ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมเอง จบที่ University of Kent และ King's College London อย่างละใบ ตามที่เด็กกฎหมายอย่างเราๆ ทราบกันว่าทำไมเนอะ 55+ ปัจจุบันก็อ่านหนังสือ รอสอบผู้ช่วยอยู่ เรยมาทำเอเจ้นส่งเด็กต่อต่างประเทศดี เพราะว่าคุ้นเคย และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อน้องๆ วันนี้เรยมาเสนอ Course เรียน รายวิชา 5 มหาลัยที่คนไทยไปเรียนกันมา ซึ่ง ริวิวจากที่ตัวเองเรียน และจากเพื่อนๆที่ไปเรียนมาแล้ว ไม่ได้ มโนขึ้นมานะ ยังไงถ้าใครจะไปยังไง ก็ติดต่อผ่านผมได้ เดี๋ยวผมจะช่วยตั่งแต่เริ่มสมัคร ยันเลือกรานวิชาเลย
เดี๋ยววิธีติดต่อทิ้งไว้ล่างสุด มาเริ่มกันเถอะ
1.) University of Kent
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
สำหรับนักเรียนที่มาเรียนที่ Kent นั้น สาย Pathway ยอดนิยมที่เรียนกันที่นี่คือ International Commercial Law ซึ่งวิชาในสาขานี้ที่น่าสนใจและสมควรที่ต้องเรียนคือ International Business Transactions, International Foreign Investment, Corporate Government และมี่วิชาอื่นที่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อให้ครบหน่วยกิจ เช่น International and Corporative Bankruptcy and Insolvency Law & policy หรือ World Trade Organisation และอีก 1 สาขาที่ได้รับสนใจและถือว่าเป็นสาขาที่ Kent เชียวชาญมากๆคือ International Environmental law ซึ่งมีสาขาวิชาที่น่าสนใจคือ International Environmental Law – Legal Foundations เป็นวิชาบังคับ และมีตัวเลือกอื่นๆเช่น European Union Environmental Law and Policy หรือ International Environmental Law – Substantive Legal Aspects สำหรับนักเรียนที่ต้องการสอบสนามจิ๋วที่นี่แนะนำให้ลงเป็น International Environmental law แม้ว่ายังมีสาขาอื่นที่ กต รับรอง เช่น Master in Human Rights หรืแ Master in Criminal Justice การวัดผลการเรียนหรือการเก็บคะแนนที่นี่จะเป็น Working Paper 100 เปอร์เซ็น คือไม่มีสอบในห้อง พอกลางๆวีคจะได้หัวข้อ essay มาให้เราเลือก แล้วเราก็ทำ ข้อดีคือการทำ essay สามารถนำไปให้ฝรั่งเช็คแกรมม่าได้ และนักเรียนเองก็มีโอกาสค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องได้
สภาพบรรยากาศของเมือง
มหาลัยตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของอังกฤษ ชื่อ Canterbury เป็นเมืองที่สวยมาๆ และมีทุกอย่างครบครันภายในเมืองเดียว นับเป็นเพื่อนผู้ดีอังกฤษก้ได้ เนื่องจากประชากรที่อาศัยส่วนใหญ่เป็นคนอังกฤษ นอกจากนั้นเดินทางเพียง 20 นาทีก็จะถึงชายทะเล และมีเมืองชายทะเลต่างๆมากมาย ที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ การเดินทางจากมหาลัยมาในเมืองมีรถมหาลัยรับส่งใช้เวลาเพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านั้นเอง
2) University of East Anglia
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
