สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ก่อนอิ่นเลยคุณต้องเข้าใจ Theme ของธุรกิจไอดอลตระกูล 48 กรุ๊ปก่อนครับว่าเป็น Idol you can meet ซึ่งก็คือไอดอลที่คุณ
สามารถพบปะได้ นิยามสั้นๆเหมือนเด็กสาวข้างบ้านธรรมดาๆได้ไปเป็นไอดอล แล้วคุณก็อยากให้กำลังใจเด็กคนนั้นที่คุณเห็นตั้งแต่เด็ก อยากเห็น
พัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของ ความสวย ความสามารถด้านการร้อง การเต้น ล้วนเป็นธีมหลักที่อากิโมโต้ โปรดิวเซอร์ของ 48 ต้องการนำเสนอ
ซึ่งเปรียบเสมือน reality Show ในรูปแบบหนึ่ง ที่คุณสามารถติดตามได้ตลอดถ้าคุณได้เริ่มชอบเมมเบอร์คนไหนแล้วก็ตาม บางคนอาจจะมีพื้นฐาน
ที่ดีมาก่อนเพราะเคย cover dance บางคนก็ไม่เคยเลย ซึ่งจุดนี้เป็นรสนิยมส่วนบุคคลที่ว่า คุณจะชอบคนเก่ง สวยมีแววตั้งแต่แรกหรือคุณจะชอบ
เด็กไม่มีพิ้นฐานอะไรเลย แต่ก็พยายามตามเพื่อนคนอื่นให้ทัน ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้แต่ละคนมีความชอบในตัวเมมเบอร์ไม่เหมือนกัน
ส่วนเรื่องเพลงเป็นแค่องค์ประกอบย่อย ที่ทำให้ให้เมมเบอร์แต่ละคนต้องแข่งขันเพื่อที่จะได้เป็นตัวหลักในเพลงนั้นๆ และใช้เป็นแค่ช่อง
ทางในการโปรโมทศิลปิน ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างรายได้ อย่างที่ได้บอกไปว่า การที่เหล่าโอตะจะทุ่มกับซีดีเพลง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเพลง
เพราะและดีแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับเมมเบอร์และการเลือกตั้ง(ุถ้าอธิบายจะยาวมาก)
ต่อมาเป็นการเปรียบเทียบกับไอดอลเกาหลี ซึ่งเรื่องธีมที่ผมเคยบอกไปข้างบนว่า ตระกูล 48 ไม่ได้เน้น Performance แต่เน้นเรื่องราว
ความเป็นมา ประวัติของสมาชิก เหมือนเอาเด็กเก่ง เด็กอ่อนมาฝึกรวมกันในคลาสเรียนคลาสเดียว ซึ่งแน่นอนว่าจะให้พร้อมเพรียงกันคงยาก แต่ของ
ฝั่งเกาหลี ไอดอลต้องเพรียบพร้อมตั้งแต่ก่อน debut แล้ว ทั้งหน้าตา รูปร่าง เสียงร้อง มีการคัดแล้วคัดอีกก่อนมาเข้าฝึกด้วยซ้ำ ถ้าไอดอล 48 เป็น
Reality show ไอดอลเกาหลีก็คงเป็น survival TV shows
สุดท้ายที่หลายคนบอกว่า BNK เป็นแรงบรรดาลใจก็เพราะว่า เมมเบอร์หลายคนก็เริ่มจาก 0 หลายคนอายุยังน้อย แต่ต้องจากบ้านเกิด
มาทำตามความฝัน ถ้าลองย้อนนึกถึงตัวเองว่า ถ้าคุณอายุแค่ 13 - 14 แต่ต้องเริ่มทำงานแล้วเรียนไปด้วย จากพ่อแม่ จากบ้านเกิดมาฝึกเรียนร้อง
เพลง ต้องย้ายโรงเรียน ต้องแบ่งเวลาให้ได้ คุณคิดว่าตอนคุณอายุแค่นั้นคุณทำได้รึเปล่าล่ะครับ แต่น้องๆทุกคนเขาทำได้ เขาเลยเป็นแรงบรรดาล
