- เดินทางไปกับแอร์เอเชีย วันที่ 9-14 ก.พ. 2018  ได้ตั๋วไป-กลับ คนละ 3,230 บาท (ไม่รวมโหลด)
  แต่เราซื้อน้ำหนัก ไป-กลับ รวมแล้วเพิ่มอีก 1,500 บาท
  ขาไป ศุกร์ที่ 9 ก.พ. ไฟล์ท 18.35 น.





- ถึงสนามบินนอยไบ และใช้เวลากับ ตม. ประมาณ 21.30 น.  
  ออกจากประตู 2 เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับเคาน์เตอร์รับแลกเงินเยอะแยะเลย
  เราแลกเงินไทยเป็น US มาก่อนนะคะ  แลกเงินไทยไปประมาณ 19,000 บาท ได้มา 597 US (มีเหลือนะ)
  แลกเงิน US ไปรอบแรก 200 US  ได้มา 4,535,000  vnd  (เรท 22,675 vnd)



- แลกเงินเสร็จ ออกจากประตู เลี้ยวซ้ายนิดหน่อย จะเจอกับป้ายจอดรถ 02 ขึ้นรถเมลล์สาย 86 ลง Old Quarter
  พนักงานน่ารักและใจดีมาก เค้าจะมาสอบถามเราว่า พักที่ไหน และต้องลงป้ายไหน แถมเขียนแผนที่ใส่กระดาษมาให้ด้วย






- เราพักที่ Hanoi LeLe & Frog จำนวน 2 คืน ราคาคืนละ 975 บาท รวมอาหารเช้า
  เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่มีลิฟท์ และไม่ได้อยู่ใน Old Quarter ซะทีเดียวนะ
  จะห่างจาก Old Quarter ประมาณกิโลกว่า  ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด  เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง
  และที่จองโรมแรมนี้เพราะอ่านรีวิวมา ห้องโอเค แถมพอเข้าพักจริง ห้องก็ตรงปก และพนักงานใจดี พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่วทุกคน
  แต่ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมานะ มัวแต่ตื่นเต้น 5555+ เลยมีแต่รูปห้องอาหารแทน





- มาม่าผัดเนื้อ และเครื่องดื่มยอดนิยมของเวียดนาม เราชอบมากจริงๆ หลงเลย อร่อยมากๆ






- เราจองทัวร์ One day trip กับ Mr.Hung  (จ่ายเงินวันที่ไป)
  ID Line : hung.sapasummit  หรือ http://goldenlandtours.com/
  ได้ราคา คนละ 33 US รวมทุกอย่างแล้ว  แต่น้ำดื่มหรือเครื่องดื่มต่างๆ ต้องจ่ายเพิ่มเองค่ะ
  ราคานี้รวมค่าเรือ ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าอาหารซีฟู๊ดบนเรือ ค่านั่งเรือไม้ไผ่หรือพายเรือคายัค ราคาพอรับได้
  ไกด์จะมารับที่โรงแรม ประมาณ 08.00 น.  และจะเสร็จสิ้นทัวร์ ถึงฮานอยประมาณ 20.00 - 21.00 น.





.











- โดยรวมแล้ว ถือว่า ดี ในเมื่อไปถึงเวียดนามเหนือแล้ว หากมีเวลา ก็ควรไปนะ วิวสวยอากาศดี ถ่ายรูปสวย ไปเถอะ แนะนำ




- เราจองทัวร์ One day trip กับ Ms.Huong  (จ่ายเงินวันที่ไป) คนละทัวร์กับฮาลองเบย์ นะ
  ID Line : Huongtours90 หรือ http://www.vietexpresstravel.com.vn/
  ได้ราคา คนละ 30 US รวมทุกอย่างแล้ว แต่น้ำดื่มหรือเครื่องดื่มต่างๆ ต้องจ่ายเพิ่มเองเหมือนทัวร์ฮาลองเบย์
  ราคานี้รวมค่าเข้าชมสถานที่ ค่าอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ ค่านั่งเรือไม้ไผ่ชมวิวที่ Tam Coc
  ไกด์จะมารับที่โรงแรม ประมาณ 08.00 น.  และจะเสร็จสิ้นทัวร์ ถึงฮานอยประมาณ 19.00 - 20.00 น.








- ความวิจิตรงดงาม ของศิลปะวัฒนธรรมของชาวพุทธ ยังคงไว้อยู่มาก สวยงามจริงๆ . . . .





- เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพระพุทธรูปที่สวยงามและรูปปั้นมากมาย รวมถึงระฆังยักษ์ด้วย บรรยากาศสวยงามมาก






- หลังจากเข้าชมวัด และทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว ไกด์จะพาเราไปกันต่อที่ Tam Coc เพื่อนั่งเรือไม้ไผ่
  โดยเรือ 1 ลำ จะนั่งได้ 4 คน



- Tam Coc เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเมือง Ninh Binh ทางตอนใต้ของฮานอย ประกอบด้วยเรือไม้ไผ่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
  จำนวนกว่า 2,000 ลำ



- และยังเป็นสถานที่ที่เคยใช้ถ่ายภาพยนตร์เรื่อง คิงคอง อีกด้วย






- เราจองรถบัสนอนของ Sapa Express ราคาคนละ 13 US รอบ 22.00 น.  
  สะอาด สะดวก สบาย สมคำร่ำลือ พนักงานตอบเมลล์ไว คอนเฟิร์มไว
  จองผ่าน https://sapaexpress.com/en  เลยค่ะ









