เราเป็นสามัญชน คนธรรมดาคะ แต่เราค่อนข้างจะ ชอบมองโลกตามความเป็นจริง และต้องสมเหตุสมผล
เพราะไม่งั้น มันจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจ แปลกๆ อย่างไรก็ตาม กระทู้นี้ไม่ได้อยากจะดิสเครดิต หรือ อวยอะไรใครนะคะ
เรื่องเริ่มจาก ช่วง 5 ปีที่แล้วคะ มีเรื่องที่ทำให้ต้องทุกข์ จนแบบนั่งไม่ติด
ใครบอกหมอดูที่ไหนแม่นไปหมด ใครบอกว่าไหว้พระที่ไหนดี ไปหมดเช่นกัน
อยากรู้ว่ามีทางแก้ไหม ผลลัพธ์จะเป็นยังไง ดีหรือร้าย แล้วจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ทีนี้หลังจากที่เราไปดูหมอดูแล้ว สิ่งที่พบเจอมักจะเป็น ความครอบจักรวาลแบบไม่เมคเซนท์
เช่น เกิดลัคนานี้ ต้องนิสัยเป็นแบบนี้ๆ สิ นึกสภาพนะคะ งั้นคนกดลัคนาเดียวกัน มันจะเหมือนกันหมดหรอ
เป็นไปไม่ได้ ... เกิดวันนี้จะนิสัยแบบนี้ เกิดเดือนนี้จะนิสัยแบบนี้ เกิดปีนี้จะนิสัยแบบนี้ ... บ้าไปแล้ว
หลังจากคิดได้แบบนั้นแล้วก็ ยังไม่เลิกพยายามคะ ก็เริ่มไล่อ่านตามเว็ป ซื้อหนังสือ ต่างๆนาๆ
ซึ่งเรามองว่า ระบบการดูดวงแบบท่องจำเช่น ถ้าดาวเสาร์อยู่ราศีนี้ คนที่เกิดในช่วงนี้จะรวย
เห่ยยย ... ดาวเสาร์นั่งแช่แป้ง อยู่ราศีนี้ตั้ง 2 ปีครึ่ง เป็นไปได้หรอ ที่คนที่เกิดช่วงนี้จะรวยหมด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนเริ่มมาอ่านเรื่อง ดาวเจ้าเรือน ก็เริ่มอ๋อ ... ในชีวิตของเราแต่ละคน มีดาวที่แทนเรื่องต่างๆ
ในแต่ละลัคนาไม่เหมือนกัน และ วันนึงมีตั้ง 12 ลัคนา เพราะฉะนั้น ใน 1 วัน มีคนอย่างน้อย
12 คนที่จะนิสัย ไม่เหมือนกันแน่ๆ โอเคเริ่มเมคเซนท์ เกิดเวลาซ้ำกันเด๊ะ ก็ไปตัดกันที่บุญกรรม
นอกจาก 12 คนนี้ จะนิสัยไม่เหมือนกันแล้ว (ดูจากดาวตนุ ดวงเดียว)
เรื่องอื่นๆ ของ 12 คนนี้ ก็จะไม่เหมือนกันด้วย (ดูจากดาวเจ้าเรือน เรื่องอื่น อีก 11 ตำแหน่ง)
ทีนี้มาดูต่อ แล้วไอวงกลมๆ นี่เอาไว้ทำหอยอะไร แล้วถ้าดาวมันย้ายไปในแต่ละช่องจะเป็นยังไง
จนเราเข้าใจว่า อ๋อ ดาว 1 เรื่องของเรา สามารถเปลี่ยนพฤติกรรม ไปได้ 12 แบบ แล้วเรามีดาว
แทนเรื่องทั้งหมด 12 เรื่อง แปลว่า การที่จะอ่านนิสัยคนๆ นึงได้ทั้งหมด จะต้องรู้ว่า ดาวแต่ละดวง
ไปอยู่ในแต่ละราศี จะมีผลยังไง รวมเป็น 144 แบบ ( * - * ) เอ่อ เริ่มเมคเซนท์ เพราะคนบนโลกมีตั้งเยอะ
เพราะฉะนั้นนิสัยของคน สามารถรันออกมาได้คร่าวๆ ที่ 12 ยกกำลัง 12 = 8,916,100,455,256 แบบ
อ่านไม่ผิดคะเท่านี้จริงๆ การที่มีรูปแบบเยอะขนาดนี้ ถึงจะเมคเซนท์กับ ปริมาณคนบนโลกนี้หน่อย
ทีนี้มันเป็นไปไม่ได้คะ ที่การท่องจำ จะตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้ คาดว่าจะต้องจำกันหัวบานเลยทีเดียว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนเรามาเจอระบบธาตุคะ เข้าใจง่ายและดูเมคเซนท์กว่าชาวบ้าน เหตุผลเพราะ ถ้าแค่ระบบเจ้าเรือน
