[CR] กัวลาลัมเปอร์ ไม่ต้องเดินเพ้อเพียงลำพัง....... @ KUALA LUMPUR - MALAYSIA

กัวลาลัมเปอร์ ไม่ต้องเดินเพ้อเพียงลำพัง.......

ครั้งนี้เราสองคนไปเที่ยวกันแบบ 3วัน 2คืน

วันที่ 1:: กรุงเทพฯ - กัวลาฯ - National Palace - China Town - Masjid Jamek - Merdeka Square - Petronas Twin Towers
**วันนี้หมีโดนโขมย GoPro5 T^T ทำให้เราไม่มีภาพมุมกว้างมาให้เพื่อนๆได้ดูกัน และทำให้เราต้องไปขึ้นโรงพักต่างประเทศครั้งแรก เลยทำให้แพลนการไปถ่ายรูปตึกแฝดในวันแรกไม่สมบูรณ์

วันที่ 2:: กัวลาฯ - พุตราจายา - มัสยิดสีชมพู - เดินชมเมือง - มัสยิดสีเงิน - กัวลาฯ - ตึกแฝด - ตลาดของกิน TAPAK

วันที่ 3:: Pavillion - กรุงเทพฯ

โดยเราจองทั้งตั๋วเครื่องบิน และโรงแรมผ่าน EXPEDIA
ได้คนละ 5,000 บาทเท่านั้น!!!
(ยังไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางนะ ทั้งหมดตกอยู่ประมาณคนละ 7,000 บาท)

ได้นั่งสายการบิน
Malaysia Airline (แอบเสียวๆหายไปกลางทางเหมือนกัน 5555555+)

และได้พักที่โรงแรม
Hilton Petaling Jaya

------------------------------------------------------

โดยการทำรีวิวของหมีหมูรอบนี้
ขอแบ่ง เป็น 2 สถานที่

- กัวลาลัมเปอร์
- พุตราจายา

------------------------------------------------------

สำหรับการเดินทางในตัวเมืองของ KL นั้น
หมีหมูแนะนำว่า หากใครมีบัตรเครดิต ก็ผูกค่าใช้จ่ายไว้กับ
App UBER เลย เพราะราคาค่าโดยสารนั้นถูกมาก

โดยการเดินทางส่วนใหญ่เราจะใช้บริการ Uber ผสมผสาน
ไปกับรถไฟฟ้าในตัวเมือง และรถไฟระหว่างเมือง

ลองมาดูกันนะ ว่าเราไปไหนกันมาบ้าง

#theplanners
#เที่ยวนอกแพลน


ภาพสวยๆนี้ถ่ายที่ Merdeka Square ครับ


เริ่มวันแรก
เราสองคนก็เกือบตกเครื่องเลยครับ เพราะเล่นตื่นสายด้วยกันทั้งคู่ อุส่าห์จองไฟล์ทเช้าสุด เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเต็มวัน โดยรอบเวลาคือออกจากกรุงเทพ 06:00 น. และเราต้องไปถึงสนามบิน 04:00 น. แต่เราสองคนเล่นนอนเพลินกันถึง 03:30 น. เกือบไปไม่ทันนนนน


เมื่อเดินทางมาถึง KLIA (Luala Lumpue International Airport)

เราจะมีทางเลือกในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง KL อยู่หลากหลายเส้นทางครับ

1. นั่ง KLIA Express ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูง ราคาน่าจะอยู่ประมาณคนละ 30 กว่าๆ ริงกิต
2. นั่ง KL SENTRAL BUS อันนี้เป็นรถบัสเข้าเมือง ซึ่งใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานครับ น่าจะราวๆ 1 ชม. ได้ แต่ค่าโดยสารถูกมาก คนละ 10 ริงกิต เท่านั้น

และ

3. เรียก Taxi หรือ Uber เข้าเมือง แต่ค่าโดยสารจะประมาณ 100 ริงกิต ซึ่งถ้าเกิดมีเพื่อนไปเป็นแก๊งสัก 4 คน และสัมภาระไม่เยอะ น่าจะเป็นทางเลือกที่สมดุลระหว่างเวลา และค่าโดยสารครับ

แต่เราไปกันสองคน และอยากจะลองนั่งรถโดยสารหลายๆแบบ บวกกับวันแรกเราไม่ได้รีบมากมาย เลยลองนั่งรถบัสไปละกันเนอะ^^


นี่ หน้าตาตั๋วจะเป็นแบบนี้ ซึ่งรถที่นี่ออกตรงเวลานะครับ เพื่อนๆคนไหนอยากหาอะไรกินก่อน อาจต้องคอยดูเวลากันหน่อย

ปล. ห้ามนำอาหาร และน้ำชนิดอื่นนอกจากน้ำเปล่า ขึ้นรถไปด้วยนะครับ


เมื่อเดินทางมาถึง KL Sentral ซึ่งเป็นศูนย์กลางรถสาธารณะทุกชนิดของ KL

เราก็วางแผนจะเอากระเป๋ากลับไปเก็บที่โรงแรมก่อนจะออกไปซ่ากัน

เลยเลือกนั่ง รถไฟฟ้า ในเมืองครับ

ค่าโดยสารจาก Sentral ไปสถานีที่ใกล้ๆโรงแรมเราก็ไม่แพงนะครับ

คนละ 2.50 ริงกิต เท่านั้นเอง


นี่ ได้เหรียญมาแล้ว


อันนี้เป็นสภาพโรงแรมเราครับ

Comment!!

สำหรับใครที่อยากมาพักที่ Hilton Petaling Jaya เดินจากรถไฟฟ้าค่อนข้างไกลนะครับ หากมีสัมภาระลากมาด้วย

แต่ทางโรงแรมมี Shutter Bus ไปที่สถานีให้ครับ แต่มีเป็นรอบเวลาๆไป ส่วนห้องพักนั้น ดีมากครับ กว้างขวาง ไลน์อาหารเช้าก็ดีมาก และยังมี Fitness กับสระว่ายน้ำอีกด้วย


ได้เวลาออกซิ่ง

เราก็โบก Uber ไปลุยกันที่ National Palace เลย
ซึ่งเรา..........

เข้า

ไม่

ได้.........

5555555555++ นี่เป็นข้อเสียที่ไม่ทำการบ้านให้ดีครับ
แต่ก็ถือว่าได้มาเดินเล่นนิดนึง

ปล. หากใครไม่ได้มีจุดมุ่งหมายจะไปดู จริงๆหมีว่าไม่จำเป็นต้องไปก็ได้นะครับ เพราะเราจะได้ยืนส่องแค่จากริมรั้วเท่านั้นเอง ภาพที่เห็นนี่คือหมีต้องสอดเลนส์กล้องผ่านรั้วเพื่อไปถ่ายตัว Palace แบบไม่มีสิ่งกีดขวาง

ปล2. ถามพี่ Uber ขากลับมา เขาบอกว่าเป็นสถานที่พักของผู้นำสุลต่านในมาเลครับ (ข้อมูลผิดพลาดประการใด ฝากเพื่อนๆแชร์ที่ถูกต้องด้วยน้า)


ก่อนเราจะไปบุกตะลุย China Town เราก็ไปแวะร้านคาเฟ่แบบตามรีวิวมาที่ Merchant's Lane Cafe

บรรยากาศร้านน่ารักมากครับ
ที่นี่เหมือนนำบ้านเก่าทั้งหลังมาดัดแปลงให้เป็นคาเฟ่สไตล์วินเทจ

โดยการคืนที่ชั้นสองของร้านจะเปิดเป็บาร์ด้วยน้าาาาา


Petaling Street ข้างหน้าเรานี้ก็คือ China Town ของ KL นั่นเองครับ


ก่อนเข้าไปเดินเล่นเราก็ไปเจอกับร้านที่ขายของหวานหน้าตาคล้าย เฉาก๊วย บ้านเรา

เราเลยแวะเจิมซะหน่อย เพราะหมีชอบกินเฉาก๊วยมากเลย

ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเจลี่สมุนไพรนี่เอง รสชาติจะออกขมๆหน่อยครับ แต่ก็มีน้ำเชื่อมมาให้สำหรับคนที่กินขมไม่ไหว

โดยบรรยากาศเป็นร้านเหมือนร้านขายยาจีนโบราณ แต่นำมาดัดแปลงเป็นของกินหลากหลายรูปแบบ

ถ้วยนี้ราคา 9 ริงกิต เท่านั้น
ถือว่าน่าลองๆ


หลังจากเดินเล่นสักพักเราก็มาเจอร้านที่ เจ้าหมู บอกว่าเป็นอาหารหน้าตาเหมือนอาหารใต้บ้านเรา

(เจ้าหมู จริงๆแล้วเป็นสาวใต้นะเออออออออ)

เราเลยลองแวะชิมสักนิด


นี่อาหารชนิดนี้เรียกว่า Nasi น่าจะแปลว่าข้าว
ซึ่งเลือกได้หลายแบบ อันนี้เป็นข้าวผัดซอส กับไก่ทอด ราคาทั้งจาน 8 ริงกิต เท่านั้นเอง


