เหตุเกิดจากก่อนหน้านี้มีความหน้าพังหนักมาก ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ ยิ่งแก่ตัวลงสิวขึ้นทีก็มีรอยดำที่หายยากหายเย็น
ทำให้ต้องลำบากจัดการเปลี่ยนเครื่องสำอาง โฟมล้างหน้าอะไรไปชุดใหญ่ แต่ก็ไม่วายยังมีสิวมาเยือนอีก
จนแทบจะถอดใจจนกระทั่งวันนึงขณะแต่งหน้าก็เพิ่งจะได้สังเกตว่าเฮ้ย!! พัฟกับแปรงแต่งหน้าเรานี่เน่าขนาดนี้เลยหรอ
คือเกรอะกรังอุดมไปด้วยสีแป้งสีบลัชออนเบอร์แรงมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ก็เลยได้โละซากวัตถุโบราณเหล่านั้นจากโต๊ะเครื่องแป้ง
แล้วอัญเชิญพัฟและแปรงเซ็ตใหม่มาประดับโต๊ะ พร้อมทั้งปฏิญาณตนว่าต่อไปนี้จะหมั่นล้างแปรงกับพัฟบ่อยๆ
จะได้ไร้กลิ่นติด้สารตกค้างกันไป แต่เรื่องของน้ำยาล้างแปรงก็สำคัญไม่แพ้กัน เลือกผิดเลือกถูกก็อาจทำหน้าพังได้
เลยถือโอกาสซื้อมาเทียบให้เห็นกันจะจะเลยว่าอันไหนรอดอันไหนร่วง ซึ่งก็ขอเลือกมาเฉพาะแบรนด์ที่จขกท.มีกำลังซื้อไหวนะคะ
ยี่ห้อที่แพงกว่านี้ใครใจดีก็ส่งมาให้รีวิวได้คร่า อิอิ ว่าแล้วก็ตามไปดูรีวิวกันเถอะ..

ป.ล.ว่ารีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้จักรยานแม่บ้านในการอ่านนะจ๊ะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ☺
ป.ล. 2 รูปทั้งหมดถ่ายด้วย Huawei Mate 9 ทำให้โฟกัสแค่โปรดัคท์ตรงหน้า เบลอหลังส่วนที่รกๆของโต๊ะได้อย่างดีงาม คริคริ

และนี่คือโฉมหน้าของเหล่าสาวงามทั้ง 4
เบอร์ 1..Make up Brush Cleaner ขนาด 150 ml. ส่งเข้าประกวดโดย Daiso ในราคา 60 บาท

เบอร์ 2.. Puff Sponge Detergent ขนาด 80 ml. ส่งเข้าประกวดโดย Daiso ในราคา 60 บาทเช่นกัน

เบอร์ 3 Great Skin ขนาด 200 ml. ส่งเข้าประกวดโดย แบรนด์ Great Friend (เคยเห็นแว๊บๆว่าเค้าทำสำลีนะ) ในราคา 199 บาท

เบอร์ 4 Blink Blink Brush ขนาด 150 ml. ส่งเข้าประกวดโดย Eve and Boy (เพราะเมีวางขายในนั้น อิอิ) ในราคา 195 บาท

หลักเกณฑ์ในการรีวิว
ด้วยความนอยด์ส่วนตัวจขกท.ได้ซื้อแปรงกับพัฟใหม่มาพอดีจำนวนน้ำยาทั้ง 4 ขวดเลย
จะได้เห็นจะจะว่าอันไหนล้างออกไม่ออกยังไงบ้าง (ว่างแค่ไหนถามใจดู)


จขกท. ใช้บลัชของ Nars สี Luster มาทดสอบ วนแปรงจำนวน 30 ครั้งเท่าๆ กัน


ส่วนแป้งใช้ยี่ห้อ Butae เอาพัฟตบไปบนแป้งประมาณ 20 ครั้งแน่นๆ ให้แป้งติดพัฟในขนาดเท่าๆ กัน ที่เลือกแป้ง Butae
เพราะสีติดทนทานมากกก ที่สำคัญมันถูก เอามารีวิวได้ไม่ปวดใจ แฮร่ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า กับสาวงามเบอร์ 1


