ขอเชิญพี่ๆน้องๆมาร่วมกันบันทึกประสบการณ์ด้วยกัน สำหรับผมมีประสบการณ์หลายอย่างมากครับ มีโอกาสจะนำเสนอเรื่อยๆครับ มีใครจะคิดว่าวัตถุมงคลรุ่นใหม่ๆผสมผงพรายกุมาร พุทธคุณไม่ต่างกันกับของรุ่นที่ทันหลวงปู่ทิมเลยครับ
และกระผมขอสาบานต่อองค์หลวงปู่ทิมว่าเรื่องราวที่ผมเล่าและได้รับการถ่ายทอดมา มาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด เพื่อต้องการเผยแผ่ความจริงหลังจากที่ตัวกระผมและคนรู้จักได้นำไปบูชา หากเรื่องราวใดเป็นเท็จหรือเสกสรรปั้นแต่งเอง ขอให้บารมีหลวงปู่ทิมลงโทษกระผมตลอดชีวิตนี้ด้วยเถิด
ขอเล่าสักเรื่องก่อนนะครับ
เมื่อหลายปีก่อนผมได้บูชาวัตถุมงคลท่านอย่างหนึ่งซึงทันท่านปลุกเสก มีครั้งหนึ่งผมได้โทรสัพท์คุยกับสาวๆ โดยนั่งอยู่ในรถนั้นคนเดียว อยู่ดีๆสาวคนนั้นทักมาว่า ลูกเรียกแล้ว ผมก็เอะใจระคนสงสัยว่าทำไมสาวคนนี้ทำไมถึงทักแบบนั้น จึงย้อนถามกลับไป สาวตอบกลับมาว่า ได้ยินเสียงเรียกระหว่างคุยโทรศัพท์ว่า พ่อๆๆๆ หลายครั้ง ทำเอาผมขนลุกซู่เลย มองไปรอบรถเมล์ก็ไม่มีเด็กอยู่แถวนั้นเลย ขณะนั้นเป็นเวลากลางวัน ขนผมลุกซู่เลยครับ เสียดายทีผมเผลอทำหล่น แตกหักไปแล้ว แต่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมเลยครับ ยังมีประสบการณ์ทั้งจากผมและคนรอบข้างด้วย รอติดตามนะครับ และรออ่านประสบการณ์พี่ๆอยู่ด้วยครับ
ประสบการณ์ครั้งแรกนี้นี่เองทำให้ผมหายข้องใจและสงสัยว่าว่าพรายกุมารมีจริงไหม หรือเป็นแค่เรื่องเล่าเฉยๆ จึงได้เช่าหาพระของท่านมาบูชาเพิ่มเติม แต่เชื่อไหมครับว่าสุดท้าย ณ ปัจจุบันผมไม่มีพระหรือเครื่องรางในตระกูลผงพรายกุมารที่หลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกทันท่านอีกเลย เพราะไม่มีเงินเช่าสาเหตุหลักครับ เนื่องจากราคาสูง แต่พบประสบการณ์ว่าพุทธคุณของผงพรายกุมาร มียังวัตถุมงคลยุคหลังเช่นกันครับ
เรื่องที่ 2
ผมเคยรู้จักน้องผู้หญิงคนหนึ่ง สังเกตน้องแขวนวัตถุมงคลของท่าน สอบถามบอกว่าเป้นของหลวงปุ่ทิม ก้แปลกใจว่าเป็นผู้หญิงทำไมถึงได้รู้จักหลวงปู่ทิมด้วยเหรอ จึงได้สอบถามที่มาที่ไป น้องสาวคนนี้ได้เล่าว่าเคยคบกับผุ้ชายคนหนึ่ง ซึงสะสมพระเครื่องหลายอย่าง แต่ในคอของผุ้ชายคนนั้นแขวนวัตถุมงคลของท่านเพียงสิ่งเดียว ต่อมาผุ้ชายคนนี้ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งแฟนน้องก็บอกว่าเป็นเพราะวัตุมงคลชื้นนี้อย่างแน่นอน ทำให้น้องผุ้หญิงฝังใจอย่างมาก เมื่อมีโอกาสจึงขอวัตถุมงคลนี้มาบูชา เนื่องจากตัวเองมีความเชื่อว่าได้มาคงจะมีโชคลาภเหมือนแฟนตนเองบ้างแต่ก็ปรากฎว่าทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจนึก ทำให้ขาดการเคารพนับถือไปแต่ก็ยังแขวนไว้กับตัวอยู่ มีวันหนึ่งช่วงค่ำไม่ทราบว่ามีอะไรมาดลจิตดลใจให้น้องคนนี้เผลอพูดออกไปว่า "บุชามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีโชคอะไรเลย ถ้ามีอยู่จริงก็ออกมาให้เห็นหน่อย" ปากพูดไปแบบนั้นไม่ได้จริงจังอะไร เมื่อถึงเวลาเข้านอนกำลังจะหลับเคลิ้มๆรู้สึกได้ว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่แขน พอลืมตาแทบขาดใจ ขนลุกซู่ พบว่าเห้นเป็นเด็กตัวเขียวอายุประมาณ ไม่น่าเกิน 2 ขวบ นอนจ้องตาอยู่ข้างๆ ก็ตกใจพรวดลุกขึ้นนั้งมองไปทางปลายเตียง ยิ่งตกใจมากกว่าเห็นเป็นผู้หญิง นั่งอยู่ทางปลายเตียง น้องสาวคนนี้ร้องกรีดลั่นบ้าน วิ่งหนีออกมาจากห้องเลยครับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาน้องเขาไม่เคยถอดวัตุมงคลนี้ออกจากคอเลย.
ปล.เรื่องนี้ผมคุยกับน้องเธอโดยตรง ตอนที่เธอเล่าขนแขนลุกขึ้นตั้งตลอดเวลา ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ แต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ต้องเรียนให้ทราบว่า โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะครับ
เรื่องที่ 3
มาเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นขุนแผนกันบ้างนะครับ ของหลวงพ่อสาคร ขอไม่บอกรุ่นนะครับ ได้มาสงสัยว่ามีพรายกุมารจริงไหม ก็เลยอธิษฐานแขวนก่อนนอน ว่าหากขุนแผนนี้มีพรายกุมารอยู่จริงขอให้แสดงให้รับรู้แล้วจะเชื่อ เข้านอนประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ กำลังเคลิ้มๆได้ยินเสียงเด็กหลายเสียงเลยกำลังเล่นกันรอบๆบ้าน ครับ ผมตกใจเลย ก็เลยบอกไปว่าพ่อรับรุ้แล้วไม่ต้องแสดงอะไรอีก....
เรื่องที่ 4
ผมต้องเดินทางไปกลับอาศัยรถตู้จากกรุงเทพ กับ ต่างจังหวัดประจำมีครั้งหนึ่งเดินทางประมาณ ตี 5 กว่าๆ ด้วยความที่นอนดึกตื่นเช้ามากๆก็เลยเผลอหลับไป ทีนี่รถตู้ก็ใกล้ถึงท่ารถแล้ว ผมรู้สึกเหมือนฝันแต่ช่างเหมือนจริงมากๆ เป็นเด็กนั่งข้างๆสะกิดที่แขนผม บอกว่า พ่อๆๆๆ ถึงแล้ว ผมตกใจตื่น รถตู้จะถึงขนส่งแล้วจริงๆ และด้านที่ผมนั่งไม่มีเด็กเลยสักคนครับ น่าประหลาดใจมากๆ ผมแขวนขุนแผนสายของมูลนิธิหลวงปุ่ทิม เพียงองค์เดียวครับในวันนั้น
เรื่องที่ 5
เรื่องนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ของผมโดยตรงครับ ลุงคนหนึ่งได้ถ่ายทอดให้ฟังว่าแต่ก่อนแกมีขุนแผนของหลวงปู่ทิม ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมีพรรคพวกกันขอไปยืมแขวน ลุงก็ให้ไปบูชา หลังจากนั้นไม่นานลุงเล่าว่า ได้ข่าวคนนี้ไปมีเรื่องราวอะไรสักอย่างมีพวกอยากจะยิงทิ้งจึงไปจ้างมือปืนมาดักยิงชายคนนี้ บังเอิญมือปืนได้รู้จักกับคุณลุงและไม่ทราบว่าลุงรู้จักกับชายที่เขาจะไปดักยิง มือปืนเล่าให้ฟังว่า ไปลอบดังยิงทั้งกลางวัน กลางคืน หลายหน เห็นแต่พระสงฆ์เต็มรถ จะยิงก็ไม่สำเร็จ จนล้มเลิกความตั้งใจในที่สุด คุณลุงรีบกลับไปทวงพระจากชายผู้นั้นทันที และนำมาแขวนบูชาตลอด
