คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ที่ดินบริเวณนี้เจ้าของที่ดินจัดสรรเป็นที่ดินเปล่าแบ่งขายตั้งแต่สมัย ถ.ศรีนครินทร์ เพิ่งตัดเสร็จใหม่ ๆ
ตั้งชื่อว่าหมู่บ้านเสรี เดิมเป็นที่รกร้าง และค่อนข้างเปลี่ยว มีเจ้าของที่ดินไม่กี่รายที่มาสร้างบ้านอยู่อาศัย
เป็นสถานที่หัดขับรถของโรงเรียนสอนขับรถยนต์หลายแห่ง เพราะถนนกว้าง ฝึกขับรถได้สบาย
ต่อมามีการขยาย ถ.ศรีนครินทร์ มีซีคอนสแควร์ มีห้างเสรีเซนเตอร์ (ปัจจุบันคือห้างพาราไดซ์)มาสร้างอยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน
และมีการสร้างสวนหลวง ร.9 ติดกับหมู่บ้าน จึงทำให้ราคาที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัย
ของคนมีฐานะ ในปัจจุบันยังมีที่ดินว่างเปล่าอยู่อีกหลายแปลงที่เจ้าของที่ดินปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่า
ในตอนเช้าจะมีประชาชนบริเวณย่านใกล้เคียงไปออกกำลังกายที่สวนหลวง ร.9 ทำให้บรรดาแม่ค้า
นำของมาขายหน้าบริเวณสวนหลวง และขยายต่อมาเข้าในเขตหมู่บ้าน เคยผ่านเข้าไปตอนเช้า
มีร้านค้าตั้งเรียงราย 2 ข้างถนน ตั้งร้านและแผงขายของ จอดรถขวางหน้าบ้าน มีร้านอาหารเกิดขึ้นในหมู่บ้าน
จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยมีการร้องเรียน และบางรายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น ในปัจจุบันถ้าผ่านเข้าไปในหมู่บ้านนี้
จะเห็นว่าด้านหลังพาราไดซ์ ปาร์ค จะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ อยู่หลายร้าน ที่ดินว่างเปล่าหลายแห่งถูกดัดแปลง
เป็นตลาดนัด ความสงบสุขในหมู่บ้านหรูสูญหายไป ความวุ่นวายเข้ามาแทนที่ หลายบ้านเลือกที่จะย้าย
แต่ป้าเลือกที่จะอยู่เพื่อต่อสู้ ทั้งที่รู้ว่าสู้ไปก็ไม่ชนะ (ฟ้องศาลชนะคดี แต่แก้ปัญหาไม่ได้) การรบกวนและ
การถูกละเมิดเกิดขึ้นทุกวัน เหตุการณ์ทุบรถที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดจากหมดความอดทน และโกรธที่เจ้าของรถ
มาจอดรถขวางหน้าบ้านทั้ง ๆ ที่มีป้ายเตือน ขีดความอดทนของคนมีขีดจำกัด เจ้าของรถโชคร้ายที่มาเจอวันที่
ป้าเจ้าของบ้านเลือกแก้ปัญหาโดยใช้ขวานและเสียม
ตั้งชื่อว่าหมู่บ้านเสรี เดิมเป็นที่รกร้าง และค่อนข้างเปลี่ยว มีเจ้าของที่ดินไม่กี่รายที่มาสร้างบ้านอยู่อาศัย
เป็นสถานที่หัดขับรถของโรงเรียนสอนขับรถยนต์หลายแห่ง เพราะถนนกว้าง ฝึกขับรถได้สบาย
ต่อมามีการขยาย ถ.ศรีนครินทร์ มีซีคอนสแควร์ มีห้างเสรีเซนเตอร์ (ปัจจุบันคือห้างพาราไดซ์)มาสร้างอยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน
และมีการสร้างสวนหลวง ร.9 ติดกับหมู่บ้าน จึงทำให้ราคาที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัย
ของคนมีฐานะ ในปัจจุบันยังมีที่ดินว่างเปล่าอยู่อีกหลายแปลงที่เจ้าของที่ดินปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่า
