หลักความสมมาตรของอากาศ ประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561

เสียเวลาอ่านสักนิดบทความอากาศตามหลักความสมมาตร นำมาให้ติดตามกันครับ

12กุมภาพันธ์2561แรม๑๒ค่ำเดือน๓
มาคุยกันเรื่องลมฟ้าอากาศ ในรูปแบบของความสมมาตรกันต่อ ช่วงนี้จะเห็นว่ามีลมอีสานพัดฉิวๆพอเย็นได้อากาศสบายๆ ความกดอากาศสูงแผ่ลงเพราะว่าเกิดแนวปะทะอากาศบริเวณทะเลญี่ปุ่นก่อตัว และย่อมเจ้าโลว์ตัวขวางการเคลื่อนที่ของความกดอากาศสูงไว้ มันจึงเปลี่ยนทิศทางเข้ามาหาบ้านเรา คำถามข้อสงสัยที่ผมตั้งข้อสังเกตไว้ว่าทำไมความกดอากาศสูงทำไมตัวเคลื่อนที่ไปทิศตะวันออกเสมอ? ทำไมมันไม่พัดตรงๆเป็นตะวันออกเฉียงมาบ้านเราเลย ทำไมต้องรอแนวปะทะอากาศหรือแรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์ก่อน ถึงได้พัดโค้งกลายเป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ผมหมายถึงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเกิดจากแรงกระทำ2อย่างมากระทำคือ 1 เกิดการแนวปะทะหรือความกดอากาศต่ำขวางเส้นทาง 2 มาจากแรงดึงดูดของแรงโน้มถ่วงของการทำมุมของดวงจันทร์
แต่นี้ไม่ใช้ประเด็น ประเด็นจริงๆมันอยู่ที่ทำไมความกดอากาศสูงต้องเคลื่อนมวลไปทางทิศตะวันออก คำตอบคือว่า สาเหตุที่ความกดอากาศสูงเคลื่อนทางตะวันออกมาจากกระแสลมกรดระดับ500hpa(เฮกโตปาคาล) หรือลมที่พัดอยู่ระดับความสูง 5.5กิโลเมตร ที่อยู่ประมาณละติจูต30 ลมนี้เรียกว่า กระแสลมกรด (jet stream) พัดจากตะวันตกไปทิศตะวันออก ทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ จะพัดไปตะวันออกทั้งสองขั้วโลก ลมกรดจะมีความเร็วลมมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวกระแสลมกรดยิ่งพัดแรง เทียบเท่ากับความเร็วของเครื่องบิน สาเหตุที่ลมกรดพัดไปทิศตะวันออกเสมอมาจากแรงเหวี่ยงโลกหรือการหมุนรอบตัวเองของโลกนั้นเอง การที่โลกหมุนรอบตัวเองจะสามารถทำให้ดึงดูดให้เทหะวัตถุที่ลอยสูงขึ้นไปเคลื่อนที่ตาม แรงเหวี่ยงของโลก สาเหตุที่ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองมาโคจรรอบโลกมาจากแรงเหวี่ยงของโลกเช่นกัน โดยที่โลกหมุนรอบตัวเอง30รอบ(วัน)ทำให้ได้ 1รอบของดวงจันทร์
ลมกรดเป็นลมที่พัดรอบโลกบริเวณละติจูต30องศา ความกดอากาศสูง มันเกิดขึ้นบริเวณละติจูตที่30 องศา ความกดอากาศสูงเป็นการจมตัวลงของลมระดับ5.5กิโลเมตร เมื่อลม5.5กิโลเมตรเคลื่อนที่ไปตะวันออก ความกดอากาศสูงมันจึงเคลื่อนเป็นลมตะวันออก สาเหตุที่มันโค้งลงมาเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ แรงดึงดูดของดวงจันทร์ และแนวปะทะอากาศที่ขวางเส้นทางของมัน ดังนั้นการที่ผมได้กำหนดแนวคิดที่เรียกว่าโฟกัส ของความกดอากาศสูงไว้ จึงสอดคล้องกับการทำงานของระบบอากาศแนวคิดนี้
