สวัสดีเพื่อนๆครับ วันนี้มารับหน้าที่มวยแทน MC ด่วนเฉพาะกิจอีกวัน เพราะ MC ชุนเทียนยังคงเดินทางกลับบ้านไม่ถึง สงสัยจะเที่ยวตรุษจีนเพลินไปหน่อย ยังไงก็ตามก็ขอชุนเทียนและทุกคนที่กำลังเดินทางขอให้ปลอดภัยทุกเส้นทาง ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพทุกๆคนครับ
วันนี้แทบจะเตรียมอะไรมานำเสนอไม่ทัน ขอพูดเรื่องไซด์ไลน์ก็แล้วกัน ไซด์ไลน์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงน้องๆสาวๆนะครับ แต่เสมือนงานนอกราชการตามที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้เปรียบเปรยไว้หลังจากที่ตนเองพึ่งมีปัญหาเรื่องเงิน 300 ล้าน ที่ยืมเพื่อนมา
จากผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/politics/detail/9610000016788
** สนช.ไซด์ไลน์!! “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ”คลอดข้อบังคับจริยธรรมใหม่ เปิด“ทางหนีไฟ”เบียดบังเวลาราชการได้เต็มที ด้วย“ข้อยกเว้น”มาจาก“กระบวนการพิเศษ”แค่ยื่นลาต่อประธาน สนช. เป็นใช้ได้ ปีนึงโผล่มาโหวตแค่ 6 วัน อย่าง“บิ๊กติ๊ก”ก็ยังรับเงินเดือนเต็ม
แก้ไขใหม่ไฉไลกว่าเดิม .. ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมาธิการ .. ที่หยิบเอามาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ - ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ - ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ มาแก้ไขให้สอดคล้องต้องกัน .. ที่ติดใจกันก็ไม่พ้น ในข้อ 23 ว่าด้วยบทบังคับที่กำหนดว่า "อุทิศเวลาแก่ทางราชการ ไม่เบียดบังเวลาราชการไปประกอบธุรกิจ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว" .. ทำเอา “สนช.ฝักถั่ว”นั่งกันไม่ติด ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านกันอย่างกว้างขวาง เสนอให้กำหนด“บทเฉพาะกาล”งดเว้นกับ “สนช.ชุดปัจจุบัน”ที่มาโดย“กระบวนการพิเศษ”.. พร้อมอ้างว่า สนช.หลายคน มีอาชีพเป็น“นักธุรกิจ”ดังนั้นหากเขียนเนื้อหาแบบนี้ อาจถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมขัดจริยธรรมทั่วไปได้ .. แต่ก็สบายใจกันไปเมื่อ "กล้าณรงค์ จันทิก" สมาชิก สนช. ในฐานะประธานกรรมาธิการร่างข้อบังคับฯ เปิด“ทางหนีไฟ”เอาไว้ให้ว่า บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญกำหนด“ข้อยกเว้น”ให้กับ สนช. ชุดปัจจุบันไว้อยู่แล้ว .. พร้อมบอกด้วยว่า "สามารถยื่นลาต่อประธาน สนช. เหมือนที่เคยปฏิบัติมาได้ โดยจะไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ" ..