ในตอนเช้าจะมีประชาชนบริเวณย่านใกล้เคียงไปออกกำลังกายที่สวนหลวง ร.9 ทำให้บรรดาแม่ค้า
นำของมาขายหน้าบริเวณสวนหลวง และขยายต่อมาเข้าในเขตหมู่บ้าน เคยผ่านเข้าไปตอนเช้า
มีร้านค้าตั้งเรียงราย 2 ข้างถนน ตั้งร้านและแผงขายของ จอดรถขวางหน้าบ้าน มีร้านอาหารเกิดขึ้นในหมู่บ้าน
จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยมีการร้องเรียน และบางรายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น ในปัจจุบันถ้าผ่านเข้าไปในหมู่บ้านนี้
จะเห็นว่าด้านหลังพาราไดซ์ ปาร์ค จะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ อยู่หลายร้าน ที่ดินว่างเปล่าหลายแห่งถูกดัดแปลง
เป็นตลาดนัด ความสงบสุขในหมู่บ้านหรูสูญหายไป ความวุ่นวายเข้ามาแทนที่ หลายบ้านเลือกที่จะย้าย
แต่ป้าเลือกที่จะอยู่เพื่อต่อสู้ ทั้งที่รู้ว่าสู้ไปก็ไม่ชนะ (ฟ้องศาลชนะคดี แต่แก้ปัญหาไม่ได้) การรบกวนและ
การถูกละเมิดเกิดขึ้นทุกวัน เหตุการณ์ทุบรถที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดจากหมดความอดทน และโกรธที่เจ้าของรถ
มาจอดรถขวางหน้าบ้านทั้ง ๆ ที่มีป้ายเตือน ขีดความอดทนของคนมีขีดจำกัด เจ้าของรถโชคร้ายที่มาเจอวันที่
ป้าเจ้าของบ้านเลือกแก้ปัญหาโดยใช้ขวานและเสียม
แสดงความคิดเห็น
กรณีคุณป้าใช้ขวานจามรถกระบะที่จอดขวางหน้าบ้านของเธอ ทั้งที่มีคำสั่งห้ามจอดขวางจากศาลติดไว้หน้าบ้านแล้ว! คุณอยู่ทีมใคร?
ผมมองว่าในเรื่องของจิตสำนึกและสามัญสำนึกของคนไม่เป็นเหมือนกันเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว ใครมีมากก็ให้เกียรติสิทธิของผู้อื่นมากแต่ถ้าใครมีน้อยก็มักง่ายและชอบละเมิดสิทธิของผู้อื่นเป็นประจำดังเช่นที่เห็นในกรณีดังกล่าวนี้
่ต้นเหตุและต้นเรื่องทั้งหมดนี้ มันเกิดมาจากความมักง่ายของคนที่ไปจอดรถขวางประตูหน้าบ้านของคนอื่นเขาครับ แถมใส่เกียร์ใส่เบรคไม่ให้ขยับหรือเลื่อนรถออกไปไหนได้อีก ทั้งๆ ที่มีคำสั่งศาลห้ามบุคคลอื่นจอดรถขวางหน้าบ้านติดประกาศเอาไว้เต็มรั้วซะขนาดนั้น!
จนกระทั่งคุณป้าเจ้าของบ้าน ต้องการนำรถตัวเองออกจากบ้านเพื่อไปทำธุรกิจ! แต่ก็ไม่สามารถออกจากบ้านได้เพราะมีรถกระบะคันดังกล่าวมาจอดขวางเอาไว้! ทีแรกคุณป้าว่าก็จะรอเรียกให้เจ้าของรถออกมาขยับเลื่อน แต่รอเป็นชั่วโมงหรือยังไม่มา!
คุณป้าเลยบันดาลโทสะ ใช้ขวานจามรถกระบะคันดังกล่าวอย่างเหลืออดเหลือทน เนื่องด้วยปมในอดีตที่รุนแรงเสียเหลือเกิน...เรื่องจากไม่นานมานี้ เคยมีคนมาจอดรถขวางหน้าบ้านป้า ในขณะเดียวกับที่คุณพ่อของคุณป้าท่านเกิดแอคซิเดนขึ้นมาพอดี! ทำให้ไม่สามารถนำคุณพ่อเธอไปส่งโรงพยาบาลได้ทัน...เพราะไม่สามารถเอารถออกจากบ้านได้เนื่องจากมีรถมาจอดขวางหน้าบ้านแถมใส่เกียร์อยู่! คุณพ่อของป้าท่านนี้จึงเสียชีวิตอยู่ตรงหน้าบ้านอย่างที่ไม่ควรจะเป็น...!
