การให้ ๑๔ ก.พ.๖๑

เรื่องสั้น ชุดฉากชีวิต

การให้

เพทาย


ในชีวิตที่ผ่านมายาวนาน ผมเป็นผู้ให้โดยไม่ขอรับผลตอบแทน แม้แต่การได้บุญ หรือขอบคุณ มาเป็นอันมาก ให้ตั้งแต่คนพิการ คนขอทาน คนจรจัด พระสงฆ์ที่มารับบาตร ให้ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ คนหนุ่มคนสาว และเด็ก ให้ไม่เลือก ทั้งที่อยากให้ และไม่อยากให้

ทุกเช้าประมาณหกนาฬิกา ผมจะออกจากบ้าน เดินไปตามซอยในหมู่บ้านสวนอ้อย เมื่อผ่านร้าน เซเว่น ก็จะแวะซื้อ ขนมห่อ กับนมช็อกโกแล็ต สำหรับใส่บาตร นอกเหนือจากขนมปังที่เอาไปปั่นเป็นอาหารเช้า ทุกวันไม่มีเว้น แม้บางวันจะออกสายไปหน่อยไม่ทันพระรับบาตร ก็เอากลับมากินเอง เป็นลูกศิษย์พระแทน

ผมเคยให้ทาน เด็กหนุ่มจรจัดที่เจอหน้ากันทุกวัน จนเขาจำเวลาและสถานที่ ที่จะเจอผมได้ดี ผมก็ให้เขาเป็นประจำทุกครั้ง ไม่รังเกียจ ตั้งแต่ครั้งละห้าบาท เป็นสิบบาท จนสุดท้าย ยี่สิบบาท เพราะเขาบอกว่า ซื้อข้าวกับหมูปิ้งกินไม่อิ่ม ผมก็ไม่ขัดข้อง ถ้าเขาจะกินมื้อเดียวแล้วก็นอนทั้งวัน ก็ตาม

พอเขาเป็นหนุ่มเต็มตัวก็หายหน้าไป ถามแม่ค้าที่ขายของอยู่ใกล้ที่นอนของเขา ได้ความว่าติดดมกาว และได้ตายไปเสียแล้ว

อีกคนหนึ่งเป็นหญิง เป็นเพื่อนเล่นกับผมมาตั้งแต่เด็ก แกแก่กว่าผมประมาณห้าปี และเป็นทอมมีแฟนเป็นคนทำความสะอาด ในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้สวนอ้อย แต่เป็นคนโชคร้าย ทำงานอะไรก็ไม่ยั่งยืน จนแก่ตัวลงญาติผู้อุปถัมภ์ก็ตายไปหมด ไม่มีใครเลี้ยง แกก็มาพึ่งผมแทบทุกวัน ผมก็ให้ครั้งละยี่สิบบาท แต่แกไม่ได้มาขออาศัยบ้านผม แกนอนตามป้ายรถเมล์บ้าง หน้าธนาคารที่มีไฟส่องสว่างเมื่อเขาปิดทำการแล้วบ้าง บางทีก็หายไปหลายวันบ้าง ผมไม่เคยทอดทิ้งแก คอยมองหาอยู่เสมอ

แต่วันหนึ่งก็หายเงียบไปจนผมสงสัย สอบถามผู้พิทักษ์ความสะอาด เป็นประจำในซอย ได้ความว่าเทศกิจมาพาตัวขึ้นรถไปไหนก็ไม่รู้ เลยขาดการติดต่อกันตั้งแต่บัดนั้น

เมื่อเช้าหลังจากที่ผมหายจากอาการป่วยที่ต้องเข้าไปนอนในห้อง ไอ.ซี.ยู. ในโรงพยาบาลเอกชนมาห้าวัน และได้กลับบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เดินกระย่องกระแย่ง เพราะเท้าบวมลามมาจนถึงหัวเข่า กว่าจะถึงร้านเซเว่น ก็สายกว่าเจ็ดโมงแล้ว รอพระก็ไม่มีเหลือ จึงกลับมาบ้าน

พอเลี้ยวหัวมุมซอยสาม ก็เจอเจ้าประจำนั่งรออยู่ข้างทาง รายนี้เป็นแม่ค้า กับข้าวเล็ก ๆ น้อย เพราะไม่มีทุนมาก ทำไปกินไปด้วย ทุนก็หมดบ่อย ๆ ผมทราบเรื่องดี แกก็ขอผมทีละร้อย ผมก็คิดว่ามากเกินไป แต่แกก็เอาไปทำทุนหาของขายไปวัน ๆ จนหมด ก็มาขอใหม่

คราวนี้ผมส่งธนบัตรใบละร้อยให้อย่างเคยแล้วก็บอกเบา ๆ ว่า ผมเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเอกชน ต้องจ่ายค่ารักษาตัวห้าวัน ต้องขอดเงินจากสมุดออมสินแทบหมดทุกเล่มเลย คงจะไม่มีให้ทุกครั้งเหมือนเดิม เพราะจะมีเพียงวันที่บำนาญออกเท่านั้น

ไม่ทราบว่าแกจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่มันเป็นความจริง ผมบอกแกไว้ล่วงหน้า แกจะได้ไม่ตกใจเวลาผมปฏิเสธ

เมื่อผมเดินมาจวนจะถึงหน้าบ้าน ก็มีรถเข็นตามหลังมากระชั้นชิด ผมจึงหยุดรอให้เขาแซงไป เพราะผมเดินช้ากระโผลกกระเผลก คนเข็นรถเป็นหญิงชรา แกก็ยิ้มให้ผม แล้วก็เข็นรถผ่านผมไป แต่ไปไม่ไกลก็หยุดอยู่ตรงถังขยะหน้าประตูบ้านผม แกควานหาขวดพลาสติคในถังใส่ขยะของ กทม.ที่วางประจำอยู่แถวนั้น ผมนิ่งมองดูการหากินของแกก่อนจะไขกุญแจประตูรั้วบ้าน

แล้วก็นึกถึงแม่ของผม เมื่อป่วยถึงวาระสุดท้าย อายุ ๕๘ ปี เมื่อผมอายุประมาณ ๓๐ ปี ที่บ้านหลังนี้

หญิงชราผู้นี้อายุมากกว่าแม่ของผมในเวลานั้น แล้วลูกหลานไปไหน จึงปล่อยให้แกมาหากินกับขวดพลาสติกในถังขยะอย่างนี้ ผมล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบธนบัตรใบละยี่สิบบาท ใบสุดท้ายออกมาถึงไว้ เกือบจะพลั้งปากเรียกแกว่ายาย แต่ก็นึกได้ว่าแกคงมีอายุประมาณน้องของผมเท่านั้น

แกเงยหน้าขึ้นจากถังขยะ และยิ้มให้ผม เหมือนอย่างจะอาย ๆ แต่ผมยิ้มกว้างกว่า แล้วส่งธนบัตรใบนั้นให้แก พร้อมกับบอกว่า

"ผมไม่มีขาดพลาสติกเลยครับ ขอฝากเงินนี้ไปแทนครับ"

แล้วผมก็ไขกุญแจประตูรั้วเข้าบ้าน โดยไม่รอว่าแกจะว่าอะไร หลังจากรับธนบัตรในมือผมไปแล้ว

ผมคิดถึงแม่ผมมากครับ เคราะห็ดีที่ป่วยตายเสียตั้งแต่ผมยังไม่แก่เท่านี้.

##########
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่