ก็เลยทำให้ตีความกันว่า “สนช.สามารถรับจ็อบ ไม่ต้องมาประชุมก็ได้ ไม่พ้นสมาชิกภาพ”..คนอื่นคิดยังไง ไม่รู้ แต่ภาพของ“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปัจจุบันยังมีหมวกสมาชิก สนช.อยู่ ลอยมาให้เห็นทันที .. ก็เคยถูกเปิดสถิติลาประชุมเป็นร้อยๆวัน ปีนึงโผล่มาลงมติแค่ 6 วัน ก็ยังไม่สิ้นสถานภาพ แถมนอนตีพุงรับเงินเดือนเต็มๆ 1.2 แสนบาท ทุกเดือน .. กลายเป็นบรรทัดฐาน“สนช.ไซด์ไลน์”ที่ยอมรับได้ แบบนี้สมาชิกสนช. คนอื่นก็ยิ่งสบายใจไทยแลนด์
ในส่วนของข้าราชการนั้น ตามความเห็นของ MC ก็ไม่แปลกแต่อย่างใดที่ข้าราชการจะไปประกอบอาชีพอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานประจำคือรับราชการ ในงานประจำราชการจะทำงานวันจันทร์-ศุกร์ หยุดวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยังไม่รวมสิทธิในการลากิจ-ลาพักร้อน นอกเหนือจากการลาป่วยตามระเบียบข้าราชการ อันที่จริงแล้วการที่ไปทำงานหารายได้เพิ่มเติมให้กับตนเองและครอบครัวนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าให้ไปกระทบกับงานประจำโดยเด็ดขาด เนื่องจากข้าราชการรับเงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้ว ยังไม่รวมรายได้เพิ่มเติมอื่นๆ และสวัสดิการของบุตร-ธิดา-คู่สมรสอีกด้วย หากคิดว่างานราชการเป็นงานรองเพียงเพื่อได้มียศถาบรรดาศักดิ์ประดับตนไว้ MC แนะนำให้ลาออกไปทำธุรกิจเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยจะดูสง่างามกว่าครับ
ขอเล่านิดนึงสมัยที่ MC ยังทำงานประจำอยู่ แม้ว่าตัวเองไม่ได้เข้างานสายเลยเพราะต้องมี Morning Talk กันทุกๆเช้าก่อนที่จะลุยหน้างาน MC ยังถูกหัวหน้างานตำหนิกลางที่ประชุม เพราะดันโผล่หัวมาในสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม 100% ในขณะที่งานที่ทำอยู่ในสภาวะเสี่ยงตายต้องปีนป่ายบนที่สูง หากมองไปถึงผู้ที่ประกอบอาชีพอื่นนอกเหนือจากงานประจำ คุณต้องไม่ใช่ให้กระทบต่อเวลาทำงานประจำเท่านั้น แต่สภาพร่างกายและจิตใจคุณต้องพร้อมที่จะมาทุ่มเทกับงานประจำด้วยเช่นกันหากยังคิดจะทำอาชีพอื่นควบคู่ไปด้วย
ช่วงที่ MC ถูกหัวหน้างานตำหนิก็ได้แต่บ่นในใจเหมือนกันว่าจะมายุ่งอะไรกับชีวิตกรูนักหนาฟะ จะไปไหนนอกเหนือจากเวลางานมันก็เรื่องของกรู แต่พอมาวันหนึ่ง ได้ยืนอยู่ในจุดที่ต้องควบคุมดูแลลูกน้องบ้าง ถึงได้เข้าใจว่าแค่มาทำงานตามปกติอย่างเดียวมันไม่ใช่ละ ร่างกายและสภาพโดยรวมคุณต้องพร้อม ไม่ใช่ว่าเลิกงานจากเราไป แต่ไปรับงานอย่างอื่นต่อดึกๆดื่นๆ บางคืนเมาเหล้าต่อเลย แล้วมาทำงานประจำกับเราในสภาพอิดโรยมันก็ไม่ไหวครับ
มองในอีกมุมหนึ่ง การที่มีหัวโขนค้ำคออยู่ในขณะที่ทำธุรกิจนั้น MC ไม่ได้หมายความว่าท่านเหล่านั้นไปทำธุรกิจมืดหรือเทาๆหรอกนะ เอาแบบขาวๆมีด่างเป็นจุดบ้างเล็กน้อยเหมือนชาวบ้านทั่วไปนี่แหละ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่โดนข้าราชการด้วยกันมาตามก่อกวนทั้งทางตรงและทางอ้อม ข้าราชการฝ่ายปกครองไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่มายุ่ง หรือการที่ใครจะออกคำสั่งใดๆไปปฏิบัติภารกิจตามปกติ ย่อมได้รับความเกรงใจหากไปกระทบกับธุรกิจที่ทำอยู่ ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่า ผกก โรงพักหนึ่งไปเปิดธุรกิจของตนเองหรือของครอบครัวไว้ตรงจุดไหนก็ยากที่ใครจะสั่งให้ตำรวจไปตั้งด่านอยู่หน้าบริเวณนั้น หรือ ถ้าสมมุติว่า ผอ.กรมทางมีร้านค้าอะไรก็ตามของตนเองหรือของครอบครัวอยู่ข้างทาง เรื่องอะไรเขาจะไปสร้างเกาะกลางหรือยูเทิร์นตรงจุดที่เข้าร้านตัวเองไม่ได้ เป็นต้น นี่คือตัวอย่างการมีหัวโขนไว้ประดับคอเพื่อให้ตนเองประกอบธุรกิจอะไรที่ลื่นขึ้นหรือได้กับความเกรงใจจากเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง จึงเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับนักธุรกิจที่มาจากราษฎรเต็มขั้นเป็นต้น
เอาเท่านี้ก่อนครับ วันหลังค่อยมาคุยกันชิลๆใหม่
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น....
P9d - 'Section 44' (OFFICIAL AUDIO)
ห้องเพลงคนรากหญ้า **พักยกการเมือง** มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม..มีแต่เสียง 19/02/2018 "สนช-ข้าราชการ ไซด์ไลน์"
วันนี้แทบจะเตรียมอะไรมานำเสนอไม่ทัน ขอพูดเรื่องไซด์ไลน์ก็แล้วกัน ไซด์ไลน์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงน้องๆสาวๆนะครับ แต่เสมือนงานนอกราชการตามที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้เปรียบเปรยไว้หลังจากที่ตนเองพึ่งมีปัญหาเรื่องเงิน 300 ล้าน ที่ยืมเพื่อนมา
จากผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/politics/detail/9610000016788
** สนช.ไซด์ไลน์!! “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ”คลอดข้อบังคับจริยธรรมใหม่ เปิด“ทางหนีไฟ”เบียดบังเวลาราชการได้เต็มที ด้วย“ข้อยกเว้น”มาจาก“กระบวนการพิเศษ”แค่ยื่นลาต่อประธาน สนช. เป็นใช้ได้ ปีนึงโผล่มาโหวตแค่ 6 วัน อย่าง“บิ๊กติ๊ก”ก็ยังรับเงินเดือนเต็ม
แก้ไขใหม่ไฉไลกว่าเดิม .. ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมาธิการ .. ที่หยิบเอามาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ - ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ - ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ มาแก้ไขให้สอดคล้องต้องกัน .. ที่ติดใจกันก็ไม่พ้น ในข้อ 23 ว่าด้วยบทบังคับที่กำหนดว่า "อุทิศเวลาแก่ทางราชการ ไม่เบียดบังเวลาราชการไปประกอบธุรกิจ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว" .. ทำเอา “สนช.ฝักถั่ว”นั่งกันไม่ติด ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านกันอย่างกว้างขวาง เสนอให้กำหนด“บทเฉพาะกาล”งดเว้นกับ “สนช.ชุดปัจจุบัน”ที่มาโดย“กระบวนการพิเศษ”.. พร้อมอ้างว่า สนช.หลายคน มีอาชีพเป็น“นักธุรกิจ”ดังนั้นหากเขียนเนื้อหาแบบนี้ อาจถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมขัดจริยธรรมทั่วไปได้ .. แต่ก็สบายใจกันไปเมื่อ "กล้าณรงค์ จันทิก" สมาชิก สนช. ในฐานะประธานกรรมาธิการร่างข้อบังคับฯ เปิด“ทางหนีไฟ”เอาไว้ให้ว่า บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญกำหนด“ข้อยกเว้น”ให้กับ สนช. ชุดปัจจุบันไว้อยู่แล้ว .. พร้อมบอกด้วยว่า "สามารถยื่นลาต่อประธาน สนช. เหมือนที่เคยปฏิบัติมาได้ โดยจะไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ" ..
ก็เลยทำให้ตีความกันว่า “สนช.สามารถรับจ็อบ ไม่ต้องมาประชุมก็ได้ ไม่พ้นสมาชิกภาพ”..คนอื่นคิดยังไง ไม่รู้ แต่ภาพของ“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปัจจุบันยังมีหมวกสมาชิก สนช.อยู่ ลอยมาให้เห็นทันที .. ก็เคยถูกเปิดสถิติลาประชุมเป็นร้อยๆวัน ปีนึงโผล่มาลงมติแค่ 6 วัน ก็ยังไม่สิ้นสถานภาพ แถมนอนตีพุงรับเงินเดือนเต็มๆ 1.2 แสนบาท ทุกเดือน .. กลายเป็นบรรทัดฐาน“สนช.ไซด์ไลน์”ที่ยอมรับได้ แบบนี้สมาชิกสนช. คนอื่นก็ยิ่งสบายใจไทยแลนด์