เบอร์ 1..Make up Brush Cleaner
ฉลากดูดีมีความญี่ปุ่นคาวาอี้เดซมาก


พลิกมาดูที่ส่วนผสม...เอิ่ม มีความหงายเงิบและขนลุกซู่ววว เพราะส่วนผสมแรกก็แอลกอฮอล์แล้วจ้า
เอทิลแอลกอฮอล์ Ethyl alcohol 20.16%
โซเดียมลอริลอีเทอร์ซัลเฟต Sodium Lauryl Ether Sulfate 1.93%
โพลีออกซีเอทิลีน (20) ซอร์บิแทนโมโนโอลิเอต Polyoxyethylene (20) Sorbitan Monooleate 2%
อัลคิลโพลีไกลโคไซต์ Alkyl Polyglycoside 2%

สำหรับแอลกอฮอล์ใครที่ผิวแพ้ง่ายก็จะรู้อยู่แล้วว่าเลี่ยงได้ควรเลี่ยง แต่ไอ้ตัวที่สองนี่ก็สยองพอกันคือ Sodium Lauryl Ether Sulfate
มันเป็นสารทำความสะอาดราคาถูกที่ทำให้เกิดฟองเยอะๆ ข้อดีคือใช้ทำความสะอาดได้ดี ใช้กำจัดคราบสนิม คราบน้ำมันได้ดี  
ข้อเสียคืออาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว อาจทำให้แพ้รุนแรง และบางแหล่งข้อมูลบอกว่าเป็นสารก่อมะเร็งอีกตะหาก!!
ส่วน Alkyl Polyglycoside เป็นสารที่พบเยอะในพวกน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ เช่นน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ TT

พออ่านมาถึงคำเตือนด้านล่างก็สยองอีกที เพราะมีการบอกด้วยว่าควรใส่ถุงมือขณะใช้งาน..เอิ่มพี่คะ
ขนาดมือยังไม่ปลอดภัย นับประสาอะไรกับใบหน้าบางๆ ของอิชั้น..


สำหรับวิธีล้างแปรงตามวิธีใช้ข้างขวด ให้เทน้ำยา 20 มล. ลงในภาชนะ แล้วเอาแปรงไปแช่ หมุนเป็นวงกลมก่อนล้างน้ำ
พอเอาไปล้างน้ำปรากฏว่าฟองเยอะมาก ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรถึงรู้สึกว่าออกหมดจดแล้ว ส่วนพัฟนี่พอใส่ลงไปแป้งลอยออกมาเลย
ไม่เปลืองแรงขัดใดๆ รู้สึกเหมือนกำลังซักผ้าด้วยผงซักฟอกสูตรขจัดคราบหนัก >*<


สาวงามเบอร์ 2 จากค่ายเดียวกัน
สำหรับตัวฉลากทำออกมาดูเป็นทางการมากกว่า เหมือนเป็นเวชภัณฑ์อะไรซักอย่าง และยังคงมีภาษาญี่ปุ่นรัวๆ ที่อ่านไม่ออกอยู่ดี


ส่วนผสมหลักๆ คือ โพลีออกซีเอทิลีน อัลคิล อีเทอร์ Polyoxyethylene Alkyl Ether 25%
และ โคโคนัท ได เอทาโนลาไมด์ Coconut Diethanolamine 9%
ตัวแรกคือสารทำความสะอาดเจอในพวกน้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างจานต่างๆ ส่วนตัวที่สองรู้สึกเบาใจขึ้นนิดนึงเพราะเป็นสารจากกรดไขมันของน้ำมันมะพร้าว
กับสารอื่นๆ เพื่อให้เกิดฟองเยอะๆ ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างแชมพู และสบู่ล้างมือ


สำหรับวิธีทำความสะอาดของน้ำยาตัวที่ 2 เค้าให้หยดน้ำยาลงบนแปรงหรือพัฟ แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าโดยใช้มือถูเพื่อให้คราบหลุดออก
ความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่าวิธีนี้มันลำบากกว่าแบบแกว่งๆในน้ำ ส่วนแป้งบนพัฟก็ทำท่าจะไม่หลุดง่ายๆ
ต้องเอาไปล้างน้ำเปล่าและขยี้นานหน่อยกว่าจะออก


