สวัสดีครับชาวพันทิป ผมขอยืมล็อกอินของน้องเค้ามา พอดีผมยังไม่ได้สมัคร ผมตั้งกระทู้นี้ครั้งแรก ถ้าผมเขียนไม่ค่อยเรียบเรียงประโยค คำพูดไม่สุภาพต้องขอโทษด้วยครับ ผมจะมาเล่าเรื่องจริงของผมที่เกิดขึ้นในอดีต ให้ได้อ่านเพื่อเป็นแง่คิดมุมต่างๆให้หลายคนได้เอาไปปรับใช้ในชีวิต เข้าเรื่องกันเลยครับ ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ร้านหนังสือในบิ๊กซี จังหวัดนครศรีฯ เธอชื่อ พลอย(นามสมมุตินะครับ ไม่อยากให้กระทบเธอในปัจจุบัน) บ้านของพลอยฐานะค่อนข้างดี ส่วนบ้านผมร่อนแร่ กำลังจะโดนยึดและพ่อแม่กำลังจะล้มละลาย พลอยเรียนอยู่คณะแพทย์ศาสตร์ชั้นปี 1 ของมหาวิทยาลัยแห่ง ส่วนผมเรียนอยู่คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 1 เราทั้ง 2 คนพัฒนาความสัมพันธ์จนมาเป็นแฟนกันและหลังจากนั้นผมออกจากการเรียนมหาลัยวิทยาลัยรามคำแหง มาช่วยที่บ้านทำธุรกิจ แต่ผมก็ซุ่มอ่านหนังสือ ขึ้นไปสอบเป็นบางครั้งเวลาว่าง(มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยลัยเปิด สามารถอ่านหนังสือไปสอบได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน) จนผมคบกับพลอยได้ 1ปี ที่บ้านของพลอยก็บอกให้พลอยเลิกคบ โดยให้เหตุผลว่า ผมไม่มีการศึกษา แม่พลอยอยากให้พลอยคบกับคนเรียนคณะเดียวกับพลอย หลังจากนั้นผมกับพลอยก็แอบคบกันมาเรื่อยๆ ดูแลเอาใจใส่เป็นกำลังใจให้พลอย คอยปลอบใจไม่ให้พลอยลาออก เพราะพลอยบ่นกับผมตลอดว่าไม่ไหว เรียนหนัก อธิบายกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจ บ่นกับที่บ้านใครก็ไม่ใครรับฟัง จนพลอยเรียนจบได้เป็นหมอ พลอยพาผมมาที่บ้านของพลอย แต่ดูท่าทางแม่พลอยไม่ค่อยพอใจผมเท่าไหร่ ผมคบกับพลอยต่อเป็นที่ 7 ผมไปบ้านพลอยไม่ถึงสิบครั้ง เพราะที่บ้านพลอยไม่ค่อยเปิดโอกาสเรื่องแบบนี้ ผมมาบ้านพลอยรอบนี้ แม่ของพลอยก็เรียกผมไปคุยและบอกว่าให้ผมหางานที่มั่นคง ให้เล่าเรื่องที่บ้านเป็นยังไง ผมก็เล่าทุกอย่าง แบบไม่โกหก ว่าบ้านผมกำลังล้มละลาย พอผมกลับไปบ้าน ผมก็ไปปรึกษากับพอแม่ว่าผมจะสอบนายสิบ ผมทุ่มเทเวลาอ่านหนังสือเป็นเวลาสี่เดือนเต็ม จนผมสอบติดและฝึกอบรมจนจบ และผมได้เลือกบรรจุลงในพื้นที่สีแดงของสามจังหวัดชายแดนภายใต้ ซึ่งห่างจากบ้านพลอยประมาณ 300 กม.โดนผมจะได้เบี้ยเลี้ยงและค่าเงินเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้น เพราะผมต้องมีภาระส่งน้องเรียนมหาวิทยาลัยอีกหนึ่งคน ผมทำงานได้ปีกว่า บ้านผมก็ล้มละลาย บ้านโดนยึด แม่กับพ่อผมต้องหนีหนี้ไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด ผมต้องใช้หอพักน้องเป็นบ้านแทน แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องซื้อรถเพราะผมทำงานพี้นที่นี้ ถ้าไม่มีรถส่วนตัวจะอันตรายและลำบากมาก ผมเลยไปบอกพลอยว่าผมจะซื้อรถ พลอยก็เสนอว่าให้ชื่อในชื่อพลอย เพราะซื้อในนามหมอดอกเบี้ยมันต่ำ หลังจากผมออกรถมาได้สักเดือนนึง แม่พลอยก็ทราบเรื่อง เรียกผมไปคุยว่าเกาะผู้หญิงกิน ผมก็อธิบาย แม่พลอยก็ไม่เข้าใจ และให้ผมหาเงินไปปิดยอดรถและให้โอนเป็นชื่อของผม (ตอนนั้นคิดในใจเงินเยอะแบบนี้จะหามาจากไหน) ผมก็เลยไปกู้เงินจากต้นสังกัดมา โดนดอกเบี้ยที่กู้ห้าแสนกว่าบาท ผ่อนเป็นสิบกว่าปี ทั้งๆที่รถ ดอกเบี้ยไม่ถึงห้าหมื่น ผ่อนแค่ห้าปี จนในที่สุดผมก็ได้รถมาเป็นชื่อผมเอง และผมก็จำใจต้องขายรถ เพราะต้องใช้หนี้นอกระบบให้พ่อกับแม่ และให้ค่าเทอมน้อง ตอนนั้นเงินเดือนผมเหลือแค่สามพันกว่าบาท อยู่มาอีกประมาณสามเดือนแม่พลอยก็โทรหาผม บอกว่ามีธุระด่วน ให้รีบมา ในใจผมคิดว่าเป็นเรื่องดีแน่ เพราะผมกับพลอยคบกันมานาน เค้าคงเรียกผมไปคุยเรื่องแต่งงานแน่ ผมนั่งรถตู้โดยสาร ไป 300 กม. พอถึง ผมรีบเดินจากปากซอยเข้าไปในบ้านพลอย ผมเห็นญาติพลอยอยู่หลายคนรวมถึงมีผุ้ชายแต่งชุดนายร้อยและพ่อแม่ฝ่ายผู้ชาย แม่พลอยก็พูดกับผมว่า ให้เลิกคบกับพลอย และว่าผม ไม่มีทางดูแลลูกเค้าให้สบายได้ บ้านก็ไม่มีจะอยู่ จบแค่ ม.6 ผมกับพลอยก็ร้องไห้ตรงนั้น ผมยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี และแม่พลอยก็ให้พลอยเลือกว่าจะเลือกครอบครัวและญาติพี่น้องหรือจะเลือกผม สุดท้ายพลอยก็ต้องเลือกที่บ้านด้วยความจำใจ ผมเดินกลับไปปากซอยร้องไห้ไป ฝนตกโปรยปรานเบาๆ เพื่อไปขึ้นรถตู้กลับมาทำงาน หลังจากวันนี้นผมไม่ได้ติดต่อกับพลอยอีกเลย ผมมาทำได้หนึ่งเดือน ก็มีข่าวดีเล็กๆกับผม ผลสอบสองเล่มสุดท้ายของรามคำแหงออก ผมสอบผ่าน ทำให้ผมจบคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยคำแหง (อาจจะเรียนหลายปีแต่ดีกว่าไม่จบ) ในคืนวันนั้นผมก็มานอนคิดว่าถ้าผมยังเป็นอย่างนี้ เงินเดือนผมคงไม่พอใช้ ผมจะไปหางานใหม่อาจจะดีกว่านี้ วันรุ่งขี้นผมไปลาออกจากข้าราชการนายสิบ มีแต่ญาติ พ่อ แม่ ผมว่าผมบ้า มีงานทำอยู่แล้วลาออกทำไม(ไม่อารมณ์ตอนนั้นไม่มีใครเข้าใจแน่555) ผมว่างงานอยู่หนี่งเดือน ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนสมัยเรียน ม.ปลาย ทำงานอยู่จังหวัดภูเก็ต ชวนผมไปทำงานอสังหาริมทรัพย์และเล่นหุ้น เพราะเห็นว่าผมมีความรู้ด้านกฏหมาย เวลาผ่านไป สิบปี ผมไม่ได้ติดต่อกับพลอยเลย และผมประสบความสำเร็จในธุรกิจ ผมมีเงินหลักร้อยกว่าล้าน ผมได้มีแฟนใหม่ ชื่อหมวย เป็นเจ้าของลูกสาวร้านทองเล็กๆ มีลูกด้วยกันหนึ่งคน อีกคนหนึ่งอยู่ในท้อง ตอนผมคบกับหมวยใหม่ๆ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผมยังเป็นแค่คนเดินเอกสาร ร่วมสุขและทุกข์มาด้วยกันกับหมวย ฟ่าฟันจนพ่อแม่หมวยยอมรับผม