ดิฉันมั่นใจนะคะว่า ท่านผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท ภัตตาคาร สวนอาหาร ร้านอาหารขนาดใหญ่ ทุกท่าน คงเข้าใจดีอยู่แล้วว่าการที่รับตำแหน่ง Executive Chef มานั้น แสดงว่าตอนนี้ในครัวของท่านขาดผู้นำระบบครัว หรือไม่ก็มีปัญหาต่างๆภายในครัว คราวนี้ถ้าคุณว่าจ้างเขาเข้ามาเเล้วคุณก็ปล่อยให้เขาบริหารงานไปซิคะ พูดเริ่มต้นมาเยอะไป ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
ดิฉันได้ ถูกว่าจ้างมาทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง อยู่แถวสุขุมวิท ซึ่งร้านนี้ดูหรูมากแต่ร้านเหมือนมี มนต์ขลัง ดูลึกลับ บริเวณรอบๆร้านดูมืดๆน่ากลัว ตอนเขาโทรมาเขาก็บอกเองว่าเขาเป็นเจ้าของร้านนี้นะ ตอนนี้ที่ร้านเขามีปัญหาเกี่ยวกับทีมงานในครัว ไม่มีผู้นำ ไม่มีคนจัดระบบ และก็มีอยู่ 1 คน ซึ่งเป็นตัวปัญหามาก สูตรซอสปรุงประจำร้านก็โดน Ex Chef คนก่อนๆลบทิ้งหมดทุกไฟล์ (นางก็อธิบายถึงปัญหาต่างๆให้ฟังต่อ) คุยกันทางโทรศัพท์ประมาณ 30 นาทีให้เลยอยากจะเชิญให้ดิฉันเข้าไปพูดคุยที่ร้าน และต้องการให้ไปวั้นนั้นเลยคือวันที่โทรมาครั้งแรก ดิฉันเลยบอกว่าวันนี้ดิฉันไม่ว่า ขอเวลาอีก 2 วัน จะเข้าไปพบ นางเลยบอกว่านางรีบมากต้องการคนมาบริหารระบบในครัวด่วน ดิฉันก็เลยแบ่งรับแบ่งสู้ และบอกว่า ตอนนี้ดิฉันได้ทำการสอนเด็กๆทำอาหารอยู่และยังรับจัดระบบ ทำซอสปรุงรสสำหรับร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่ เลยยังไม่สะดวก นางก็เร่งอยากได้คำตอบ ก็เลยบอกนางไปว่างั้นถ้าพรุ่งนี้เสร็จธุระจากลูกค้าที่คูคตแล้วจะเข้าไปพบแต่ไม่มั่นใจว่าจะเสร็จพรุ่งนี้ตอนไหนนะคะ นางก็บอกว่างั้นพรุ่งนี้เจอกัน 4 โมงเย็น ต่อมาดิฉันได้มาพบกับนางแต่ไม่ตรงเวลา แต่ได้โทรมาแจ้งกับนางแล้วว่าไม่ทันตอน 4 โมงเย็นนะคะ น่าจะถึงประมาณ 5 โมงครึ่งประมาณนั้น พอดิฉันมาถึงที่ร้านนางเกือบ 6 โมงเย็น ซึ่งนางก็ยังมาไม่ถึง และดิฉันก็ยังได้นั่งรอนางอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็มีคนในครัวของนางมาเรียกบอกให้ดิฉันไปเทสอาหารให้ 4 อย่าง พอทำการเทสอาหารเสร็จแล้ว 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงได้พบนาง และนางได้ทำการสัมภาษณ์ดิฉันจนถึง 5 ทุ่ม ดิฉันก็อธิบายแผนงานของดิฉันให้นางฟังว่า สิ่งที่ดิฉันทำก็คือ "จัดทำเอกสาร เช่น สต็อกวัตถุดิบ พาร์สต๊อก จัดหา Supplier คิดค้นเมนูอาหารใหม่ๆ ทำน้ำซอสกลางเพื่อให้เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน และตัดครอสอาหารเพือหาต้นทุนวัตถุดิบแต่ละจาน ต้นทุนของอาหารที่ขายต่อจานก็จะตัดครอสออกมาเพื่อไม่ให้เกิน 40% ของอาหารต่อ 1 จาน จัดการทำอาหารแปรรูปเช่น อาจจะมีการทอดของเสียหายแล้วก็ทิ้งเช่น ขาหมูเยอรมันละกัน เด็กทอดออกมาไหม้เกินไปก็ได้ทำการแปรขาหมูขานั้นไปเป็นขาหมูน้ำแดง