สำหรับ UEA รายวิชาที่เรียน และ กต รับรองคือ International Trade law ซึ่งตอนเรียนจะมีหลายวิชาที่คาบกับ สาชา International Commercial law ซึ่งเป็นรายวิชาที่ง่ายกว่า แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเรียนสาขา International Trade law นั้นจะมี วิชาบังคับอยู่เรียกว่า Foundation of International Commercial law อย่างไรก็ตามมีนักเรียนส่วนหนึ่งจะชอบลงแค่วิชาของ International Commercial law ซึ่งมักจะง่ายกว่าวิชาของ Trade Law ซึ่งอันนี้ไม่ขอแนะนำ เนื่องจาก วิชา Foundation of International Commercial law ที่จะเรียน เทอมสองวิชานี้จะสอนเกี่ยวกับ Trade law ด้วย ดังนั้นถ้าไม่ลงวิชาของ Trade law ซึ่งจะยากกว่าเลย จะทำให้สอบวิชานี้ได้ยาก หรืออาจจะได้คะแนนไม่ดี มีวิชาบังคับอีกตัว คือ Managing People and Organisations แต่วิชานี้ไม่น่าเป็นห่วง สบาย
สภาพบรรยากาศของเมือง
มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมือง Norwich เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีทุกอย่างเหมือนเมืองใหญ่ อยู่ห่างลอนดอนประมาณ 2 ชั่วโมง ตัวมหาวิทยาลัยน่าอยู่มากๆ ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ มีทะเลสาบให้เดินเล่น และ ปิ้ง BBQ
3) King's College London
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
King’s College London มีหลายสาขาที่วิชาที่กต รับรอง แต่อย่างไรก็ตามสาขาที่ดังที่สุดของ King’s ดังแบบดังมากๆ คือ International Financial law หรือถ้าหลายคนไม่สนใจ Finance จริงๆ ให้ลง International Business Law ถึงแม้ว่า King’s College London จะมีหลายสาขาที่ กต รับรอง แต่สาขาเช่น International Tax law หรือ International Property law ในฐานะที่เคยเรียนมาก่อน ต้องยอมรับว่า สาขาที่เกี่ยวกับ ภาษี และ ทรัพย์สินทางปัญญา ของ Queen Marry University นั้นดีกว่าจริงๆ สำหรับนักเรียนที่จะเรียน สาขา International Finance นั้น ของ King’s มีให้เลือกเรียนมากมาย แต่วิชาที่ส่วนตัวคิดว่าจำเป็นต้องลงคือ International Financial law 1 เนื่องจากเป็นวิชาที่เรียนทั้ง ปี และ 40 หน่วยกิจ ต้องยอมรับว่า วิชาทาง Financial law ของ King’s มีแต่ตัวโหดๆ ทั้งนั้น ถ้าอยาก qualify ด้วยสาขา Financial ต้องลงตัวนี้ ไม่งั้นต้องเรียนเพิ่มอีก 1 ตัว ซึ่งจะหนักขึ้นมาก ส่วนมากเด็กไทยถ้าอยากกลับมาทำงานใน law firm สาย Banking and Finance จะต้องลง International Finance 1, 2, 3 และอาจเรียน Financial risk หรือ Corporate Finance เพิ่มอีก 1 ตัว แต่อย่างที่บอกว่า King’s College ดังกฎหมาย Finance มาก เพราะฉะนั้นจะมีตัวเลือกให้เรียนเยอะมาก ตัวผมเองก็จบ Finance แต่ไม่ได้เรียนวิชาที่เป็น Pure Finance เนื่องจากนอกจาก Pure Finance แล้ว King’s ยังมีให้เลือกวิชาให้ไป Specialise ด้าน Corporate Finance เหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าสนใจกว่า Pure Finance ซึ่งผมเองก็ได้ลงเช่น International Financial 1 และ ไปเรียน Corporate Finance, Corporate debt restructuring, และ Banking law แทน ซึ่งก็เป็นสายที่ Law firm ต้องการมากๆ เช่นกัน ส่วน International Business law ไม่ได้เรียนโดยตรง แต่เพื่อนที่เรียนส่วนใหญ่ จะแนะนำให้ลง International Finance 1 และ ลง WTO แบะ Corporate Governance เนื่องจากไม่ยากมาก และอาจารย์ใจดี ส่วนวิชาที่ตกกันเยอะๆ แม้แต่ฝรั่งยังได้คะแนนไม่ได้คะแนนดี คือวิชา International Trade Law อันนี้คือ โหดจริงๆ ส่วนการสอบที่ King’s เป็นการสอบเป็น Close Book ซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าเรียน Financial law 1, 2, 3 ก็จะได้เป็น 24 take home ไป แต่ก็ทำกัน 24 ชม เหมือนกัน ที่สำคัญ คือทุกวิชาไม่ว่าจะเรียนในเทอม 1 หรือ 2 จะทำการสอบพร้อมกัน ในปลายเทอม 2 หมดเรย เพราะฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้ดีๆ อย่างไรก็ตามล่าสุด King’s เพิ่งเปลี่ยนกฎคือ ถ้าสอบตกในปีใด ก็จะให้แก้ทันทีใน เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่จบพร้อมเพื่อนๆ ขอดีอีกอย่างของ King’s คือ เหมือน King’s เป็นมหาลัยเพื่อกฎมหาย และ Politic ดังนั้น Sources ทุกอย่างที่ต้องการจะมีให้เกือบทั้งหมด อันไหนอยากได้แล้วห้องสมุดไม่มี เค้าก็จะสั่งซื้อให้
