ปกติเราทำศัลย์ ทีละอย่างแล้วเว้นไปเป็นปีเพราะปกติเราทำศัลย์ ทีละอย่างแล้วเว้นไปเป็นปีเพราะกลัวเจ็บ อันนี้เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก ทำทีเดียวรวด คาง เพราะเราถ่ายรูปมาหน้าเหลี่ยม ไม่มั่นใจ ส่วนจมูกเคยทำเมื่อ 9 ปีก่อน กับที่อื่นแล้วเบี้ยว และเราก็ตัดผปีก ลางาน 4 วัน รวมเสาร์อาทิตย์ตอนแรกคิดว่าจะบวมเขียวเหมือนที่เคยเป็นหน้าสิงโต พอครั้งนี้ทำใจ แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เขียวนิดนึงใต้ตาสองวันแรก บวมนะแต่นิดนึงพอวันที่สามเริ่มยุบ จมูกไม่เจ็บเลย มันตึงๆ คางประคบเย็นช่วยได้ เจ็บวันแรกเองพอพ้นคืนแรกไปก็ค่อยๆดีขึ้น แต่เราก็กินยาประคบเย็นและหลีกเลี่ยงอาหารแสลง แอลกอฮอล์ไม่แตะเลย ถือว่าฟื้นตัวเร็ว การนอนหมอนสูงสำคัญนะเราว่าเพราะมันทำให้ไม่บวมมาก
เราได้เข้าเฝือก สองอาทิตย์แห่งความอดทนเพราะมันจะคันๆนะ หน้าเรามันด้วยมีเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเบาๆ ถามว่าตอนนี้เป็นไงบ้างผ่านมา 1 เดือน หน้าเปลี่ยนเห็นชัดเวลาถ่ายรูปสมัยก่อนกว่าจะลงรูปได้ใช้แอพบีบหน้าอยู่นาน จมูกโด่งกว่าเดิมนิดนึง พอตัดปีกช่วยทำให้หน้ามีมิติ ขึ้นแต่เราเอาออกไม่เยอะนะ กลัวรูจมูกไม่สวย เราว่าการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโดยเฉพาะทำทีเดียวรวดไม่ยากไม่โหดขนาดนั่น คือเราทำเยอะเพราะลางานทีเดียวบวมทีเดียวกินยาทีเดียวประคบดูแลรักษารวดเดียวเลย ดูแลอดทนแค่อาทิตย์แรก และที่สำคัญห้ามส่องกระจกแล้วนอยด์ว่าบวมใหญ่เบี้ยวรึเปล่ามันยังคัดสินไม่ได้เพราะการยุบบวมยังไม่หมดต้องอย่างน้อยเป็นเดือน บวมแต่ละข้างอาจไม่เท่ากัน 3-6 เดือนด้วยซ้ำ ช่วง 6 เดือนแรกก็ ห้ามกระแทกอย่าไปจับมันเยอะ ไหมละลายของเราต้องเดือนกว่าถึงจะละลายนะ สำหรับเรายึดคติว่า ทำบุญสวยชาติหน้าทำหน้าสวยชาตินี้ 55555 ต้องยอมรับว่าคนเรามักตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก 1 วินาทีแรก แล้วแต่ทัศนคติของคนเนอะ ทีเหลือจากนี้เราก็มีการดูแลผิว ให้หน้าเนียนสว่างประมานนี้แหละค่ะ พอใจแล้ว ^_^กลัวเจ็บ อันนี้เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก ทำทีเดียวรวด คาง เพราะเราถ่ายรูปมาหน้าเหลี่ยม ไม่มั่นใจ ส่วนจมูกเคยทำเมื่อ 9 ปีก่อน กับที่อื่นแล้วเบี้ยว และเราก็ตัดผปีก ลางาน 4 วัน รวมเสาร์อาทิตย์ตอนแรกคิดว่าจะบวมเขียวเหมือนที่เคยเป็นหน้าสิงโต พอครั้งนี้ทำใจ แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เขียวนิดนึงใต้ตาสองวันแรก บวมนะแต่นิดนึงพอวันที่สามเริ่มยุบ จมูกไม่เจ็บเลย มันตึงๆ คางประคบเย็นช่วยได้ เจ็บวันแรกเองพอพ้นคืนแรกไปก็ค่อยๆดีขึ้น แต่เราก็กินยาประคบเย็นและหลีกเลี่ยงอาหารแสลง แอลกอฮอล์ไม่แตะเลย ถือว่าฟื้นตัวเร็ว การนอนหมอนสูงสำคัญนะเราว่าเพราะมันทำให้ไม่บวมมาก
เราได้เข้าเฝือก สองอาทิตย์แห่งความอดทนเพราะมันจะคันๆนะ หน้าเรามันด้วยมีเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเบาๆ ถามว่าตอนนี้เป็นไงบ้างผ่านมา 1 เดือน หน้าเปลี่ยนเห็นชัดเวลาถ่ายรูปสมัยก่อนกว่าจะลงรูปได้ใช้แอพบีบหน้าอยู่นาน จมูกโด่งกว่าเดิมนิดนึง พอตัดปีกช่วยทำให้หน้ามีมิติ ขึ้นแต่เราเอาออกไม่เยอะนะ กลัวรูจมูกไม่สวย เราว่าการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโดยเฉพาะทำทีเดียวรวดไม่ยากไม่โหดขนาดนั่น คือเราทำเยอะเพราะลางานทีเดียวบวมทีเดียวกินยาทีเดียวประคบดูแลรักษารวดเดียวเลย ดูแลอดทนแค่อาทิตย์แรก และที่สำคัญห้ามส่องกระจกแล้วนอยด์ว่าบวมใหญ่เบี้ยวรึเปล่ามันยังคัดสินไม่ได้เพราะการยุบบวมยังไม่หมดต้องอย่างน้อยเป็นเดือน บวมแต่ละข้างอาจไม่เท่ากัน 3-6 เดือนด้วยซ้ำ ช่วง 6 เดือนแรกก็ ห้ามกระแทกอย่าไปจับมันเยอะ ไหมละลายของเราต้องเดือนกว่าถึงจะละลายนะ สำหรับเรายึดคติว่า ทำบุญสวยชาติหน้าทำหน้าสวยชาตินี้ 55555 ต้องยอมรับว่าคนเรามักตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก 1 วินาทีแรก แล้วแต่ทัศนคติของคนเนอะ ทีเหลือจากนี้เราก็มีการดูแลผิว ให้หน้าเนียนสว่างประมานนี้แหละค่ะ พอใจแล้ว ^_^
[CR] ไปเสริมจมูก+ตัดปีกจมูก+เสริมคางมาค่ะ
เราได้เข้าเฝือก สองอาทิตย์แห่งความอดทนเพราะมันจะคันๆนะ หน้าเรามันด้วยมีเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเบาๆ ถามว่าตอนนี้เป็นไงบ้างผ่านมา 1 เดือน หน้าเปลี่ยนเห็นชัดเวลาถ่ายรูปสมัยก่อนกว่าจะลงรูปได้ใช้แอพบีบหน้าอยู่นาน จมูกโด่งกว่าเดิมนิดนึง พอตัดปีกช่วยทำให้หน้ามีมิติ ขึ้นแต่เราเอาออกไม่เยอะนะ กลัวรูจมูกไม่สวย เราว่าการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโดยเฉพาะทำทีเดียวรวดไม่ยากไม่โหดขนาดนั่น คือเราทำเยอะเพราะลางานทีเดียวบวมทีเดียวกินยาทีเดียวประคบดูแลรักษารวดเดียวเลย ดูแลอดทนแค่อาทิตย์แรก และที่สำคัญห้ามส่องกระจกแล้วนอยด์ว่าบวมใหญ่เบี้ยวรึเปล่ามันยังคัดสินไม่ได้เพราะการยุบบวมยังไม่หมดต้องอย่างน้อยเป็นเดือน