ชนกับเจ้าเรือน + ดาวเฉยๆ มันจะไม่สามารถ ตอบโจทย์ใน 8 ลัคนาที่มี ตนุเหมือนกันได้
เมษ กับ พิจิก = ตนุ คือ อังคาร 3 เหมือนกัน
พฤษภ กับ ตุลย์ = ตนุ คือ ศุกร์ 6 เหมือนกัน
เมถุน กับ กันย์ = ตนุ คือ พุธ 4 เหมือนกัน
เมถุน กับ กันย์ = ตนุ คือ พุธ 4 เหมือนกัน
8 ลัคนานี้ ถ้าตนุอยู่ที่เดิม (เรียก ตนุ-ตนุ) จะแยกไม่ออกทันที ว่าต่างจากอีกลัคนายังไง
และเราเข้าใจคะว่า ต้องมีคนเถียงเราเรื่องตำแหน่งดาว ซึ่งเราเข้าใจว่า คนที่เป็นคนคิด
คงคิดมาให้คนที่เข้าใจยาก จำง่ายๆ จนไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่ตามมาในภายหลัง
( ณ จุดนี้ ขอยังไม่รวม กุม เล็ง ตรีโกน เบียน นะคะ)
ทีนี้มาดูกันต่อ ว่าทำไมเราถึงไม่เชื่อตำแหน่งดาว เหตุผลเพราะว่า
การที่ คน 12 ลัคนา สมมติว่า ดาวการเงิน อยู่ที่ราศีมกร เหมือนกัน (งกเหมือนกัน)
มันต้องมีความ งกมาก งกกลาง งกน้อย ซึ่งสุดท้ายมันต้อง ไปตัดที่นิสัยของ ตนุ (ตัวตน) อีกที
ตัดที่เรือน ว่างกเรื่องอะไร แบบนี้ถึงจะเมคเซนท์ เพราะฉะนั้นเราเลยไม่ชอบการจำตำแหน่งดาว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และเท่าที่เราพยายามศึกษามาทั้งหมด รวมถึงลงเรียนเรื่องระบบธาตุ
อาจารย์ที่สอนเราสอนว่า การดูดวงเปรียบเสมือน การมองเห็นจุดอ่อน จุดแข็งของเรา จากบุญกรรมที่ทำไว้
ซึ่งเรามองว่า มันเป็นไปตามหลักธรรมชาติ ลองคิดถึงสัตว์ต่างๆ ดูคะ มันแทบไม่มีตัวไหนที่เพอร์เฟค
แต่มันต้องรู้ว่า ตัวเองเก่งอะไร เก่งว่ายน้ำ เก่งวิ่งเร็ว เก่งวิ่งทน หรือ เก่งอำพรางตัว เก่งแบบไหนใช้แบบนั้น
ซึ่งแม้แต่ สมองของคนเรา ก็มี IQ ตั้งหลายด้าน ต่างกันไป ซึ่งหลักการนี้เรามองว่ามันเมคเซนท์มากกว่า
นอกจากนั้น ไม่ว่าการเข้าสังคม การเลือกงาน การมีคู่ การประสบความสำเร็จ เรื่องพวกนี้ครึ่งนึงมันเกิด
จากการกระทำของเราด้วย จะมีที่บังคับไม่ได้ ก็คือเกิดมาในครอบครัวแบบไหนมากกว่า
เคยมีคนมาดูดวงกับเราแล้วถามว่า ชาตินี้เราจะมีแฟนไหมคะ แต่นางแบบดูกินเก่ง มองลบ ไม่ค่อยแต่งตัว
เราก็นึกในใจ ถึงดวงจะมีแฟน แต่ก็คงได้แฟนที่เกรดไม่ดีเท่าไหร่ ผู้ชายที่ไหนจะชอบแบบนี้
เพราะฉะนั้นแล้ว แม่นไม่แม่น ขึ้นอยู่กับคุณแน่ๆ 50% ขึ้นอยู่กับคนอื่นอีก 50%
ถ้าทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว มันจะไม่ได้ มันจะไม่รวย ก็ไม่ต้องเสียใจไปคะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับคนที่กำลังศึกษาใหม่ เราแยกสายให้เป็นแบบนี้นะคะ
สายแรก - เรือนชนเรือน + นิสัยดาว + ตำแหน่งดาว
สายที่สอง - เรือนชนเรือน + นิสัยดาว + ธาตุ <<< ส่วนตัวชอบแบบนี้คะ เพราะเมคเซนท์กว่า
ป.ล. เราไม่ได้รับดูดวงนะคะ คือเราตั้งใจเรียนมาเพื่อดูให้ตัวเองและครอบครัว
กับวางแผนการเกิดของลูกเฉยๆคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
แชร์ประสบการณ์ การดูดวงกับหมอดู (นับร้อย) จบด้วยลงเรียน กว่าจะหายเวิ่นเว๊อ
เพราะไม่งั้น มันจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจ แปลกๆ อย่างไรก็ตาม กระทู้นี้ไม่ได้อยากจะดิสเครดิต หรือ อวยอะไรใครนะคะ
เรื่องเริ่มจาก ช่วง 5 ปีที่แล้วคะ มีเรื่องที่ทำให้ต้องทุกข์ จนแบบนั่งไม่ติด
ใครบอกหมอดูที่ไหนแม่นไปหมด ใครบอกว่าไหว้พระที่ไหนดี ไปหมดเช่นกัน
อยากรู้ว่ามีทางแก้ไหม ผลลัพธ์จะเป็นยังไง ดีหรือร้าย แล้วจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ทีนี้หลังจากที่เราไปดูหมอดูแล้ว สิ่งที่พบเจอมักจะเป็น ความครอบจักรวาลแบบไม่เมคเซนท์
เช่น เกิดลัคนานี้ ต้องนิสัยเป็นแบบนี้ๆ สิ นึกสภาพนะคะ งั้นคนกดลัคนาเดียวกัน มันจะเหมือนกันหมดหรอ
เป็นไปไม่ได้ ... เกิดวันนี้จะนิสัยแบบนี้ เกิดเดือนนี้จะนิสัยแบบนี้ เกิดปีนี้จะนิสัยแบบนี้ ... บ้าไปแล้ว
หลังจากคิดได้แบบนั้นแล้วก็ ยังไม่เลิกพยายามคะ ก็เริ่มไล่อ่านตามเว็ป ซื้อหนังสือ ต่างๆนาๆ
ซึ่งเรามองว่า ระบบการดูดวงแบบท่องจำเช่น ถ้าดาวเสาร์อยู่ราศีนี้ คนที่เกิดในช่วงนี้จะรวย
เห่ยยย ... ดาวเสาร์นั่งแช่แป้ง อยู่ราศีนี้ตั้ง 2 ปีครึ่ง เป็นไปได้หรอ ที่คนที่เกิดช่วงนี้จะรวยหมด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนเริ่มมาอ่านเรื่อง ดาวเจ้าเรือน ก็เริ่มอ๋อ ... ในชีวิตของเราแต่ละคน มีดาวที่แทนเรื่องต่างๆ
ในแต่ละลัคนาไม่เหมือนกัน และ วันนึงมีตั้ง 12 ลัคนา เพราะฉะนั้น ใน 1 วัน มีคนอย่างน้อย
12 คนที่จะนิสัย ไม่เหมือนกันแน่ๆ โอเคเริ่มเมคเซนท์ เกิดเวลาซ้ำกันเด๊ะ ก็ไปตัดกันที่บุญกรรม
นอกจาก 12 คนนี้ จะนิสัยไม่เหมือนกันแล้ว (ดูจากดาวตนุ ดวงเดียว)
เรื่องอื่นๆ ของ 12 คนนี้ ก็จะไม่เหมือนกันด้วย (ดูจากดาวเจ้าเรือน เรื่องอื่น อีก 11 ตำแหน่ง)
ทีนี้มาดูต่อ แล้วไอวงกลมๆ นี่เอาไว้ทำหอยอะไร แล้วถ้าดาวมันย้ายไปในแต่ละช่องจะเป็นยังไง
จนเราเข้าใจว่า อ๋อ ดาว 1 เรื่องของเรา สามารถเปลี่ยนพฤติกรรม ไปได้ 12 แบบ แล้วเรามีดาว
แทนเรื่องทั้งหมด 12 เรื่อง แปลว่า การที่จะอ่านนิสัยคนๆ นึงได้ทั้งหมด จะต้องรู้ว่า ดาวแต่ละดวง
ไปอยู่ในแต่ละราศี จะมีผลยังไง รวมเป็น 144 แบบ ( * - * ) เอ่อ เริ่มเมคเซนท์ เพราะคนบนโลกมีตั้งเยอะ
เพราะฉะนั้นนิสัยของคน สามารถรันออกมาได้คร่าวๆ ที่ 12 ยกกำลัง 12 = 8,916,100,455,256 แบบ
อ่านไม่ผิดคะเท่านี้จริงๆ การที่มีรูปแบบเยอะขนาดนี้ ถึงจะเมคเซนท์กับ ปริมาณคนบนโลกนี้หน่อย
ทีนี้มันเป็นไปไม่ได้คะ ที่การท่องจำ จะตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้ คาดว่าจะต้องจำกันหัวบานเลยทีเดียว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนเรามาเจอระบบธาตุคะ เข้าใจง่ายและดูเมคเซนท์กว่าชาวบ้าน เหตุผลเพราะ ถ้าแค่ระบบเจ้าเรือน