- เราพักที่โรงแรม Sapa Panorama ราคาคืนละประมาณ 960 บาท รวมอาหารเช้า โดยเลือกแบบจ่ายเงินวันที่เข้าพัก
  ถึงโรงแรมประมาณ 07.00 น. แต่ยังเช็คอินไม่ได้ พี่พนักงานเลยแนะนำให้กินอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์รอไปก่อน
  สนนราคา คนละ 100 บาทไทย (จ่ายเป็นเงินบาทได้ด้วยนะ อิอิ)
  กินไปซักพัก พี่เค้าก็มาตามให้เช็คอินเข้าห้องพักได้ ดีมากๆ  




- ซาปาในวันที่ไปวันนั้น อากาศหนาวมาก ประมาณ 6 องศา หนาวควันออกปากเลย แถมฝนยังตกปรอยๆด้วย
  เลยนอนพักซักครู่  แล้วจึงออกมาหาหม้อไฟกิน แต่ร้านดังๆส่วนใหญ่ ปิดนะคะ ดันไปตรงกับวันหยุดของเค้า - -"





- เรากินหม้อไฟที่ใต้โรงแรม Sapa Centre ราคาประมาณ 250K และเปิดพุงด้วยช็อคโกแลตมูสเค้ก คืออร่อยมากๆ ราคาชิ้นละ 70K
  หม้อไฟต้มยำ (ไก่) สำหรับ 2 คน ทำไมมันเยอะอย่างนี้ๆๆ ผักนี่ก็ให้แบบไม่เกรงใจคนปลูกเลย อร่อยอ่ะ ฟาดเรียบ
  ต้มยำเวียดนามอร่อยดีอ่ะ





- เท่านั้นก็ยังไม่พอ เดินไปเรื่อยๆท่ามกลางสายฝนพรำๆ บวกกับม่านหมอกในซาปา โอ๊ยยยยย รู้สึกดี
  แวะกินกาแฟ กับเค้กอีกแล้ว ที่ร้าน Dao Coffee  เปิดด้วยช็อคโกแลตร้อนๆ กับครัวซองอุ่นๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดีในชุดแรก
  และชุดที่ 2 ตามมาติดๆด้วยกาแฟไข่ในตำนาน มาแล้วต้องลอง กาแฟรสชาติหวานๆมันๆ ถือว่าผ่าน
  กินกับคุ๊กกี้ที่ให้มาด้วย เข้ากั๊น เข้ากัน
  และตบท้ายด้วยเค้กใบเตย อันนี้ ค่อนข้างหวานไปหน่อย แต่ก็หมดอ่ะ ไม่รู้ทำไม สงสัยคงหิวมั้ง





- ออกเดินทางกันตอนสายๆ วันนี้ ท้องฟ้าเป็นใจมากกว่าเมื่อวานเล็กน้อย เลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์กับที่โรงแรม ราคา 7 US  
  ไม่รู้ว่าโดนชาร์ตหรือเปล่านะ  แต่ราคาพอรับได้ สะดวกดี รอเค้าเอารถมาให้เลย
  โรงแรม อยู่ห่างจากฟานสิปัน ประมาณ 3 กิโล ค่อยๆขี่ไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายหมอก ฟินมากกกกก
- และเมื่อถึงฟานสิปันแล้ว  ซื้อตั๋วเพื่อขึ้นกระเช้า ราคาคนละ 700K  แต่ ๆๆ ยังไม่ถึงจุดสูงสุดนะ



- ในเมื่อหากเราไม่อยากเหนื่อยเดินขึ้นหรือลง ฉะนั้น เราก็ทำการซื้อตั๋วเพิ่ม เพื่อนั่งรถรางขึ้นไปจุดสูงสุด
  โดยขาขึ้น เพิ่มอีกคนละ 70K และขาลง เพิ่มอีกคนละ 80K สนนราคาขึ้นยอดเขาฟานสิปัน คนละ 850K !!!













- ออกจากฟานสิปัน แล้วแว๊นต่อไปหมู่บ้านกั๊ต กั๊ต มีค่าเข้าด้วยนะ น่าจะ 70K จำราคาที่แน่นอนไม่ได้แล้ว



- แวะกินช็อคโกแลตร้อนอีกตามเคย และตามมาด้วยแพนเค้กน้ำผึ้งติดๆ เอออร่อยดีอีกแล้ว



- หมู่บ้านที่ไม่ได้เต็มไปด้วยแมว  แต่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สร้างสรรค์ด้วยสมองและสองมือของชาวบ้าน
  กังหันข้าวโพด น่ากินจริงๆเชียว เห็นแล้วอยากเอากลับไปทำป๊อบคอร์นที่เอสพลานาดรัชดาเลย - -"

- และกังหันที่มันวิดๆน้ำได้ ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร แต่เออ เจ๋งดีว่ะ เค้าเข้าใจคิดอ่ะ
  ภายในหมู่บ้านมีสินค้าพื้นเมืองขาย ชอบมากอ่ะ ไม่แพงด้วย กระเป๋าแม้วๆอย่างชอบเลย






- ออกจากหมู่บ้านกั๊ต กั๊ต อากาศดีกว่าเดิมอีก ฟ้าเปิดแล้ว มีแสงแดดและได้ไออุ่นในช่วงเวลาเย็นๆเล็กน้อย
  เลยแว๊นเล่นซักหน่อย ให้สมกับที่เติมน้ำมันมาเต็มถัง แต่ใช้ไปไม่ถึงครึ่ง - -"







- พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยน สับปะรดฉ่ำๆ เกือบจะช้ำอยู่แล้ว