ตลาดกระทิง

กระทู้สนทนา
จิม โรเจอร์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดกระทิงไว้ดังนี้คือ :

ไม่มีอะไรจะทําให้ผู้คนคิดว่าตัวเองฉลาดได้เท่าตลาดกระทิง เป็นเรื่องน่าสนใจที่คนจํานวนมากสรรเสริญสมองตัวเองแทนที่จะขอบใจตลาดกระทิง ผมโชคดีที่ได้นายจ้างที่ดีมากถึงสองคนเมื่อผมเริ่มทํางานในวอลสตรีท คนหนึ่งคือ รอย นิวเบอร์เกอร์ เทรดเดอร์ผู้เป็นตํานานผู้บริหารบริษัท นิวเบอร์เกอร์เบอร์แมน ผมทํางานที่นี่อยู่พักหนึ่งก่อนย้ายไปอยู่ อาร์นโฮลด์ แอนด์ เอส ไบลค์โรเดอร์ ผมจําได้ว่าเขาเล่าให้ผมฟังเรื่องคนบางคนที่ไม่ได้ทํางานให้บริษัทแล้ว พวกเขาทําเงินให้บริษัทเยอะมากแต่พวกเขาก็สูญเงินมากเช่นกันในเวลาต่อมาเพราะพวกเขาไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทําไมพวกเขาถึงทําเงินได้ในตอนแรก แน่นอนว่าเหตุผลคือตลาดกระทิงในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 ซึ่งเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากความครั่งของเทคโนโลยี่ในตอนนั้น พวกเขาปักใจว่าพวกเขาเป็นคนฉลาด พวกเขาคิดว่าพวกเขาสมควรทําเงินได้ แต่จริงๆแล้วพวกเขาไม่เข้าใจตลาดเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่มีมุมมองทางประวัติศาสตร์ ไม่มีสัญชาตญาณในการขึ้นลงของตลาด ทุกตลาดกระทิงที่ใหญ่และกินเวลายายนานนั้นจบลงด้วยภาวะฟองสบู่เสมอ ทุกคนไล่ตามสิ่งที่ทุกคนเชื่อ ทําตามสิ่งที่พวกอ่านเจอในหนังสือพิมพ์และสิ่งนี้สร้างโอกาสให้กับนักลงทุนที่ชาญฉลาด ในขณะเดียวกันมันก็ทําให้การกะเวลายากขึ้นเพราะมันไม่มีกฏเกณฑ์อะไรเลยในภาวะฟองสบู่ หนังสือขายดีเล่มหนึ่งชื่ออุปทานหมู่ที่ไม่ธรรมดากับความบ้าคลั่งของฝูงชน ( Extraordinary Popular Delusins and the Madness of Crowds ) ได้อธิบายเรืองนี้ไว้หมดแล้ว ผู้เขียนคือ ชาร์ลส์ แมคเคย์ พิมพ์ครั้งแรกใน ปี ค.ศ 1841 ฟองสบู่ทุกฟองสบู่ดูเหมือนกันหมด ตั้งแต่ความบ้าครั่งดอกทิวลิปดัทช์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มาถึงฟองสบู่ บริษัท เซาส์ซี ตามด้วยเรืองอื้อฉาวของที่ดินที่ มิสซิสซิปปี้ ในอีกหนึ่งศตวรรษต่อมา ตามด้วยฟองสบู่ดอทคอมและอสังหาริมทรัพย์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในเวลานั้นทุกคนคิดว่าสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลดี พวกเขาคิดว่าราคามันดีแล้วและมันก็จะสูงขึ้นไปอีก นั่นคือตอนที่แม่มาหาผมแล้วเธอบอกว่า เธอต้องการลงทุน ทุกคนที่ท่านรู้จักคุยถึงอะไรบางอย่างที่สุดยอดมาก ผมถามท่านว่าทําไมท่านถึงอยากซื้อหุ้นตัวนี้ ท่านตอบว่า " อืม ก็ราคามันขึ้นเป็นสามเท่าในปีที่แล้ว " ผมตอบว่า " ไม่ แม่ แม่ต้องไม่ซื้อหุ้นเพราะมันขึ้นมาเป็นสามเท่า แม่ต้องซื้อมันก่อนที่มันจะขึ้นเป็นสามเท่า "

ความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของ วอเร็น บัฟเฟตต์ คือความสามารถในการหลีกเลี่ยงตลาดหมีครั้งใหญ่ใน ปี ค.ศ 1973 และ ปี ค.ศ 1987

จากแนวความคิดและปรัชญาของนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ของโลกข้างต้นทั้ง 2 ท่าน ผู้โพสต์ขอคาดการณ์การลงทุนและตลาดดังนี้ :

ผู้โพสต์คาดว่า Set Index ที่ 1,561 จุด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ 2560 น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิงในรอบนี้ และ Cons Index ที่ 110.96 จุดเมื่อ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2561 น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ เช่นเดียวกัน

ผู้โพสต์คาดว่า Cons Index น่าจะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ไปอย่างต่อเนื่องจนถึง ช่วงปลายปี พ.ศ 2563 เมื่อการประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานรู้ผลแล้ว 80% และ ในขณะเดียวกันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาของตลาดกระทิงรอบใหญ่รอบนี้ ซึ่งคาดว่า Set Index น่าจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 5,000 จุดได้ จนกระทั่งฟองสบู่โลกแตกในปี พ.ศ 2564 เมื่อ Fed Fund Rate ได้ปรับตัวขึ้นไปยืนที่ 4.00 - 4.25% แล้ว ส่วนเหตุผลที่ฟองสบู่แตกนั้น เพราะ ปัญหาเรื่องหนี้สินของประเทศที่มีหนี้สินมากๆ เช่น สหรัฐอเมริกา, จีน และ ฮ่องกง เป็นต้น ที่ไม่สามารถทนแรงกดดันของดอกเบี้ยในอัตราสูงๆ ได้

ทั้งนี้ ความเห็นข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และ ไม่รับประกันความถูกต้อง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่