เรื่องที่ 6
หากพูดถึงผงพรายกุมาร ส่วนใหญ่จะนึกถึงพระผงเป็นลำดับแรก ทั้งที่จริงแล้วยังมีพระในตระกูลพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ที่อุดด้วยผงพรายกุมาร เมื่อหลายปีก่อนทางมูลนิธิหลวงปู่ทิมได้สร้างออกมา มีเฮียแถวๆบ้านผมได้เล่าให้ฟังนานแล้วครับว่า ตอนนั้นอยุ่กันสามคน เฮียเขาเช่ามาหลายองค์ เฮียได้เล่าถึงพิธีเสกนี้ดีนะ บังเอิญมีคนขายล๊อตเตอรี่ขี่ผ่านมาพอดี เฮียและคนอีก 2 คนต่างพูดทำนองเดียวกันว่าหากพระนี้ศักดิ์สิทธ์จริงก็ขอให้ถูกหวยแล้วจะเชื่อ ก็ซื้อล๊อตเตอรี่กลับไปคนละคู่ พอถึงวันหวยออกสิ่งที่เหลือเชื่อก็บังเกิด คนทั้ง 3 คน ถูกล๊อตเตอรี่ เลขท้าย 3 ตัว ทุกคนทั้งที่ซื้อกันคนละเลขครับ ทุกวันนี้ยังบุชากันอยู่เลยครับ
รวมประสบการณ์ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ของผมเองครับ
และกระผมขอสาบานต่อองค์หลวงปู่ทิมว่าเรื่องราวที่ผมเล่าและได้รับการถ่ายทอดมา มาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด เพื่อต้องการเผยแผ่ความจริงหลังจากที่ตัวกระผมและคนรู้จักได้นำไปบูชา หากเรื่องราวใดเป็นเท็จหรือเสกสรรปั้นแต่งเอง ขอให้บารมีหลวงปู่ทิมลงโทษกระผมตลอดชีวิตนี้ด้วยเถิด
ขอเล่าสักเรื่องก่อนนะครับ
เมื่อหลายปีก่อนผมได้บูชาวัตถุมงคลท่านอย่างหนึ่งซึงทันท่านปลุกเสก มีครั้งหนึ่งผมได้โทรสัพท์คุยกับสาวๆ โดยนั่งอยู่ในรถนั้นคนเดียว อยู่ดีๆสาวคนนั้นทักมาว่า ลูกเรียกแล้ว ผมก็เอะใจระคนสงสัยว่าทำไมสาวคนนี้ทำไมถึงทักแบบนั้น จึงย้อนถามกลับไป สาวตอบกลับมาว่า ได้ยินเสียงเรียกระหว่างคุยโทรศัพท์ว่า พ่อๆๆๆ หลายครั้ง ทำเอาผมขนลุกซู่เลย มองไปรอบรถเมล์ก็ไม่มีเด็กอยู่แถวนั้นเลย ขณะนั้นเป็นเวลากลางวัน ขนผมลุกซู่เลยครับ เสียดายทีผมเผลอทำหล่น แตกหักไปแล้ว แต่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมเลยครับ ยังมีประสบการณ์ทั้งจากผมและคนรอบข้างด้วย รอติดตามนะครับ และรออ่านประสบการณ์พี่ๆอยู่ด้วยครับ
ประสบการณ์ครั้งแรกนี้นี่เองทำให้ผมหายข้องใจและสงสัยว่าว่าพรายกุมารมีจริงไหม หรือเป็นแค่เรื่องเล่าเฉยๆ จึงได้เช่าหาพระของท่านมาบูชาเพิ่มเติม แต่เชื่อไหมครับว่าสุดท้าย ณ ปัจจุบันผมไม่มีพระหรือเครื่องรางในตระกูลผงพรายกุมารที่หลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกทันท่านอีกเลย เพราะไม่มีเงินเช่าสาเหตุหลักครับ เนื่องจากราคาสูง แต่พบประสบการณ์ว่าพุทธคุณของผงพรายกุมาร มียังวัตถุมงคลยุคหลังเช่นกันครับ