ในส่วนของข้าราชการนั้น ตามความเห็นของ MC ก็ไม่แปลกแต่อย่างใดที่ข้าราชการจะไปประกอบอาชีพอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานประจำคือรับราชการ ในงานประจำราชการจะทำงานวันจันทร์-ศุกร์ หยุดวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยังไม่รวมสิทธิในการลากิจ-ลาพักร้อน นอกเหนือจากการลาป่วยตามระเบียบข้าราชการ อันที่จริงแล้วการที่ไปทำงานหารายได้เพิ่มเติมให้กับตนเองและครอบครัวนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าให้ไปกระทบกับงานประจำโดยเด็ดขาด เนื่องจากข้าราชการรับเงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้ว ยังไม่รวมรายได้เพิ่มเติมอื่นๆ และสวัสดิการของบุตร-ธิดา-คู่สมรสอีกด้วย หากคิดว่างานราชการเป็นงานรองเพียงเพื่อได้มียศถาบรรดาศักดิ์ประดับตนไว้ MC แนะนำให้ลาออกไปทำธุรกิจเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยจะดูสง่างามกว่าครับ
ขอเล่านิดนึงสมัยที่ MC ยังทำงานประจำอยู่ แม้ว่าตัวเองไม่ได้เข้างานสายเลยเพราะต้องมี Morning Talk กันทุกๆเช้าก่อนที่จะลุยหน้างาน MC ยังถูกหัวหน้างานตำหนิกลางที่ประชุม เพราะดันโผล่หัวมาในสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม 100% ในขณะที่งานที่ทำอยู่ในสภาวะเสี่ยงตายต้องปีนป่ายบนที่สูง หากมองไปถึงผู้ที่ประกอบอาชีพอื่นนอกเหนือจากงานประจำ คุณต้องไม่ใช่ให้กระทบต่อเวลาทำงานประจำเท่านั้น แต่สภาพร่างกายและจิตใจคุณต้องพร้อมที่จะมาทุ่มเทกับงานประจำด้วยเช่นกันหากยังคิดจะทำอาชีพอื่นควบคู่ไปด้วย
ช่วงที่ MC ถูกหัวหน้างานตำหนิก็ได้แต่บ่นในใจเหมือนกันว่าจะมายุ่งอะไรกับชีวิตกรูนักหนาฟะ จะไปไหนนอกเหนือจากเวลางานมันก็เรื่องของกรู แต่พอมาวันหนึ่ง ได้ยืนอยู่ในจุดที่ต้องควบคุมดูแลลูกน้องบ้าง ถึงได้เข้าใจว่าแค่มาทำงานตามปกติอย่างเดียวมันไม่ใช่ละ ร่างกายและสภาพโดยรวมคุณต้องพร้อม ไม่ใช่ว่าเลิกงานจากเราไป แต่ไปรับงานอย่างอื่นต่อดึกๆดื่นๆ บางคืนเมาเหล้าต่อเลย แล้วมาทำงานประจำกับเราในสภาพอิดโรยมันก็ไม่ไหวครับ
มองในอีกมุมหนึ่ง การที่มีหัวโขนค้ำคออยู่ในขณะที่ทำธุรกิจนั้น MC ไม่ได้หมายความว่าท่านเหล่านั้นไปทำธุรกิจมืดหรือเทาๆหรอกนะ เอาแบบขาวๆมีด่างเป็นจุดบ้างเล็กน้อยเหมือนชาวบ้านทั่วไปนี่แหละ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่โดนข้าราชการด้วยกันมาตามก่อกวนทั้งทางตรงและทางอ้อม ข้าราชการฝ่ายปกครองไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่มายุ่ง หรือการที่ใครจะออกคำสั่งใดๆไปปฏิบัติภารกิจตามปกติ ย่อมได้รับความเกรงใจหากไปกระทบกับธุรกิจที่ทำอยู่ ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่า ผกก โรงพักหนึ่งไปเปิดธุรกิจของตนเองหรือของครอบครัวไว้ตรงจุดไหนก็ยากที่ใครจะสั่งให้ตำรวจไปตั้งด่านอยู่หน้าบริเวณนั้น หรือ ถ้าสมมุติว่า ผอ.กรมทางมีร้านค้าอะไรก็ตามของตนเองหรือของครอบครัวอยู่ข้างทาง เรื่องอะไรเขาจะไปสร้างเกาะกลางหรือยูเทิร์นตรงจุดที่เข้าร้านตัวเองไม่ได้ เป็นต้น นี่คือตัวอย่างการมีหัวโขนไว้ประดับคอเพื่อให้ตนเองประกอบธุรกิจอะไรที่ลื่นขึ้นหรือได้กับความเกรงใจจากเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง จึงเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับนักธุรกิจที่มาจากราษฎรเต็มขั้นเป็นต้น
เอาเท่านี้ก่อนครับ วันหลังค่อยมาคุยกันชิลๆใหม่
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น....
P9d - 'Section 44' (OFFICIAL AUDIO)