เหลียวมองไปดูขวดน้ำหอมที่บ้าน เห็นว่าเริ่มกองๆ เยอะขึ้นซะแล้ว
วันนี้เลยขอยกเอาตัวที่หอมๆ มารีวิวให้เพื่อนๆ ฟังกันดีกว่า สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมอยู่ เดี๋ยววันนี้เราจะมาลองเล่ากลิ่นเป็นภาพให้ฟัง ว่า 7 น้ำหอมตัวท็อปที่เราคิดว่าหอมจนต้องบอกต่อมีอะไรบ้าง แล้วแต่ละอันนั้นหอมแบบไหน แอบขออภัยเรื่องราคาที่เราจำไม่ค่อยได้ด้วยนะคะ เดี๋ยวลองใส่ราคาประมาณๆ เอาไว้ละกัน แหะๆ
1. Miss Dior Blooming Bouquet
เริ่มกันที่ตัวแรก Dior ตัวนี้ตามชื่อเลยค่ะ กลิ่นจะหอมๆ สดใส หวานๆ เหมือนช่อดอกไม้อะไรประมาณนั้น ถ้าได้ฉีดครั้งแรกจะมีความฉุน ถ้าอยากออกจากบ้านด้วยกลิ่นที่พอดีๆ ให้ฉีดทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วค่อยออกค่ะ ส่วนตัวชอบกลิ่นนี้มากเพราะว่ามันให้ฟีลของผู้ญิงหวานๆ ที่หรูหรา หรือจะเรียกว่าเป็นกลิ่นแบบ “ลูกคุณหนู” ก็ว่าได้ 555 เชื่อเถอะว่าเป็นกลิ่นโปรดของสาวๆ หลายคนเลย แต่แอบเศร้าที่มันติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ เราฉีดได้ประมาณ 3 ชั่วโมงกลิ่นก็หายแล้ว เหลือไว้อ่อนมากๆ ค่ะ ใครที่อยากตัวหอมทั้งวันคงต้องพกไปเติม แต่ก็จะดูลำบาก เพราะว่าต้องแบ่งใส่ขวดอีก
ระดับความหอม : 4/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3.5/5
แพ็คเกจ : 5/5
ความติดทน : 2/5
ราคา : ซื้อนานมากแล้วจำไม่ได้ค่ะ น่าจะ 3-4,xxx กว่าบาท
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวัน ยกเว้นวันไหนที่แต่งตัวแซ่บๆ อาจจะต้องเปลี่ยนค่ะ
ความคุ้มค่า : ถ้าคิดจากความหอมคือคุ้มมาก แต่ว่าคิดจากปริมาณดูเปลืองไปนิด เพราะต้องฉีดสองรอบค่ะ
2. Yves Saint Laurent Parisienne
ถ้าขวดแรกกลิ่นเหมือนลูกคุณหนู ขวดนี้ก็คงเป็นกลิ่นของ “คุณนายแม่” นั่นล่ะค่ะ เพราะว่ามีความหอมผู้ดี แต่เป็นผู้ดีที่ค่อนข้างสุขุม นุ่มลึก อายุราวๆ สามสิบต้นๆ ที่ดูดีมีฐานะ ฉีดแล้วพร้อมเดินออกไปให้คนขับรถพาไปดินเนอร์กับสามีบนเรือยอร์ชอะไรแบบนั้น ขวดนี้ก็ปลื้มปลิ่มมากเช่นกัน ส่วนใหญ่เราชอบฉีดตัวนี้ตอนไปคุยงานกับผู้ใหญ่ เพราะหอมแบบมีสง่าราศีดีค่ะ แต่อย่าฉีดเยอะนะ มันจะฉุนมากกกกก แต่กลิ่นติดทนทั้งวัน แต่ไม่ค่อยฉีดเวลาไปเจอผู้ชาย เพราะเคยโดนทักเอาน้ำหอมแม่มาฉีดทำไม ฮือออออ
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3/5
แพ็คเกจ : 4.5/5
ความติดทน : 4/5
ราคา : ประมาณ 4,000 ค่ะ
โอากาสในการใช้ : จริงๆ ใครชอบก็สามารถใช้ได้ทุกวัน แต่เราติดที่ว่ามันดูภูมิฐาน ดูมีอายุนิดนึง เลยใช้เฉพาะเวลาไปทำงานค่ะ
