ใครที่ตีเทนนิสคงจะรู้ว่าโอกาสจะหาสนามเทนนิสคอร์ทดินในเมืองไทยนี่นับนิ้วได้ ไอ้ตัวเราก็ดันอยู่คนละโยดกับสนามที่อยากไป  จึงลงเอยได้แค่เหวี่ยงแรคเกตบนฮาร์ดคอร์ทเท่านั้น  ช่วงหลังเพื่อนฝูงที่เล่นเทนนิสด้วยกันก็ห่างหาย เทนนิสจึงได้เล่นเป็นครั้งคราว จนปล่อยให้แรคเกตฝุ่นเกาะไป---แล้วจู่ๆ เพื่อนฝูงก็คาบข่าวมาบอกว่า แถวที่สมุทรปราการ มีสนามเทนนิสดินเทียม มาเปิดใหม่ไม่นาน---อารมณ์อยากตีเทนนิสก็หวนกลับ อยากลองสัมผัสสนามเทนนิสคอร์ทดินสักครั้ง

(เขาบอกว่า เหมือนดินจริงๆ เลย)

ผมจึงเริ่มหาข้อมูล เสิร์ช google map แต่แล้วก็ดันติดใจคำว่า “สนามกอล์ฟ” ซึ่งที่บ้านไม่มีถุงกอล์ฟสักใบ นอกจากแรคเกตเน่าๆ ที่แขวนไว้บนเสาบ้าน---ที่จะไปเล่นคือเทนนิสนะโว้ย(ตระโกนในใจ)---ท้ายสุด ทำไงได้ นัดเพื่อนไปแล้วด้วย คืนยกเลิกมันได้วงแตก เลยจำใจต้องไป  จึงเป็นที่มาของการ แบกแรคเกตไปตีเทนนิสที่สนามกอล์ฟ!!

การเดินทางสะดวกสำหรับคนมีรถ เสิร์ช google map พิมพ์คำว่า “ธนาซิตี้” แล้วขับตามเส้นทางมาเรื่อยๆ  จนถึงปากทางจำไม่ยาก เส้นบางนา-ตราด กม14. ก่อนเข้าสุวรรณภูมิ ส่วนคนที่นั่งรถสาธารณะถ้ามาเองจะลำบาก แต่เห็นมีวินอยู่ตรงหน้าปากซอยให้เรียกใช้บริการ พอทุเลาเรื่องการเดินทางไปได้บ้าง
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตัดกลับมาที่ภาพปัจจุบัน---ผมอยู่ที่สนามเทนนิส Classic Clay Court (สนามเทนนิสดินเทียม) ตั้งอยู่ “ธนาซิตี้ คันทรี คลับ”  โครงการที่มีทั้งสนามกอล์ฟและสปอร์ตคลับ
ใครที่เป็นนักกอล์ฟคงคุ้นหูธนาซิตี้ชื่อนี้เป็นอย่างดี  แต่น้อยคนนัก(ผมด้วยคน)จะรู้ว่า สนามกอล์ฟแห่งนี้มีสปอร์ตคลับที่ครบวงจร อาทิ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามบอล และสารพัดกีฬา---ซึ่งเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ผมเพิ่งรู้ว่า “ธนาซิตี้มีสนามเทนนิสคอร์ทดินเทียม”  ใช่ครับ!! “คอร์ทดินในเมืองไทยแทบนับนิ้วได้ แต่นี้คือ คอร์ทดินเทียมแห่งแรกในเมืองไทย อุต๊ะ มันไม่มีที่อื่นเลยจริงๆ  รึในเมืองไทย---ผมประหลาดใจจริงๆ  ตอนได้ยินครั้งแรก---พอได้มาเห็นสนามแล้วขอบอกเลยว่าสวยมาก --- โดยเฉพาะสีส้มฉูดฉาด ยามสะท้อนแสงแดด มันทำให้ผมนึกถึง แมทช์การแข่งขันในรายการเทนนิสเฟรช์นโอเพ่นจริงๆ


**หมายเหตุ Classic Clay Court หรือสนามเทนนิสดินเทียม
เป็นสนามเทนนิสที่ใช้ดินเทียมซึ่งเป็นวัสดุพิเศษ  ไม่อมความร้อน ไล่ความชื่นได้ดี ให้สัมผัสเหมือนดินจริงทุกประการ ที่สำคัญ ITF (International Tennis Federation) รับรองเรทอยู่ที่ 1 –slow หรือพอๆ กับคอร์ทดินนั่นเอง ข้อดีคือเหมือนกับสนามดินทุกประการ ต่างแค่ไม่มีฝุ่น ไม่อมความร้อนเท่า และพื้นไม่เละเวลาย่ำไปมา เป็นคอร์ทดินที่เล่นได้ทุกฤดูกาล  
http://www.classicclay.com/benefits.html ไปตามอ่านกันได้ในลิงค์นี้เบย

สำหรับค่าบริการอยู่ที่ 250 บาท/ชม. ถือว่าไม่แพง ราคามิตรภาพ นอกจากนี้ทางคุณพี่เซลล์ก็เสนอแพ๊คเกจให้คือ แพ๊คเกตแร๊คเกต เทนนิส แบดมินตัน สควอช(แม้แต่สคอรชยังมี) แล้วก็สระว่ายน้ำ  นั่งคิดวนไปมาอยู่นานก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า ”ขอคิดดูก่อนนะครับ”  
--------------------------------------------------------------------------------------------------

(ครูแดง ใจดีช่วยแนะนำเทคนิค)