มาที่สาวงามเบอร์ 3 กันเลยดีกว่า
สำหรับฉลากทำออกมาได้น่ารักสดใสเอาใจวัยรุ่นมั่กๆ


ที่สนใจแบรนด์นี้เพราะติดใจประโยคที่ว่า “ไม่ระคายเคืองต่อผิว” เนี่ยแหละ เลยอยากรู้ว่าเป็นไง มาดูที่ส่วนประกอบกันเลยดีกว่า..
เอิ่ม ตัวเล็กมากค่ะคุณผู้ชม //หาแว่นขยายแพร๊บ

ส่วนประกอบ : Water, Butylene Glycol, Dipropyline Glycol, Propylene Glycol, Cocamidopropyl Betaine, Polysorbate 20,
Hamamelis Virginiana (Witch Hazel Extract), Cucumis Sativus (Cucumber), Fruit Extract, Allantoin, Polyquaternium-7,
Disodium EDTA, DMDM Hydantoin, Iodopropynyl Butylcarbamate, Methylisothiazolinone, Fragrance, CI 42090  

เนื่องจากส่วนประกอบเยอะมากกก ขอยกอันที่น่าสนใจมาพูดถึงนะคะ Butylene Glycol คือสารที่ใช้ในเครื่องสำอางหลายยี่ห้อ
ให้ความชุ่มชื่นผิว มีความอ่อนโยนสูง Cocamidopropyl Betaine สารลดแรงตึงผิว ระคายเคืองต่ำ
Witch Hazel Extract สารสกัดจากใบและเปลือกต้น Witch Hazel คุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรก ลดการอุดตันของรูขุมขนและความมันส่วนเกิน
มีส่วนผสมของสารสกัดจากแตงกวา และผลไม้ ดูๆแล้วตัวนี้มีสารสกัดที่ดูปลอดภัยกว่าสองแบรนด์แรก
แต่ขอหักคะแนนที่การใช้สารกันเสีย กับใส่น้ำหอมด้วย..เอาล่ะ มาเริ่มรีวิวกัน


สำหรับวิธีใช้ของ Great Skin เค้าให้หยดน้ำยาในภาชนะ แล้ววนแปรงลงไปซักพักจนกว่าคราบจะหลุดออก
แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ซึ่งก็ถือว่าล้างออกได้ค่อนข้างง่าย กลิ่นน้ำยาหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ส่วนพัฟให้แช่น้ำยาทิ้งไว้ แล้วขยี้
ซึ่งตัวแป้งในพัฟไม่ได้หลุดออกปุบปับเหมือนไดโซะตัวแรก แต่สังเกตว่าฟองตกค้างในพัฟจะน้อยกว่า ล้างน้ำเปล่าไม่นานก็รู้สึกว่าสะอาดแล้ว


แล้วก็มาถึงสาวงามเบอร์สุดท้าย
ส่วนตัวค่อนข้างชอบฉลากอันนี้ ดูน่ารักดี มีลายเส้นเกร๋ๆ กับฟอนต์ตัวเขียน ฟรุ้งฟริ้ง


สำหรับส่วนประกอบมีดังนี้ (อ่านยากทรมานใจสาวสว.อีกแล้ว)
โซเดียมลอริลอีเทอร์ซัลเฟต Sodium Lauryl Ether Sulfate 2%
เอทอกซีเลเตทแอลกอฮอล์ Ethoxylated Alcohol 0.5%
แอลคิลกลูโคไซด์ Alkyl Glucoside 0.5%

Sodium Lauryl Ether Sulfate..คุ้นๆมั้ยคะ มันคือสารตัวดีในสาวงามเบอร์ 1 ที่เป็นสารทำความสะอาดราคาถูก ใช้ขจัดคราบสนิม คราบน้ำมัน
และอาจระคายเคืองต่อผิวไง ส่วนตัวที่สอง Ethoxylated Alcohol เป็นสารลดแรงตึงผิวพบในยาสีฟันและแชมพู..แต่ก็นะ
แอลกอฮอล์อ่ะค่ะ มาดูเรื่องประสิทธิภาพกันต่อ