ทีนี้หลังจากขาหมูน้ำแดงน้ำเค้าก็ได้ทำการตุ๋นนานไปก็ทำไรไม่ได้ละเลยเเปรไปเป็น ขาหมูเย็น ทำไปเรื่อย จัดทำโปรโมชั่นเพื่อไว้กระตุ้นยอดขาย และจัดโปรโมชั่นของอาหารทะเลที่มี ปีละครั้ง คิดแผนการโปรโมท หรือทำการโฆษณา เพื่อให้ทางลูกค้าได้รู้ว่าตอนนี้ที่ร้านมีโปรอะไร จัดระบบทีมงาน ตารางเวร วันหยุด แล้วจัดหน้าที่ของแต่ละคนให้ทำตามที่ตนถนัด เช่น ใครถนัดผัด ต้ม ทอด ยำ ยุโรป หรือญี่ปุ่น ก็จะกระจ่ายงานให้ตรงกับสายของแต่ละคนที่ถนัด หลังจากนั้นก็จะให้แต่ละคนเวียนครัวกันเพื่อให้ Chef ทุกคนได้มีการหาประสบการณ์ใหม่ๆซึ่งบางคนก็ยังไม่เคยทำ แต่ดิฉันก็ได้ทำการสอนเพื่อผึกให้ Chef แต่ละคนชำนานในอาหารที่ตนไม่ถนัด สอนให้เด็กๆแต่ละตนได้รู้จักวิธีการเช็คของที่ถูกต้องก่อนปิดครัว เพื่อที่จะได้ทำการออกใบสั่งซื้อและส่งให้กับทางออฟฟิศเพื่อเปิด PO ดิฉันมั่นใจคะว่าอธิบายแผนงานทุกอย่างให้นางฟังอย่างละเอียดทุกขั้นตอนพร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าคุณพร้อมที่จะว่าจ้างดิฉันมาก็ต้องปล่อยให้ดิฉันจัดระบบให้ตามแผนงานของดิฉันที่วางไว้นะคะ" นางตอบยินดี เเละพูดว่าพรุ่งนี้พร้อมไหม ดิฉันตอบว่าพร้อมอีกทีวันที่ 15/2 นี้คะ เพราะต้องเก็บงานของลูกค้าให้เสร็จก่อน นางก็บอกว่าอยากให้มาเริ่มพรุ่งนี้ก่อนได้ไหมมันใกล้จะเทศกาลคนของเขายังไม่พร้อมจะได้จัดวางตัวของแต่ละคนได้ ดิฉันก็คิดหนักงานก็อยากได้ เงินก็อยากมี ดิฉันคิดสักพักแล้วตอบว่าถ้าได้ก็ต้องเกินเวลานะคะไม่ได้มาถึงร้าน บ่าย 2 โมง ตรงนะคะ ถ้าเร็วสุดก็ 4 โมงครึ่งหรือก่อน
5 โมงประมาณนั้นคะ นางก็บอกว่าได้งั้นมาช่วยก่อนคิดค่าแรงให้เป็นรายวันซึ่งหารจากยอดเงินเดือน แล้ววันที่ 15 ค่อยเริ่มทำงานจริง ดิฉันก็เลยบอกไปว่า ได้คะ แต่ในใจมันมีความรู้สึกไม่อยากทำเลยจริงๆ เพราะช่วงที่คุยกันอยู่ดูนางหงุดหงิด ให้น้องๆบริการในร้านของนางเหลือเกิน ที่เห็นได้ชัดคือ บางคนเดินออกมาไม่ปิดประตู เสริฟอาหารให้ลูกค้า ซึ่งดิฉันก็ดูแล้วน้องเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ก็เเค่เสริฟแล้วหามุมลงยังไม่ได้เลยขยับอีกมุมนึงของโต๊ะ เฮ้อ!! แล้วนางก็เรียกน้องๆพวกนั้นมาตำหนิค่อนข้างแรงต่อหน้าดิฉัน คราวนี้มาเริ่มงานวันแรกซึ่งไม่ใช่วันจริง ดิฉันมาถึงเวลา 16.45น. อันดับแรกนาบอกว่าไหนว่าไม่เกิน 4 โมงครึ่ง ดิฉัน งง คะ นางฟังดิฉันผิดไปหรือดิฉันพูดไม่เคลียร์ ไม่เป็นไร ทีนี้นางพาเข้ามาในครัว นางบอกว่าเดี๋ยวให้เชฟมาอยู่ครัวต้มครัวแกงนะ แล้วเรียนรู้งานจากคนเก่าก่อนมีเวลาที่2วันต้องทำให้ได้มากที่สุด เพราะวันที่15 เชฟคนเก่าเค้าจะหยุดยาว เอิ่มมมม เริ่มไม่เข้าใจละ แต่ก็ทนๆก่อน หยวนๆๆไปเพราะเรามาใหม่ก็ต้องมาศึกษาหน้าตาอาหารที่ใหม่บ้างเพื่อจะได้ออกแบบมาใกล้เคียงกัน เออๆๆ ปลอบใจตัวเองก่อน วันต่อมา