ขอเกริ่นก่อนนะคะ
กลางหมู่บ้านของเรา มีที่ดินสาธารณะที่ถูกปล่อยรกร้างมาหลายสิบปี พื้นที่ประมาณเกือบๆ100ตร.ม. พอเรากับพ่อเราไปถางให้โล่งเตียน เพราะพ่อเราต้องการจะเคลื่อนย้ายเครื่องออกกำลังกายของหมู่บ้าน มีทั้งหมด 6 ตัว
ซึ่ง พอใช้ได้อยู่บ้าง พังบ้างแต่พอเล่นได้ และใช้งานไม่ได้เลยบ้าง และตั้งอยู่ในป่าข้างทางบ้าง ฯลฯ เพื่อที่จะได้มีลานสุขภาพชุมชนให้ทุกคนได้ใช้ร่วมกัน
พ่อเราเป็นประธานชมรมผู้สูงอายุค่ะ เขาจึงมีความคิดที่จะปรับพื้นที่สาธารณะผืนนี้ให้ใช้ประโยชน์เพื่อคนในชุมชนได้ใช้ร่วมกัน ซึ่งมีการจัดทำหนังสือบันทึกข้อความถึง ผญ.บ้าน และ ผญ.บ้าน เห็นด้วยแต่ก็ต้องมีการจัดประชาคมขึ้นด้วยเพราะเป็นประโยชน์ของคนในชุมชนทุกคน และกำลังจัดทำการประชาคมเพื่อถามความเห็นชอบจากคนในชุมชน
แต่ในขณะที่รอ ผญ.บ้าน ทำเอกสารการประชาคม กลับมีเจ้าของที่ดินโฉนดใกล้เคียงพื้นที่แปลงนี้ มาค้านค่ะ และแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ และกล่าวหาว่าเราบุกรุกที่หลวงจนเลยมาบุกรุกที่ของเขา จนเขาขู่เอาเรื่องทางกฎหมายมาขู่พ่อเราค่ะ เขามาบอกเราว่าเราโง่ ไม่รู้กฎหมายเลยเหรอ ว่า "เจ้าของที่ดินที่มีโฉนดติดกับที่หลวงนั้น สามารถใช้ประโยชน์จากที่หลวงได้เลย" ยอมรับว่าเราไม่ทราบข้อกฎหมายค่ะ เรากับพ่อเลยหยุดที่จะปรับพื้นที่ตรงนี้ต่อ
ที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์มาตั้งแต่ก่อนเราเกิดอีกค่ะ มาทราบอีกทีคือตอนเรากับพ่อเราถางจนโล่งเตียนแล้วค่ะ โดยเขาไปแจ้งวัตถุประสงค์กับ ผญ.บ้าน ว่าต้องการทำทางเข้าออกบ้าน ซึ่งมาแสดงความจำนงค์ที่จะทำทางเข้าออกบ้าน หลังจากเราและพ่อเราเสียเหงื่อกันไปเยอะเลยทีเดียว 555
ซึ่งปัจจุบันทางเข้าออกบ้านของเขามีสามทางซึ่งติดถนน และไม่ใช่ที่ตาบอดค่ะ เพราะเป็นที่หลวงเหมือนกัน เคยเป็นคลอง แล้วมีการก่อสร้างศาลาครองราชย์ฯ กลางหมู่บ้าน จึงมีการถมคลองเพื่อจะใช้เป็นสาธารณประโยชน์ค่ะ และจนถึงปัจจุบันเขาก็ใช้เป็นทางเข้าออกบ้านอยู่ค่ะ
ซึ่งตอนนี้ เท่ากับมีการค้านกันเกิดขึ้นในการขอใช้ที่สาธารณะ ทาง ผญ.บ้าน จึงมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับพ่อเราค่ะ
ทางเราแจ้งกับ ผญ.บ้านไปว่า ต้องดูที่วัตถุประสงค์ค่ะ ว่าเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และเราลงมือถางมาหลายเดือนแล้ว เราแค่อยากทำโปรเจ็คต์นี้ที่พ่อเราอยากทำให้
สำเร็จ เพื่อพ่อเราจะได้มีแรง มีกำลังใจ ที่จะรักษาตัว ที่จะต่อสู้กับมะเร็งค่ะ คนเป็นลูกทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ
และว่ากันตามจริงแล้ว เรากับพ่อเราเป็นคนถางที่ผืนนี้ด้วยความตั้งใจจริงโดยใช้แรงงานและงบประมาณส่วนตัวของเราเอง
