เมื่อวางแผนไว้แล้วก็เดินทางกันเลย วันที่ 28  ธ.ค. 60 หลังจากกลับจากทำงาน ก็นัดรวมตัวกับสมาชิกอีก 9 คน เมื่อมากันครบแล้วเราออกเดินทางกันเวลาประมาณ 20.30 น. จากสามพราน จ.นครปฐม เพื่อตั้งใจจะให้ถึงดอยเสมอดาวในตอนเช้า การจะไปหาที่กางเต็นท์ในช่วงเทศกาลหยุดยาวแบบนี้ เราต้องไปถึงในตอนที่กลุ่มที่มานอนในคืนก่อนเราเค้าเก็บเต็นท์พอดี เราก็จะมีที่กางเต็นท์แบบไม่ต้องไปแย่งกับใคร เรามาถึงกันตั้งแต่ 8.30 น. เลยแวะชมวิวกันที่ผาชู้กันก่อน



9.00 น. ก็ไปจับจองที่กางเต็นท์ที่ดอยเสมอดาวกันเลย ในช่วงเทศกาล ทางเจ้าหน้าที่จะให้เอารถขึ้นมาที่ลานจอดรถเพื่อขนของลงเท่านั้นนะครับ เมื่อขนของลงแล้วต้องขับลงไปจอดข้างล่าง



เมื่อแดดร่ม ลมตกก็ได้เวลา ออกไปถ่ายรูปกัน


เรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วง ก่อนถึงจุดบริการของอุทยาน จะมีร้านอาหารอยู่ มีทั้งอาหารตามสั่ง(กล่องละ 50 บาท)และหมูจุ่ม หมูกะทะ(ชุดละ 200 บาท) สามารถสั่งไว้แล้วนัดเวลาไปรับที่หน้าจุดบริการของอุทยาน ขึ้นมากินที่หน้าเต็นท์ได้เลยครับ ตอนเช้าเค้าจะมาเก็บกะทะเอง ส่วนเตาถ่านต้องเช่ากับทางอุทยานครับ

มาถึงดอยเสมอดาว ในตอนกลางคืนสิ่งที่เฝ้ารอก็คือ ดาวบนท้องฟ้า แต่น่าเสียดายในช่วงเวลาที่ผมไปพระจันทร์เกือบจะเต็มดวง ทำให้เห็นดาวไม่ชัดเท่าไหร่



ตื่นมาตอนเช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ข้อเสียของการมาเที่ยวในช่วงเทศกาลก็หนีไม่พัน ผู้คนจำนวนมาก ยากที่จะแทรกตัวเข้าไปถ่ายรูป



วันที่ 29 ธ.ค. 60 เดินทางต่อไปที่ภูลังการีสอร์ท ที่เค้าว่ากันว่าที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน ถึงเวลาประมาณ 14.30 น. ก็ต้องรีบเอากระเป๋าเข้าห้องพัก อาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวออกไป ดอยภูลังกา ที่จองรถ 4WD กับทางรีสอร์ทไว้ ราคา 1600 บาท ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท

การขึ้นดอยภูลังกา รถธรรมดาจะไปถึงแค่ข้างล่าง บริเวณจุดบริการของอุทยาน แล้วเลือกจะเดินเท้า อีก 3 กิโลกว่าๆ ไปถึงยอดดอย หรือเช่า 4WD ไป แต่การนั่ง 4 WD ก็ต้องเดินเท้าต่ออีก 800 เมตร ก่อนจะถึงยอดดอย



ถึงจุดจอดรถ ก่อนจะเดินขึ้นไปอีก 800 เมตร ก็ขอเก็บภาพซะหน่อย ทุกคนมากันในธีม"ลายทหาร"

พร้อมแล้วก็เดินขึ้นกันเลย









เช้า 31 ธ.ค. 2560 ตอนกินอาหารเช้า คุณลุงเจ้าของรีสอร์ท จะนำสิ่งที่เปรียบเหมือนพาสปอร์ตในสมัยนั้นออกมาให้ชมและเล่าประวัติให้ฟัง