ความคุ้มค่า : คุ้มค่ะ ราคาสูงหน่อยแต่แลกกับความหอม คือยอม
3. DKNY Be Delicious Fresh Blossom
ขวดนี้ถือว่าชอบมากค่ะ ซื้อมาใช้ขวดที่สองแล้ว กลิ่นของเค้าจะให้อารมณ์lสบายๆ แต่บางทีก็มีความเย้ายวน บางทีฉีดตอนเช้าเป็นหวานๆ พอตอนเย็นผสมกลิ่นตัวเราก็กลายเป็นเซ็กซี่ (แบบคิดไปเอง) หัวฉีดกระจายดี ถึงแม้ว่าแพ็คเกจจะดูเหมือนส้มก็เถอะ แต่เราก็ไม่ได้พกออกไปไหนเนาะ ขวดนี้ความติดทนทานอยู่ที่ประมาณ 5-6 ชั่วโมงค่ะ ไม่ได้ติดตลอดทั้งวัน แต่มันไม่ถึงกับจางไปซะหมด พอตอนเย็นมันจะกลายเป็นกลิ่นอ่อนๆ ที่ทำให้เราตัวหอมเบาๆ แบบไม่มีสาเหตุ
ระดับความหอม : 4/5
ความกระจายของหัวฉีด : 4/5
แพ็คเกจ : 3/5
ความติดทน : 3.5/5
ราคา : 3,800 บาท โดยประมาณ
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวันทุกโอกาส
ความคุ้มค่า : คุ้มแน่นอน
4 .Oriental Princess Floralista Coral Freesia
ขวดสุดท้ายเพิ่งถอยมาหมาดๆ เพราะชอบกลิ่นแบบ “สาวมั่น ขี้เล่น” ค่ะ ตัวนี้ฉีดแล้วมีความหวานซ่อนเปรี้ยวบอกไม่ถูกอะ ดมครั้งแรกกลิ่นจะออกมั่นใจๆ หน่อย พอดมอีกครั้งให้ความรัสึกแบบสาวสวยหวาน น่ารัก สดใส ที่เซอร์ไพรส์กับขวดนี้อีกอย่างก็คือ กลิ่นทนมากกก คือฉีดแค่ตอนเช้าอยู่ทนไปทั้งวันเลยค่ะ เอาจริงๆ คือใช้แทนน้ำหอมเคาท์เตอร์แบรนด์ได้เลย ส่วนขวดก็น่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ จับถนัดมือดี ชอบบบบ
ระดับความหอม : 4/5
ความกระจายของหัวฉีด : 4.5/5
แพ็คเกจ : 4/5
ความติดทน : 5/5
ราคา : 600 กว่าบาท
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวันเลย ไม่เบื่อค่ะ ไปทำงานหรือแฮงเอาท์ได้หมด แต่ถ้าเป็นงานกาล่าต้องใช้กลิ่นเซ็กซี่กว่านี้หน่อย
ความคุ้มค่า : คุ้มมาก อย่างที่บอก เหมือนซื้อน้ำหอมราคาเบาๆ ในคุณภาพเคาท์เตอร์แบรนด์
5. Gucci Envy Me
อีกหนึ่งกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกหอมแพง แต่มีความฉุนมากกว่าความสดใส ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงจะเป็นกลิ่นแบบ “นางร้ายลูกคุณหนู” คือก็มีความแบบผู้ดีแหละ แต่ก็มีความเซ็กซี่แบบตัวร้ายเข้ามาปน (แถมจะให้กลิ่นชัดกว่าซะด้วย) ตัวนี้เราชอบฉีดเวลาออกไปแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ มันจะให้ฟีลแบบยัยลูกคุณหนูใน Gossip Girls มาปาร์ตี้อะไรแบบนั้น 555 สำหรับเราว่ากลิ่นนี้มันหอม แต่คนไม่ชอบก็คือจะไม่ชอบไปเลย เพราะคนรอบตัวหลายคนชอบบอกว่าฉุนมาก แต่พออยู่ไปได้สักพักกลิ่นมันจะจางลงไปเอง แต่ขวดนี้ดีที่ติดทนตลอดทั้งวัน แต่ไม่ชอบตรงขวดนิดนึง เพราะว่ามันยาวไปหน่อย