พ่อแม่ของหมวยเป็นคนเชื้อสายจีน คงเห็นว่าผมเป็นคนดี ให้ผมแต่งงานกับหมวย เชื่อไหม ผมจัดงานแต่งงานไม่ถึงสองแสน แบบเล็กๆ เรียบง่าย อยุ่มาวันหนึ่งโลกนี้มันแคบมาก (ชีวิตมนุษย์ก็แสนสั้นมาก สองหมื่นกว่าวันจริงๆบนโลกนี้) ผมบังเอิญเจอกับพลอยและแม่พลอยที่โรงพยาบาล แววตาแรกที่ผมมองพลอย ผมยังรัก เป็นห่วง และเข้าใจเค้ามาตลอดกับการตัดสินใจจำใจของเค้าในวันนี้ ผมก็สวัสดีแม่กับพลอยและผมก็ชวนไปนั่งร้านกาแฟ ระหว่างรอหมวยหาหมอเพื่อตรวจครรถ์ นั่งกินกาแฟได้สักพัก แม่พลอยก็น้ำตาไหลออกมา และจับมือผม บอกว่าวันนั้นแม่ขอโทษจริงๆ แม่อยากให้พลอยสบาย เลยเลือกคนที่มีฐานะ โดนไม่สนใจเรื่องของความรักของเราทั้งสองเลย ผมก็ตอบว่าไม่เป็นอะไรผมลืมมันไปหมดแล้ว แล้วผมก็หันไปคุยพลอย ถามว่าเป็นไงบ้างสบายดีไหม เด็กคนที่นั่งข้างๆลูกพลอยกับนายร้อยนั้นใช่ไหม พลอยตอบว่าใช่ ผมถามต่อว่า แล้วมาโรงพยาบาลทำอะไร พลอยตอบว่าเค้าแท้งลูก เพราะโดนนายร้อยทำร้ายร่างกาย พลอยก็เล่าต่อว่า หลังจากเลิกกันวันนั้น ไม่กี่เดือนที่บ้านก็จัดงานแต่งงานให้ใหญ่โตกับนายร้อยนั้น พออยู่ด้วยกันแล้วมันไม่ใช่ นายร้อยนั้นพาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้าน ตอนพลอยเข้าเวร จับได้ก็ทะเลาะโดนทำร้ายร่างกาย นำทรัพย์สินที่บ้านพลอยไปขาย เพื่อ เที่ยวและเล่นการพนัน ผมก็ถามต่อว่า เลิกกันยัง พลอยตอบว่าเลิกกันแล้ว พลอยต้องดูแลลูกคนเดียว ซึ่งตอนนี้ สถานการณ์ที่บ้านไม่ค่อยดี เค้าหลอกให้พลอยกู้เงินเกือบสิบล้าน พลอยต้องรับภาระคนเดียว ผมเลยพูดปลอบไปว่าไม่เป็นอะไรนะ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น สู้ๆนะ และมองหน้าลูกพลอย (แล้วคิดในใจว่าจริงๆเด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกผมกับพลอยนะ) ในตอนนั้นหมวยก็ออกจากห้องตรวจมาพอดี และมาที่ร้านกาแฟ ผมก็แนะนำให้พลอยและแม่พลอยรู้จักกับหมวย และผมกับหมวยก็ขอตัวกลับก่อน แต่พอผมเดินกลับ เด็กน้อยคนนั้นพูดว่า น้าจะกลับแล้วหรอครับ ผมอยากได้ของเล่น ซื้อให้ผมหน่อยนะครับ ตามภาษาเด็ก ผมก็หันไปคุยกับ หมวยปรึกษากัน แล้วผมก็เซ็นเช็คหนึ่งล้านบาท ยื่นให้เด็กน้อยนั้น และกระซิบบอกว่า เอาไปให้แม่นะ แล้วหนูจะมีของเล่นใหม่ หลังจากนั้นผมกลับมาบ้าน บ้านผมอยู่ติดริมทะเล ผมก็มานั่งเงียบๆคนเดี่ยวริมทะเล และโยนหินลงไปในทะเลถามว่า ความรักกับเงินอะไรสำคัญกว่า จนมีเสียงกระซิบเป็นความรู้สึกให้ผมว่า ความรักคือ การร่วมสุขและทุกข์ในเวลาเดียวกัน เข้าใจ ให้อภัย ไม่ทิ้งกัน ส่วนเงินก็แค่สิ่งอำนวยความสะดวกในความรักแต่ไม่ใช่ความรัก ถ้าคุณรักใครที่เงินทอง สักวันหนึ่งคนนั้น พลาดหรือไม่มีเงินทองให้คุณ คุณจะมีความรู้สึก ไม่มีความสุข
คุณว่าความรักกับเงินอะไรสำคัญกว่ากัน