สำหรับวิธีใช้ Blink Blink Brush จะให้ทำพัฟกับแปรงให้เปียกก่อน แล้วหยดผลิตภัณฑ์ประมาณ 10 หยดลงไป
จากนั้นก็ขยี้เบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากผลการใช้แปรงก็ล้างออกได้ดีไม่มีปัญหาเท่าไหร่
แต่พัฟจะต้องใช้เวลาขยี้นานหน่อยกว่าจะขจัดคราบได้


และนี่คือผลลัพธ์หลังการทดลองของสาวงามทั้ง 4 เบอร์

************************
โดยรวมรู้สึกว่าการขจัดคราบบนพัฟและแปรงทำได้ค่อนข้างดีทุกตัว แต่ๆๆ วันนี้เราจะไม่ได้มาให้คะแนนแค่ล้างแป้งสะอาดแค่ไหน
แต่มาดูเรื่องสารตกค้าง และภัยแฝงอื่นๆ ที่อาจกระทบกับผิวหน้าของเรากันด้วย

*****ผลลัพธ์*****
########เบอร์ 1 : Make up Brush Cleaner ขนาด 150 ml. ราคา 60 บาท########

ความสะอาดหมดจด : 9/10 (เป็นตัวที่ออกแรงซักพัฟน้อยที่สุด)
ความอ่อนโยนต่อผิว : 2/10 (ด้วยส่วนประกอบที่ดูน่ากลัว และกลิ่นที่ฉุน ล้างน้ำเปล่า 2 ครั้งยังมีกลิ่นน้ำยาติดแปรงกับพัฟอยู่เลย)
ความคุ้มค่า : 7.5/10 (ถูกที่สุดในกลุ่มเมื่อเทียบตามปริมาณ แต่โดนหักคะแนนเพราะส่วนผสมก็ใช้ต้นทุนไม่แพงอยู่ดี)
ความอ่อนโยนต่อขนแปรงและพัฟ : 7/10
ความสะดวกรวดเร็วในการใช้ : 7/10 (ฟองเยอะ ล้างออกยาก)

########เบอร์ 2.. Puff Sponge Detergent ขนาด 80 ml. ราคา 60 บาท########

ความสะอาดหมดจด : 8/10
ความอ่อนโยนต่อผิว : 6/10
ความคุ้มค่า : 8/10
ความอ่อนโยนต่อขนแปรงและพัฟ : 7/10
ความสะดวกรวดเร็วในการใช้ : 5/10 (การหยดน้ำยาเพื่อล้างค่อนข้างเสียเวลา และล้างออกยาก)


########เบอร์ 3.. Great Skin ขนาด 200 ml. ราคา 199 บาท########
ความสะอาดหมดจด : 8/10
ความอ่อนโยนต่อผิว : 8.5/10 (ตัวนี้ใช้สารสกัดธรรมชาติเยอะที่สุด โดนหักคะแนนไปหน่อยที่มีน้ำหอม)
ความคุ้มค่า : 8/10 (ในบรรดาทั้ง 4 แบรนด์ ตัวนี้ใช้ส่วนผสมที่ดูดีมีชาติตระกูลสุดละ)
ความอ่อนโยนต่อขนแปรงและพัฟ : 8/10
ความสะดวกรวดเร็วในการใช้ : 8/10 (ฟองไม่เยอะเท่าเบอร์ 1 ไม่ต้องล้างน้ำหลายรอบก็รู้สึกว่าฟองหมดแล้ว)

########เบอร์ 4.. Blink Blink Brush ขนาด 150 ml. ราคา 195 บาท########
ความสะอาดหมดจด : 6.5/10 (ล้างพัฟยากสุด ใช้แรงเยอะสุด)
ความอ่อนโยนต่อผิว : 3.5/10
ความคุ้มค่า : 5/10 (ราคาแพงสุดเมื่อเทียบตาม ml ส่วนผสมไม่จี๊ดเท่าเบอร์ 3)
ความอ่อนโยนต่อขนแปรงและพัฟ : 7/10
ความสะดวกรวดเร็วในการใช้ : 6.5/10