ทันทีที่ก้าวขาข้ามรั่วแผงกั้นสนามเทนนิสเข้ามา  ผมไม่รีรอ รีบลงสนามคว้าแรคเกต Yonex คู่ใจ (ที่แขวนไว้จนฝุ่นเกาะ) และรองเท้า Yonex สุดเฟี้ยว  ลงไปหวดกับคู่ซ้อม พร้อมภาพติดตาการเคลื่อนที่อันพริ้วไหวบนคอร์ทดินแบบในทีวี--- ผลที่ได้ คือ “เละทั้งคู่” ครับ  คือไม่นึกว่าคอร์ทดินเทียมจะเล่นต่างจากฮาร์ดคอร์ทขนาดนี้---ข้อแรกลูกเด้งช้ามาก เราเห็นและคิดว่าทัน แต่ไม่เลยพอผมโฉบเข้าหาเพื่อที่จะ BACK HAND โต้ลูกกลับ---ผมจะช้าไป 1 ก้าวผลคือไม่ทัน ข้อสองหากผมโฉบเร็วเกินไปเพื่อที่จะทำแบบเมื่อกี้---ผลคือ ผมสไลด์เลยลูก ซึ่งทั้งสองแบบให้ผลแย่พอๆ กัน
ระหว่างคิดไปมาก็เหลือบไปเห็นครูฝึกกับนักเรียนอยู่คอร์ทริมสุดสนามกำลังฝึกตีเทนนิสกันอยู่   ทำให้ผมต้องละการตีเทนนิสกับเพื่อนและชวนกันไปขอคำแนะนำสำหรับการเล่นเทนนิสคอร์ทดินเทียมกับทั้งสองคน    
ครูฝึกได้แบ่งปันคำแนะนำดีๆ ให้ผม แกบอกว่า“เทคนิคในการเล่นเทนนิสไม่ได้ต่างจากเดิม พื้นฐานยังคงเหมือนเดิม แค่ต้องเข้าใจถึงลักษณะพื้นและคอร์ทต่างๆ” และนี่ก็คือสิ่งที่ผมได้รับจากครูฝึกเป็นเทคนิดเล็กน้อย แต่อยากแชร์ให้เพื่อนๆ อ่าน

เทคนิคแรก---สไลด์ให้เป็น
เวลาเราดูนักเทนนิสเล่นบนคอร์ทดิน---บ่อยครั้งเรามักเห็นนักเทนนิสเวลาเข้าหาลูกจะสไลด์ไปตีลูกทุกคน ซึ่งเกิดจากการเบรคไม่อยู่ จังหวะแบบนี้แหละครับที่ทำให้เกิดการสไลด์ ซึ่งมันคือสีสันของคอร์ทดิน และข้อดีของการสไลด์ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บได้พอสมควร การบาดเจ็บที่น้อยจึงทำให้เล่นได้นานขึ้นนั้นเอง  
เทคนิคสไลด์ คือ พุ่งโฉบไป กางเท้าหน้าข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อเบรคและรักษาสมดุล โดยใช้เท้าอีกข้างแบะออกเพื่อชะลอและเลี้ยงการสไลด์ไว้---พอทำเป็นก็ไม่ยากแล้วครับ

(คนนี้เล่นโหด ผมถึงกับต้องข้ามไปดูเขาเล่นเลย)

เทคนิคสอง---ฝึกตีขณะเคลื่อนที่
ใครที่ฝึกเทนนิสบนฮาร์ดคอร์ท การตี การโต้ก็จะคล้ายกันเลยครับ เทคนิคพื้นฐานเหมือนกัน ฉะนั้นใครที่เล่นเป็นประจำก็คงปรับตัวไม่ยาก ซึ่งความยากคือการเคลื่อนไหวและความเหนียวที่จะยืนพื้นเล่นเทนนิสนานๆ บนคอร์ทดินมากกว่า
ครูฝึกเห็นว่าตีเทนนิสได้ จึงเพิ่มแค่ทักษะการเคลื่อนที่ตอนตี การฝึกก็คือ ครูฝึกโยนลูกเทนนิสมากลางเนตแล้วให้ผมโฉบสไลด์เข้ามาตี  ซึ่งเป็นการกะระยะและหาจุดตีพร้อมกับการสไลด์ที่ถูกต้อง มีผลอย่างมากเมื่ออยู่บนคอร์ทดิน      


(อันนี้แก๊งเดียวกัน  หวดหนัก)

ถึงเวลาแก้ตัว
ตอนนี้เรามีกัน 4 คน จึงแบ่งทีมออกเป็น 2 จับคู่เล่นเทนนิสประเภททีม ความสนุกจึงบังเกิด---ผมแก้ตัวได้ดีขึ้น ตามลูกทัน และสไลด์เป็นธรรมชาติมากขึ้น   ยิ่งเล่นเป็นทีมยิ่งสนุกครับ---ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ เหนื่อยแต่สนุก
เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนต้องหยุดประมือและพักหายใจ ดื่มน้ำดื่มท่า ก่อนจะแยกย้ายกันกลับและขอบคุณครูฝึกและน้องนักเรียนกับประสบการณ์เล่นเทนนิสคอร์ทดินเทียมครั้งแรกที่นี่  

(ตอนเย็นช่วงหน้าหนาวก็จะเจอแสงโทนสวยๆ แบบนี้)

สำหรับประสบการณ์ในเทนนิสดินเทียมครั้งนี้สนุกมากครับ ส่วนการรีวิว ต้องเรียนตามตรงก่อนว่าผมไม่ใช่โปรเทนนิส เป็นเพียงคนธรรมดาที่ชื่นชอบข่าวคราวแร็คเกต และเล่นแต่ฮาร์ดคอร์ทตามคลับทั่วไป ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับสนามเทนนิสดินเทียม (Classic Clay Court) เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในเมืองไทยจริงๆ ครับ