดการแสดงออกของตัวเองในยุคปัจจุบัน เพิ่งโผล่ในยุคนั้นมีความเป็นไปได้สมจริงแล้วค่ะ

ความคิดเห็นที่ 19
ดูแค่ละครนะครับ เมื่อคืนหงุดหงิดกับการกระทำของเกศสุรางค์เยอะมาก

- จะใช้ภาษาอังกฤษอะไรนักหนา พูดกับตัวเองน่ะไม่ว่า แต่ตอนกับคนอื่นควรยั้งๆไว้บ้าง เกิดคำแปลกๆของตัวเองกลายเป็นคำติดปากคนอื่น จนลามไปถึงบันทึกต่างๆจะทำอย่างไร คนรุ่นหลังมาศึกษาก็จะเข้าใจผิดเพี้ยนหมด (เรียนมาทางนี้ น่าจะคิดเรื่องพวกนี้ได้บ้างนะ)

- ทำทรงผมผิดยุคสมัย ทั้งๆที่ตอนนี้ก็มีแต่คนชัง คนหาว่าวิปลาสอยู่แล้ว ยังมาทำอะไรแบบนี้อีก น่าจะพยายามทำตัวให้กลมกลืนให้มากกว่านี้ ให้คนเค้ารักใคร่กว่านี้ก่อน แล้วค่อยทำนู่นทำนี่แปลกๆ

- มองเรือพระที่นั่งตรงๆ ทั้งที่ถ้าเรียนมาทางนี้จริง ก็น่าจะพอรู้ว่ามันเป็นข้อห้าม และลงโทษกันแรงมาก รู้ว่าอยากเห็นแต่ก็ไม่ควรถึงขนาดลุกขึ้นนั่งแล้วมองตรงๆขนาดนั้น เดี๋ยวจะซวยกันไปหมด