เราเริ่มถางตั้งแต่ตุลาคม 2560 ถึงมกราคม 2561 ค่ะ เราจะถางช่วงที่ว่างจากการพาพ่อไปหาหมอ พ่อเราป่วยเป็นมะเร็งที่โคนลิ้นขวาค่ะ ตอนนี้ผ่าตัดไปสองครั้งแล้ว แต่ต้องไปหาหมอเฝ้าติดตามอาการทุกๆเดือน นี่เป็นสาเหตุหลักที่พ่อเราต้องการที่จะทำลานสุขภาพชุมชน ให้ทุกคนหันมารักสุขภาพ เพราะคนเราจะกลัวตายก็ต่อเมื่อเรามีโรคภัยคุกคามใกล้ๆ ตัว และพ่อเรานำเงินผู้สูงอายุที่ได้ในแต่ละเดือนหยอดกระปุกเพื่อจะซื้อของเล่นมาตั้งเป็นสนามเด็กเล่นย่อมๆ เพราะเด็กๆในหมู่บ้านตั้งแต่6ขวบขึ้นไปก็ไปเล่นเกมที่ร้านเกม พ่อเราเลยอยากหากิจกรรมให้เด็กๆมาทำ เช่น ทำหนังสือขอช่วยทาง กศน.มาจัดสอนกลุ่มอาชีพแก่ผู้สูงอายุ และเด็กๆเยาวชนในชุมชนด้วยค่ะ
แล้วสาเหตุที่เพิ่งมาถาง เพราะต้องปลีกตัวจากงานประจำค่ะ และเราถามคำถามนี้ไปกับเจ้าของที่ที่ติดกับที่สาธารณะไปด้วยนะคะ เขากลับถามเรากลับมาว่า ใครอนุญาติให้คุณมาถาง มาทำล่ะ ทำไมไม่บอกเขาเลย (ทั้งๆที่เขาเห็นเราตั้งแต่เริ่มถางแล้วค่ะ) แล้วการถางที่หลวงให้สะอาดเราคิดว่าเราคิดดีทำดี เราก็เลยทำเลย ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศ เราแค่คิดว่าดี ก็ลงมือทำเลย เราก็เลยถามกลับ กลับได้คำตอบว่า เขาก็คิดจะมาถางแหละแต่ยังไม่มีเวลา
ตามที่เล่ามาเราควรทำยังไงต่อไปดีคะ ขอสอบถามผู้รู้ค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล.เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกค่ะ หาทางออกไม่ได้แล้วจริงๆค่ะ
จะขอใช้ที่ดินหลวงเพื่อสาธารณะ ต้องทำยังไงบ้างคะ? แล้วถ้ามีคนค้านเพียงเพื่อจะใช้ประโยชน์ส่วนตนจะได้เหรอคะ?
กลางหมู่บ้านของเรา มีที่ดินสาธารณะที่ถูกปล่อยรกร้างมาหลายสิบปี พื้นที่ประมาณเกือบๆ100ตร.ม. พอเรากับพ่อเราไปถางให้โล่งเตียน เพราะพ่อเราต้องการจะเคลื่อนย้ายเครื่องออกกำลังกายของหมู่บ้าน มีทั้งหมด 6 ตัว
ซึ่ง พอใช้ได้อยู่บ้าง พังบ้างแต่พอเล่นได้ และใช้งานไม่ได้เลยบ้าง และตั้งอยู่ในป่าข้างทางบ้าง ฯลฯ เพื่อที่จะได้มีลานสุขภาพชุมชนให้ทุกคนได้ใช้ร่วมกัน
พ่อเราเป็นประธานชมรมผู้สูงอายุค่ะ เขาจึงมีความคิดที่จะปรับพื้นที่สาธารณะผืนนี้ให้ใช้ประโยชน์เพื่อคนในชุมชนได้ใช้ร่วมกัน ซึ่งมีการจัดทำหนังสือบันทึกข้อความถึง ผญ.บ้าน และ ผญ.บ้าน เห็นด้วยแต่ก็ต้องมีการจัดประชาคมขึ้นด้วยเพราะเป็นประโยชน์ของคนในชุมชนทุกคน และกำลังจัดทำการประชาคมเพื่อถามความเห็นชอบจากคนในชุมชน
แต่ในขณะที่รอ ผญ.บ้าน ทำเอกสารการประชาคม กลับมีเจ้าของที่ดินโฉนดใกล้เคียงพื้นที่แปลงนี้ มาค้านค่ะ และแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ และกล่าวหาว่าเราบุกรุกที่หลวงจนเลยมาบุกรุกที่ของเขา จนเขาขู่เอาเรื่องทางกฎหมายมาขู่พ่อเราค่ะ เขามาบอกเราว่าเราโง่ ไม่รู้กฎหมายเลยเหรอ ว่า "เจ้าของที่ดินที่มีโฉนดติดกับที่หลวงนั้น สามารถใช้ประโยชน์จากที่หลวงได้เลย" ยอมรับว่าเราไม่ทราบข้อกฎหมายค่ะ เรากับพ่อเลยหยุดที่จะปรับพื้นที่ตรงนี้ต่อ
