หูยยย สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เขียนเพราะว่า ตอนกำลังจะหาทางไปเขาใหญ่ด้วยตัวเอง แต่ดันไม่ค่อยมีข้อมูลลงเลยในพันทิป
มาค่ะ เริ่ม~
(ภาพจากกล้อง Sony A5100 และ A5000)
ถ้าพูดถึงเขาใหญ่ เคยมาแล้วค่ะ แต่เป็นรถยนต์ส่วนตัว ครั้งนี้เลยอยากลองแบกเป้ขึ้นเขากับเพื่อน ไปพักผ่อนเพราะงานเยอะมากๆ
จุดนัดพบสำหรับการเริ่มต้นทริปเขาใหญ่คือสถานีขนส่งหมอชิต ค่าเสียหายคนละ 160 บาท
ก่อนไปก็แวะหาอะไรกินก่อนกันเป็นลม ไม่ใช่ๆ กันหิวบนรถ เรากินก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก (50บาท) เนื่องจากยังเช้าอยู่ ส่วนเพื่อนซัดข้าวหมูแดงไป ( 60บาท) หาซื้อน้ำเปล่าติดไว้ขวดนึง ล้อหมุนก่อนเวลานิดหน่อย ประมาณ10 โมงนิดๆ ก็นั่งกันยาวๆ
รถตู้แวะปั๊มเติมแก๊ส ก็หิวอ่ะ จัด หมูปิ้งจิ้มแจ่วไป 2 ไม้ ไม้แรกถ่ายไม่ทัน พี่คนขับโม้มาว่าเป็นหมูปิ้งจิ้มแจ่มที่อร่อยที่สุดในปั๊มนี้ เพราะว่ามีเจ้าเดียว แฮ่
จากนั้นก็นั่งต่อมาจนถึงในตัวเมือง รถจะจอดตรงคิวรถตู้เลย อยู่หน้า Tops นี่คือคิวรถตู้ที่นั่งมาค่ะ คิวรถตู้เทวาดา
ใกล้ๆ กับรถหกล้อฟ้าที่เราจะนั่งต่อขึ้นไปอุทยานเพื่อเช่ามอเตอไซค์ที่จองเอาไว้ล่วงหน้า พี่คนขับถามว่าน้องจะไปไหนกัน เราก็ตอบไปว่า ไปเขาใหญ่พี่ ไปหน้าอุทยาน พี่จอดตรงรถหกล้อสีฟ้าป่ะคะ พี่เขาก็บอกว่า โอ๊ยย เปิดประตูรถตู้ไปก้าวเท้าข้ามไปก็ขึ้นรถหกล้อฟ้าได้เลย ไม่ต้องแตะพื้นดินอ่ะ ดูความอารมณ์ดีของพี่รถตู้สิคะ ตอนจะลงก็เลยแกล้งแซวให้พี่เขาจอดเทียบ บอกว่าถ้าก้าวแล้วไม่ถึงเลยไม่ลงนะคะ แกก็ขำขัน เป็นพี่รถตู้ที่อารมณ์ดี๊อารมณ์ดี
ตอนเราไปถึงก็เที่ยงกว่าๆ เกือบบ่ายโมงละ หิวอีกละ บวกกับเห็นรถหกล้อฟ้าคนยังไม่เยอะเลยเดินเข้าไปในตลาดกะจะไปหาร้านข้าว แต่ปิดหมดจึงได้ลูกชิ้นทอดและชาเย็นหวานน้อยมาประทังชีวิต
จากนั้นก็กลับมานั่งรอบนรถรอออก ไม่ต้องรอเต็มนะคะ เขาจะมีรอบๆ มีเวลาของเขา รถหกล้อฟ้าของที่นี่ก็เหมือนรถเมล์ รถสองแถวที่ขับไปจอดตามทาง สามารถกดกริ่งได้ สถานทีปลายทางคือหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั่นเอง ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงหน้าอุทยาน นั่งยื่นหน้าเป็นเมียร์แคทเพราะไม่เคยมาและกลัวเลยแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นสถานทีปลายทาง 5555555555555 จ่ายไปคนละ 30 บาท ตอนแรกเข้าใจว่า 50 พี่คนขับบอกว่า งั้น 50 ก็ได้ ก็เลยแซวกลับไปว่า 50 บาทสองคนใช่มั้ยคะ เกือบหนีสายตาทิ่มแทงมาไม่ทัน 555555555