ชนกับเจ้าเรือน + ดาวเฉยๆ มันจะไม่สามารถ ตอบโจทย์ใน 8 ลัคนาที่มี ตนุเหมือนกันได้
เมษ กับ พิจิก = ตนุ คือ อังคาร 3 เหมือนกัน
พฤษภ กับ ตุลย์ = ตนุ คือ ศุกร์ 6 เหมือนกัน
เมถุน กับ กันย์ = ตนุ คือ พุธ 4 เหมือนกัน
เมถุน กับ กันย์ = ตนุ คือ พุธ 4 เหมือนกัน
8 ลัคนานี้ ถ้าตนุอยู่ที่เดิม (เรียก ตนุ-ตนุ) จะแยกไม่ออกทันที ว่าต่างจากอีกลัคนายังไง
และเราเข้าใจคะว่า ต้องมีคนเถียงเราเรื่องตำแหน่งดาว ซึ่งเราเข้าใจว่า คนที่เป็นคนคิด
คงคิดมาให้คนที่เข้าใจยาก จำง่ายๆ จนไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่ตามมาในภายหลัง
( ณ จุดนี้ ขอยังไม่รวม กุม เล็ง ตรีโกน เบียน นะคะ)
ทีนี้มาดูกันต่อ ว่าทำไมเราถึงไม่เชื่อตำแหน่งดาว เหตุผลเพราะว่า
การที่ คน 12 ลัคนา สมมติว่า ดาวการเงิน อยู่ที่ราศีมกร เหมือนกัน (งกเหมือนกัน)
มันต้องมีความ งกมาก งกกลาง งกน้อย ซึ่งสุดท้ายมันต้อง ไปตัดที่นิสัยของ ตนุ (ตัวตน) อีกที
ตัดที่เรือน ว่างกเรื่องอะไร แบบนี้ถึงจะเมคเซนท์ เพราะฉะนั้นเราเลยไม่ชอบการจำตำแหน่งดาว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และเท่าที่เราพยายามศึกษามาทั้งหมด รวมถึงลงเรียนเรื่องระบบธาตุ
อาจารย์ที่สอนเราสอนว่า การดูดวงเปรียบเสมือน การมองเห็นจุดอ่อน จุดแข็งของเรา จากบุญกรรมที่ทำไว้
ซึ่งเรามองว่า มันเป็นไปตามหลักธรรมชาติ ลองคิดถึงสัตว์ต่างๆ ดูคะ มันแทบไม่มีตัวไหนที่เพอร์เฟค
แต่มันต้องรู้ว่า ตัวเองเก่งอะไร เก่งว่ายน้ำ เก่งวิ่งเร็ว เก่งวิ่งทน หรือ เก่งอำพรางตัว เก่งแบบไหนใช้แบบนั้น
ซึ่งแม้แต่ สมองของคนเรา ก็มี IQ ตั้งหลายด้าน ต่างกันไป ซึ่งหลักการนี้เรามองว่ามันเมคเซนท์มากกว่า
นอกจากนั้น ไม่ว่าการเข้าสังคม การเลือกงาน การมีคู่ การประสบความสำเร็จ เรื่องพวกนี้ครึ่งนึงมันเกิด
จากการกระทำของเราด้วย จะมีที่บังคับไม่ได้ ก็คือเกิดมาในครอบครัวแบบไหนมากกว่า
เคยมีคนมาดูดวงกับเราแล้วถามว่า ชาตินี้เราจะมีแฟนไหมคะ แต่นางแบบดูกินเก่ง มองลบ ไม่ค่อยแต่งตัว
เราก็นึกในใจ ถึงดวงจะมีแฟน แต่ก็คงได้แฟนที่เกรดไม่ดีเท่าไหร่ ผู้ชายที่ไหนจะชอบแบบนี้
เพราะฉะนั้นแล้ว แม่นไม่แม่น ขึ้นอยู่กับคุณแน่ๆ 50% ขึ้นอยู่กับคนอื่นอีก 50%
ถ้าทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว มันจะไม่ได้ มันจะไม่รวย ก็ไม่ต้องเสียใจไปคะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับคนที่กำลังศึกษาใหม่ เราแยกสายให้เป็นแบบนี้นะคะ
สายแรก - เรือนชนเรือน + นิสัยดาว + ตำแหน่งดาว
สายที่สอง - เรือนชนเรือน + นิสัยดาว + ธาตุ <<< ส่วนตัวชอบแบบนี้คะ เพราะเมคเซนท์กว่า
ป.ล. เราไม่ได้รับดูดวงนะคะ คือเราตั้งใจเรียนมาเพื่อดูให้ตัวเองและครอบครัว
กับวางแผนการเกิดของลูกเฉยๆคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