ใจให้คนทุกวัยทั้งเด็กที่กำลังเรียน ทั้งผู้ใหญ่วัยทำงาน ต่างก็สัมผัสได้ถึงความพยายามนี้ จนกลายมาเป็น BNK48 ที่คุณเห็นในทุกวันนี้แหละ
สามารถพบปะได้ นิยามสั้นๆเหมือนเด็กสาวข้างบ้านธรรมดาๆได้ไปเป็นไอดอล แล้วคุณก็อยากให้กำลังใจเด็กคนนั้นที่คุณเห็นตั้งแต่เด็ก อยากเห็น
พัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของ ความสวย ความสามารถด้านการร้อง การเต้น ล้วนเป็นธีมหลักที่อากิโมโต้ โปรดิวเซอร์ของ 48 ต้องการนำเสนอ
ซึ่งเปรียบเสมือน reality Show ในรูปแบบหนึ่ง ที่คุณสามารถติดตามได้ตลอดถ้าคุณได้เริ่มชอบเมมเบอร์คนไหนแล้วก็ตาม บางคนอาจจะมีพื้นฐาน
ที่ดีมาก่อนเพราะเคย cover dance บางคนก็ไม่เคยเลย ซึ่งจุดนี้เป็นรสนิยมส่วนบุคคลที่ว่า คุณจะชอบคนเก่ง สวยมีแววตั้งแต่แรกหรือคุณจะชอบ
เด็กไม่มีพิ้นฐานอะไรเลย แต่ก็พยายามตามเพื่อนคนอื่นให้ทัน ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้แต่ละคนมีความชอบในตัวเมมเบอร์ไม่เหมือนกัน
ส่วนเรื่องเพลงเป็นแค่องค์ประกอบย่อย ที่ทำให้ให้เมมเบอร์แต่ละคนต้องแข่งขันเพื่อที่จะได้เป็นตัวหลักในเพลงนั้นๆ และใช้เป็นแค่ช่อง
ทางในการโปรโมทศิลปิน ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างรายได้ อย่างที่ได้บอกไปว่า การที่เหล่าโอตะจะทุ่มกับซีดีเพลง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเพลง
เพราะและดีแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับเมมเบอร์และการเลือกตั้ง(ุถ้าอธิบายจะยาวมาก)
ต่อมาเป็นการเปรียบเทียบกับไอดอลเกาหลี ซึ่งเรื่องธีมที่ผมเคยบอกไปข้างบนว่า ตระกูล 48 ไม่ได้เน้น Performance แต่เน้นเรื่องราว
ความเป็นมา ประวัติของสมาชิก เหมือนเอาเด็กเก่ง เด็กอ่อนมาฝึกรวมกันในคลาสเรียนคลาสเดียว ซึ่งแน่นอนว่าจะให้พร้อมเพรียงกันคงยาก แต่ของ
ฝั่งเกาหลี ไอดอลต้องเพรียบพร้อมตั้งแต่ก่อน debut แล้ว ทั้งหน้าตา รูปร่าง เสียงร้อง มีการคัดแล้วคัดอีกก่อนมาเข้าฝึกด้วยซ้ำ ถ้าไอดอล 48 เป็น
Reality show ไอดอลเกาหลีก็คงเป็น survival TV shows
สุดท้ายที่หลายคนบอกว่า BNK เป็นแรงบรรดาลใจก็เพราะว่า เมมเบอร์หลายคนก็เริ่มจาก 0 หลายคนอายุยังน้อย แต่ต้องจากบ้านเกิด
มาทำตามความฝัน ถ้าลองย้อนนึกถึงตัวเองว่า ถ้าคุณอายุแค่ 13 - 14 แต่ต้องเริ่มทำงานแล้วเรียนไปด้วย จากพ่อแม่ จากบ้านเกิดมาฝึกเรียนร้อง
เพลง ต้องย้ายโรงเรียน ต้องแบ่งเวลาให้ได้ คุณคิดว่าตอนคุณอายุแค่นั้นคุณทำได้รึเปล่าล่ะครับ แต่น้องๆทุกคนเขาทำได้ เขาเลยเป็นแรงบรรดาล