จากนั้นก็ยืนงงอยู่ตรงหน้าอุทยานสักครู่ พี่ผู้ชายคนหนึ่งก็วิ่งมาขวักมือเรียก “น้องๆ ที่จองรถใช่ป่ะ” ว้าว ร้านโคตรหาง่ายกว่าป้ายบอกทางไปสุวรรณภูมิ เป็นร้านเช่ารถที่มีร้านกาแฟอยู่ด้วย เราก็เลยทักทายพี่เขาไป และเช่า 2 คืน ราคาคืนแรก 500 คืนที่สอง 400 บาท ไม่ต้องมัดจำแต่ทิ้งบัตรประชาชนเอาไว้ (น้ำมันเต็มถัง ไม่ต้องเติมคืน แค่เอารถมาส่งให้ครบองค์ประกอบก็พอ) ฟินเลยค่ะ ได้รถสีดำๆ มาอ่ะ
ดำเขียวค่ะ 55555555555555555555555555 พร้อมหมวกกันน็อคคนละใบกับเพื่อน
หลังจากนั้นก็ถามทางไปที่พักที่ได้จองเอาไว้ พี่นุ้ย(เจ้าของรถเช่า ผู้หญิง) บอกว่าประมาณ 10 กว่าโล เราก็สบายๆ บิดกันยาวๆ ปรากฎความจริงเดินทาง 40 โลเด้อ เกือบออกนอกจังหวัด ไม่รู้ว่าต้องรักษาคอนเซปต์ชื่อเพจอะไรขนาดนี้ #หลงไปด้วยกัน ที่แท้ทรู จนในที่สุดก็มาถึงที่พัก ชื่อ Escape Khaoyai อ่านรีวิวที่พักเต็มๆ ได้ที่ : (รอรีวิวฉบับเต็ม)
คืนแรกเหนื่อยจัด หลงจนเหนื่อยกับเดินทางเหนื่อยก็เลยพักผ่อนที่โรงแรม นั่งฟินกับแอร์เสร็จก็ลงมาถ่ายรูปและดินเนอร์ของทางโรงแรม อร่อยโฮก พรุ่งนี้คุยกันไว้ว่าจะไปหาคาเฟ่นั่ง และหาที่ถ่ายรูปเล่นกัน
วันถัดมาตื่นมากินข้าวเช้าของโรงแรมเวลา 11 โมงจ้า (แต่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วนะ)
และสถานทีถัดไปคือคาเฟ่ The Birder’s Lodge Café บอกเลยว่าไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน ค้นกันสดๆ วันนั้นเลย ตอนแรกกะไว้ว่าที่ไหนสวยแวะเข้าไปโลด (ที่นี่เห็นก่อนที่จะถึงที่พักเมื่อวาน เลยเอานี่แหละ ฮิปเตอร์ว่ะ คุมโทนสวย)
ที่นี่มีทั้ง ฟาร์มสำหรับขายของฝาก ของออแกนิคที่คัดมาแล้วว่าออแกนิคจริงๆ และมีคาเฟ่ค่ะ อ่านรีวิวฟาร์มและคาเฟ่ The Birder’s Lodge Café เต็มๆ ได้ที่ : (รอรีวิวฉบับเต็ม)
เราใช้เวลาตั้งแต่ช่วงบ่ายจนประมาณถึงบ่ายสามกว่าๆ ก็คุยกันว่าไปหาที่ถ่ายรูปกัน แสงกำลังสวย
เลยขี่มาใกล้ๆ เลย พรีโม่ เพียซซ่า มีความคล้ายปาลิโอ แต่ปาลิโออยู่เส้นหลักและเรากลัวแสงหมด เลยจัดที่นี่แหละ อ่านรีวิวเพิ่มเติม พรีโม เพียซซ่าได้ที่ (รอรีวิวฉบับเต็ม)