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3.5/5
แพ็คเกจ : 3/5
ความติดทน : 5/5
ราคา : ประมาณเกือบๆ 3,000 บาท
โอากาสในการใช้ : เหมาะกับการฉีดไปงานปาร์ตี้ตอนกลางคืน หรือว่าแฮงเอาท์มากกว่าจะเป็นลุคกลางวัน แต่ก็แล้วแต่คนชอบค่ะ
ความคุ้มค่า : ด้วยความที่ใช้ไม่บ่อยเลยคิดว่าไม่ค่อยคุ้มค่ะ แต่ถ้ามองเรื่องราคากับกลิ่นคือคุ้มค่าลงตัว
6. Champagne Life lady Perfume
น้ำหอมกลิ่น “เพื่อนนางเอก” ที่แท้ทรู ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่า อันนี้ซื้อจาก Miniso กลิ่นของนางฉีดออกมาตอนแรกจะฉุน ดูไม่น่ารัก แต่พออยู่บนผิวเราไปได้สัก 5-6 วิ คือดีงาม หอมหวานมาก มีความหอมหวาน ซุกซน ขี้เล่น ให้ความน่ารักน่าชังเหมือนเพื่อนนางเอกในละคร (ที่บางทีก็ดูมีเสน่ห์กว่านางเอก) ประมาณนั้น เหมาะกับเวลาที่เราแต่งตัวเปรี้ยวๆ นะ เพราะมันไม่ได้หวานไปซะทีเดียว ออกแนวหวานซ่อนเปรี้ยวซะมากกว่า แต่เสียดายที่ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ 1-2 ชั่วโมงกลิ่นก็หายไปแล้ว ไวเว่อร์ แต่ดีว่าขวดพกง่าย สามารถเอาไปเติมได้บ่อยๆ (ถ้าขยัน)
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3/5
แพ็คเกจ : 4/5
ความติดทน : 2.5/5
ราคา : ประมาณ 200 บาท
โอากาสในการใช้ : สามารถใช้ได้ทุกวันนะ แต่ถ้าเราต้องการฉีดออกไปในโอกาสพิเศษต่างๆ อาจจะดูกลิ่นอ่อนๆ ธรรมดาไปหน่อย
ความคุ้มค่า : จริงๆ ราคาเท่านี้กับกลิ่นที่จางไวก็คุ้มแล้วแหละ
7. Clinique Happy Heart
ตัวนี้เป็นอะไรที่กลิ่นหอมฟุ้งแบบเย็นๆ ฉีดแล้วดูเป็น “แม่พระ” จิตใจดี นุ่มนวล ดูเป็นคนที่คิดดีกับคนอื่นตลอดเวลา ขวดอื่นอาจจะหอมหวานปนกลิ่นเซ็กซี่ หรือเปรี้ยวๆ แต่กลิ่นนี้บอกเลยว่า จะเป็นกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแนวหวานเย็นซะมากกว่า แต่ก็ไม่เลี่ยนจนเกินไปนะ ตัวนี้ติดทนมาก แถมหอมกระจายวงกว้างด้วย เดินไปสิบก้าวแล้วเพื่อนยังได้กลิ่นน้ำหอมอยู่เลย สาวๆ คนไหนที่ชอบกลิ่นหอมแบบออร่ากระจายแม่พระไปทั้งตัวต้องลองดูค่ะ
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 4/5
แพ็คเกจ : 3/5
ความติดทน : 5/5
ราคา : ประมาณ 2,900 บาท
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวันค่ะ แต่มันดูเป็นกลิ่นที่ไม่ค่อยเร้าใจ เราก็เลยสลับๆ ใช้กับตัวอื่น
ความคุ้มค่า : คุ้มที่ความติดทนนานนี่แหละ ใช้แล้วไม่เปลืองง่ายแน่นอน