ใจให้คนทุกวัยทั้งเด็กที่กำลังเรียน ทั้งผู้ใหญ่วัยทำงาน ต่างก็สัมผัสได้ถึงความพยายามนี้ จนกลายมาเป็น BNK48 ที่คุณเห็นในทุกวันนี้แหละ
ความคิดเห็นที่ 10
อาจจะตอบไม่ตรงประเด็น แต่ขอยกประโยคที่จขกท. กล่าวมานะคะ
"เด็กๆหลายคนบอกได้ BNK48 เป็นแรงบันดาลใจ เป็น Idol ในการสานฝัน .......คุณภาพแค่นี้ได้เป็นนักร้องแล้ว"
คำว่า ไอดอล แปลตรงตัวก็คือตัวอย่างที่ดี ในที่นี้ BNK48 ไม่ได้เป็น "นักร้อง" "นักเต้น" แต่เป็น "ไอดอล" การที่น้องอยู่ตรงนั้น น้องๆ ต้องทำหลายอย่าง ตั้งแต่การค้นหาเส้นทางของตัวเอง การค้นหาเป้าหมาย การกล้าแสดงออก การกล้าที่จะยืนต่อหน้าผู้คน การกล้าที่จะเป็นกระบอกเสียง ส่งต่อความคิด ความรู้สึกในด้านต่างๆ ให้สังคม การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี การติดตามน้องๆ เหล่านี้ น้องๆ จะเล่าเรื่องราวของพวกเค้าผ่านเสียงเพลง ในเพลงทุกเพลงจะมีความหมาย มีสตอรี่ที่เกี่ยวกับพวกน้องๆ โดยเฉพาะ แม้จะแปลมาจากวงพี่ก็ตาม แต่คุณต้อม(CEO) ก็เลือกเพลงมาใช้ในแต่ละซิงเกิ้ลตามการเติบโตและการพัฒนาของน้องๆ ...... เพลง จึงไม่ได้จุดขายหลักของวง แม้จะดูเหมือนว่าเป็นอย่างนั้นก็เถอะค่ะ
การมีเพลง มีการเต้น ก็เท่ากับว่ามี "การแสดง" และในเมื่อมีการแสดง ก็จะต้องมี "เวที" ให้น้องๆ ได้ออกสื่อ ได้เป็นที่รู้จัก ได้ลองหัดพูด ได้ฝึกสกิล MC หรือจ้องตากับผู้ชม น้องๆ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องฝึกฝนแค่เต้นกับร้อง แต่น้องต้องพยายามในทุกๆ อย่างเพื่อก้าวผ่านกำแพงของตัวเองไปให้ได้
บางคนไม่กล้าพูดด้วยซ้ำ พูดไม่เก่ง ขี้อาย ไม่กล้ามองกล้อง แล้วเมื่อพอเรามองย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของพวกเธอ ได้เห็นว่าเมื่อก่อนเธอเป็นยังไง ต้องเจอกับอะไร แล้ววันนี้เติบโตขึ้นมาแค่ไหน ก็จะรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
บางวันก็แทบจะไม่ได้นอน ต้องออกงานติดๆ กัน บางวันต้องไปแสดงทั้งที่ไม่สบาย ให้คอยเป็นห่วง อยากจะสนับสนุน
ทุกๆ อย่างมันรวมอยู่ในเรื่องราว ให้คนที่เฝ้ามอง ให้แฟนๆ ที่ติดตามรู้สึกว่า เฮ้ย น้องเหนื่อยขนาดนี้ น้องยังสู้ และนี่คือที่มาของการที่ BNK48 เป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน เป็นพลังให้ใครหลายๆ คนค่ะ ลุกขึ้นมากล้า ลุกขึ้นมาพยายาม
ไม่อยากให้โฟกัสที่เพลง กับ เต้น แน่นอนว่าถ้าเปรียบเทียบกับวงอื่นๆ ที่เค้าสร้างขึ้นมาเพื่อเป็น "นักร้อง" ก็คงสู้ไม่ได้