4) University of Essex
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
มหาลัยนี้อยากนำเสนอ เนื่องจากเป็นมหาลัยอีกมหาลัยที่เปิดโอกาสให้เด็กที่เกรดไม่สูงมากมีโอกาสได้เรียนในมหาลัยที่มีชื่อ และมีหลักสูตรที่ กต รับรอง หลายอันเช่น LLM Master of Law in Internet law หรือ Master of Law in International Commercial law และ Master of Law in International Trade law สามวิชานี้เป็นวิชาที่น่าสนใจหมดแล้วแต่จะเลือกเรย แต่สำหรับคนที่ต้องการจะเรียน 2 ใบ แนะนำให้ลงเป็น International Trade Law หรือ Internet law เนื่องจาก วิชาของ Commercial law เป็นวิชาที่ค่อนข้างกว้างมาก ถ้าไปเรียนบสองอาจจะเจอวิชาเรียนที่ซ้ำกันทำให้ลงไม่ได้ เช่น ถ้าใบแรกลง Commercial law ไป แล้วใบสองอยากไปที่ที่ Rank สูงกว่านี้ แต่อยากเรียน International business law ก็อาจจะทำให้มีปัญหาทางด้านรายวิชาที่ซ้ำซ้อนกัน อย่างไรก็ตามถ้ามาที่นี่อยากให้เรียน Internet เนื่องจากเป็นมหาลัยเดียวที่ กต รับรองในสาขา Internet law และจะมีประโยชน์เวลากลับมาไทย สำหรับคนที่อยากทำ Law firm เช่นกัน ซึ่งรายวิชาที่บังคับคือ Internet Regulation และวิชาเลือกที่แนะนำให้ลง เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้จริงคือ Cybercrime, Legal Aspects of Electronic Commercial Transactions เป็นต้น
5) Queen Marry University
สำหรับมหาวิทยาลัยนี้สาขาดังๆที่ต้องยกให้เรยคือ International Intellectual Property law และ Tax law แต่ขอพูดถึง IP law เป็นหลักเพราะว่าถือว่าเป็น number 1 ทางด้านนี้เรยแล้วกัน แล้วแต่ King’s IP บางตัวยังมาเรียนรวมกับ Queen Marry. วิชา IP ที่นี่มีให้เลือกมากกว่า 20 ตัว แต่ยังไงก็มีตัวแนะนำบางตัวเช่น IP for Business โดยจะสอนโดยอาจารย์ที่เก่งมากๆและสอนมานานชื่อ John Hull คือเป็นวิชาที่คนส่วนใหญ่บอกว่าโหด แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องเรียน เนื่องจากรายวิชาเป็นการสอนที่นำไปใช้ได้จริงในการทำงาน เหมือนเป็นลูกล้อลูกชนของทนายที่สามารถนำไปใช้ได้ในทางปฎิบัติ ปกติการเลือกคอร์สของคนไทยส่วนมากก็จะเลือกตามเพื่อนๆที่เรียน เนื่องจากเวลาสอบจะได้ช่วยกันติวได้ ส่วนอีกวิชาที่ต้องเรียนถ้าอยากกลับมาทำงานสาย Law firm ทางด้าน IP คือ IP Creative Industry ซึ่งวิชานี้จะเน้นสอนไปในด้านของ Copy rights ซึ่งสามารถปรับใช้ในไทยได้ เพราะวิชานี้จะพูดถึง Video, เพลง, Patent นอกจากคอร์สเรียนที่น่าสนใจแล้ว ต้องดูไปถึงวิธีการวัดผลด้วย เนื่องจากที่ Queen Marry การเรียนการสอนมีการวัดผลทั้งเป็น Essay และ Exam ที่บอกให้ระวังคือ เนื่องจาก Essay ที่ Queen จะเขียนกันที่ Max 7500 คำ ดังนั้น หากเทอมนึงลงวิชาที่วัดผลเป็น Essay 2 ตัว เท่ากับต้องเขียนถึง 15000 คำซึ่งจะหนักมากๆ และแทบไม่มีเวลาอ่านตัวที่จะสอบ ทางที่ดีคือ ให้ลงเป็น Essay 1 ตัว นอกนั้นลงเป็น Writing Exam จากประสบการณ์ส่วนตัวคือ ปกติ Essay อาจจะดูปลอดภัยกว่า อุ่นใจกว่าว่าผ่านชัวร์ แต่ผลคือ ส่วนใหญ่คะแนนที่เป็น Writing Exam มักจะดีกว่า Essay
