เนื่องจากตั้งแต่มีการสื่อประชาสัมพันธ์งานอุ่นไอรัก ณ พระราณรูปทรงม้า ทางโทรทัศน์และสื่อโซเชียล ทุกๆวัน เรากับเพื่อนก็ตั้งใจว่าอยากไป ใส่ชุดไทยไปถ่ายรูปกัน
แต่ก็เกิดเปลี่ยนใจเมื่อ เพื่อนไปมาก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันแล้วส่งมาบอกว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ และอากาศร้อน เราเลยคุยกันสองคนกับเพื่อนที่จะไปว่า งั้นเราหาที่อื่นไปกันมั้ย เพราะเราเช่าชุดกันมาเรียบร้อยแล้วเพื่อนก็โอเค ว่าจะไปตามวัดหลวง
คือต้องบอกก่อนว่า เรามีงานแต่งงานเพื่อนตอนเช้าแห่ขันหมากซึ่งเราต้องแต่งชุดไทยไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว เราไปเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวไว้เรียบร้อยเลยเกิดไอเดียว่าไหนๆ ก็ต้องแต่งหน้าทำผมแล้ว เลยจะไปงาน " อุ่นไอรัก คลายความหนาว" กันต่อเลยแล้วกัน เลยหาร้านเช่าชุดสวยๆที่ไม่เรียบอีก 1 ชุด
งานแต่งงานในช่วงเช้ากับชุดเพื่อนเจ้าสาว (ภาพปลากรอบ)
ละที่บอกว่าตอนแรกเปลี่ยนความคิดหลังจากเพื่อนบอกไม่มีอะไร แต่เนื่องด้วย วันศุกร์ที่ 23 กพ. งานแต่งงานเช้าฝนตกหนักรถติดหนัก พอตกช่วงสายๆ อากาศก็ร้อนมากอบอ้าวมาก เราจึงคุยกันว่า สรุปไป "อุ่นไอรัก " ก็แล้วกัน
เรากลับไปเปลี่ยนชุดไทยกันอีกชุดที่เช่าไว้ ที่ไม่ใช่ชุดเพื่อนเจ้าสาว งานแต่งงานที่ เรือนแน่งน้อย ซอยลาซาลบางนา เรากลับไปเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนและเปิดกูลเกิ้ลแม๊พก็พาเราหลงไปสาธุประดิฐ เลยกลับลำขึ้นทางด่วนมาใหม่ เราก็หาที่จอดรถ ละไปรอขึ้นรถเมล์ฟรี ที่เต้นท์ที่เขียนว่าไปงาน อุ่นไอรัก สบายเลยมะต้องเดืนไกล เราไปแอบจอดรถสถานที่ราชการแห่งหนึ่งบริเวณราชดำเนิน
ตอนขึ้นรถเมล์ไป ทุกคนบนรถแต่งตัวกันก็เบาว์ๆ นะเออออ!!!
เรารูกสึกทุกสายตามองมาเป็นตัวประหลาดขาดความมั่นใจกันไปเลย
****** แต่จุดพีคของเราสองคนคือ เมื่อ ผ่านจุดคัดกรอง********
โอว้แม่จ้าวววววว จะบอกว่า รุ่นคุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณตา คุณยาย และ ลูกเด็กเล็กแดง จัดเต็มกันทุกคนจร้าาาาาา!!! บางคนมากันเป็นหมู่คณะ ซึ่ง เราสองคนดร็อปไปเลย และคิดว่า เค้าสรรหาชุดกันมาจากไปไหน เป็นชุดที่สวยงดงาม ไทยโบราณ มากๆ
นอกจากนั้น
ณ ตอนแรกที่เราก้าวเข้างาน เราก็เห็นเพียง โซนด้านนอกตรง ลานพระรูปทรงม้า ก็คิดว่าไม่เห็นมีอะไรเลย มีซุ้มอยู่ประปราย มีเรือสุพรรณหงส์(ถ้าผิดขออภัยด้วย) ละก็ดอกไม้ประดับ คุยกันว่างั้นกลับกันเถอะ ด้วยความที่อากาศอบอ้าวมาก เพื่อนอยากเข้าห้องน้ำ เราจึงเดินไปตามป้าย ห้องน้ำอยู่ใกล้กับจุดเช่าชุด ด้านใน เราเดินผ่านน้องๆ วชิราวุฒิที่กำลังเตรียมตัวขึ้นแสดงวงดนตรี