ดิฉันได้มาเตรียมผักซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ช่วย ล้างของ เออ เริ่มไม่ใช่ละแต่ก็คิดไปในทางที่ดี เรียนรู้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งมั้ง เหอะ!! พอทีนี้รื้อตู้เย็น ทำให้รู้มากขึ้นเลยว่า มั่วคะ ของสด ผัก ของแห้ง ต่างๆ ทุกอย่างไม่มีการ FIFO วัตถุดิบและแยกประเภทไว้เลย เนื้อไก่เขียวคาตู้ เนื้อปลาหิมะ จากสีขาวสด กลายเป็นสีเหลือง ผักชีเน่าคาตู้ พร้อมรากยังดำอยู่สงสัยเตรียมปลูกต่อ ดิฉันก็ได้ทำการหาเก้าอี้มานั่งเพื่อจดบันทึกพร้อมรางระบบเพื่อจะได้ทำเสนอให้นางภาย คืนนี้ดิฉันเลิกงานเกือบ ตี1 เพราะนางโทรมาบอกให้ดิฉันเช็คของว่าพอขายถึงวันพรุ่งนี้ไหม แต่ละรายการมีทำไว้กี่ชุด กุ้งวันนี้เข้าแพ็คได้เท่าไหร่กี่ที่ ??? เพราะพรุ่งนี้เป็นวันงาน โอเคดิฉันเข้าใจ เช็คไปพร้อมกับบรรยากาศรอบๆร้านที่น่ากลัวและเยือกเย็น บอกก่อนว่าดิฉันเป็นคนกลัวผี คร้าา แต่ดิฉันก็เช็คเเล้วก็ต้องรื้อตู้ข้างหลังครัวอีกครั้งคราวนี้เจอความเสียหายหนัก ดิฉันเลยได้เสนอนางว่าขอสั่งน้ำแข็งวันละ 4 กระสอบคะบางวันอาจจะไม่สั่ง พอดีเดินไปรอบๆร้านเจอถังน้ำแข็ง200ลิตร2ใบพอดีที่ไม่ได้ใช้ เสียงในสายตอบมาว่าค่าน้ำแข็งจะแพงกว่าค่าผักอะซิ สิ้นเปลือง (คือไรจ้างมาทำไรว๊ะเนี่ย)เริ่มหัวร้อนแล้วคะ ดิฉันจะมาทำการกระจาย ของสด ผัก ผลไม้ ออก เพราะตู้เย็นทางร้านมีไม่เพียงพอ ต้องกำการแยกของจากตลาดออก เพื่อนำมาเข้าห้องเตรียมแล้วค่อยมาทำการคัดแยก ล้าง แพ็คให้ได้ในปริมาณของอาหารต่อจานที่กำหนดไว้ พร้อมลงวันที่ผลิตและกำหนดวันหหมดอายุของวัตถุดิบแต่ละชนิดด้วยคะ ไม่งั้นของที่ซื้อมาก็จะไม่ได้ใช้ต้องซื้อใหม่อีกเพราะยัดๆไว้จนหาไม่เจอ เจออีกทีตอนเน่าคะ งง มากขึ้น
คราวนี้วันที่ 14 วันแรงคะ ของสดทุกอย่างทุกครัวได้นำใส่ถาดออกมาเพื่อให้ละลายเตรียมไว้พร้อมขาย นางก็เข้ามาในครัว ตอน 2ทุ่ม มาถึงนางก็ตรงดิ่งเข้ามาหาดิฉันแล้วถามว่าทำอะไร ตอนนั้นดิฉันช่วยเด็กๆเเพ็คเนื้อไก่ชั่งน้ำหนักให้อยู่ ซึ่งคนเตรียมของสดทำไก่3kg.ตั้งแต่บ่าย3 โมงจนถึงเวลาเกือบ2ทุ่มนั่นแหละ เพราะของขายเตรียมกันไว้หมดทุกครัวแล้วรอเเต่ออเดอร์เข้ามาเท่านั้น ฉะนั้นเวลาว่างก็ช่วยๆกันทำไปเดี๋ยวก็เสร็จ ดิฉันช่วยหมดแหละคะแม้กระทั่งช่วยเด็กตักไขมันในบ่อไขมันแข็งๆซึ่งไม่ได้ตักมาแล้วกี่ปี ดิฉันคิดว่า 3 วันนี้เก็บรายละเอียดของคน การทำงาน ปัญหาต่างๆให้ได้มากที่สุด เพราะตอนที่ดิฉันเข้ามายังไม่ได้มีการแนะนำตัวว่าดิฉันมาในตำแหน่งอะไร นี่แหละถึงทำให้มีเวลาศึกษาหาข้อมูลกับเด็กๆและก็ได้คำตอบแบบไม่ต้องถาม เลยว่า
ที่ร้านนี้เปลี่ยน Ex Chef บ่อยมากๆๆ เพราะนางเป็นคนไม่ชอบให้ใครขัดใจ ห้ามเถียง หาคนเข้ามาแล้วก็ยังมากำกับมาวุ่นวายกับ มั่วงาน ครั้งก่อนๆโดน Ex Chef คนเก่า เดินขึ้นไปด่าถึงบน ออฟฟิศเลย นางเหมือนคนเป็นโรคประสาท แล้วก็ไปโทษหาคนเก่าๆในครัวชอบมีปัญหาบ้าง (สาบาน นี่คือคำพูดของเด็กเก่าที่ยังอยู่ในร้านพูดให้ฟัง)