เราสามารถยึดใครก็ได้ เป็น ไอดอล (เป็นแบบอย่างที่ดี) ไม่ว่าจะนักร้อง นักแสดง หรือพี่ข้างบ้าน
แต่น้องๆ ที่เข้าวงมา "เพื่อเป็นไอดอล" น้องๆ เค้าต้องทุ่มเท พยายาม ทำทุกอย่างจริงๆ นะคะ เพื่อที่จะสามารถเรียกตัวเองว่า "ไอดอล" ได้
ร้องกับเต้น เป็นสิ่งที่เห็นได้ง่าย ถ้ามองย้อนกลับไปน้องๆ ก็ทำได้ดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว ต้องดูกันไปยาวๆ
ส่วนคนที่อยากจะเป็นนักร้อง แล้วยึดถือน้องๆ เป็นแบบอย่าง อาจจะไม่ได้ยึดในด้านการร้องการเต้น แต่ยึดถือในด้านการพยายามก็ได้ค่ะ
"เด็กๆหลายคนบอกได้ BNK48 เป็นแรงบันดาลใจ เป็น Idol ในการสานฝัน .......คุณภาพแค่นี้ได้เป็นนักร้องแล้ว"
คำว่า ไอดอล แปลตรงตัวก็คือตัวอย่างที่ดี ในที่นี้ BNK48 ไม่ได้เป็น "นักร้อง" "นักเต้น" แต่เป็น "ไอดอล" การที่น้องอยู่ตรงนั้น น้องๆ ต้องทำหลายอย่าง ตั้งแต่การค้นหาเส้นทางของตัวเอง การค้นหาเป้าหมาย การกล้าแสดงออก การกล้าที่จะยืนต่อหน้าผู้คน การกล้าที่จะเป็นกระบอกเสียง ส่งต่อความคิด ความรู้สึกในด้านต่างๆ ให้สังคม การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี การติดตามน้องๆ เหล่านี้ น้องๆ จะเล่าเรื่องราวของพวกเค้าผ่านเสียงเพลง ในเพลงทุกเพลงจะมีความหมาย มีสตอรี่ที่เกี่ยวกับพวกน้องๆ โดยเฉพาะ แม้จะแปลมาจากวงพี่ก็ตาม แต่คุณต้อม(CEO) ก็เลือกเพลงมาใช้ในแต่ละซิงเกิ้ลตามการเติบโตและการพัฒนาของน้องๆ ...... เพลง จึงไม่ได้จุดขายหลักของวง แม้จะดูเหมือนว่าเป็นอย่างนั้นก็เถอะค่ะ
การมีเพลง มีการเต้น ก็เท่ากับว่ามี "การแสดง" และในเมื่อมีการแสดง ก็จะต้องมี "เวที" ให้น้องๆ ได้ออกสื่อ ได้เป็นที่รู้จัก ได้ลองหัดพูด ได้ฝึกสกิล MC หรือจ้องตากับผู้ชม น้องๆ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องฝึกฝนแค่เต้นกับร้อง แต่น้องต้องพยายามในทุกๆ อย่างเพื่อก้าวผ่านกำแพงของตัวเองไปให้ได้
บางคนไม่กล้าพูดด้วยซ้ำ พูดไม่เก่ง ขี้อาย ไม่กล้ามองกล้อง แล้วเมื่อพอเรามองย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของพวกเธอ ได้เห็นว่าเมื่อก่อนเธอเป็นยังไง ต้องเจอกับอะไร แล้ววันนี้เติบโตขึ้นมาแค่ไหน ก็จะรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
บางวันก็แทบจะไม่ได้นอน ต้องออกงานติดๆ กัน บางวันต้องไปแสดงทั้งที่ไม่สบาย ให้คอยเป็นห่วง อยากจะสนับสนุน
ทุกๆ อย่างมันรวมอยู่ในเรื่องราว ให้คนที่เฝ้ามอง ให้แฟนๆ ที่ติดตามรู้สึกว่า เฮ้ย น้องเหนื่อยขนาดนี้ น้องยังสู้ และนี่คือที่มาของการที่ BNK48 เป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน เป็นพลังให้ใครหลายๆ คนค่ะ ลุกขึ้นมากล้า ลุกขึ้นมาพยายาม