บวมแต่ละข้างอาจไม่เท่ากัน 3-6 เดือนด้วยซ้ำ ช่วง 6 เดือนแรกก็ ห้ามกระแทกอย่าไปจับมันเยอะ ไหมละลายของเราต้องเดือนกว่าถึงจะละลายนะ สำหรับเรายึดคติว่า ทำบุญสวยชาติหน้าทำหน้าสวยชาตินี้ 55555 ต้องยอมรับว่าคนเรามักตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก 1 วินาทีแรก แล้วแต่ทัศนคติของคนเนอะ ทีเหลือจากนี้เราก็มีการดูแลผิว ให้หน้าเนียนสว่างประมานนี้แหละค่ะ พอใจแล้ว ^_^กลัวเจ็บ อันนี้เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก ทำทีเดียวรวด คาง เพราะเราถ่ายรูปมาหน้าเหลี่ยม ไม่มั่นใจ ส่วนจมูกเคยทำเมื่อ 9 ปีก่อน กับที่อื่นแล้วเบี้ยว และเราก็ตัดผปีก ลางาน 4 วัน รวมเสาร์อาทิตย์ตอนแรกคิดว่าจะบวมเขียวเหมือนที่เคยเป็นหน้าสิงโต พอครั้งนี้ทำใจ แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เขียวนิดนึงใต้ตาสองวันแรก บวมนะแต่นิดนึงพอวันที่สามเริ่มยุบ จมูกไม่เจ็บเลย มันตึงๆ คางประคบเย็นช่วยได้ เจ็บวันแรกเองพอพ้นคืนแรกไปก็ค่อยๆดีขึ้น แต่เราก็กินยาประคบเย็นและหลีกเลี่ยงอาหารแสลง แอลกอฮอล์ไม่แตะเลย ถือว่าฟื้นตัวเร็ว การนอนหมอนสูงสำคัญนะเราว่าเพราะมันทำให้ไม่บวมมาก
เราได้เข้าเฝือก สองอาทิตย์แห่งความอดทนเพราะมันจะคันๆนะ หน้าเรามันด้วยมีเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเบาๆ ถามว่าตอนนี้เป็นไงบ้างผ่านมา 1 เดือน หน้าเปลี่ยนเห็นชัดเวลาถ่ายรูปสมัยก่อนกว่าจะลงรูปได้ใช้แอพบีบหน้าอยู่นาน จมูกโด่งกว่าเดิมนิดนึง พอตัดปีกช่วยทำให้หน้ามีมิติ ขึ้นแต่เราเอาออกไม่เยอะนะ กลัวรูจมูกไม่สวย เราว่าการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโดยเฉพาะทำทีเดียวรวดไม่ยากไม่โหดขนาดนั่น คือเราทำเยอะเพราะลางานทีเดียวบวมทีเดียวกินยาทีเดียวประคบดูแลรักษารวดเดียวเลย ดูแลอดทนแค่อาทิตย์แรก และที่สำคัญห้ามส่องกระจกแล้วนอยด์ว่าบวมใหญ่เบี้ยวรึเปล่ามันยังคัดสินไม่ได้เพราะการยุบบวมยังไม่หมดต้องอย่างน้อยเป็นเดือน บวมแต่ละข้างอาจไม่เท่ากัน 3-6 เดือนด้วยซ้ำ ช่วง 6 เดือนแรกก็ ห้ามกระแทกอย่าไปจับมันเยอะ ไหมละลายของเราต้องเดือนกว่าถึงจะละลายนะ สำหรับเรายึดคติว่า ทำบุญสวยชาติหน้าทำหน้าสวยชาตินี้ 55555 ต้องยอมรับว่าคนเรามักตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก 1 วินาทีแรก แล้วแต่ทัศนคติของคนเนอะ ทีเหลือจากนี้เราก็มีการดูแลผิว ให้หน้าเนียนสว่างประมานนี้แหละค่ะ พอใจแล้ว ^_^