คราวนี้แหละตะ ออเดอร์เข้า นางเหมือนผีเข้าเลย โต๊ะแรกออเดอร์มาเด็กเดินอาหารก็ขานออเดอร์ 5 อย่าง มาอีกคนก็ขาน 3 อย่างคนละโต๊ะ ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที นางยืนอยู่ตรงเช็คเกอร์แล้วตะโกนถามออกมาว่า เสร้จยัง ออเดอร์ชุดแแรกออกมายังไม่เสร็จอีกหรอ ทำไมทำไรกันอยุ่ทำไมช้าไม่ทันกิน โอ้ยแม่คุณ8อย่างยังไม่ถึง 5 นาทีเลย แล้วนางก็ตะโกนออกมาบอกดิฉันว่าให้มาเป็นเช็คเกอร์ซิ ตอนนั้นดิฉันช่วยครัวยำอยู่เพราะครัวยำเป็นชาวเขาแล้วก็แค่มาเสริม ดิฉันก็วิ่งไปตามใจนาง ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเมื่อไร่จะ 5 ทุ่มว๊ะ พอยืนเช็คเกอร์ ไม่มีคนเอาอาหารมาไว้ตรงเช็คเกอร์ ดิฉันก็ต้องวิ่งไปหยิบแต่ละครัวมาแล้ววิ่งไปช่วยน้องเขาต่อ คือยังไงก็ไม่ทัน ออเดอร์เริ่มเยอะ วิ่งอยู่อย่างนี้ นับ 1-1,000ละ นางก็โวยวายตะโกนด่าว่าเชฟหน้าเตแต่ละคนไม่ได้เรื่องบ้างทำไมต้องให้กับบ่อยๆ อาหารเขาเป็นอาหารไทยนะคะ วัตถุดิบที่ใช้คือ กุ้งล็อบสเตอร์ เนื้อริบอาย เนื้อแกะ ซี่โครงหมูแผ่น ฯลฯ แล้วนางก็ตะโกนบอกดิฉันว่าให้ไปเอานั่น ให้หน่อย เอานี้ไปหน่อย คราวนี้แหละนางให้ดิฉันหบิบจานยำมาไว้ตรงเช็คเกอร์ซึ่งดิฉันก็กำลังจะเอาไปพอดี ยังไม่ทันถึงโต๊ะเช็คเกอร์ สรุปว่า จานใบนั้นบินคะ เบินเข้าตัวดิฉันคะ พร้อมกับคำพูดที่ว่า จะออกไปไหนกันก็ไปยืนกันทำไมวุ่นวายเกะกะ คือไรถามหน่อยทำหน้าที่อะไรตำแหน่งอะไรกันแน่ว๊ะ ของขึ้นซิคะ ดิฉันคุมอารมณ์แทบจะไม่อยู่กำมือไว้แน่เหมือนคนบ้าแล้วตอนนั้นดิฉันหน้ามืดไปหมด แต่ก็สงบอารมณ์ไว้เดินออกไปข้างนอกหลังครัวดีกว่าตั้งสติเสียก่อนจากนั้นคนที่เดินตามดิฉันออกมาคือเด็กๆในครัว พร้อมทั้งบอกว่าเชฟอย่าไปนะ เชฟสู้นะสู้ด้วยกัน พวกเรารู้ว่าเชฟกำลังทำอยู่ทุกอย่างไม่ใช่หน้าที่เชฟๆยังทำอยู่ต่อนะ ดิฉันเลยบอกทุกคนว่า สู้ๆนะ ทนเพื่อเงิน แต่เชฟขอเลือกไม่ต่อดีกว่าโชคดีนะ ไม่น่าทิ้งเงิน 3,500 สำหรับงานที่ต้องรับจ๊อบวันนี้ มาช่วยงานดีๆที่ตัวเองรักและทำมา22ปี กับเจ้าของร้านบ้าๆแบบนี้ ตั้งใจว่าจะไม่ลงไม่โพสไม่โต้ตอบ แต่นึกแล้วแค้น ช่วยมา 3 วันเงินก็ไม่ได้ เสียความรู้สึก นี่เเหละคือบทเรียนที่ต้องศึกษาใหม่และทำความเข้าใจใหม่กับตำแหน่ง Executive Chef มีหน้าที่อะไร เหอะๆๆ ฉันโง่หรือเธอบ้า กันแน่ ขอโทษนะคะ ดิฉันมีใบการันตี ใบประกาศ ประสบการณ์ ความสามารถ การศึกษา ไม่ใช่แค่พูด ทุกอย่างทำได้จิง พอกันทีกับคนแบบนี้
ขอโทษนะคะเพื่อนๆมันยาวมากเกินไป อีดอัด เเละนี่เป็นครั้งแรก ผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
สวัสดีคะ เริ่มต้นจาก "Steward มาจนถึง Executive Chef" 22 ปีผ่านมา มีครั้งนี้ที่ท้อที่สุด!!
