พอล สโคลส์ ตำนานดาวเตะหัวแดงเพลิง เปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาค้าแข้งให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง แม้ว่าประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว

ในตอนสิ้นสุดฤดูกาล 2010/11 มิดฟิลด์ชาวอังกฤษประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ แต่หกเดือนหลังจากนั้นได้กลับมาเซ็นสัญญาให้ "ปีศาจแดง" และลงสนามเป็นตัวสำรองในศึกเอฟเอ คัพรอบสามที่ต้นสังกัดบุกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ทันที

"ตอนแรกเลยคือป๋าอยากให้ผมกลับมาและเป็นโค้ชให้ทีมสำรองร่วมกับวอร์เรน จอยซ์ ผมบอกเขาไปในเดือนกันยายน (ปี 2011) ว่าผมจะกลับไปทำงาน" สโคลส์ย้อนความ

"จากนั้นผมก็เริ่มช่วยจอยซี่และก็ลงซ้อมกับทีมสำรอง ผมฝึกซ้อมทุกวันกับนักเตะอย่างป็อกบา, ลินการ์ด และคนอื่น ๆ ในชุดนั้น ก็เป็นทีมที่ดีมาก ๆ นะและผมก็สนุกกับการซ้อมเต็มที่

"ผมฟิตขึ้น ผมรู้สึกโอเคมาก พอถึงเดือนธันวาคมทีมชุดใหญ่ของเรากำลังมีปัญหานิดหน่อย

"นักเตะเจ็บกันเยอะ ไม่มีมิดฟิลด์ตัวกลางคนไหนฟิตมากพอเลย สุดท้ายจบลงด้วยการที่ฟิล โจนส์และฟาบิโอ ดา ซิลวาต้องไปเล่นมิดฟิลด์ในเกมกับแบล็คเบิร์นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

"ที่น่าตลกก็คือนั่นเป็นจุดจบของป็อกบา เพราะเขาคิดว่าตัวเองควรได้ลงเล่นไม่ใช่โจนส์ หรือ ฟาบิโอ อย่างไรก็ตามเขายังทำผลงานได้ไม่ดีพอ

"ผมคุยกับแกรี่และฟิลถามว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไร จากนั้นผมก็ไปคุยกับมิค ฟีแลน ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ตอนนั้นผมรู้สึกประหม่ามากเลย แต่มิครู้สึกว่ามันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม

"หนึ่งวันหลังจากนั้นผมไปเคาะประตูห้องเฟอร์กี้และเขาก็บอกว่า 'วิเศษ มาจัดการกันเลย เดี๋ยวฉันโทรหาเดวิด กิลล์เพื่อจัดการเรื่องสัญญา'"

ข่าวดังกล่าวทางเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปิดเป็นความลับ ไม่บอกนักเตะคนอื่น ๆ ภายในทีม

"เราต้องบุกไปเยือนซิตี้ เราเข้าไปในห้องแต่งตัว มีเสื้อของผมอยู่และผมมีชื่อเป็นตัวสำรอง

"ผมจำได้แดนนี่ เวลเบ็คนั่งข้าง ๆ และเขาบอกเขารู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น!

"ผมต้องจัดการเรื่องรองเท้า แวะไปร้านแถวบ้านแล้วก็ซื้อสตั๊ดเพราะผมไม่มีสักคู่! ผมไม่มีสปอนเซอร์และเราก็แจ้งข่าวให้ไนกี้รู้ไม่ได้

"เกมนัดแรกผมยังจำได้อยู่เลย เรานำ 3-0 ตอนที่ผมลงสนามและแข่งกับทีมที่เหลือ 10 คน จากนั้นสกอร์กลับมาเป็น 3-2 เฉย!

"ผมถอดเสื้อวอร์มพร้อมลงไปเล่นและเดวิด แพล็ทท์ (โค้ชของซิตี้) พูดกับผมว่า 'นี่นายทำบ้าอะไรของนาย?' ผมก็บอกไปว่าไม่รู้เหมือนกัน

"ตอนนั้นผมหวังว่าจะไม่ได้ลงไปเล่นนะ ผมคิดว่าผมจ่ายบอลแย่จนกลายเป็นลูกทุ่ม และเซอร์คิโอ อเกวโร่ก็ยิงเข้าไป"

ที่มา   http://www.soccersuck.com/boards/topic/1608396