ช้วยด้วยครับ ตอนนี้ปวดหัวมากๆ เลย!!

เรีบนสอบถามครับ คือพ่อผม (อายุ 70 ปี) โดนฟ้องคดีไล่ที่ จำนวน 10.5 ตารางวา มูลค่าไม่มาก ประมาณ 3000 บาท ซึ่งทางโจทก์ได้ให้พนักงานที่ดินมาทำการรังวัดสอบเขตพบว่าที่เขาขาดไปน้อยกว่าในโฉนด ซึ่งแผนที่โฉนดหน้าจะเป็นแผนที่ชั้นสอง ทำการรังวัดออกโฉนดโดยใช้สายวัดร่วมกับแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเมื่อปี พ.ศ. 2548 มาตราส่วน (1:4000) ตามนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล ปัญหาเกิดจากฝั่งเขาที่ปรับพื้นที่และรถทำลายหลักเขตและคันนาจนหาไม่เจอ พ่อเคยต่อว่าด้วยวาจาแต่ไม่ได้ทำอะไรเพื่ม ส่วนหนึ่งเพราะเป็นพื้นที่ที่นาด้วยเลยไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ แต่ยังมีแนวต้นไม้ที่ปลูกไว้ตั่งแต่ปี พ.ศ. 2548 กับหลักเสาไม้ที่เคยปักเป็นรั่วไว้หนึ่งหลัก เขาซี้แนวเขตต่างจากเราเพียง 1.48 เมาตร คิดเป็นที่ 10.5 ตารางวา   ที่ดินนัดไกล่เกลี่ยแต่ตกลงกันไม่ได้ เขาจึงให้ทนายฟ้องศาล ศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้ง แต่ทางเขาดึงดันจะฟ้องอย่างเดียวโดยไม่ฟังข้อมูลที่เราอธิบายเลย ขู่เราตลอดว่าถ้าไม่ยอมก็จะฟ้อง ณ ตอนนี้ศาลสั่งให้รังวัดทั้งสองฝ่าย
ผมอยากถามว่า
1. ผมในฐานะบุตรสามารถดำเนินการในชั้นศาล โดยถือเป็น "คู่ความ" "ผู้แทนโดยชอบธรรม" ตาม ปวิพ. มาตรา 60 ที่จะ มีสิทธิว่าความด้วยตนเองและดำเนินกระบวนพิจารณาต่างในศาลได้เอง หรือไม่ เราเคยปรึกษาทนายอาสาแล้วเขาไม่รับเพราะบอกว่าที่เราเยอะ ซึ่งบ้านนอกที่เยอะแต่ไม่ใช่จะรวยตารางวาละ 300 เอง
2. ผมมีวิธีสู้คดีความอย่างไรได้บ้าง ทางเรามั่นใจในหลักเขตที่เราชี้เพราะเราครอบครองตั่งแต่ก่อนออกโฉนด ส่วนเขาพึ่งจะซื้อมาและจดทะเบียนซื้อขายได้ประมาณหนึ่งปี เขาค่อนข้างมีหน้ามีตาในอำเภอ และรู้จักกันดีกับ พนักงานรังวัดที่มารังวัดด้วย
ปล. ทางเราไม่ได้กลัวในการรังวัดสอบเขต เพราะมั่นใจว่าที่เป็นของเราแน่ๆ ติดที่เรามีกำลังเงินน้อยกว่า การรังวัดใช้เงินเยอะกว่ามูลค่าที่ดินเสียอีก และที่สำคัญคือการรังวัดส่งผลต่อเรามากเพราะที่ดินเรายื่นกู้เงินกับ ธกส. ไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กฎหมายแพ่ง (Civil law) ทนายความ ที่ดิน กฎหมายชาวบ้าน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่