ดิฉันได้ ถูกว่าจ้างมาทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง อยู่แถวสุขุมวิท ซึ่งร้านนี้ดูหรูมากแต่ร้านเหมือนมี มนต์ขลัง ดูลึกลับ บริเวณรอบๆร้านดูมืดๆน่ากลัว ตอนเขาโทรมาเขาก็บอกเองว่าเขาเป็นเจ้าของร้านนี้นะ ตอนนี้ที่ร้านเขามีปัญหาเกี่ยวกับทีมงานในครัว ไม่มีผู้นำ ไม่มีคนจัดระบบ และก็มีอยู่ 1 คน ซึ่งเป็นตัวปัญหามาก สูตรซอสปรุงประจำร้านก็โดน Ex Chef คนก่อนๆลบทิ้งหมดทุกไฟล์ (นางก็อธิบายถึงปัญหาต่างๆให้ฟังต่อ) คุยกันทางโทรศัพท์ประมาณ 30 นาทีให้เลยอยากจะเชิญให้ดิฉันเข้าไปพูดคุยที่ร้าน และต้องการให้ไปวั้นนั้นเลยคือวันที่โทรมาครั้งแรก ดิฉันเลยบอกว่าวันนี้ดิฉันไม่ว่า ขอเวลาอีก 2 วัน จะเข้าไปพบ นางเลยบอกว่านางรีบมากต้องการคนมาบริหารระบบในครัวด่วน ดิฉันก็เลยแบ่งรับแบ่งสู้ และบอกว่า ตอนนี้ดิฉันได้ทำการสอนเด็กๆทำอาหารอยู่และยังรับจัดระบบ ทำซอสปรุงรสสำหรับร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่ เลยยังไม่สะดวก นางก็เร่งอยากได้คำตอบ ก็เลยบอกนางไปว่างั้นถ้าพรุ่งนี้เสร็จธุระจากลูกค้าที่คูคตแล้วจะเข้าไปพบแต่ไม่มั่นใจว่าจะเสร็จพรุ่งนี้ตอนไหนนะคะ นางก็บอกว่างั้นพรุ่งนี้เจอกัน 4 โมงเย็น ต่อมาดิฉันได้มาพบกับนางแต่ไม่ตรงเวลา แต่ได้โทรมาแจ้งกับนางแล้วว่าไม่ทันตอน 4 โมงเย็นนะคะ น่าจะถึงประมาณ 5 โมงครึ่งประมาณนั้น พอดิฉันมาถึงที่ร้านนางเกือบ 6 โมงเย็น ซึ่งนางก็ยังมาไม่ถึง และดิฉันก็ยังได้นั่งรอนางอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็มีคนในครัวของนางมาเรียกบอกให้ดิฉันไปเทสอาหารให้ 4 อย่าง พอทำการเทสอาหารเสร็จแล้ว 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงได้พบนาง และนางได้ทำการสัมภาษณ์ดิฉันจนถึง 5 ทุ่ม ดิฉันก็อธิบายแผนงานของดิฉันให้นางฟังว่า สิ่งที่ดิฉันทำก็คือ "จัดทำเอกสาร เช่น สต็อกวัตถุดิบ พาร์สต๊อก จัดหา Supplier คิดค้นเมนูอาหารใหม่ๆ ทำน้ำซอสกลางเพื่อให้เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน และตัดครอสอาหารเพือหาต้นทุนวัตถุดิบแต่ละจาน ต้นทุนของอาหารที่ขายต่อจานก็จะตัดครอสออกมาเพื่อไม่ให้เกิน 40% ของอาหารต่อ 1 จาน จัดการทำอาหารแปรรูปเช่น อาจจะมีการทอดของเสียหายแล้วก็ทิ้งเช่น ขาหมูเยอรมันละกัน เด็กทอดออกมาไหม้เกินไปก็ได้ทำการแปรขาหมูขานั้นไปเป็นขาหมูน้ำแดง ทีนี้หลังจากขาหมูน้ำแดงน้ำเค้าก็ได้ทำการตุ๋นนานไปก็ทำไรไม่ได้ละเลยเเปรไปเป็น ขาหมูเย็น ทำไปเรื่อย จัดทำโปรโมชั่นเพื่อไว้กระตุ้นยอดขาย และจัดโปรโมชั่นของอาหารทะเลที่มี ปีละครั้ง คิดแผนการโปรโมท หรือทำการโฆษณา เพื่อให้ทางลูกค้าได้รู้ว่าตอนนี้ที่ร้านมีโปรอะไร จัดระบบทีมงาน ตารางเวร วันหยุด แล้วจัดหน้าที่ของแต่ละคนให้ทำตามที่ตนถนัด เช่น ใครถนัดผัด ต้ม ทอด ยำ ยุโรป หรือญี่ปุ่น ก็จะกระจ่ายงานให้ตรงกับสายของแต่ละคนที่ถนัด หลังจากนั้นก็จะให้แต่ละคนเวียนครัวกันเพื่อให้ Chef ทุกคนได้มีการหาประสบการณ์ใหม่ๆซึ่งบางคนก็ยังไม่เคยทำ แต่ดิฉันก็ได้ทำการสอนเพื่อผึกให้ Chef แต่ละคนชำนานในอาหารที่ตนไม่ถนัด สอนให้เด็กๆแต่ละตนได้รู้จักวิธีการเช็คของที่ถูกต้องก่อนปิดครัว เพื่อที่จะได้ทำการออกใบสั่งซื้อและส่งให้กับทางออฟฟิศเพื่อเปิด PO ดิฉันมั่นใจคะว่าอธิบายแผนงานทุกอย่างให้นางฟังอย่างละเอียดทุกขั้นตอนพร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าคุณพร้อมที่จะว่าจ้างดิฉันมาก็ต้องปล่อยให้ดิฉันจัดระบบให้ตามแผนงานของดิฉันที่วางไว้นะคะ" นางตอบยินดี เเละพูดว่าพรุ่งนี้พร้อมไหม ดิฉันตอบว่าพร้อมอีกทีวันที่ 15/2 นี้คะ เพราะต้องเก็บงานของลูกค้าให้เสร็จก่อน นางก็บอกว่าอยากให้มาเริ่มพรุ่งนี้ก่อนได้ไหมมันใกล้จะเทศกาลคนของเขายังไม่พร้อมจะได้จัดวางตัวของแต่ละคนได้ ดิฉันก็คิดหนักงานก็อยากได้ เงินก็อยากมี ดิฉันคิดสักพักแล้วตอบว่าถ้าได้ก็ต้องเกินเวลานะคะไม่ได้มาถึงร้าน บ่าย 2 โมง ตรงนะคะ ถ้าเร็วสุดก็ 4 โมงครึ่งหรือก่อน
5 โมงประมาณนั้นคะ นางก็บอกว่าได้งั้นมาช่วยก่อนคิดค่าแรงให้เป็นรายวันซึ่งหารจากยอดเงินเดือน แล้ววันที่ 15 ค่อยเริ่มทำงานจริง ดิฉันก็เลยบอกไปว่า ได้คะ แต่ในใจมันมีความรู้สึกไม่อยากทำเลยจริงๆ เพราะช่วงที่คุยกันอยู่ดูนางหงุดหงิด ให้น้องๆบริการในร้านของนางเหลือเกิน ที่เห็นได้ชัดคือ บางคนเดินออกมาไม่ปิดประตู เสริฟอาหารให้ลูกค้า ซึ่งดิฉันก็ดูแล้วน้องเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ก็เเค่เสริฟแล้วหามุมลงยังไม่ได้เลยขยับอีกมุมนึงของโต๊ะ เฮ้อ!! แล้วนางก็เรียกน้องๆพวกนั้นมาตำหนิค่อนข้างแรงต่อหน้าดิฉัน คราวนี้มาเริ่มงานวันแรกซึ่งไม่ใช่วันจริง ดิฉันมาถึงเวลา 16.45น. อันดับแรกนาบอกว่าไหนว่าไม่เกิน 4 โมงครึ่ง ดิฉัน งง คะ นางฟังดิฉันผิดไปหรือดิฉันพูดไม่เคลียร์ ไม่เป็นไร ทีนี้นางพาเข้ามาในครัว นางบอกว่าเดี๋ยวให้เชฟมาอยู่ครัวต้มครัวแกงนะ แล้วเรียนรู้งานจากคนเก่าก่อนมีเวลาที่2วันต้องทำให้ได้มากที่สุด เพราะวันที่15 เชฟคนเก่าเค้าจะหยุดยาว เอิ่มมมม เริ่มไม่เข้าใจละ แต่ก็ทนๆก่อน หยวนๆๆไปเพราะเรามาใหม่ก็ต้องมาศึกษาหน้าตาอาหารที่ใหม่บ้างเพื่อจะได้ออกแบบมาใกล้เคียงกัน เออๆๆ ปลอบใจตัวเองก่อน วันต่อมา ดิฉันได้มาเตรียมผักซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ช่วย ล้างของ เออ เริ่มไม่ใช่ละแต่ก็คิดไปในทางที่ดี เรียนรู้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งมั้ง