เนื่องจากลม5.5กิโลเมตรเป็นตัวการสำคัญของการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ หากลมนี้หมุนตามเข็มนาฬิกาทางซีกโลกเหนือของเรา ทำให้มันกดอากาศให้เกิดการจมตัวลงทำให้ท้องฟ้าไร้เมฆ อย่างในช่วงนี้ เราจะเห็นว่าประเทศไทยของเราไม่ค่อยมีเมฆเกิดจากมีลมระดับ5.5กม.พัดหมุนตามเข็มนาฬิกาอยู่เบื้องบน จึงทำให้ไม่มีการก่อตัวของเมฆ ซึ่งผมเคยทำนายว่า 10ถึง14กุมภาพันธ์จะเกิดอากาศแปรปรวนสาเหตุความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปะทะกับอากาศร้อนชื้น เลยเป็นการพยากรณ์ที่ผิด เพราะเราไม่รู้วัฏจักรของลมระดับ500hpaเพียงพอนั้นเอง นี้คือจุดบกพร่องที่เราต้องนำไปปรับใช้ เดี๋ยวเรามารอดูความกดอากาศสูงระลอกต่อไปว่าจะทำให้เกิดฝนได้หรือไม่ในช่วงวันที่21กุมภาพันธ์2561ที่เราเห็นในบันทึกมีลมอีสาน คาดว่าสามารถเกิดพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ ถ้าหากไม่มีลมบนกดไว้
เรามาคุยกันถึงเรื่องการสาเหตุการเกิดฝน ซึ่งมันเป็นแนวคิดที่ผมคิดเอง อาจไม่เหมือนหลักวิชาการที่เขาสอนกันมา การเกิดฝน แท้ที่จริงแล้วฝนคือสิ่งที่เกิดจากพลังงานอิสระ หมายความว่าถ้าไม่มีแรงพลังของพลังงานอิสระ ก็จะไม่มีทางที่จะนำน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้าหนีแรงโน้มถ่วงของโลกไปตกเป็นฝน แล้วน้ำนั้นก็ไหลตามแรงโน้มถ่วงของโลกลงสู่ทะเล และสิ่งที่วิ่งทวนกระแสแรงโน้มถ่วงของโลกได้ทั้งหลายเรียกว่าพลังงานอิสระ พลังงานอิสระเกิดขึ้นได้เพราะการสั่น ความร้อนทั้งหลายในจักรวาล ทำให้สะสารทั้งหลายได้สั่นตามพลังงานความร้อนนั้น เมื่อคลื่นความร้อนกระทบผิวน้ำทำให้โมเลกุลน้ำสั่นและหลุดลอยขึ้นสู่บรรยากาศ โมเลกุลของน้ำที่สั่นเกิดปะจุบวกและลบมันหมุนรอบตัวเอง ดังนั้นโมเลกุลน้ำนั้นก็คือพลังงานอิสระ ขึ้นชื่อว่าพลังงานมันต้องการสิ่งมาเลี้ยงให้มันเติบโต โมเลกุลตัวไหนมีความร้อนมากมันก็จะดึงดูดเอาโมเลกุลที่พลังอ่อนกว่ามาเป็นบริวารและรวมตัวเป็นโมเลกุลเดียวกัน กลายเป็นหยดน้ำที่ใหญ่ขึ้น จากโมเลกุลน้ำที่สั่นจำนวนมากทำให้เกิดลมก้นหอยหมายถึงลมวนเล็กก่อตัวขึ้น ลมวนเล็กๆเหล่านี้เป็นที่รวมตัวของโมเลกุลไอน้ำจำนวนมากมาไหลวนรอบๆเป็นจุดเริ่มต้นของกำเนิดกลุ่มเมฆ เมื่อลมวนหลายร้อยคือพลังงานอิสระที่ใหญ่ขึ้น แล้วมันจะดึงดูดลมวนอื่นๆที่พลังงานที่น้อยกว่ามารวมเป็นลมวนที่ใหญ่ขึ้น เมื่อมันลมเหล่านี้ยกตัวสูงขึ้นถึงระดับ1กิโลเมตรครึ่งที่ความกดอากาศระดับเดียวกันมันหดตัวเห็นเป็นไอกลายเป็น กลุ่มเมฆ ลมวนในกลุ่มเมฆจะดึงกลุ่มเมฆที่พลังน้อยกว่าสลายมารวมกันเป็นกลุ่มเมฆใหญ่ทรงพลังมากขึ้น ลืมบอกไปว่าก้อนเมฆมีปะจุไฟฟ้าที่ได้จากการสั่นของโมเลกุลน้ำจำนวนล้านๆเซลนั้นเอง จึงทำให้เกิดระบบหมุนวนของลม และปะจุไฟฟ้าที่สันดาบอากาศใต้ฐานเมฆเกิดจากการชนกันของขั้วลบขั้วบวกระหว่างแผ่นดินและปะจุที่ก้อนเมฆ จึงเกิดความร้อนขึ้นที่เรียกว่าความร้อนแฝง ดังนั้นพื้นที่ที่มีเมฆปกคลุมจึงมีอากาศร้อน เพราะเกิดจากการวิ่งเข้าชนกันของปะจุไฟฟ้านั้นเอง ความร้อนแฝงที่อยู่ใต้ฐานของเมฆจึงเป็นพลังงานที่ดึงให้กระแสอากาศพัดเข้าสู่ใต้ฐานเมฆจนเกิดเป็นกลุ่มฝนฟ้าคะนองที่รวดเร็ว แต่ยามใดที่มีลมระดับ5.5กิโลเมตรหมุนทวนเข็มนาฬิการ่วมด้วย มันจะทำให้เกิดเป็นย่อมความกดอากาศต่ำ พัฒนากลายเป็นพายุหมุนเขตร้อนตามลำดับ นี้คือการเกิดฝนในหลักทฤษฎีการสั่น ...และกำเนิดของจักรวาลก็เกิดจากทฤษฎีเดียวกันนี้เอง คือการสั่น กำเนิดของสิ่งมีชีวิตพลังงานทุกชนิด กำเนิดโดยการสั่นทั้งสิ้น
การเกิดฝนหลายคนอาจได้ยินการอธิบายที่หลากหลาย แต่ถ้าเราไม่มีทฤษฎีมาใช้ในการประกอบการอธิบายก็ยากที่จะทำให้เกิดการเข้าใจ ถ้ามีคนถามว่าสรรพสิ่งเกิดจากอะไร ตอบแบบกำปั้นทุบดินได้เลยว่า สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นโดยการ"สั่น" หรือทฤษฎีการสั่น เพราะการสั่นทำให้กำเนิดของปะจุ2ขั่วและเป็นกำเนิดของทฤษฎีการจับคู่ความสมมาตรหรือทฤษฎีความสมมาตรนั้นเอง
เดือนมีนาคมเป็นช่วงของกลางฤดูร้อน ในวันที่21มีนาคมโดยประมาณดวงอาทิตย์มาตั้งฉากที่เส้นศูนย์สูตร ทำให้กลางวันกลางคืนเท่ากัน นับวันที่ไปข้างหน้า45วันวันที่5พษภาคมเป็นวันสิ้นสุดฤดูร้อน และนับถอยหลังจากวันที่21มีนาคมกลับไปคือ5กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นการเข้าสู่ฤดูร้อน การแบ่งฤดูการโดยการใช้องศาของดวงอาทิตย์มาเป็นตัวกำหนดในการแบ่ง ก็เพื่อง่ายต่อการจับคู่สภาพอากาศ สะดวกในการบันทึกข้อมูล เพื่อใช้ในการจับคู่หาคำทำนาย เดี๋ยวมาดูข้อมูล180วันของเดือนมีนาคมกัน

3/9/2560 1-มี.ค. เดือน๔ขึ้นค่ำ๑๕ ไม่มีทิศทาง เมฆบางส่วน คล้ายเมื่อวานแดดแรงเมฆน้อยลมสงบฝนทิ้งช่วง
4/9/2560 2-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑ ไม่มีทิศทาง เมฆบางส่วน ฝนยังทิ้งช่วงเมฆน้อยแดดแรงอากาศร้อนมากลมสงบ
5/9/2560 3-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๒ ไม่มีทิศทาง เมฆทวีขึ้น เช้าเมฆหางม้าบางแห่งปกคลุมลมสงบเมฆมากกว่าทุกวันฝนบ่ายค่ำหนักในเมือง สูบน้ำจนแห้งคลอง
6/9/2560 4-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๓ ลมสงบ เมฆฝุ่นหนาทึบ เปลี่ยนไปเมฆฝุ่นปกคลุมแต่เช้ามีฝนบ่านค่ำตกเวลาเดิมฝนตกน้ำท้วมเมืองอีกรอบ
7/9/2560 5-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๔ ลมสงบ เมฆฝุ่นหนาทึบ วันนี้เปลี่ยนเป็นว่าเมฆฝุ่นหนาทึกปกคลุมทั้งวันแดส่องไม่ถึงพื้นดินมีฝนฟ้าคะนองฟ้าร้องถี่ๆ แต่ฝนเล็กน้อย
8/9/2560 6-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๕ ลมสงบ เมฆมัวหลัว คล้ายเมื่อวานลมใต้เบาๆสลับกับลมสงบเมฆฝุ่นทวีขึ้นฝนบ่ายค่ำบางแห่ง