เรื่องที่ 2
ผมเคยรู้จักน้องผู้หญิงคนหนึ่ง สังเกตน้องแขวนวัตถุมงคลของท่าน สอบถามบอกว่าเป้นของหลวงปุ่ทิม ก้แปลกใจว่าเป็นผู้หญิงทำไมถึงได้รู้จักหลวงปู่ทิมด้วยเหรอ จึงได้สอบถามที่มาที่ไป น้องสาวคนนี้ได้เล่าว่าเคยคบกับผุ้ชายคนหนึ่ง ซึงสะสมพระเครื่องหลายอย่าง แต่ในคอของผุ้ชายคนนั้นแขวนวัตถุมงคลของท่านเพียงสิ่งเดียว ต่อมาผุ้ชายคนนี้ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งแฟนน้องก็บอกว่าเป็นเพราะวัตุมงคลชื้นนี้อย่างแน่นอน ทำให้น้องผุ้หญิงฝังใจอย่างมาก เมื่อมีโอกาสจึงขอวัตถุมงคลนี้มาบูชา เนื่องจากตัวเองมีความเชื่อว่าได้มาคงจะมีโชคลาภเหมือนแฟนตนเองบ้างแต่ก็ปรากฎว่าทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจนึก ทำให้ขาดการเคารพนับถือไปแต่ก็ยังแขวนไว้กับตัวอยู่ มีวันหนึ่งช่วงค่ำไม่ทราบว่ามีอะไรมาดลจิตดลใจให้น้องคนนี้เผลอพูดออกไปว่า "บุชามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีโชคอะไรเลย ถ้ามีอยู่จริงก็ออกมาให้เห็นหน่อย" ปากพูดไปแบบนั้นไม่ได้จริงจังอะไร เมื่อถึงเวลาเข้านอนกำลังจะหลับเคลิ้มๆรู้สึกได้ว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่แขน พอลืมตาแทบขาดใจ ขนลุกซู่ พบว่าเห้นเป็นเด็กตัวเขียวอายุประมาณ ไม่น่าเกิน 2 ขวบ นอนจ้องตาอยู่ข้างๆ ก็ตกใจพรวดลุกขึ้นนั้งมองไปทางปลายเตียง ยิ่งตกใจมากกว่าเห็นเป็นผู้หญิง นั่งอยู่ทางปลายเตียง น้องสาวคนนี้ร้องกรีดลั่นบ้าน วิ่งหนีออกมาจากห้องเลยครับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาน้องเขาไม่เคยถอดวัตุมงคลนี้ออกจากคอเลย.
ปล.เรื่องนี้ผมคุยกับน้องเธอโดยตรง ตอนที่เธอเล่าขนแขนลุกขึ้นตั้งตลอดเวลา ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ แต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ต้องเรียนให้ทราบว่า โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะครับ
เรื่องที่ 3
มาเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นขุนแผนกันบ้างนะครับ ของหลวงพ่อสาคร ขอไม่บอกรุ่นนะครับ ได้มาสงสัยว่ามีพรายกุมารจริงไหม ก็เลยอธิษฐานแขวนก่อนนอน ว่าหากขุนแผนนี้มีพรายกุมารอยู่จริงขอให้แสดงให้รับรู้แล้วจะเชื่อ เข้านอนประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ กำลังเคลิ้มๆได้ยินเสียงเด็กหลายเสียงเลยกำลังเล่นกันรอบๆบ้าน ครับ ผมตกใจเลย ก็เลยบอกไปว่าพ่อรับรุ้แล้วไม่ต้องแสดงอะไรอีก....
เรื่องที่ 4
ผมต้องเดินทางไปกลับอาศัยรถตู้จากกรุงเทพ กับ ต่างจังหวัดประจำมีครั้งหนึ่งเดินทางประมาณ ตี 5 กว่าๆ ด้วยความที่นอนดึกตื่นเช้ามากๆก็เลยเผลอหลับไป ทีนี่รถตู้ก็ใกล้ถึงท่ารถแล้ว ผมรู้สึกเหมือนฝันแต่ช่างเหมือนจริงมากๆ เป็นเด็กนั่งข้างๆสะกิดที่แขนผม บอกว่า พ่อๆๆๆ ถึงแล้ว ผมตกใจตื่น รถตู้จะถึงขนส่งแล้วจริงๆ และด้านที่ผมนั่งไม่มีเด็กเลยสักคนครับ น่าประหลาดใจมากๆ ผมแขวนขุนแผนสายของมูลนิธิหลวงปุ่ทิม เพียงองค์เดียวครับในวันนั้น
เรื่องที่ 5
เรื่องนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ของผมโดยตรงครับ ลุงคนหนึ่งได้ถ่ายทอดให้ฟังว่าแต่ก่อนแกมีขุนแผนของหลวงปู่ทิม ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมีพรรคพวกกันขอไปยืมแขวน ลุงก็ให้ไปบูชา หลังจากนั้นไม่นานลุงเล่าว่า ได้ข่าวคนนี้ไปมีเรื่องราวอะไรสักอย่างมีพวกอยากจะยิงทิ้งจึงไปจ้างมือปืนมาดักยิงชายคนนี้ บังเอิญมือปืนได้รู้จักกับคุณลุงและไม่ทราบว่าลุงรู้จักกับชายที่เขาจะไปดักยิง มือปืนเล่าให้ฟังว่า ไปลอบดังยิงทั้งกลางวัน กลางคืน หลายหน เห็นแต่พระสงฆ์เต็มรถ จะยิงก็ไม่สำเร็จ จนล้มเลิกความตั้งใจในที่สุด คุณลุงรีบกลับไปทวงพระจากชายผู้นั้นทันที และนำมาแขวนบูชาตลอด
เรื่องที่ 6
หากพูดถึงผงพรายกุมาร ส่วนใหญ่จะนึกถึงพระผงเป็นลำดับแรก ทั้งที่จริงแล้วยังมีพระในตระกูลพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ที่อุดด้วยผงพรายกุมาร เมื่อหลายปีก่อนทางมูลนิธิหลวงปู่ทิมได้สร้างออกมา มีเฮียแถวๆบ้านผมได้เล่าให้ฟังนานแล้วครับว่า ตอนนั้นอยุ่กันสามคน เฮียเขาเช่ามาหลายองค์ เฮียได้เล่าถึงพิธีเสกนี้ดีนะ บังเอิญมีคนขายล๊อตเตอรี่ขี่ผ่านมาพอดี เฮียและคนอีก 2 คนต่างพูดทำนองเดียวกันว่าหากพระนี้ศักดิ์สิทธ์จริงก็ขอให้ถูกหวยแล้วจะเชื่อ ก็ซื้อล๊อตเตอรี่กลับไปคนละคู่ พอถึงวันหวยออกสิ่งที่เหลือเชื่อก็บังเกิด คนทั้ง 3 คน ถูกล๊อตเตอรี่ เลขท้าย 3 ตัว ทุกคนทั้งที่ซื้อกันคนละเลขครับ ทุกวันนี้ยังบุชากันอยู่เลยครับ