เหอะ!! พอทีนี้รื้อตู้เย็น ทำให้รู้มากขึ้นเลยว่า มั่วคะ ของสด ผัก ของแห้ง ต่างๆ ทุกอย่างไม่มีการ FIFO วัตถุดิบและแยกประเภทไว้เลย เนื้อไก่เขียวคาตู้ เนื้อปลาหิมะ จากสีขาวสด กลายเป็นสีเหลือง ผักชีเน่าคาตู้ พร้อมรากยังดำอยู่สงสัยเตรียมปลูกต่อ ดิฉันก็ได้ทำการหาเก้าอี้มานั่งเพื่อจดบันทึกพร้อมรางระบบเพื่อจะได้ทำเสนอให้นางภาย คืนนี้ดิฉันเลิกงานเกือบ ตี1 เพราะนางโทรมาบอกให้ดิฉันเช็คของว่าพอขายถึงวันพรุ่งนี้ไหม แต่ละรายการมีทำไว้กี่ชุด กุ้งวันนี้เข้าแพ็คได้เท่าไหร่กี่ที่ ??? เพราะพรุ่งนี้เป็นวันงาน โอเคดิฉันเข้าใจ เช็คไปพร้อมกับบรรยากาศรอบๆร้านที่น่ากลัวและเยือกเย็น บอกก่อนว่าดิฉันเป็นคนกลัวผี คร้าา แต่ดิฉันก็เช็คเเล้วก็ต้องรื้อตู้ข้างหลังครัวอีกครั้งคราวนี้เจอความเสียหายหนัก ดิฉันเลยได้เสนอนางว่าขอสั่งน้ำแข็งวันละ 4 กระสอบคะบางวันอาจจะไม่สั่ง พอดีเดินไปรอบๆร้านเจอถังน้ำแข็ง200ลิตร2ใบพอดีที่ไม่ได้ใช้ เสียงในสายตอบมาว่าค่าน้ำแข็งจะแพงกว่าค่าผักอะซิ สิ้นเปลือง (คือไรจ้างมาทำไรว๊ะเนี่ย)เริ่มหัวร้อนแล้วคะ ดิฉันจะมาทำการกระจาย ของสด ผัก ผลไม้ ออก เพราะตู้เย็นทางร้านมีไม่เพียงพอ ต้องกำการแยกของจากตลาดออก เพื่อนำมาเข้าห้องเตรียมแล้วค่อยมาทำการคัดแยก ล้าง แพ็คให้ได้ในปริมาณของอาหารต่อจานที่กำหนดไว้ พร้อมลงวันที่ผลิตและกำหนดวันหหมดอายุของวัตถุดิบแต่ละชนิดด้วยคะ ไม่งั้นของที่ซื้อมาก็จะไม่ได้ใช้ต้องซื้อใหม่อีกเพราะยัดๆไว้จนหาไม่เจอ เจออีกทีตอนเน่าคะ งง มากขึ้น
คราวนี้วันที่ 14 วันแรงคะ ของสดทุกอย่างทุกครัวได้นำใส่ถาดออกมาเพื่อให้ละลายเตรียมไว้พร้อมขาย นางก็เข้ามาในครัว ตอน 2ทุ่ม มาถึงนางก็ตรงดิ่งเข้ามาหาดิฉันแล้วถามว่าทำอะไร ตอนนั้นดิฉันช่วยเด็กๆเเพ็คเนื้อไก่ชั่งน้ำหนักให้อยู่ ซึ่งคนเตรียมของสดทำไก่3kg.ตั้งแต่บ่าย3 โมงจนถึงเวลาเกือบ2ทุ่มนั่นแหละ เพราะของขายเตรียมกันไว้หมดทุกครัวแล้วรอเเต่ออเดอร์เข้ามาเท่านั้น ฉะนั้นเวลาว่างก็ช่วยๆกันทำไปเดี๋ยวก็เสร็จ ดิฉันช่วยหมดแหละคะแม้กระทั่งช่วยเด็กตักไขมันในบ่อไขมันแข็งๆซึ่งไม่ได้ตักมาแล้วกี่ปี ดิฉันคิดว่า 3 วันนี้เก็บรายละเอียดของคน การทำงาน ปัญหาต่างๆให้ได้มากที่สุด เพราะตอนที่ดิฉันเข้ามายังไม่ได้มีการแนะนำตัวว่าดิฉันมาในตำแหน่งอะไร นี่แหละถึงทำให้มีเวลาศึกษาหาข้อมูลกับเด็กๆและก็ได้คำตอบแบบไม่ต้องถาม เลยว่า
ที่ร้านนี้เปลี่ยน Ex Chef บ่อยมากๆๆ เพราะนางเป็นคนไม่ชอบให้ใครขัดใจ ห้ามเถียง หาคนเข้ามาแล้วก็ยังมากำกับมาวุ่นวายกับ มั่วงาน ครั้งก่อนๆโดน Ex Chef คนเก่า เดินขึ้นไปด่าถึงบน ออฟฟิศเลย นางเหมือนคนเป็นโรคประสาท แล้วก็ไปโทษหาคนเก่าๆในครัวชอบมีปัญหาบ้าง (สาบาน นี่คือคำพูดของเด็กเก่าที่ยังอยู่ในร้านพูดให้ฟัง)