หลังจากตะลอนมาตลอดบ่าย ถ่ายรูปจนแบตเหลือ 0% ก็ย้ายมาหาข้าวเย็นกันที่ร้านอาหาร ที่นี่มีร้านอาหารเยอะ ครัวเยอะ ร้านที่คนเยอะก็รอนานมาก ร้านที่ไม่มีคนพ่อครัวก็น้อยมาก แต่ในที่สุดเราก็ผ่านพ้นคืนนั้นมาได้ด้วย ปลากะพงราดน้ำปลา ต้มยำกุ้งและข้าวสวยร้อนๆ
ถ่ายไหวจานเดียว นอกนั้นไม่รอ หิวจัดดดด
ตอนกลางคืนจะไม่ค่อยเหมาะกับการขับรถเล่น เพราะค่อนข้างมืด ไม่มีไฟทาง เรากำลังคุยกันบนมอไซค์ว่า
“
เอ้ย โง่ๆ เด๋อๆ อย่างเราก็มากันได้เนอะแค่สองคน” และก็พยักหน้าหลุดขำกันออกมา พร้อมเสียงช้างดังแปร๊น ท่ามกลางความเงียบสงัดและแสงจากหน้ารถมอเตอร์ไซค์ ก็เลยคุยกับเพื่อนว่า
“ กูเคยอ่านข่าวที่ไหนไม่รู้ บอกว่าเคยว่าช้างป่าหลุดมาแตะนักท่องเที่ยวตายไป 2 คน ถ้ากูไม่รีบบิดเราอาจจะเป็น 2 คนถัดไป”
ก็บิดอู้เลยจ้า แม้จะไม่ใช่คนเหนือ หลังจากนั้นก็มาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ กะเอาไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะออกเช้า หาอะไรกินและค่อยกลับ
ตื่นเช้ามา รีบอาบน้ำเก็บของเอาไว้ พี่นุ้ย (เจ้าของรถเช่า) แจ้งข้อมูลมามีร้านโจ๊กแสนอร่อย เลยขี่มอไซค์ไปตอนเช้า ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าจะกินแต่โจ๊กพอไปถึง กินหมดจ้า โจ๊ก ไข่กะทะ 2 ฟอง และปาท่องโก๋ โอวันติน
หลังจากนั้นก็แวะกาแฟดอยช้า (ตรงป้าย ง.งูมันหลุด เลยเหลือแค่นี้) แก้วนี้ของเพื่อน
แวะซื้อของฝากสักหน่อย ขาดไม่ได้คือไวน์ ขวดสวย น่ากิน มีใครชมเธอบ่อยมั้ยนะ คุณลุงบอกว่าใกล้หมดหน้ามันละ เลยเหลือไม่กี่ขวด (ไม่ได้แนบรูปเพราะเป็นแอลกอฮอล์กลัวผิดกฎ แฮ่ๆ) ก่อนกลับพบเหตุการณ์ระทึกขวัญ ขณะที่กำลังเม้ากับคุณลุงเจ้าของร้านผลไม้และไวน์ ลิง 2 ตัวพุ่งออกมาจากในป่า มาฉกมันเผาของคุณลุงไปกิน 55555555555555555555555 เลยรีบหวัดดีลุงและขี่รถออกมา เพราะเพื่อนกลัวลิง
หลังจากนั้นก็มารอรถอยู่ตรงทางโค้งที่รถออกจากอู่ จ่ายไปคนละ 30 บาทเหมือนเดิม และซื้อตั๋วรถตู้ที่คิวรถตู้เทวดา คนละ 160 บาท
รถตู้แวะเติมแก๊สตามปกติ ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพประมาณบ่าย 3 โมงนิดๆ ค่ะ
