แชร์ประสบการณ์ และ ฝากคำแนะนำเล็กน้อย - พยาธิในแฮมสเตอร์

สวัสดีค่ะ

เราตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ เพราะว่าเราได้เสียลูกชายของเราไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมาค่ะ ขอโทษนะคะถ้าหากกระทู้ยาวมากไปซะหน่อย เพราะอยากจะเล่าตั้งแต่เริ่มเอาเขามาเลี้ยง แต่เราหวังมากๆว่าจะอ่านจนจบค่ะ

ก่อนอื่นเลยคือจะบอกว่า เราหาข้อมูลทุกอย่าง เตรียมตัวเยอะมากก่อนที่จะเอาเขามาเลี้ยง แต่ในการหาข้อมูลนี้ เราอ่านเจอเรื่องพยาธิน้อยมากค่ะ และแทบไม่มีที่ไหนเลยที่แนะนำให้พาแฮมสเตอร์ไปถ่ายพยาธิในขั้นตอนเริ่มต้นของการเลี้ยงดูเขา และในช่วงที่ลูกแสดงอาการ เราก็พยายามหาข้อมูล แต่ไม่มีข้อมูลภาษาไทยที่บ่งบอกเลยว่าอาการแบบนี้คืออาจจะมีพยาธิ เลยคิดว่า การแชร์ประสบการและฝากคำแนะนำอะไรเล็กน้อยน่าจะพอมีประโยชน์อะไรบ้างกับคนเลี้ยงแฮมสเตอร์ โดยเฉพาะมือใหม่แบบเรานะคะ

เริ่มจากว่า เรากับแฟนเราต้องการที่จะเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ค่ะ เราอาศัยอยู่ต่างประเทศ ส่วนแฟนเราอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย เราได้กลับประเทศไทยไปในช่วงเกษตรแฟร์พอดี เรากับแฟนก็เลยไปเดินดูและซื้อแฮมสเตอร์มาจากร้านขายแฮมสเตอร์ที่นั่นค่ะ ตอนแรกกะจะไปซื้อที่ฟาร์ม แต่ฟาร์มที่ได้ดูเอาไว้นั้นอยู่ไกล และแฟนเราติดธุระพอดี บวกกับระยะเวลาที่เรากลับมันจำกัดมากๆ เราเลยไปซื้อกันที่งานแทนค่ะ

คือเราจะบอกว่า เราไม่โทษร้านเลยนะคะ ไม่โกรธอะไรเลยด้วย ถึงแม้ว่าลูกเราจะติดพยาธิมาตั้งแต่ที่ร้าน จากการเลี้ยงดูที่แออัดหรืออะไรก็แล้วแต่ และเราก็เคยได้ยินได้อ่านเรื่ิองแนวๆนี้บ่อยมากๆ แต่เราก็ดีใจมากๆ ไม่เคยเสียใจเลยทึ่เอาเขามาเลี้ยงและได้ดูแลเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมาจากที่ไหนยังไง เราเชื่อว่าเป็นความผิดจากความชะล่าใจของเราเองที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย

เราเลือกที่จะซื้อแฮมสเตอร์ตัวที่ถูกชะตา ก็เจอตัวหนึ่งที่หน้าตาเหรอหรา วิ่งไปวิ่งมา และดูสนใจไปหมดทุกอย่างรอบๆตัว เราเลือกจะพาหนูตัวนั้นกลับบ้าน และตั้งชื่อน้องว่า กะหล่ำ จากความต้องการของแฟน (จริงๆเราอยากให้ชื่อขวัญเรียมหรือเทพศิลป์นะ 55)

กะหล่ำเป็นเด็กที่หน้าตาดี ซน กินเก่ง ร่าเริง สดใส และอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง เวลากะหล่ำนอน กะหล่ำจะชอบท่านอนโน้มหัวไปข้างหน้าและเอาหัวปักพื้น ทำให้ดูเหมือนเป็นลูกบอลกลมๆ