เรื่องอื่นๆไม่ว่ากัน เข้าใจได้
ความคิดเห็นที่ 6
ทำไมเรากลับมองว่านางยังน่ารักอยู่นะ อีกอย่างมองว่าดูไม่มีกาลเทศะมั้ย เราว่าก็ไม่เชิงเพราะเราก็พอเข้าใจนิสัยของนางเอกอยู่ เป็นคนมั่นใจในตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ ถ้าโดนใครติมาอย่างไม่มีเหตุผลนางก็คงสู้หลังชนฝาอยู่แล้ว อีกอย่างนางก็คงมองว่าสิทธิมันเท่าเทียมกันหนิ ทำแบบนี้มันผิดตรงไหน แต่จุดที่เราชอบของฉากนี้คือตอนที่พระเอกพูดให้นางเอกฟังตอนท้ายมากกว่าว่าแบบมันไม่เกี่ยวกับเรื่องถูกผิดแต่มันเป็นที่คนจะมองเราไปในด้านไม่ดี เอาไปนินทามากกว่า ส่วนตัวเลยคิดว่า ฉากนี้คนเขียนบทต้องการสอนเราด้วยซ้ำเพราะคนยุคใหม่สมัยนี้ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น ชอบเรียกร้องหาสิทธิให้ตนเองจนลืมมองเรื่องมารยาทไป เเต่เอาเถอะ บทตรงนี้มันเป็นจุดเล็กน้อยมากครับ ฉากดีๆของเมื่อวานก็มีอยู่เยอะไป ฉากนางเอกเอาตะเกียงไปให้พระเอกเอย ฉากนางเอกคอยพระเอกที่ท่าน้ำเอย คือฟินมากกก หรือแม้แต่ฉากที่มีการสอดแทรกประวัติศาสตร์ต่างๆนานา เราว่าเรื่องนี้เป็นละครที่ดีกว่าละครไทยหลายๆเรื่องมากๆเลยนะ ลองมองเป็นภาพรวมดูครับ อย่ามองแต่จุดที่ดูเป็นจุดด่างพล้อยสำหรับเราเลย ลองมองจุดที่เป็นจุดดีที่เป็นจุดใหญ่ดูครับ
ความคิดเห็นที่ 7
ความคิดเห็นที่ 23
แต่เราว่าละครทำดีมากนะ เราลองเอาตัวเองไปเป็นการะเกด แล้วความรู้สึกนึกคิด การแสดงเราออกมาแบบการะเกดเลย คือแบบทุกอย่าง มันตื่นเต้น มันเกินคาดฝัน อยู่ดีมาโผล่ในยุคอยุธยาสมัยรุ่งเรือง เจออะไรแปลกตา ดี๊ด๊า อยากทำนู่นนี่ ดูโน่นดูนี่  ส่วนทรงผม เหมือนแบบเรามาจากยุคที่ทรงผมมีเป็น 1,000 ทรง+ พอไปอยู่ในยุคที่ ทำผมได้แค่ 3-5 ทรงแถม ต้องทำตามวัยตามตำแห่งศักดิ์อีก ของการะเกดได้แค่ 2 ทรงมั้ง ก็เลยคิดอยากทำทรงอื่นบ้าง พอมาเจอคุณป้าว่า อารมณ์เด็กวัยรุ่นยุคใหม่ ก็จะแบบเฮ้ยไม่ได้ผิดกฏหมายนี่ สวยออก ทำไมว่ากันแรงขนาดนี้ ก็พยายามชี้แจง จนมันดูไม่งามกับผู้ใหญ่ยุคนั้น
เพราะยุคปัจจุบันนางไม่เคยเถียงแม่กับยาย เพราะกรอบอิสระที่นางเอกทำมันกว้างกว่าไง แล้วนางเอกเป็นเด็กนิสัยแบบไม่ได้ทำตัวผิดเกินกรอบสังคมปัจจุบันของยุค 2017 ก็เลยไม่ได้ค่อยโดนดุจริงจัง แต่พอไปยุคนั่นที่ลูกหลานต้องเงียบ ห้ามชี้แจงโต้แย้งผู้ใหญ่ ห้ามร่าเริงสดใสแบบยุคนี้คือต้องพับเพียบเรียบร้อย หัวเราะยังต้องเงียบเสียง เอามือปิดปาก ยิ้มได้แต่ในบ้าน  นอกบ้านยิ้มไปทั่วก็ไม่ได้ ดูไม่งาม  ยิ่งเป็นหญิงสูงศักดิ์ด้วย ต้องว่าท่าวางตน นางเอกเลยดูขัดตา ไปสำหรับผู้ใหญ่ยุคนั้น จึงโดนดุเยอะ เลยเป็นที่มาของการชี้แจง ที่ดูเป็นการเถียงของคนสมัยนั้น. สรุปเราชอบมากกๆ.  แต่เข้าใจจขกท. ไม่รู้มีมุมแบบเรามั้ย แบบคิดว่า นางเอกจะวางตนเรียบร้อยจนผู้ใหญ่เอ็นดู แต่นางเอกแบบมีเรื่องให้ว่าทุกวัน ก็เลยไม่อยากให้นางเอกล้นเกินไป แต่พอเรามองมุมว่าถ้าเราเป็นการะเกด(เกศสุรางค์) เราก็คงทำแบบนี้แหละ.  เวลาเราไปนั่งเรือเที่ยว เคยไปอัมพวาหลายครั้ง ก็โบกไม้โบกมือให้คนแบบนี้เลย ทั้งลำทำกันหมด
ปล.เราเป็นคนอยุธยา บ้านอยู่ข้างวัดเดิม (อโยธยา) เลย ดีใจที่พูดถึงวัดบ้านเราด้วย ชอบเรื่องนี้เหมือนเราไปอยู่ยุคนั้นด้วย ตื่นเต้นไปหมด เพราะในหัวเรารู้จักทุกจุดที่ละครพูดถึง พาไปดูที่สวยในละคร สลับกับภาพที่มีจริงที่อยุธยา
ที่เหลือแต่ร่องรอยโบราณสถานแล้ว รู้สึกสนุกมากก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่