หลังจากนี้เราก็เดินเล่นกันแล้วครับ

และก็เป็นช่วงเวลาที่ GoPro ของเราโดนโขมยไปด้วย T^T
เพื่อนๆที่จะไปเที่ยวมาเลฯก็ระวังๆกันด้วยน้าาาาาา


อ่ะๆ หวานๆรูปนึงละกัน ปลอบใจกล้องหาย T^T


Masjid Jamek ครับ


ระหว่างเดินไป Merdeka Square เราก็เจอมุมที่ถ่ายย้อนกลับไปเห็น KL Tower ที่เป็นจุดชมวิวจากหอคอย แต่เราสองคนไม่ได้ไปกันนะครับ


นี่เป็นสะพานข้ามไป Merdeka Square หากใครไปช่วงเย็นจะเปิดไฟ สวยงามมาก


นี่คือ Merdeka Square จ้าาาาาา



ระหว่างเดินไป Petronas เราก็มาเจอมุมที่มองเห็นตึกแฝดผ่านตัวเมืองด้วยยย

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรารู้ตัวว่ากล้องหาย เลยไปสถานีตำรวจครับ
ทำให้วันนี้อดไปถ่ายรูป Petronas ตอนกลางคืน ทำให้เราต้องเปลี่ยนวันมาถ่ายกันเป็นรุ่งขึ้นแทน


พอเรากลับมาจาก พุตราจายา ในวันที่ 2 เราก็มาลุยที่ Petronas กันตั้งแต่ 6 โมงเย็น เพื่อรอเวลาถ่ายตอนค่ำๆเลยครับ


มุมสวยๆนี้อยู่ใน KL Garden หากใครเคยลองเปิดภาพ Petronas จะเจอส่วนมากที่เป็นมุมด้านหน้าของตึกแฝด หมี แนะนำว่าให้อดทนเดินเลยมาสวนด้านหลังครับ ไม่ค่อยมีคนและสวยมากเลย


อันนี้เป็นมุมยอดฮิตของ ตึกแฝด ครับ หากใครจะถ่ายมุมนี้ต้องมีเลนส์กว้างนิดนึงนะ หรือไม่ก็ซื้อ Fisheye ติดกล้องมือถือมาด้วยครับ


นอกจากมุมสวยๆของตึกแฝดที่สวนด้านหลังแล้ว หากใครรอเวลาถึง 20:00 น. เขาจะมีโชว์แสงสีจากน้ำพุด้วยครับ

เจ้าหมูชอบมากๆเลย


นี่เป็นมุมตึกแฝดจากสวนด้านหลังของตึกแฝดครับ


Tapak เป็น Night Street Market ที่รวม Food Truck ไว้ค่อนข้างเยอะ สามารถเดินมาจากตึกแฝดได้ ประมาณ 10 นาที



วันสุดท้ายเรามีเวลาไม่เยอะ เลยมาเดินเล่นที่ Pavilion เฉยๆครับ
ซึ่งไม่ค่อยมีมุมให้ถ่ายรูปเท่าไร


งือออออ มีเด็กไม่อยากกลับบ้าน

โดยสรุปของการมากัวลาลัมเปอร์จากหมีหมู

จริงๆแล้ว กัวลาฯ เป็นเมืองที่ไม่ได้มีอะไรมากสำหรับเรา (หรือเราหาไม่เจอก็ไม่รู้) และเราอาจจะเจอเหคุการณ์ไม่ประทับใจจากการโดนโขมยกล้องด้วย

แต่อีกแง่มุมนึงคือค่าครองชีพที่สูงกว่าบ้านเรานิดหน่อย ทำให้เป็นเมืองที่ต้องลองมาเที่ยวดูสักครั้งครับ

สรุปสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจและไปถ่ายรูปใน KL
- Petronas Twin Tower
- Merdeka Square
- KL Tower
- China Town
- Masjid Jamek

ยังไงหากเพื่อนๆคนไหน มีสถานที่แปลกๆ น่าสนใจก็มาแนะนำกันได้นะครับ

ครั้งนี้เราสองคนหาข้อมูลกันน้อยเองด้วย ต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยน้าาาาา

รอติดตามรีวิวของ Putrajaya กันได้เร็วๆนี้นะครับ^^

เราสนับสนุนให้ทุกคนออกไปเที่ยว

https://www.facebook.com/pg/theplannersbytsst/posts/

#theplanners
#เที่ยวนอกแพลน
ชื่อสินค้า:   Kuala Lumpur
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่