เบอร์ติดต่อผมนะครับบ 099-9622069
Line ID: dominicnarak1 หรือ iecabroad3
ถ้าคนไหนอยากสอบถามเรือ่งอื่นๆก็ได้เช่นกัน ไม่ได้มาเน้นขายของ 55+
เรียนกฎหมายที่ King's College, Queen Marry, University of Kent, UEA, University of Essex
1.) University of Kent
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
สำหรับนักเรียนที่มาเรียนที่ Kent นั้น สาย Pathway ยอดนิยมที่เรียนกันที่นี่คือ International Commercial Law ซึ่งวิชาในสาขานี้ที่น่าสนใจและสมควรที่ต้องเรียนคือ International Business Transactions, International Foreign Investment, Corporate Government และมี่วิชาอื่นที่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อให้ครบหน่วยกิจ เช่น International and Corporative Bankruptcy and Insolvency Law & policy หรือ World Trade Organisation และอีก 1 สาขาที่ได้รับสนใจและถือว่าเป็นสาขาที่ Kent เชียวชาญมากๆคือ International Environmental law ซึ่งมีสาขาวิชาที่น่าสนใจคือ International Environmental Law – Legal Foundations เป็นวิชาบังคับ และมีตัวเลือกอื่นๆเช่น European Union Environmental Law and Policy หรือ International Environmental Law – Substantive Legal Aspects สำหรับนักเรียนที่ต้องการสอบสนามจิ๋วที่นี่แนะนำให้ลงเป็น International Environmental law แม้ว่ายังมีสาขาอื่นที่ กต รับรอง เช่น Master in Human Rights หรืแ Master in Criminal Justice การวัดผลการเรียนหรือการเก็บคะแนนที่นี่จะเป็น Working Paper 100 เปอร์เซ็น คือไม่มีสอบในห้อง พอกลางๆวีคจะได้หัวข้อ essay มาให้เราเลือก แล้วเราก็ทำ ข้อดีคือการทำ essay สามารถนำไปให้ฝรั่งเช็คแกรมม่าได้ และนักเรียนเองก็มีโอกาสค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องได้
สภาพบรรยากาศของเมือง
มหาลัยตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของอังกฤษ ชื่อ Canterbury เป็นเมืองที่สวยมาๆ และมีทุกอย่างครบครันภายในเมืองเดียว นับเป็นเพื่อนผู้ดีอังกฤษก้ได้ เนื่องจากประชากรที่อาศัยส่วนใหญ่เป็นคนอังกฤษ นอกจากนั้นเดินทางเพียง 20 นาทีก็จะถึงชายทะเล และมีเมืองชายทะเลต่างๆมากมาย ที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ การเดินทางจากมหาลัยมาในเมืองมีรถมหาลัยรับส่งใช้เวลาเพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านั้นเอง
2) University of East Anglia
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
สำหรับ UEA รายวิชาที่เรียน และ กต รับรองคือ International Trade law ซึ่งตอนเรียนจะมีหลายวิชาที่คาบกับ สาชา International Commercial law ซึ่งเป็นรายวิชาที่ง่ายกว่า แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเรียนสาขา International Trade law นั้นจะมี วิชาบังคับอยู่เรียกว่า Foundation of International Commercial law อย่างไรก็ตามมีนักเรียนส่วนหนึ่งจะชอบลงแค่วิชาของ International Commercial law ซึ่งมักจะง่ายกว่าวิชาของ Trade Law ซึ่งอันนี้ไม่ขอแนะนำ เนื่องจาก วิชา Foundation of International Commercial law ที่จะเรียน เทอมสองวิชานี้จะสอนเกี่ยวกับ Trade law ด้วย ดังนั้นถ้าไม่ลงวิชาของ Trade law ซึ่งจะยากกว่าเลย จะทำให้สอบวิชานี้ได้ยาก หรืออาจจะได้คะแนนไม่ดี มีวิชาบังคับอีกตัว คือ Managing People and Organisations แต่วิชานี้ไม่น่าเป็นห่วง สบาย