ที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์มาตั้งแต่ก่อนเราเกิดอีกค่ะ มาทราบอีกทีคือตอนเรากับพ่อเราถางจนโล่งเตียนแล้วค่ะ โดยเขาไปแจ้งวัตถุประสงค์กับ ผญ.บ้าน ว่าต้องการทำทางเข้าออกบ้าน ซึ่งมาแสดงความจำนงค์ที่จะทำทางเข้าออกบ้าน หลังจากเราและพ่อเราเสียเหงื่อกันไปเยอะเลยทีเดียว 555
ซึ่งปัจจุบันทางเข้าออกบ้านของเขามีสามทางซึ่งติดถนน และไม่ใช่ที่ตาบอดค่ะ เพราะเป็นที่หลวงเหมือนกัน เคยเป็นคลอง แล้วมีการก่อสร้างศาลาครองราชย์ฯ กลางหมู่บ้าน จึงมีการถมคลองเพื่อจะใช้เป็นสาธารณประโยชน์ค่ะ และจนถึงปัจจุบันเขาก็ใช้เป็นทางเข้าออกบ้านอยู่ค่ะ
ซึ่งตอนนี้ เท่ากับมีการค้านกันเกิดขึ้นในการขอใช้ที่สาธารณะ ทาง ผญ.บ้าน จึงมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับพ่อเราค่ะ
ทางเราแจ้งกับ ผญ.บ้านไปว่า ต้องดูที่วัตถุประสงค์ค่ะ ว่าเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และเราลงมือถางมาหลายเดือนแล้ว เราแค่อยากทำโปรเจ็คต์นี้ที่พ่อเราอยากทำให้
สำเร็จ เพื่อพ่อเราจะได้มีแรง มีกำลังใจ ที่จะรักษาตัว ที่จะต่อสู้กับมะเร็งค่ะ คนเป็นลูกทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ
และว่ากันตามจริงแล้ว เรากับพ่อเราเป็นคนถางที่ผืนนี้ด้วยความตั้งใจจริงโดยใช้แรงงานและงบประมาณส่วนตัวของเราเอง
เราเริ่มถางตั้งแต่ตุลาคม 2560 ถึงมกราคม 2561 ค่ะ เราจะถางช่วงที่ว่างจากการพาพ่อไปหาหมอ พ่อเราป่วยเป็นมะเร็งที่โคนลิ้นขวาค่ะ ตอนนี้ผ่าตัดไปสองครั้งแล้ว แต่ต้องไปหาหมอเฝ้าติดตามอาการทุกๆเดือน นี่เป็นสาเหตุหลักที่พ่อเราต้องการที่จะทำลานสุขภาพชุมชน ให้ทุกคนหันมารักสุขภาพ เพราะคนเราจะกลัวตายก็ต่อเมื่อเรามีโรคภัยคุกคามใกล้ๆ ตัว และพ่อเรานำเงินผู้สูงอายุที่ได้ในแต่ละเดือนหยอดกระปุกเพื่อจะซื้อของเล่นมาตั้งเป็นสนามเด็กเล่นย่อมๆ เพราะเด็กๆในหมู่บ้านตั้งแต่6ขวบขึ้นไปก็ไปเล่นเกมที่ร้านเกม พ่อเราเลยอยากหากิจกรรมให้เด็กๆมาทำ เช่น ทำหนังสือขอช่วยทาง กศน.มาจัดสอนกลุ่มอาชีพแก่ผู้สูงอายุ และเด็กๆเยาวชนในชุมชนด้วยค่ะ
แล้วสาเหตุที่เพิ่งมาถาง เพราะต้องปลีกตัวจากงานประจำค่ะ และเราถามคำถามนี้ไปกับเจ้าของที่ที่ติดกับที่สาธารณะไปด้วยนะคะ เขากลับถามเรากลับมาว่า ใครอนุญาติให้คุณมาถาง มาทำล่ะ ทำไมไม่บอกเขาเลย (ทั้งๆที่เขาเห็นเราตั้งแต่เริ่มถางแล้วค่ะ) แล้วการถางที่หลวงให้สะอาดเราคิดว่าเราคิดดีทำดี เราก็เลยทำเลย ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศ เราแค่คิดว่าดี ก็ลงมือทำเลย เราก็เลยถามกลับ กลับได้คำตอบว่า เขาก็คิดจะมาถางแหละแต่ยังไม่มีเวลา
ตามที่เล่ามาเราควรทำยังไงต่อไปดีคะ ขอสอบถามผู้รู้ค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล.เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกค่ะ หาทางออกไม่ได้แล้วจริงๆค่ะ