และทั้งหมดก็คือรีวิวน้ำห๊อมมหอมที่เราใช้เองแล้วชอบมากค่ะ อาจจะบรรยายกลิ่นได้เห็นภาพ หรือไม่เห็นภาพเท่าไหร่ เอาเป็นว่าๆ สาวๆ ลองไปตามรอยดมกันได้ค่ะ บอกเลยว่ามันเริ่ดมาก ;)
[CR] REVIEW :: 7 น้ำหอมในดวงใจ ที่ใครได้กลิ่นแล้วต้องบอกว่า “หอมมากกก”
วันนี้เลยขอยกเอาตัวที่หอมๆ มารีวิวให้เพื่อนๆ ฟังกันดีกว่า สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมอยู่ เดี๋ยววันนี้เราจะมาลองเล่ากลิ่นเป็นภาพให้ฟัง ว่า 7 น้ำหอมตัวท็อปที่เราคิดว่าหอมจนต้องบอกต่อมีอะไรบ้าง แล้วแต่ละอันนั้นหอมแบบไหน แอบขออภัยเรื่องราคาที่เราจำไม่ค่อยได้ด้วยนะคะ เดี๋ยวลองใส่ราคาประมาณๆ เอาไว้ละกัน แหะๆ
เริ่มกันที่ตัวแรก Dior ตัวนี้ตามชื่อเลยค่ะ กลิ่นจะหอมๆ สดใส หวานๆ เหมือนช่อดอกไม้อะไรประมาณนั้น ถ้าได้ฉีดครั้งแรกจะมีความฉุน ถ้าอยากออกจากบ้านด้วยกลิ่นที่พอดีๆ ให้ฉีดทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วค่อยออกค่ะ ส่วนตัวชอบกลิ่นนี้มากเพราะว่ามันให้ฟีลของผู้ญิงหวานๆ ที่หรูหรา หรือจะเรียกว่าเป็นกลิ่นแบบ “ลูกคุณหนู” ก็ว่าได้ 555 เชื่อเถอะว่าเป็นกลิ่นโปรดของสาวๆ หลายคนเลย แต่แอบเศร้าที่มันติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ เราฉีดได้ประมาณ 3 ชั่วโมงกลิ่นก็หายแล้ว เหลือไว้อ่อนมากๆ ค่ะ ใครที่อยากตัวหอมทั้งวันคงต้องพกไปเติม แต่ก็จะดูลำบาก เพราะว่าต้องแบ่งใส่ขวดอีก
ระดับความหอม : 4/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3.5/5
แพ็คเกจ : 5/5
ความติดทน : 2/5
ราคา : ซื้อนานมากแล้วจำไม่ได้ค่ะ น่าจะ 3-4,xxx กว่าบาท
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวัน ยกเว้นวันไหนที่แต่งตัวแซ่บๆ อาจจะต้องเปลี่ยนค่ะ
ความคุ้มค่า : ถ้าคิดจากความหอมคือคุ้มมาก แต่ว่าคิดจากปริมาณดูเปลืองไปนิด เพราะต้องฉีดสองรอบค่ะ
ถ้าขวดแรกกลิ่นเหมือนลูกคุณหนู ขวดนี้ก็คงเป็นกลิ่นของ “คุณนายแม่” นั่นล่ะค่ะ เพราะว่ามีความหอมผู้ดี แต่เป็นผู้ดีที่ค่อนข้างสุขุม นุ่มลึก อายุราวๆ สามสิบต้นๆ ที่ดูดีมีฐานะ ฉีดแล้วพร้อมเดินออกไปให้คนขับรถพาไปดินเนอร์กับสามีบนเรือยอร์ชอะไรแบบนั้น ขวดนี้ก็ปลื้มปลิ่มมากเช่นกัน ส่วนใหญ่เราชอบฉีดตัวนี้ตอนไปคุยงานกับผู้ใหญ่ เพราะหอมแบบมีสง่าราศีดีค่ะ แต่อย่าฉีดเยอะนะ มันจะฉุนมากกกกก แต่กลิ่นติดทนทั้งวัน แต่ไม่ค่อยฉีดเวลาไปเจอผู้ชาย เพราะเคยโดนทักเอาน้ำหอมแม่มาฉีดทำไม ฮือออออ
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3/5
แพ็คเกจ : 4.5/5
ความติดทน : 4/5
ราคา : ประมาณ 4,000 ค่ะ