ซึ่งในขณะที่คุณป้ากำลังทุบรถก็มีเหล่าแม่ค้าซึ่งเคยมีประเด็นกับคุณป้าท่านนี้มาก่อน แอบซุ้มถ่ายวีดีโอเอาไว้พร้อมโพสต์ลงโซเชียล แถมยังมีการด่าทอคุณป้าในคลิปวีดีโอเป็นเสียงของผู้ถ่ายคลิปพูดคุยกับคนรอบข้างเล็ดลอดออกมาอีก!
มันแสดงให้เห็นถึงความมักง่ายของคนไทยที่มักจะละเมิดสิทธิของผู้อื่นโดยเจตนาอย่างไม่สนว่าใครจะเดือดร้อน!
จนกระทั่งเจ้าของรถกระบะกลับมาเห็นรถตัวเองกำลังถูกทุบ ก็มาโวยวายกับคุณป้าว่า
“จอดแค่ 10 นาที ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้”
ในความคิดของผม ผมรู้สึกว่ามันเหมือนแถมากกว่าครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ 10 นาที น่ะสิ
ให้ท่านลองตรอง และพิจารณาดูนะครับ เพราะในคลิปวีดีโอที่แม่ค้าในตลาดแอบถ่ายนั้น มันมีความยาวหลายนาทีแล้ว (มากกว่าสิบ) แบบนี้เจ้าของรถจะกล่าวอ้างว่าจอดแค่ 10 นาทีไม่ได้ สตอว์เบอร์รี่จังเลย! เพราะจากคลิปที่ลงกัน เชื่อได้เลยว่าเกิน 10 นาที ทั้งที่ผมไม่เคยดูนะ แต่ผมก็รู้ ว่าความยาวของคลิปวีดีโอมันเกินกว่าระยะเวลาการจอดรถที่เจ้าของรถกล่าวอ้าง!
แถมยังกล่าวอ้างเพิ่มมเติมอีกว่า “ตนไม่รู้คิดว่าเป็นบ้านร้าง” อีกต่างหาก และให้เหตุผลว่าป้ายที่ติดหน้าบ้านเจ้าของรถอ่านได้ใจความว่าบ้านหลังนี้โดนยึดโดยหมายศาลก็เลยเข้าใจว่าเป็นบ้านร้าง ผมก็เลยรู้สึกว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่มักง่าย หรือทำอะไรเกรงใจผู้อื่นบ้าง ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรอกครับ คุณป้าแกก็คงไม่ต้องมานั่งบันดาลโทสะเอาขวานไปจามรถคุณให้เปลืองแรงของป้าหรอก
แต่ในก็รณีนี้ ผมชื่นชมคุณป้านะครับ ที่ไม่ทำอะไรเกินกว่าเหตุไปมากกว่านี้ เพราะถ้าเป็นผมเจอเหตุการณ์แบบคุณป้า ผมคงจะเอาน้ำมันราดรถ แล้วก็จุดไฟเผาให้มอดกันทั้งรถทั้งตลาดเลยทีเดียว!
ผิดถูกอย่างไร ผมก็จะขอต่อสู้คดีทำลายทรัพย์สินในชั้นศาล พร้อมจ่ายค่าเสียหายทุกบาท เผลอๆ อาจจะให้ทิปไปเรียนมารยาทเพิ่มด้วย!
แต่ถ้าจะให้ปล่อยคนที่กระทำความผิดโดยไร้ซึ้งสามัญสำนึกที่ดี หรือพวกที่ทำตัวยังกับกุ๊ยไร้การศึกษา ผมว่าเราก็คงต้องคุยกันอย่างกุ๊ยไร้การศึกษาแล้วล่ะครับ ถึงจะเหมาะสม!
และเนื่องมาจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้มีการถ่ายคลิปวีดีโอลงไปใน social network และแพร่กระจายไปทั่วประเทศ-ทั่วโลก ทำให้มีการถกเถียงกันเกิดขึ้น ว่าทำไมคุณป้าถึงต้องทำกันรุนแรงขนาดนั้น ฯลฯ อะไรประมาณนี้. รวมถึงมีบางคนออกมาตำหนิและต่อว่าคนมักง่ายที่จอดรถขวางหน้าบ้านเขาด้วย.
กระทั่งมีการสืบเสาะหาตัวผู้ที่ถ่ายคลิปวีดีโอ และเจ้าของเสียงกร่นโคตรคุณป้าในคลิป จนได้มาทราบในภายหลัง ว่าเจ้าของเสียงที่ด่าคุณป้าในคลิปวีดีโอนั้น คือแม่ค้าภายในตลาดนัดซึ่งเคยมีกรณีพิพาทกับคุณป้าอย่างใหญ่โตถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาลมาก่อน!