ไม่อยากให้โฟกัสที่เพลง กับ เต้น แน่นอนว่าถ้าเปรียบเทียบกับวงอื่นๆ ที่เค้าสร้างขึ้นมาเพื่อเป็น "นักร้อง" ก็คงสู้ไม่ได้
เราสามารถยึดใครก็ได้ เป็น ไอดอล (เป็นแบบอย่างที่ดี) ไม่ว่าจะนักร้อง นักแสดง หรือพี่ข้างบ้าน
แต่น้องๆ ที่เข้าวงมา "เพื่อเป็นไอดอล" น้องๆ เค้าต้องทุ่มเท พยายาม ทำทุกอย่างจริงๆ นะคะ เพื่อที่จะสามารถเรียกตัวเองว่า "ไอดอล" ได้
ร้องกับเต้น เป็นสิ่งที่เห็นได้ง่าย ถ้ามองย้อนกลับไปน้องๆ ก็ทำได้ดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว ต้องดูกันไปยาวๆ
ส่วนคนที่อยากจะเป็นนักร้อง แล้วยึดถือน้องๆ เป็นแบบอย่าง อาจจะไม่ได้ยึดในด้านการร้องการเต้น แต่ยึดถือในด้านการพยายามก็ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
คุณเข้าใจนิยามของ 48 ผิดครับ
BNK48 ถือเป็นไอดอลครับเค้าถือว่ายังไม่ใช่ ดารา นักร้อง ศิลปินอาชีพ โดยจะเน้นจุดขายคือเสน่ห์ความพยายามกิจกรรมทัศนคติและเรื่องราวของแต่ละคน มากกว่าความสวยเป๊ะ เพราะตอนออก็มีคนแบบนี้แต่ตกรอบเค้าไม่ค่อยเอา ส่วนดาราที่เรารู้จักจะชอบเค้าที่ผลงานเลย แต่นี้เค้าจจะเปิดประวัติแต่ละคนให้รู้จักก่อน และจะผ่านเรื่องราว กิจกรรม เหตุการณ์ต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมา เชื่อหรือเปล่าว่าในบรรดาเด็กที่เต้น มีคนที่ไม่เต้นเคยร้องเต้นมาก่อนเลย พูดง่ายๆว่าเค้าอยากให้เด็กพวกนี้เป็นไอดอลของคนทั่วไป ว่าถ้าเรามีความรู้ความพยายามเราก็มีสิทธิ์ที่จะไปถึงฝันได้ หลายๆคนจึงรักวงนี้และมองเหมือนเป็นแรงบรรดาลใจให้กล้าทำสิ่งต่างๆ ( แบบน้องมันไม่เคยเต้นเคยร้องแต่แต่มีความกล้าความพยายามและฝึกจนถึงวันนี้เราเองก็ต้องพยายามดูบ้าง ) ความดังของเพลงคุกกี้คือตัวยืนยันครับ
และถ้าเค้าพร้อมที่จะเป็น ดารา ศิลปิน นางแบบ นักร้องอาชีพ หรือออกจากวงการ เมื่อไรเค้าก็จะออกจากวงครับ เพราะ BNK48 เปรียบเหมือนโรงเรียนครับ
ปล ในส่วนของเพลงของ BNK48 ไม่ได้คุณภาพห่วยกว่าเกาหลีนะครับ อันไหนดีกว่าห่วยกว่ามันแล้วแต่รสนิยมและอคติของแต่ละคนแล้วละครับ เพลงที่ทำให้คนทั่วไปได้ร้องเต้นหรือโคฟเวอร์ ยิ้มสนุกได้อย่างมีความสุขกัน โคตรไม่เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นเพลงเลย 555