พอเราไปถึงรถห้องน้ำอยู่โซนด้านใน ถึงกับตกตลึง ไม่ได่ศึกษาหาข้อมูลมาก่อนเลย เพราะ ข้างในจัดงานยิ่งใหญ่อลังการมากๆ มีซุ้มนิทรรศกาลมากมาย ให้ถ่ายภาพ พร้อมทั้งจำหน่ายสินค้าจากโครงการต่างๆ อย่างน้ำอบไทย ที่โบราณและหอมละมุนมากๆ ผ้าทอสวยๆ จะแยกเป็นห้องๆ นิทรรศกาล
ตรงกลางสนามหญ้ามีเวทีการแสดงใหญ่โต มีการสอยดาวเป็นต้นไม้สีทองจำไม่ได้เค้าเรียกต้นอะไร และด้านในงาน ก็มี ซุ้ม อาหารโบราณมากมายในราคาที่ไม่แพง เป็น อาหาร คาวหวานโบราณที่หาทานได้ยาก ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำกะทิอร่อย
บรรยากาศด้านในเหมือนเราได้ย้อนกลับไปอยู่ในยุคที่เป็น ยุคของสมัยรัชกาลเก่าๆ เหมือเราไปอยู่ในกองละครไทยจริงๆ เพราะ ทุกๆ คนในงาน พร้อมใจกันจัดเต็มกับการแต่งกาย
กระทู้นี้ที่เรามาเขียนเพราะอยากบอกว่า "ไม่ไปถือว่าพลาดจริงๆ "เพราะเราก็เกือบจะพลาดไปแล้ว และทำให้อยากไปอีกครั้ง วันนั้นรองเท้ากัดจนเลือดออกเลยเดินต่อไม่ไหว ยังเสียดาย งานจะหมดวันที่ 11 มีนาคม นี้แล้ว ก็อยากเชิญชวนคนไทยไปเดินกัน ฟรีนะคะ ไม่มีค่าผ่านประตู และยังมีรถบริการฟรีด้วย
ไม่ไปถือว่าพลาด กับงาน "อุ่นไอรัก คลายความหนาว"
แต่ก็เกิดเปลี่ยนใจเมื่อ เพื่อนไปมาก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันแล้วส่งมาบอกว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ และอากาศร้อน เราเลยคุยกันสองคนกับเพื่อนที่จะไปว่า งั้นเราหาที่อื่นไปกันมั้ย เพราะเราเช่าชุดกันมาเรียบร้อยแล้วเพื่อนก็โอเค ว่าจะไปตามวัดหลวง
คือต้องบอกก่อนว่า เรามีงานแต่งงานเพื่อนตอนเช้าแห่ขันหมากซึ่งเราต้องแต่งชุดไทยไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว เราไปเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวไว้เรียบร้อยเลยเกิดไอเดียว่าไหนๆ ก็ต้องแต่งหน้าทำผมแล้ว เลยจะไปงาน " อุ่นไอรัก คลายความหนาว" กันต่อเลยแล้วกัน เลยหาร้านเช่าชุดสวยๆที่ไม่เรียบอีก 1 ชุด
งานแต่งงานในช่วงเช้ากับชุดเพื่อนเจ้าสาว (ภาพปลากรอบ)
ละที่บอกว่าตอนแรกเปลี่ยนความคิดหลังจากเพื่อนบอกไม่มีอะไร แต่เนื่องด้วย วันศุกร์ที่ 23 กพ. งานแต่งงานเช้าฝนตกหนักรถติดหนัก พอตกช่วงสายๆ อากาศก็ร้อนมากอบอ้าวมาก เราจึงคุยกันว่า สรุปไป "อุ่นไอรัก " ก็แล้วกัน
เรากลับไปเปลี่ยนชุดไทยกันอีกชุดที่เช่าไว้ ที่ไม่ใช่ชุดเพื่อนเจ้าสาว งานแต่งงานที่ เรือนแน่งน้อย ซอยลาซาลบางนา เรากลับไปเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนและเปิดกูลเกิ้ลแม๊พก็พาเราหลงไปสาธุประดิฐ เลยกลับลำขึ้นทางด่วนมาใหม่ เราก็หาที่จอดรถ ละไปรอขึ้นรถเมล์ฟรี ที่เต้นท์ที่เขียนว่าไปงาน อุ่นไอรัก สบายเลยมะต้องเดืนไกล เราไปแอบจอดรถสถานที่ราชการแห่งหนึ่งบริเวณราชดำเนิน
ตอนขึ้นรถเมล์ไป ทุกคนบนรถแต่งตัวกันก็เบาว์ๆ นะเออออ!!!