อย่างที่ผมเคยกล่าวไปข้างต้น คือคุณป้าเคยมีกรณีว่า มีคนจอดรถขวางหน้าบ้าน ทำให้พ่อของเธอไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ทัน ทำให้พ่อป้าเสียชีวิตอยู่ที่ประตูหน้าบ้านตรงนั้น!
ป้าจึงเอาเหตุนี้ไปฟ้องศาลครับ!
และไม่ใช่แค่เหตุการณ์จอดรถอย่างไร้มารยาทนี้เพียงเหตุการณ์เดียวที่ป้ายื่นฟ้อง...
เพราะป้าเองยังได้ฟ้องตลาดนัดเจ้าปัญหา ที่ทำให้มีการจอดรถขวางหน้าบ้านของเธออีกด้วย! เพราะตลาดนัดนี้ทำให้มีรถมากมายต้องมาจอดขวางหน้าบ้านประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณแถวนั้นครับ!
ซ้ำร้ายแห่งความวิปโยคก็คือ ตลาดนัดดังกล่าว เผือกด้านมาก่อสร้างในเขตพื้นที่หมู่บ้านจัดสรร โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อตามกฎหมายครับ!
พูดง่ายๆ ว่าตั้งตลาดนัดโดยผิดกฎหมายนั่นแหละ!
เมื่อคุณป้ายื่นเรื่องไปที่ศาล ก็มีการสืบพยานหลักฐานอะไรกันจนเรียบร้อย สุดท้ายแล้วศาลสั่งให้คุณป้าชนะคดีครับ!
คุณป้าจึงเอาคำสั่งศาล
ที่มีคำสั่งว่า *ห้ามผู้ใดจอดรถขวางหน้าประตูบ้านคุณป้าโดยเด็ดขาด*
มาแขวนติดเอาไว้หน้าบ้าน เพื่อป้องกันการุกรานอย่างไร้มารยาทของพวกกุ๊ยไร้การศึกษาเหล่านี้อีก!
แต่ก็ทำได้แค่เอาคำสั่งมาติดไว้ ไม่สามารถจะบังคับใช้จริงได้! เพราะทางนิติบุคคของหมู่บ้านจัดสรร กับเจ้าหน้าที่เขต รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ไม่ให้การร่วมมือในการป้องกันเหตุอันเป็นการขัดขืนซึ่งคำสั่งของศาลเลย...!
ทั้งในกรณีที่ตลาดนัดดังกล่าวถูกฟ้องให้รื้อถอนออกจากพื้นที่บริเวณนั้นเนื่องจากเป็นหมู่บ้านจัดสรรห้ามมีการก่อตั้งตลาดใดๆเกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณนั้นเด็ดขาด! ทางเจ้าของนัดก็ไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองให้ทำการคุ้มครอง และคำสั่งศาลปกครองก็ให้การคุ้มครองมาด้วย จึงทำให้ไม่สามารถรื้อถอนตลาดดังกล่าวได้ และสุดท้ายคำสั่งศาลที่คุณป้าชนะคดีมา ก็ไม่สามารถทำอะไรตลาดส้นตรีนนั้นได้เลย!
ก็นานาจิตตังนะครับ ใครจะคิดเห็นอย่างไรผมเตรียมพร้อมรับความเห็นนั้นไว้อยู่แล้ว ในกระทู้นี้ผมอยู่ทีมคุณป้าครับ และผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเข้าข้างผู้กระทำความผิดอย่างไร้มารยาทอย่างคนมักง่ายที่จอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น รวมไปถึงตลาดนัดที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พื้นที่ชุมชนอย่างหน้าไม่อายอีกด้วย!
อย่างที่ผมเกริ่นนำขึ้นไปตอนต้นนะครับ ว่าสามัญสำนึกของคนมันไม่เหมือนกัน
ดังนั้นขอให้ท่านผู้มีมารยาทที่ดีและสามัญสำนึกที่ดีมาตอบกระทู้นะครับ ผมไม่อยากตำหนิใครว่าไร้มารยาทอย่างเช่นที่ตำหนิบุคคลในกระทู้มาแล้ว!
ขอบคุณมากครับสำหรับท่านผู้ที่เข้ามาพบประเด็นกันเรื่องนี้อย่างสุภาพ...
ขอแสดงความนับถือครับ!