นี่คือหนึ่งในท่านอนของกะหล่ำ 55 นี่คือรูปของกะหล่ำในวันสองวันแรก



นี่คือท่านอนลูกบอลของกะหล่ำ


กะหล่ำร่าเริงสดใสมาตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วย เราพยายามไม่รบกวนเขา โดยการที่เอาผ้าปิดกรงเอาไว้และคอยเปิดดูเรื่อยๆ แต่เราก็เหมือนพ่อแม่เห่อลูก โดยเฉพาะเราที่ว่างอยู่กับเขาทั้งวัน วันทั้งวันเอาแต่ถ่ายรูปและคลิปของลูก ส่งไปให้แฟนบ้าง เก็บไว้เองบ้าง และก็ดูเหมือนว่าเขามีความสุขดีมากและค่อยๆโตขึ้น แถมอัณฑะก็ยังโตขึ้นด้วย เราดีใจมากๆที่เขาโตขึ้นค่อนข้างมาก

จนเราต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ตอนนั้นกะหล่ำอยู่ในการดูแลของแฟนเราแค่คนเดียว แต่เราก็ยังคงคุยกันเรื่องลูก และอัพเดทสถานะการณ์ของลูกเสมอมา

ระหว่างที่เราอยู่ต่างจังหวัด มีช่วงหนึ่งที่กะหล่ำดื่มน้ำจนหมดขวด ซึ่งผิดวิสัยของเขามากๆ ทำให้เราไปหาข้อมูล เจอมาหลายอย่าง ว่าลูกชายอาจเป็นหวัด หรือป่วยนู่นนี่นั่น เราเป็นห่วง และรีบให้แฟนพาไปหาหมอ แต่เขาไม่ค่อยว่างด้วย เลยเฝ้าระวังอาการ แต่ลูกก็สดใสร่าเริง และกลับมากินข้าวและน้ำในปริมาณปกติที่เขาเคยทำ







นี่คือส่วนหนึ่งของรูปกะหล่ำที่แฟนเราคอยส่งมาอัพเดท จะเห็นว่ากะหล่ำดูโตขึ้นและสุขภาพดีมากๆ กะหล่ำอยากจะวิ่งจักร แต่จักรดันเล็กเกินไปสำหรับเขา ก็เลยกลายมาเป็นแบบนี้ 555


เราเลยคุยกันกับแฟนว่า ไม่ได้ละ ตอนที่เรากลับกทม เราต้องไปหากรงให้ลูกชายใหม่ เอาให้ใหญ่กว่าเดิมมากๆ ให้มีพื้นที่วิ่งเล่น และใส่จักรใหญ่ๆให้ลูกชาย
และเราก็ได้กรงใหม่ที่ใหญ่และไฉไลกว่าเดิมให้ลูกชาย มีครบทุกอย่าง จักรสองอัน ห้องน้ำ ถ้วยขนม ถ้วยอาหาร ท่อให้วิ่งเล่น และไม้ให้ลับฟัน


สีส้มที่วางข้างๆกันคือกรงเก่า ที่ซื้อพร้อมลูกชายจากที่ร้าน เราใช้เวลาสักพักในการประกอบกรง แต่ใช้เวลานานกว่าในการจะจับตัวลูกชายเพื่อพาเข้ากรง เขาเดินสำรวจไปทั่วห้องเลย 5555 กว่าจะจับตัวได้ก็เหนื่อย
เขาดูดีใจ ดูชอบกรงใหม่มาก วิ่งสำรวจ วิ่งขึ้นวิ่งลง แต่งตัว(ทำความสะอาดตัวเอง) ตลอดเวลา และคืนนั้น ลูกชายก็ได้วิ่งจักรสมใจ วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย วิ่งเร็วมาก แต่ยังกระท่อนกระแท่น แต่พอมาคืนที่สอง กะหล่ำก็วิ่งคล่องขึ้นมาก และก็กลายเป็นกิจกรรมประจำของเขา นอกจากลงมาเอาอาหารขึ้นไปตุนที่บ้านชั้นสาม กิน และนอน 555

ขอต่อในคอมเมนท์นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่