BNK48 ถือเป็นไอดอลครับเค้าถือว่ายังไม่ใช่ ดารา นักร้อง ศิลปินอาชีพ โดยจะเน้นจุดขายคือเสน่ห์ความพยายามกิจกรรมทัศนคติและเรื่องราวของแต่ละคน มากกว่าความสวยเป๊ะ เพราะตอนออก็มีคนแบบนี้แต่ตกรอบเค้าไม่ค่อยเอา ส่วนดาราที่เรารู้จักจะชอบเค้าที่ผลงานเลย แต่นี้เค้าจจะเปิดประวัติแต่ละคนให้รู้จักก่อน และจะผ่านเรื่องราว กิจกรรม เหตุการณ์ต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมา เชื่อหรือเปล่าว่าในบรรดาเด็กที่เต้น มีคนที่ไม่เต้นเคยร้องเต้นมาก่อนเลย พูดง่ายๆว่าเค้าอยากให้เด็กพวกนี้เป็นไอดอลของคนทั่วไป ว่าถ้าเรามีความรู้ความพยายามเราก็มีสิทธิ์ที่จะไปถึงฝันได้ หลายๆคนจึงรักวงนี้และมองเหมือนเป็นแรงบรรดาลใจให้กล้าทำสิ่งต่างๆ ( แบบน้องมันไม่เคยเต้นเคยร้องแต่แต่มีความกล้าความพยายามและฝึกจนถึงวันนี้เราเองก็ต้องพยายามดูบ้าง ) ความดังของเพลงคุกกี้คือตัวยืนยันครับ
และถ้าเค้าพร้อมที่จะเป็น ดารา ศิลปิน นางแบบ นักร้องอาชีพ หรือออกจากวงการ เมื่อไรเค้าก็จะออกจากวงครับ เพราะ BNK48 เปรียบเหมือนโรงเรียนครับ
ปล ในส่วนของเพลงของ BNK48 ไม่ได้คุณภาพห่วยกว่าเกาหลีนะครับ อันไหนดีกว่าห่วยกว่ามันแล้วแต่รสนิยมและอคติของแต่ละคนแล้วละครับ เพลงที่ทำให้คนทั่วไปได้ร้องเต้นหรือโคฟเวอร์ ยิ้มสนุกได้อย่างมีความสุขกัน โคตรไม่เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นเพลงเลย 555
แสดงความคิดเห็น
BNK48 ดีตรงไหนในแง่นักร้องหรือนักเต้นครับ?
- ผมไม่ติดใจในเรื่องทัศนคติที่ดีของน้องๆ
- ผมไม่อะไรกับความดังของพวกเค้า
- ผมชื่นชมกับความพยายามของพวกเค้า
แต่
- ความสามารถในด้านการร้องหรือการเต้นของเด็กกลุ่มนี้มันดีแค่ไหนครับ ผมไม่อยากเปรียบเทียบกับพวกรายการประกวด แต่รายการประกวดพวกนั้น ยังทำให้เห็นผลงานที่แสดงความสามารถออกมามากกว่านี้ เต้นเป็นเต้น ร้องเป็นร้อง ผมเลยไม่เข้าใจว่าวงนี้จะออกเพลงมาทำไมเยอะแยะ ในเมื่อมันไม่ได้เรื่องเลย
- แง่ความเป็น Idol Girl Group เทียบกับเกาหลีแล้ว ไม่มีผลงานที่สู้ได้เลย ฝั่งนั้นต่อให้เสียงห่วย แต่เต้นคือเป๊ะชัดแรง แต่ BNK48 คืออะไรครับ เสียงร้องนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะมันธรรมดาไปจนถึงแย่มาก
- เด็กๆหลายคนบอกได้ BNK48 เป็นแรงบันดาลใจ เป็น Idol ในการสานฝัน ...คุณภาพแค่นี้ได้เป็นนักร้องแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจว่านักร้องสายร้องสายเต้นคนอื่นๆที่ความสามารถดีกว่านี้มาก เค้าจะรู้สึกยังไงว่าพวกเค้าพยายามหนักกว่าแค่ไหนกว่าจะได้ทำผลงาน แปลว่าอนาคต คนไทยจะได้เจอเพลงคุณภาพระดับ BNK48 ไปอีกเรื่อยๆ? หมายถึงเด็กยุคถัดๆไปก็จะรู้ว่าพยายามระดับไหนแล้วได้ออกอัลบั้ม และดัง
ถ้าผมเข้าใจผิดตรงไหน แนะนำได้นะครับ