คราวนี้แหละตะ ออเดอร์เข้า นางเหมือนผีเข้าเลย โต๊ะแรกออเดอร์มาเด็กเดินอาหารก็ขานออเดอร์ 5 อย่าง มาอีกคนก็ขาน 3 อย่างคนละโต๊ะ ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที นางยืนอยู่ตรงเช็คเกอร์แล้วตะโกนถามออกมาว่า เสร้จยัง ออเดอร์ชุดแแรกออกมายังไม่เสร็จอีกหรอ ทำไมทำไรกันอยุ่ทำไมช้าไม่ทันกิน โอ้ยแม่คุณ8อย่างยังไม่ถึง 5 นาทีเลย แล้วนางก็ตะโกนออกมาบอกดิฉันว่าให้มาเป็นเช็คเกอร์ซิ ตอนนั้นดิฉันช่วยครัวยำอยู่เพราะครัวยำเป็นชาวเขาแล้วก็แค่มาเสริม ดิฉันก็วิ่งไปตามใจนาง ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเมื่อไร่จะ 5 ทุ่มว๊ะ พอยืนเช็คเกอร์ ไม่มีคนเอาอาหารมาไว้ตรงเช็คเกอร์ ดิฉันก็ต้องวิ่งไปหยิบแต่ละครัวมาแล้ววิ่งไปช่วยน้องเขาต่อ คือยังไงก็ไม่ทัน ออเดอร์เริ่มเยอะ วิ่งอยู่อย่างนี้ นับ 1-1,000ละ นางก็โวยวายตะโกนด่าว่าเชฟหน้าเตแต่ละคนไม่ได้เรื่องบ้างทำไมต้องให้กับบ่อยๆ อาหารเขาเป็นอาหารไทยนะคะ วัตถุดิบที่ใช้คือ กุ้งล็อบสเตอร์ เนื้อริบอาย เนื้อแกะ ซี่โครงหมูแผ่น ฯลฯ แล้วนางก็ตะโกนบอกดิฉันว่าให้ไปเอานั่น ให้หน่อย เอานี้ไปหน่อย คราวนี้แหละนางให้ดิฉันหบิบจานยำมาไว้ตรงเช็คเกอร์ซึ่งดิฉันก็กำลังจะเอาไปพอดี ยังไม่ทันถึงโต๊ะเช็คเกอร์ สรุปว่า จานใบนั้นบินคะ เบินเข้าตัวดิฉันคะ พร้อมกับคำพูดที่ว่า จะออกไปไหนกันก็ไปยืนกันทำไมวุ่นวายเกะกะ คือไรถามหน่อยทำหน้าที่อะไรตำแหน่งอะไรกันแน่ว๊ะ ของขึ้นซิคะ ดิฉันคุมอารมณ์แทบจะไม่อยู่กำมือไว้แน่เหมือนคนบ้าแล้วตอนนั้นดิฉันหน้ามืดไปหมด แต่ก็สงบอารมณ์ไว้เดินออกไปข้างนอกหลังครัวดีกว่าตั้งสติเสียก่อนจากนั้นคนที่เดินตามดิฉันออกมาคือเด็กๆในครัว พร้อมทั้งบอกว่าเชฟอย่าไปนะ เชฟสู้นะสู้ด้วยกัน พวกเรารู้ว่าเชฟกำลังทำอยู่ทุกอย่างไม่ใช่หน้าที่เชฟๆยังทำอยู่ต่อนะ ดิฉันเลยบอกทุกคนว่า สู้ๆนะ ทนเพื่อเงิน แต่เชฟขอเลือกไม่ต่อดีกว่าโชคดีนะ ไม่น่าทิ้งเงิน 3,500 สำหรับงานที่ต้องรับจ๊อบวันนี้ มาช่วยงานดีๆที่ตัวเองรักและทำมา22ปี กับเจ้าของร้านบ้าๆแบบนี้ ตั้งใจว่าจะไม่ลงไม่โพสไม่โต้ตอบ แต่นึกแล้วแค้น ช่วยมา 3 วันเงินก็ไม่ได้ เสียความรู้สึก นี่เเหละคือบทเรียนที่ต้องศึกษาใหม่และทำความเข้าใจใหม่กับตำแหน่ง Executive Chef มีหน้าที่อะไร เหอะๆๆ ฉันโง่หรือเธอบ้า กันแน่ ขอโทษนะคะ ดิฉันมีใบการันตี ใบประกาศ ประสบการณ์ ความสามารถ การศึกษา ไม่ใช่แค่พูด ทุกอย่างทำได้จิง พอกันทีกับคนแบบนี้
ขอโทษนะคะเพื่อนๆมันยาวมากเกินไป อีดอัด เเละนี่เป็นครั้งแรก ผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