หลังจากทริปนี้ก็คุยกันว่าจะมาเขาใหญ่อีก จะมาเองหรือเอารถมาก็ได้ (แต่ถ้าจะซื้อของฝากเยอะแนะนำให้เอารถมาเถอะ ไม่งั้นแบกกันมือแทบหักเช่นพวกเราเป็นต้น) มีคาเฟ่ที่น่านั่งอีกเพียบ และทริปหน้าถ้ามาเราอยากจะไปขับรถเล่นในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เห็นมีน้ำตกเหวสุทัศน์ด้วย (เพื่อนช่วยแก้ว่า เหวสุวัต) เอาเปรตวัดสุทัศน์มารวมไปอีก เป็น 3 วัน 2 คืนที่สนุกและได้ความเป็นอิสระ ชาร์ตแบตกลับไปสู้วันจันทร์ วันทำงานได้อีกเยอะ แนะนำเลยค่า
น้องแมวของร้านพี่ที่ขายเส้อผ้าอยู่หน้าร้านเช่ารถ ด้วยความที่เป็นทาสแมวทั้งคู่เลยเรียกน้องมาหาและน้องก็วิ่งดุ๊กๆ มาให้กอดรัด
สรุปค่าใช้จ่ายเฉพาะการเดินทาง
(หมอชิต - เขาใหญ่ และ เขาใหญ่ - หมอชิต พร้อมเช่ารถมอไซค์ 2 คืน)
รถตู้ 2 คน ไปกลับ 640 บาท
ค่ารถหกล้อฟ้า 2 คน ไปกลับ 120 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ไม่ต้องมีมัดจำ 2 คืน 900 บาท
รวมทั้งหมด 1,660 บาท
หารกันตกคนละ 830 เท่านั้น
ปล.การเดินทางทริปนี้สอนให้รู้ว่า เขาใหญ่อยู่โคราช เข้าใจมาตลอดว่าอยู่ประจวบทีละขัน 555555555555555555555
[CR] Khaoyai Backpacker รีวิวไปเขาใหญ่แบบไม่มีรถส่วนตัวกับเพื่อนสนิท งบเดินทางกับเช่ามอเตอร์ไซค์คนละ 830 บาท (ไม่มีมัดจำ)
หูยยย สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เขียนเพราะว่า ตอนกำลังจะหาทางไปเขาใหญ่ด้วยตัวเอง แต่ดันไม่ค่อยมีข้อมูลลงเลยในพันทิป
มาค่ะ เริ่ม~
(ภาพจากกล้อง Sony A5100 และ A5000)
ถ้าพูดถึงเขาใหญ่ เคยมาแล้วค่ะ แต่เป็นรถยนต์ส่วนตัว ครั้งนี้เลยอยากลองแบกเป้ขึ้นเขากับเพื่อน ไปพักผ่อนเพราะงานเยอะมากๆ
จุดนัดพบสำหรับการเริ่มต้นทริปเขาใหญ่คือสถานีขนส่งหมอชิต ค่าเสียหายคนละ 160 บาท
ก่อนไปก็แวะหาอะไรกินก่อนกันเป็นลม ไม่ใช่ๆ กันหิวบนรถ เรากินก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก (50บาท) เนื่องจากยังเช้าอยู่ ส่วนเพื่อนซัดข้าวหมูแดงไป ( 60บาท) หาซื้อน้ำเปล่าติดไว้ขวดนึง ล้อหมุนก่อนเวลานิดหน่อย ประมาณ10 โมงนิดๆ ก็นั่งกันยาวๆ
รถตู้แวะปั๊มเติมแก๊ส ก็หิวอ่ะ จัด หมูปิ้งจิ้มแจ่วไป 2 ไม้ ไม้แรกถ่ายไม่ทัน พี่คนขับโม้มาว่าเป็นหมูปิ้งจิ้มแจ่มที่อร่อยที่สุดในปั๊มนี้ เพราะว่ามีเจ้าเดียว แฮ่
จากนั้นก็นั่งต่อมาจนถึงในตัวเมือง รถจะจอดตรงคิวรถตู้เลย อยู่หน้า Tops นี่คือคิวรถตู้ที่นั่งมาค่ะ คิวรถตู้เทวาดา