9/9/2560 7-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๖ ลมสงบ เมฆมัวหลัว เมฆฝุ่นท้องฟ้าขุ่นมัวอยู่เมฆทวีขึ้นอบอ้าวฝนบ่ายค่ำเกี่ยงข้าว10ไร่นาป้าที
10/9/2560 8-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๗ ลมสงบ เมฆมัวหลัว อากาศร้อนเมฆทวีขึ้นลมสงบนิ่งร้อนอบอ้าวมาก
11/9/2560 9-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๘ ลมสงบ เมฆมัวหลัว เช้าแปลกๆที่มีหมอกหนาในตอนเช้าคล้ายหน้าหนาวพอสายอากาศร้อนอบอ้าวลมสงบนิ่งมีฝนกลางคืนหนัก
12/9/2560 10-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๙ แผ่วตะวันตก โปร่งเป็นส่วนมาก เมฆลดลงจากเมื่อวานเพราะพายุก่อตัวทางฟิลิปินฝนลดลง
13/9/2560 11-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑๐ พัดแรงตะวันตก โปร่งเป็นส่วนมาก ฟ้าโปร่งแดดแรงลมตะวันตกพัดแรงตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีฝน
14/9/2560 12-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑๑ ลมกลับทิศ เมฆมากทวีขึ้น เริ่มมีเมฆมากขึ้นจากที่ฟ้าโปร่งมา2วันเพราะลมพัดไปเลี้นงพายุค่ำเริ่มรับอิทธิพลของพายุทกซูรีฝนตกฟ้าคะนองลมแรงหลังเผาศพ
15/9/2560 13-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑๒ ใต้กระโชกแรง เมฆครึ่มปิด มีเมฆครึ่มปิดตลอดทั้งวันเพราะเป็นอิทธิพลของพายุทกซูรีลมกระโชกแรงแต่ฝนไม่ค่อยมีมากเป็นฝนโปรย
16/9/2560 14-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑๓ ลมแรงตะวันตก เมฆครึ่มปิด ลมใต้พัดแรงขึ้นด้านทิศหนือเนื่องจากพายุอยู่ทางภาคเหนือลมใต้กระโชกแรงไม่มีฝนกลางคืนมีโปรยแต่ระยะสั้นๆ
17/9/2560 15-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑๔ ลมแรงตะวันตก เมฆมากทวีขึ้น ท้องฟ้าเริ่มเปิดเมฆเริ่มจับกลุ่มอบอ้าวมีฝนบ่ายค่ำแต่ลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงแรงๆอยู่
18/9/2560 16-มี.ค. เดือน๔แรมค่ำ๑๕ ลมพายับเอื่อยๆ เมฆบางส่วน เช้ามีเมฆแผ่นปกคลุมสายๆสลายตัวและโปร่งเปลี่ยนเป็นฝนทิ้งช่วงลมทิศพายับพัดเอี่ยยๆไม่มีฝน
19/9/2560 17-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑ ไม่มีทิศทาง เมฆทวีขึ้น โปร่งเขียวแต่เช้าลมสงบและอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน
20/9/2560 18-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๒ ลมตะวันออก เมฆครึ้มปิด เปลี่ยนไปมีกลุ่มฝนขนาดใหญ่เคลื่อนมาทางตะวันออกแผ่ปกคลุมมีฝนปกคลุมปิดตลอดวัน
21/9/2560 19-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๓ ไม่มีทิศทาง แดดจัดเมฆทวีขึ้น อากาศเปลี่ยนไปอีกมีฟ้าโปร่งแดจัดเมฆทวีขึ้นเป็นเมฆทั่งก่อตัวในทางตั้ง
22/9/2560 20-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๔ ลมตะวันออก เมฆครึ้มปิด มีเมฆครึ้มอีกฝนเป็นแนวโค้งมาทางตะวันออกแต่ฝนเทียมทำอีก