สภาพบรรยากาศของเมือง
มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมือง Norwich เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีทุกอย่างเหมือนเมืองใหญ่ อยู่ห่างลอนดอนประมาณ 2 ชั่วโมง ตัวมหาวิทยาลัยน่าอยู่มากๆ ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ มีทะเลสาบให้เดินเล่น และ ปิ้ง BBQ
3) King's College London
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
King’s College London มีหลายสาขาที่วิชาที่กต รับรอง แต่อย่างไรก็ตามสาขาที่ดังที่สุดของ King’s ดังแบบดังมากๆ คือ International Financial law หรือถ้าหลายคนไม่สนใจ Finance จริงๆ ให้ลง International Business Law ถึงแม้ว่า King’s College London จะมีหลายสาขาที่ กต รับรอง แต่สาขาเช่น International Tax law หรือ International Property law ในฐานะที่เคยเรียนมาก่อน ต้องยอมรับว่า สาขาที่เกี่ยวกับ ภาษี และ ทรัพย์สินทางปัญญา ของ Queen Marry University นั้นดีกว่าจริงๆ สำหรับนักเรียนที่จะเรียน สาขา International Finance นั้น ของ King’s มีให้เลือกเรียนมากมาย แต่วิชาที่ส่วนตัวคิดว่าจำเป็นต้องลงคือ International Financial law 1 เนื่องจากเป็นวิชาที่เรียนทั้ง ปี และ 40 หน่วยกิจ ต้องยอมรับว่า วิชาทาง Financial law ของ King’s มีแต่ตัวโหดๆ ทั้งนั้น ถ้าอยาก qualify ด้วยสาขา Financial ต้องลงตัวนี้ ไม่งั้นต้องเรียนเพิ่มอีก 1 ตัว ซึ่งจะหนักขึ้นมาก ส่วนมากเด็กไทยถ้าอยากกลับมาทำงานใน law firm สาย Banking and Finance จะต้องลง International Finance 1, 2, 3 และอาจเรียน Financial risk หรือ Corporate Finance เพิ่มอีก 1 ตัว แต่อย่างที่บอกว่า King’s College ดังกฎหมาย Finance มาก เพราะฉะนั้นจะมีตัวเลือกให้เรียนเยอะมาก ตัวผมเองก็จบ Finance แต่ไม่ได้เรียนวิชาที่เป็น Pure Finance เนื่องจากนอกจาก Pure Finance แล้ว King’s ยังมีให้เลือกวิชาให้ไป Specialise ด้าน Corporate Finance เหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าสนใจกว่า Pure Finance ซึ่งผมเองก็ได้ลงเช่น International Financial 1 และ ไปเรียน Corporate Finance, Corporate debt restructuring, และ Banking law แทน ซึ่งก็เป็นสายที่ Law firm ต้องการมากๆ เช่นกัน ส่วน International Business law ไม่ได้เรียนโดยตรง แต่เพื่อนที่เรียนส่วนใหญ่ จะแนะนำให้ลง International Finance 1 และ ลง WTO แบะ Corporate Governance เนื่องจากไม่ยากมาก และอาจารย์ใจดี ส่วนวิชาที่ตกกันเยอะๆ แม้แต่ฝรั่งยังได้คะแนนไม่ได้คะแนนดี คือวิชา International Trade Law อันนี้คือ โหดจริงๆ ส่วนการสอบที่ King’s เป็นการสอบเป็น Close Book ซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าเรียน Financial law 1, 2, 3 ก็จะได้เป็น 24 take home ไป แต่ก็ทำกัน 24 ชม เหมือนกัน ที่สำคัญ คือทุกวิชาไม่ว่าจะเรียนในเทอม 1 หรือ 2 จะทำการสอบพร้อมกัน ในปลายเทอม 2 หมดเรย เพราะฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้ดีๆ อย่างไรก็ตามล่าสุด King’s เพิ่งเปลี่ยนกฎคือ ถ้าสอบตกในปีใด ก็จะให้แก้ทันทีใน เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่จบพร้อมเพื่อนๆ ขอดีอีกอย่างของ King’s คือ เหมือน King’s เป็นมหาลัยเพื่อกฎมหาย และ Politic ดังนั้น Sources ทุกอย่างที่ต้องการจะมีให้เกือบทั้งหมด อันไหนอยากได้แล้วห้องสมุดไม่มี เค้าก็จะสั่งซื้อให้
4) University of Essex
ข้อมูลรายวิชาที่น่าสนใจ
มหาลัยนี้อยากนำเสนอ เนื่องจากเป็นมหาลัยอีกมหาลัยที่เปิดโอกาสให้เด็กที่เกรดไม่สูงมากมีโอกาสได้เรียนในมหาลัยที่มีชื่อ และมีหลักสูตรที่ กต รับรอง หลายอันเช่น LLM Master of Law in Internet law หรือ Master of Law in International Commercial law และ Master of Law in International Trade law สามวิชานี้เป็นวิชาที่น่าสนใจหมดแล้วแต่จะเลือกเรย แต่สำหรับคนที่ต้องการจะเรียน 2 ใบ แนะนำให้ลงเป็น International Trade Law หรือ Internet law เนื่องจาก วิชาของ Commercial law เป็นวิชาที่ค่อนข้างกว้างมาก ถ้าไปเรียนบสองอาจจะเจอวิชาเรียนที่ซ้ำกันทำให้ลงไม่ได้ เช่น ถ้าใบแรกลง Commercial law ไป แล้วใบสองอยากไปที่ที่ Rank สูงกว่านี้ แต่อยากเรียน International business law ก็อาจจะทำให้มีปัญหาทางด้านรายวิชาที่ซ้ำซ้อนกัน อย่างไรก็ตามถ้ามาที่นี่อยากให้เรียน Internet เนื่องจากเป็นมหาลัยเดียวที่ กต รับรองในสาขา Internet law และจะมีประโยชน์เวลากลับมาไทย สำหรับคนที่อยากทำ Law firm เช่นกัน ซึ่งรายวิชาที่บังคับคือ Internet Regulation และวิชาเลือกที่แนะนำให้ลง เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้จริงคือ Cybercrime, Legal Aspects of Electronic Commercial Transactions เป็นต้น
5) Queen Marry University
สำหรับมหาวิทยาลัยนี้สาขาดังๆที่ต้องยกให้เรยคือ International Intellectual Property law และ Tax law แต่ขอพูดถึง IP law เป็นหลักเพราะว่าถือว่าเป็น number 1 ทางด้านนี้เรยแล้วกัน แล้วแต่ King’s IP บางตัวยังมาเรียนรวมกับ Queen Marry. วิชา IP ที่นี่มีให้เลือกมากกว่า 20 ตัว แต่ยังไงก็มีตัวแนะนำบางตัวเช่น IP for Business โดยจะสอนโดยอาจารย์ที่เก่งมากๆและสอนมานานชื่อ John Hull คือเป็นวิชาที่คนส่วนใหญ่บอกว่าโหด แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องเรียน เนื่องจากรายวิชาเป็นการสอนที่นำไปใช้ได้จริงในการทำงาน เหมือนเป็นลูกล้อลูกชนของทนายที่สามารถนำไปใช้ได้ในทางปฎิบัติ ปกติการเลือกคอร์สของคนไทยส่วนมากก็จะเลือกตามเพื่อนๆที่เรียน เนื่องจากเวลาสอบจะได้ช่วยกันติวได้ ส่วนอีกวิชาที่ต้องเรียนถ้าอยากกลับมาทำงานสาย Law firm ทางด้าน IP คือ IP Creative Industry ซึ่งวิชานี้จะเน้นสอนไปในด้านของ Copy rights ซึ่งสามารถปรับใช้ในไทยได้ เพราะวิชานี้จะพูดถึง Video, เพลง, Patent นอกจากคอร์สเรียนที่น่าสนใจแล้ว ต้องดูไปถึงวิธีการวัดผลด้วย เนื่องจากที่ Queen Marry การเรียนการสอนมีการวัดผลทั้งเป็น Essay และ Exam ที่บอกให้ระวังคือ เนื่องจาก Essay ที่ Queen จะเขียนกันที่ Max 7500 คำ ดังนั้น หากเทอมนึงลงวิชาที่วัดผลเป็น Essay 2 ตัว เท่ากับต้องเขียนถึง 15000 คำซึ่งจะหนักมากๆ และแทบไม่มีเวลาอ่านตัวที่จะสอบ ทางที่ดีคือ ให้ลงเป็น Essay 1 ตัว นอกนั้นลงเป็น Writing Exam จากประสบการณ์ส่วนตัวคือ ปกติ Essay อาจจะดูปลอดภัยกว่า อุ่นใจกว่าว่าผ่านชัวร์ แต่ผลคือ ส่วนใหญ่คะแนนที่เป็น Writing Exam มักจะดีกว่า Essay
เบอร์ติดต่อผมนะครับบ 099-9622069
Line ID: dominicnarak1 หรือ iecabroad3
ถ้าคนไหนอยากสอบถามเรือ่งอื่นๆก็ได้เช่นกัน ไม่ได้มาเน้นขายของ 55+