ใกล้ๆ กับรถหกล้อฟ้าที่เราจะนั่งต่อขึ้นไปอุทยานเพื่อเช่ามอเตอไซค์ที่จองเอาไว้ล่วงหน้า พี่คนขับถามว่าน้องจะไปไหนกัน เราก็ตอบไปว่า ไปเขาใหญ่พี่ ไปหน้าอุทยาน พี่จอดตรงรถหกล้อสีฟ้าป่ะคะ พี่เขาก็บอกว่า โอ๊ยย เปิดประตูรถตู้ไปก้าวเท้าข้ามไปก็ขึ้นรถหกล้อฟ้าได้เลย ไม่ต้องแตะพื้นดินอ่ะ ดูความอารมณ์ดีของพี่รถตู้สิคะ ตอนจะลงก็เลยแกล้งแซวให้พี่เขาจอดเทียบ บอกว่าถ้าก้าวแล้วไม่ถึงเลยไม่ลงนะคะ แกก็ขำขัน เป็นพี่รถตู้ที่อารมณ์ดี๊อารมณ์ดี
ตอนเราไปถึงก็เที่ยงกว่าๆ เกือบบ่ายโมงละ หิวอีกละ บวกกับเห็นรถหกล้อฟ้าคนยังไม่เยอะเลยเดินเข้าไปในตลาดกะจะไปหาร้านข้าว แต่ปิดหมดจึงได้ลูกชิ้นทอดและชาเย็นหวานน้อยมาประทังชีวิต
จากนั้นก็กลับมานั่งรอบนรถรอออก ไม่ต้องรอเต็มนะคะ เขาจะมีรอบๆ มีเวลาของเขา รถหกล้อฟ้าของที่นี่ก็เหมือนรถเมล์ รถสองแถวที่ขับไปจอดตามทาง สามารถกดกริ่งได้ สถานทีปลายทางคือหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั่นเอง ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงหน้าอุทยาน นั่งยื่นหน้าเป็นเมียร์แคทเพราะไม่เคยมาและกลัวเลยแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นสถานทีปลายทาง 5555555555555 จ่ายไปคนละ 30 บาท ตอนแรกเข้าใจว่า 50 พี่คนขับบอกว่า งั้น 50 ก็ได้ ก็เลยแซวกลับไปว่า 50 บาทสองคนใช่มั้ยคะ เกือบหนีสายตาทิ่มแทงมาไม่ทัน 555555555
จากนั้นก็ยืนงงอยู่ตรงหน้าอุทยานสักครู่ พี่ผู้ชายคนหนึ่งก็วิ่งมาขวักมือเรียก “น้องๆ ที่จองรถใช่ป่ะ” ว้าว ร้านโคตรหาง่ายกว่าป้ายบอกทางไปสุวรรณภูมิ เป็นร้านเช่ารถที่มีร้านกาแฟอยู่ด้วย เราก็เลยทักทายพี่เขาไป และเช่า 2 คืน ราคาคืนแรก 500 คืนที่สอง 400 บาท ไม่ต้องมัดจำแต่ทิ้งบัตรประชาชนเอาไว้ (น้ำมันเต็มถัง ไม่ต้องเติมคืน แค่เอารถมาส่งให้ครบองค์ประกอบก็พอ) ฟินเลยค่ะ ได้รถสีดำๆ มาอ่ะ
ดำเขียวค่ะ 55555555555555555555555555 พร้อมหมวกกันน็อคคนละใบกับเพื่อน
หลังจากนั้นก็ถามทางไปที่พักที่ได้จองเอาไว้ พี่นุ้ย(เจ้าของรถเช่า ผู้หญิง) บอกว่าประมาณ 10 กว่าโล เราก็สบายๆ บิดกันยาวๆ ปรากฎความจริงเดินทาง 40 โลเด้อ เกือบออกนอกจังหวัด ไม่รู้ว่าต้องรักษาคอนเซปต์ชื่อเพจอะไรขนาดนี้ #หลงไปด้วยกัน ที่แท้ทรู จนในที่สุดก็มาถึงที่พัก ชื่อ Escape Khaoyai อ่านรีวิวที่พักเต็มๆ ได้ที่ : (รอรีวิวฉบับเต็ม)
คืนแรกเหนื่อยจัด หลงจนเหนื่อยกับเดินทางเหนื่อยก็เลยพักผ่อนที่โรงแรม นั่งฟินกับแอร์เสร็จก็ลงมาถ่ายรูปและดินเนอร์ของทางโรงแรม อร่อยโฮก พรุ่งนี้คุยกันไว้ว่าจะไปหาคาเฟ่นั่ง และหาที่ถ่ายรูปเล่นกัน
วันถัดมาตื่นมากินข้าวเช้าของโรงแรมเวลา 11 โมงจ้า (แต่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วนะ)
และสถานทีถัดไปคือคาเฟ่ The Birder’s Lodge Café บอกเลยว่าไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน ค้นกันสดๆ วันนั้นเลย ตอนแรกกะไว้ว่าที่ไหนสวยแวะเข้าไปโลด (ที่นี่เห็นก่อนที่จะถึงที่พักเมื่อวาน เลยเอานี่แหละ ฮิปเตอร์ว่ะ คุมโทนสวย)
ที่นี่มีทั้ง ฟาร์มสำหรับขายของฝาก ของออแกนิคที่คัดมาแล้วว่าออแกนิคจริงๆ และมีคาเฟ่ค่ะ อ่านรีวิวฟาร์มและคาเฟ่ The Birder’s Lodge Café เต็มๆ ได้ที่ : (รอรีวิวฉบับเต็ม)
เราใช้เวลาตั้งแต่ช่วงบ่ายจนประมาณถึงบ่ายสามกว่าๆ ก็คุยกันว่าไปหาที่ถ่ายรูปกัน แสงกำลังสวย
เลยขี่มาใกล้ๆ เลย พรีโม่ เพียซซ่า มีความคล้ายปาลิโอ แต่ปาลิโออยู่เส้นหลักและเรากลัวแสงหมด เลยจัดที่นี่แหละ อ่านรีวิวเพิ่มเติม พรีโม เพียซซ่าได้ที่ (รอรีวิวฉบับเต็ม)
หลังจากตะลอนมาตลอดบ่าย ถ่ายรูปจนแบตเหลือ 0% ก็ย้ายมาหาข้าวเย็นกันที่ร้านอาหาร ที่นี่มีร้านอาหารเยอะ ครัวเยอะ ร้านที่คนเยอะก็รอนานมาก ร้านที่ไม่มีคนพ่อครัวก็น้อยมาก แต่ในที่สุดเราก็ผ่านพ้นคืนนั้นมาได้ด้วย ปลากะพงราดน้ำปลา ต้มยำกุ้งและข้าวสวยร้อนๆ
ถ่ายไหวจานเดียว นอกนั้นไม่รอ หิวจัดดดด
ตอนกลางคืนจะไม่ค่อยเหมาะกับการขับรถเล่น เพราะค่อนข้างมืด ไม่มีไฟทาง เรากำลังคุยกันบนมอไซค์ว่า
“เอ้ย โง่ๆ เด๋อๆ อย่างเราก็มากันได้เนอะแค่สองคน” และก็พยักหน้าหลุดขำกันออกมา พร้อมเสียงช้างดังแปร๊น ท่ามกลางความเงียบสงัดและแสงจากหน้ารถมอเตอร์ไซค์ ก็เลยคุยกับเพื่อนว่า
“ กูเคยอ่านข่าวที่ไหนไม่รู้ บอกว่าเคยว่าช้างป่าหลุดมาแตะนักท่องเที่ยวตายไป 2 คน ถ้ากูไม่รีบบิดเราอาจจะเป็น 2 คนถัดไป”
ก็บิดอู้เลยจ้า แม้จะไม่ใช่คนเหนือ หลังจากนั้นก็มาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ กะเอาไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะออกเช้า หาอะไรกินและค่อยกลับ
ตื่นเช้ามา รีบอาบน้ำเก็บของเอาไว้ พี่นุ้ย (เจ้าของรถเช่า) แจ้งข้อมูลมามีร้านโจ๊กแสนอร่อย เลยขี่มอไซค์ไปตอนเช้า ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าจะกินแต่โจ๊กพอไปถึง กินหมดจ้า โจ๊ก ไข่กะทะ 2 ฟอง และปาท่องโก๋ โอวันติน
หลังจากนั้นก็แวะกาแฟดอยช้า (ตรงป้าย ง.งูมันหลุด เลยเหลือแค่นี้) แก้วนี้ของเพื่อน
แวะซื้อของฝากสักหน่อย ขาดไม่ได้คือไวน์ ขวดสวย น่ากิน มีใครชมเธอบ่อยมั้ยนะ คุณลุงบอกว่าใกล้หมดหน้ามันละ เลยเหลือไม่กี่ขวด (ไม่ได้แนบรูปเพราะเป็นแอลกอฮอล์กลัวผิดกฎ แฮ่ๆ) ก่อนกลับพบเหตุการณ์ระทึกขวัญ ขณะที่กำลังเม้ากับคุณลุงเจ้าของร้านผลไม้และไวน์ ลิง 2 ตัวพุ่งออกมาจากในป่า มาฉกมันเผาของคุณลุงไปกิน 55555555555555555555555 เลยรีบหวัดดีลุงและขี่รถออกมา เพราะเพื่อนกลัวลิง
หลังจากนั้นก็มารอรถอยู่ตรงทางโค้งที่รถออกจากอู่ จ่ายไปคนละ 30 บาทเหมือนเดิม และซื้อตั๋วรถตู้ที่คิวรถตู้เทวดา คนละ 160 บาท
รถตู้แวะเติมแก๊สตามปกติ ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพประมาณบ่าย 3 โมงนิดๆ ค่ะ
หลังจากทริปนี้ก็คุยกันว่าจะมาเขาใหญ่อีก จะมาเองหรือเอารถมาก็ได้ (แต่ถ้าจะซื้อของฝากเยอะแนะนำให้เอารถมาเถอะ ไม่งั้นแบกกันมือแทบหักเช่นพวกเราเป็นต้น) มีคาเฟ่ที่น่านั่งอีกเพียบ และทริปหน้าถ้ามาเราอยากจะไปขับรถเล่นในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เห็นมีน้ำตกเหวสุทัศน์ด้วย (เพื่อนช่วยแก้ว่า เหวสุวัต) เอาเปรตวัดสุทัศน์มารวมไปอีก เป็น 3 วัน 2 คืนที่สนุกและได้ความเป็นอิสระ ชาร์ตแบตกลับไปสู้วันจันทร์ วันทำงานได้อีกเยอะ แนะนำเลยค่า
น้องแมวของร้านพี่ที่ขายเส้อผ้าอยู่หน้าร้านเช่ารถ ด้วยความที่เป็นทาสแมวทั้งคู่เลยเรียกน้องมาหาและน้องก็วิ่งดุ๊กๆ มาให้กอดรัด
สรุปค่าใช้จ่ายเฉพาะการเดินทาง
(หมอชิต - เขาใหญ่ และ เขาใหญ่ - หมอชิต พร้อมเช่ารถมอไซค์ 2 คืน)
รถตู้ 2 คน ไปกลับ 640 บาท
ค่ารถหกล้อฟ้า 2 คน ไปกลับ 120 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ไม่ต้องมีมัดจำ 2 คืน 900 บาท
รวมทั้งหมด 1,660 บาท
หารกันตกคนละ 830 เท่านั้น
ปล.การเดินทางทริปนี้สอนให้รู้ว่า เขาใหญ่อยู่โคราช เข้าใจมาตลอดว่าอยู่ประจวบทีละขัน 555555555555555555555
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น