23/9/2560 21-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๕ ลมตะวันออก เมฆครึ้มปิด หมอกแรงมีฝนทั้งวันลมฝ่ายตะวันออกเบาๆอยู่เมฆครึ้งร่องฝนพาดผ่าน
24/9/2560 22-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๖ ตะวันตกเบาๆ เมฆครึ้มปิด เปลี่ยนเป็นลมตะวันตกแล้วมีเมฆครึ้มปิดทั้งวันฝนกระจายตกเป็นจุดๆมีดีเปรสชั้นที่อ่าวตังเกี๋ยกลางคืนโปร่งเช้าฉีดยาจนเสร็จ
25/9/2560 23-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๗ สงบไม่มีทิศทาง เมฆฝุ่นปิด เปลี่ยนไปมีเมฆฝุ่นปกคลุมมืดแต่เช้าเมฆมากปกคลุมมีฝนเป็นระยะทั้งวันมีฝนหนักน้ำท้วมเมืองแต่ไม่แรงลมสงบไม่มีทิศทาง
26/9/2560 24-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๘ สงบไม่มีทิศทาง เมฆฝุ่นปิด คล้ายเมื่อวานเมฆมากเต็มท้องฟ้าลมสงบฝนกระจายแต่ไม่ฝนลดลงไม่ตกบางแห่ง
27/9/2560 25-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๙ ลมเบาตะวันออก ฟ้าโปร่งเมฆทวีขึ้น เปลี่ยนไปเช้ามาฟ้าเขียวโปร่งเมฆหัวขาวต่ำประดับฟ้า สีฟ้าสดเหมือนเข้าหน้าหนาวหมอกหนามากตอนเช้าลมสงบอยู่
28/9/2560 26-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑๐ ลมเบาตะวันออก เมฆฝุ่นทวีขึ้น เปลี่ยนจากตะวันออกเมฆมากอบอ้าวเมฆหลัวฝุ่นมัวเมฆฝนก่อตัวในทางตั้งมีฝนบ่ายค่ำเห็นฝนเขาใหย่ตกแรง
29/9/2560 27-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑๑ ลมเบาตะวันออก โปร่งเมฆทวีขึ้น ฟ้ากลับมาเขียวสดใสเมฆทวีขึ้นมีฝนฟ้าคะนองบ่ายค่ำแต่น้อยลงลมสงบ
30/9/2560 28-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑๒ ไม่มีทิศทาง เมฆทวีขึ้น เช่นเมื่อวานหมอกหนาในตอนเช้าเมฆทวีขึ้นในตอนกลางวัน
1/10/2560 29-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑๓ ไม่มีทิศทาง เมฆฝุ่นทวีขึ้น เมฆฝุ่นหนาเมฆมากเต็มท้องฟ้ามีฝนบ่างค่ำลมสงบไม่มีทิศทาง
2/10/2560 30-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑๔ ไม่มีทิศทาง เมฆฝุ่นทวีขึ้น เมฆฝุ่นปกคลุมแต่เช้าลมสงบอากาศอบอ้าวมีฝนช่วงใกล้เที่ยงแรงขรธไปขอใบส่งตัวที่เทพรัตน กลางคืนมีฝนหนักทั้งคืน
3/10/2560 31-มี.ค. เดือน๕ขึ้นค่ำ๑๕ ไม่มีทิศทาง เมฆปิดครึ้ม เช้ามายังคงมีฝนปรอยละอองเล็กๆอยู่

ผมอยากให้แปลความหมายจับคู่ความสมมาตรของข้อมูลกันเอาเอง เมฆฝุ่นลมสงบอากาศประจำฤดู ทั้งฤดูมรสุมและฤดูร้อน อากาศร้อนมาก ถ้าเห็นลมอีสานตะวันออกพัด ลมพัดสอบเอาความชื้นเข้าพื้นที่ ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองพายุฤดูร้อน
สำหรับวันนี้พอเท่านี้ก่อน คราวหน้ามาคุยกันต่อสวัสดี

ที่มา : อุตุภูมิปัญญาชาวบ้าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่