โอากาสในการใช้ : จริงๆ ใครชอบก็สามารถใช้ได้ทุกวัน แต่เราติดที่ว่ามันดูภูมิฐาน ดูมีอายุนิดนึง เลยใช้เฉพาะเวลาไปทำงานค่ะ
ความคุ้มค่า : คุ้มค่ะ ราคาสูงหน่อยแต่แลกกับความหอม คือยอม
ขวดนี้ถือว่าชอบมากค่ะ ซื้อมาใช้ขวดที่สองแล้ว กลิ่นของเค้าจะให้อารมณ์lสบายๆ แต่บางทีก็มีความเย้ายวน บางทีฉีดตอนเช้าเป็นหวานๆ พอตอนเย็นผสมกลิ่นตัวเราก็กลายเป็นเซ็กซี่ (แบบคิดไปเอง) หัวฉีดกระจายดี ถึงแม้ว่าแพ็คเกจจะดูเหมือนส้มก็เถอะ แต่เราก็ไม่ได้พกออกไปไหนเนาะ ขวดนี้ความติดทนทานอยู่ที่ประมาณ 5-6 ชั่วโมงค่ะ ไม่ได้ติดตลอดทั้งวัน แต่มันไม่ถึงกับจางไปซะหมด พอตอนเย็นมันจะกลายเป็นกลิ่นอ่อนๆ ที่ทำให้เราตัวหอมเบาๆ แบบไม่มีสาเหตุ
ระดับความหอม : 4/5
ความกระจายของหัวฉีด : 4/5
แพ็คเกจ : 3/5
ความติดทน : 3.5/5
ราคา : 3,800 บาท โดยประมาณ
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวันทุกโอกาส
ความคุ้มค่า : คุ้มแน่นอน
ขวดสุดท้ายเพิ่งถอยมาหมาดๆ เพราะชอบกลิ่นแบบ “สาวมั่น ขี้เล่น” ค่ะ ตัวนี้ฉีดแล้วมีความหวานซ่อนเปรี้ยวบอกไม่ถูกอะ ดมครั้งแรกกลิ่นจะออกมั่นใจๆ หน่อย พอดมอีกครั้งให้ความรัสึกแบบสาวสวยหวาน น่ารัก สดใส ที่เซอร์ไพรส์กับขวดนี้อีกอย่างก็คือ กลิ่นทนมากกก คือฉีดแค่ตอนเช้าอยู่ทนไปทั้งวันเลยค่ะ เอาจริงๆ คือใช้แทนน้ำหอมเคาท์เตอร์แบรนด์ได้เลย ส่วนขวดก็น่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ จับถนัดมือดี ชอบบบบ
ระดับความหอม : 4/5
ความกระจายของหัวฉีด : 4.5/5
แพ็คเกจ : 4/5
ความติดทน : 5/5
ราคา : 600 กว่าบาท
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวันเลย ไม่เบื่อค่ะ ไปทำงานหรือแฮงเอาท์ได้หมด แต่ถ้าเป็นงานกาล่าต้องใช้กลิ่นเซ็กซี่กว่านี้หน่อย
ความคุ้มค่า : คุ้มมาก อย่างที่บอก เหมือนซื้อน้ำหอมราคาเบาๆ ในคุณภาพเคาท์เตอร์แบรนด์
อีกหนึ่งกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกหอมแพง แต่มีความฉุนมากกว่าความสดใส ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงจะเป็นกลิ่นแบบ “นางร้ายลูกคุณหนู” คือก็มีความแบบผู้ดีแหละ แต่ก็มีความเซ็กซี่แบบตัวร้ายเข้ามาปน (แถมจะให้กลิ่นชัดกว่าซะด้วย) ตัวนี้เราชอบฉีดเวลาออกไปแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ มันจะให้ฟีลแบบยัยลูกคุณหนูใน Gossip Girls มาปาร์ตี้อะไรแบบนั้น 555 สำหรับเราว่ากลิ่นนี้มันหอม แต่คนไม่ชอบก็คือจะไม่ชอบไปเลย เพราะคนรอบตัวหลายคนชอบบอกว่าฉุนมาก แต่พออยู่ไปได้สักพักกลิ่นมันจะจางลงไปเอง แต่ขวดนี้ดีที่ติดทนตลอดทั้งวัน แต่ไม่ชอบตรงขวดนิดนึง เพราะว่ามันยาวไปหน่อย