เรารูกสึกทุกสายตามองมาเป็นตัวประหลาดขาดความมั่นใจกันไปเลย
****** แต่จุดพีคของเราสองคนคือ เมื่อ ผ่านจุดคัดกรอง********
โอว้แม่จ้าวววววว จะบอกว่า รุ่นคุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณตา คุณยาย และ ลูกเด็กเล็กแดง จัดเต็มกันทุกคนจร้าาาาาา!!! บางคนมากันเป็นหมู่คณะ ซึ่ง เราสองคนดร็อปไปเลย และคิดว่า เค้าสรรหาชุดกันมาจากไปไหน เป็นชุดที่สวยงดงาม ไทยโบราณ มากๆ
นอกจากนั้น
ณ ตอนแรกที่เราก้าวเข้างาน เราก็เห็นเพียง โซนด้านนอกตรง ลานพระรูปทรงม้า ก็คิดว่าไม่เห็นมีอะไรเลย มีซุ้มอยู่ประปราย มีเรือสุพรรณหงส์(ถ้าผิดขออภัยด้วย) ละก็ดอกไม้ประดับ คุยกันว่างั้นกลับกันเถอะ ด้วยความที่อากาศอบอ้าวมาก เพื่อนอยากเข้าห้องน้ำ เราจึงเดินไปตามป้าย ห้องน้ำอยู่ใกล้กับจุดเช่าชุด ด้านใน เราเดินผ่านน้องๆ วชิราวุฒิที่กำลังเตรียมตัวขึ้นแสดงวงดนตรี
พอเราไปถึงรถห้องน้ำอยู่โซนด้านใน ถึงกับตกตลึง ไม่ได่ศึกษาหาข้อมูลมาก่อนเลย เพราะ ข้างในจัดงานยิ่งใหญ่อลังการมากๆ มีซุ้มนิทรรศกาลมากมาย ให้ถ่ายภาพ พร้อมทั้งจำหน่ายสินค้าจากโครงการต่างๆ อย่างน้ำอบไทย ที่โบราณและหอมละมุนมากๆ ผ้าทอสวยๆ จะแยกเป็นห้องๆ นิทรรศกาล
ตรงกลางสนามหญ้ามีเวทีการแสดงใหญ่โต มีการสอยดาวเป็นต้นไม้สีทองจำไม่ได้เค้าเรียกต้นอะไร และด้านในงาน ก็มี ซุ้ม อาหารโบราณมากมายในราคาที่ไม่แพง เป็น อาหาร คาวหวานโบราณที่หาทานได้ยาก ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำกะทิอร่อย
บรรยากาศด้านในเหมือนเราได้ย้อนกลับไปอยู่ในยุคที่เป็น ยุคของสมัยรัชกาลเก่าๆ เหมือเราไปอยู่ในกองละครไทยจริงๆ เพราะ ทุกๆ คนในงาน พร้อมใจกันจัดเต็มกับการแต่งกาย
กระทู้นี้ที่เรามาเขียนเพราะอยากบอกว่า "ไม่ไปถือว่าพลาดจริงๆ "เพราะเราก็เกือบจะพลาดไปแล้ว และทำให้อยากไปอีกครั้ง วันนั้นรองเท้ากัดจนเลือดออกเลยเดินต่อไม่ไหว ยังเสียดาย งานจะหมดวันที่ 11 มีนาคม นี้แล้ว ก็อยากเชิญชวนคนไทยไปเดินกัน ฟรีนะคะ ไม่มีค่าผ่านประตู และยังมีรถบริการฟรีด้วย