ก่อนจะออกเดินทางกลับลงไปที่ตัวเมืองน่าน ก็ข้อเก็บภาพก่อน




เดินทางกลับลงมาที่ตัวเมืองน่าน พักที่"เฮือนช้างเผือก" เป็นโรงแรมเล็กๆ บรรยากาศดี บริเวณข้างล๊อบบี้ก็จะเปิดเป็นร้านกาแฟ กลางคืนก็จะเปิดเป็น mini bar ด้วย





ทางที่พักจะมีจักรยานให้ยืมปั่นชมเมืองด้วย

หลังจากเก็บกระเป๋า เข้าไปพักให้หายเหนื่อยกันแล้ว ก็เดินสายไหว้พระกันซะหน่อย พอมีเวลาที่เหลือจะไปได้ 2 วัด คือวัดพระธาตุแช่แห้งและพระธาตุเขาน้อย





เ

หลังจากับมาที่พักก็ตั้งใจจะไปอะไรกินกันที่ถนนคนเดิน โดยเลือกพาหนะของที่เฮือนช้างเผือกมีไว้ให้คือ "จักรยาน"



ถนนตนเดินที่น่าน จะมีอาหารการกินให้เลือกเยอะมากกกกกกก โดยหลังจากที่เลือกซื้ออาหารมาแล้วก็สามารถนั่งกินบริเวณนั้นได้ ซึ่งจะมีเสื่อปูและขันโตกวางไว้ให้คนได้นั่งกินกัน



เมื่อท้องอิ่มแล้วก็มารอ Countdown กันแต่ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน พี่ต้นเจ้าของที่พักก็ใจดี ให้เรานั่งปาร์ตี้รอ Countdown กันที่หน้าโรงแรมได้เลย

ปาร์ตี้ระหว่างรอนับถอยหลังสู่ปีใหม่ 2561

เช้าของปีใหม่ 2561 ตื่นมากินอาหารเช้ากัน อาหารเช้าของที่นี่จะมีข้าวผัด ข้าวต้ม สลัด ขนมปัง ชา กาแฟ



วัดที่เปรียบเสมือน Landmark ของจังหวัดน่าน ก็คือวัดภูมินทร์ ก็คงจะพลาดไม่ได้ ก็ต้องแวะไปไหว้พระ ขอพรซะก่อน




ก่อนจะเดินทางกลับ กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง ถามเพื่อนคนท้องถิ่น ให้ช่วยแนะนำร้านให้หน่อย คำตอบที่ได้มาก็คือ ร้าน"วันดา"


อาหารมีหลากหลาย ทั้งข้าวราดแกง ข้าวซอย ขนมจีน น้ำพริกอ่อง ฯลฯ อาหารรสชาติดี ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยครับ ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ไปลองกัน

สรุป ทริป นับ..1..ให้ถึง"น่าน"
- ระยะเวลาเดินทาง 5 วัน 5 คืน
- สมาชิกทั้งหมด 10 คน
- เดินทางโดย รถยนต์ Toyota vios 1 คัน, Toyota Vigo 1 คัน ปล. ค่าน้ำมัน 2 คันรวมกันประมาณ 9,000 กว่าบาท
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 4500-5000 บาท/คน
- ที่พัก      กางเต็นท์ ดอยเสมอดาว ถ้าไม่มีเต็นท์ไปเอง ของอุทยานมีให้ กางไว้แล้ว แต่ต้องโทรไปจองก่อน ถ้ามีไปเอง กางบริเวณที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ได้
               ภูลังการีสอร์ท https://www.facebook.com/PhulangkaResort/ : ห้องพักราคาไม่แพง สภาพตามราคา แต่วิวเกินราคาไปมาก
               เฮือนช้างเผือก  ราคาไม่แพง บรรยากาศดี ห้องพักดี พี่เจ้าของใจดีมากๆ
- อุปกรณ์เก็บภาพ Sony A6000 + Samyang 12mm.F2 + SEL 50mm.F1.8 : ภาพเบลอเยอะมาก เพราะหมุน Focus ไม่เข้า