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3.5/5
แพ็คเกจ : 3/5
ความติดทน : 5/5
ราคา : ประมาณเกือบๆ 3,000 บาท
โอากาสในการใช้ : เหมาะกับการฉีดไปงานปาร์ตี้ตอนกลางคืน หรือว่าแฮงเอาท์มากกว่าจะเป็นลุคกลางวัน แต่ก็แล้วแต่คนชอบค่ะ
ความคุ้มค่า : ด้วยความที่ใช้ไม่บ่อยเลยคิดว่าไม่ค่อยคุ้มค่ะ แต่ถ้ามองเรื่องราคากับกลิ่นคือคุ้มค่าลงตัว
น้ำหอมกลิ่น “เพื่อนนางเอก” ที่แท้ทรู ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่า อันนี้ซื้อจาก Miniso กลิ่นของนางฉีดออกมาตอนแรกจะฉุน ดูไม่น่ารัก แต่พออยู่บนผิวเราไปได้สัก 5-6 วิ คือดีงาม หอมหวานมาก มีความหอมหวาน ซุกซน ขี้เล่น ให้ความน่ารักน่าชังเหมือนเพื่อนนางเอกในละคร (ที่บางทีก็ดูมีเสน่ห์กว่านางเอก) ประมาณนั้น เหมาะกับเวลาที่เราแต่งตัวเปรี้ยวๆ นะ เพราะมันไม่ได้หวานไปซะทีเดียว ออกแนวหวานซ่อนเปรี้ยวซะมากกว่า แต่เสียดายที่ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ 1-2 ชั่วโมงกลิ่นก็หายไปแล้ว ไวเว่อร์ แต่ดีว่าขวดพกง่าย สามารถเอาไปเติมได้บ่อยๆ (ถ้าขยัน)
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 3/5
แพ็คเกจ : 4/5
ความติดทน : 2.5/5
ราคา : ประมาณ 200 บาท
โอากาสในการใช้ : สามารถใช้ได้ทุกวันนะ แต่ถ้าเราต้องการฉีดออกไปในโอกาสพิเศษต่างๆ อาจจะดูกลิ่นอ่อนๆ ธรรมดาไปหน่อย
ความคุ้มค่า : จริงๆ ราคาเท่านี้กับกลิ่นที่จางไวก็คุ้มแล้วแหละ
ตัวนี้เป็นอะไรที่กลิ่นหอมฟุ้งแบบเย็นๆ ฉีดแล้วดูเป็น “แม่พระ” จิตใจดี นุ่มนวล ดูเป็นคนที่คิดดีกับคนอื่นตลอดเวลา ขวดอื่นอาจจะหอมหวานปนกลิ่นเซ็กซี่ หรือเปรี้ยวๆ แต่กลิ่นนี้บอกเลยว่า จะเป็นกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแนวหวานเย็นซะมากกว่า แต่ก็ไม่เลี่ยนจนเกินไปนะ ตัวนี้ติดทนมาก แถมหอมกระจายวงกว้างด้วย เดินไปสิบก้าวแล้วเพื่อนยังได้กลิ่นน้ำหอมอยู่เลย สาวๆ คนไหนที่ชอบกลิ่นหอมแบบออร่ากระจายแม่พระไปทั้งตัวต้องลองดูค่ะ
ระดับความหอม : 3.5/5
ความกระจายของหัวฉีด : 4/5
แพ็คเกจ : 3/5
ความติดทน : 5/5
ราคา : ประมาณ 2,900 บาท
โอากาสในการใช้ : ใช้ได้ทุกวันค่ะ แต่มันดูเป็นกลิ่นที่ไม่ค่อยเร้าใจ เราก็เลยสลับๆ ใช้กับตัวอื่น
ความคุ้มค่า : คุ้มที่ความติดทนนานนี่แหละ ใช้แล้วไม่เปลืองง่ายแน่นอน
และทั้งหมดก็คือรีวิวน้ำห๊อมมหอมที่เราใช้เองแล้วชอบมากค่ะ อาจจะบรรยายกลิ่นได้เห็นภาพ หรือไม่เห็นภาพเท่าไหร่ เอาเป็นว่าๆ สาวๆ ลองไปตามรอยดมกันได้ค่ะ บอกเลยว่ามันเริ่ดมาก ;)