ฮาโหล สวัสดี เราไปเที่ยวมาแค่อยากเล่าให้ฟัง ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ชิราคาวาโกะ มีอะไร?
สำหรับคนที่อยากเที่ยวหลายๆที่ แต่มีเวลาน้อย ทำได้ไม่ยากหรอก อยู่ที่ใจมากกว่า มาเที่ยวทั้งทีอะเนอะ ก็อยากไปหลายๆที่เป็นธรรมดาให้คุ้มกับค่าทริป ค่าตั๋วเครื่องบินที่บินมาซะหน่อย ทริปนี้เราใช้เวลา 6 คืน 7 วัน
ไฟท์บินเรา เวลาต่อเครื่องค่อนข้างนาน แล้วแต่ความสะดวกของเงินในกระเป๋าแต่ละคนนะ
การเตรียมตัวก่อนมา
1. หาอ่านข้อมูลต่างๆในพันทิปนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ที่เที่ยว การเดินทาง (พันทิปช่วยได้เยอะมาก)
2. ข้อมูลตารางเวลาการเดินรถไฟ JR ก็หาจากเวปนี้เลย hyperdia (ที่ญี่ปุ่นตารางเวลาการเดินรถค่อนข้างเป๊ะเว่อจะให้ไปแบบงูๆปลาๆก็เสียเวลาเราอีก) ศึกษาเลย
http://www.hyperdia.com/en/
จุดพลิกทริป
วัตถุประสงค์แรกคือ เทศกาลหิมะที่ซัปโปโร (มันต้องมาช่วงนี้แหละงานนี้เขามีกำหนดวันจัดงาน)
ความบังเอิญ
บังเอิญสายตาดันผ่านไปเห็น shirakawago light up วันที่ 4 กุมภา (เห้ยตรงกับวันที่จะไปเลย ปีนี้จัดแค่ 4 วันซะด้วย ด้วยความอยากค่ะ เราก็หาๆๆข้อมูลทำไงดี อยากไปมาก)
ความโชคดี
โปรสายการบินภายในประเทศญี่ปุ่นก็มาจ้า โชคเข้าข้างเราเสียจริงๆ ช้าอยู่ใย จองเลยจ้า เราจองสายการบินแอร์เอเชีย บินไปกลับจาก Sapporo --> Nagoya ค่ะ
และก็จาก Nagoya กลับมา Sapporo อีกครั้ง
แต่สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบเรา แนะนำว่าให้จองสายการบินจากกรุงเทพมาลงนาโกย่าเลยค่ะ แล้วค่อยต่อมาที่ซัปโปโรนะค่ะ
-->มาดูแผนการเดินทางคร่าวๆกัน
Day 1 เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ลงไทเป เพื่อต่อเครื่อง
Day 2 จากไทเป มาลงที่สนามบิน New Chitose ของซัปโปโร และต่อเครื่องมาที่ นาโกย่า
Day 3 เที่ยว ทาคายามะ ย่านเมืองเก่า , หมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ ชมเทศกาล light up 2018
Day 4 เดินทางจากนาโกย่ามายังซัปโปโร เที่ยวที่ Hakodate
Day 5 พักที่ Kiroro Ski Resort
Day 6 เที่ยวโอตารุ , เดินชมงานเทศกาลหิมะที่สวนโอโดริ ซัปโปโร พักที่ โจซังเค
Day 7 เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
เป็นไงดูแล้วพักมันทุกเมืองกันเลยทีเดียว 55 ชีวิตจะได้พบเจออะไรใหม่ๆเสมอ สำหรับเรา การพักที่ที่เดียวมันไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่อะ เราเลือกที่จะเดินทางไปพักแต่ละเมืองมากกว่า ไปดูรายละเอียดการเดินทางฉบับเต็มกันค่า
Day 1 วันแรกของการเดินทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิมาลงที่ไทเป
ที่นั่งภายในสายการบิน ค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย อาหารก็แล้วแต่คนชอบเนอะ แต่สำหรับเราค่อนข้างดีเลย สายการบินนี้ China airline เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ 30 Kg มีอาหารให้ตลอดทุกเที่ยวบิน ค่าเครื่องประมาณ 12000-13000 บาทในราคาโปรที่เราได้มา ไป-กลับ กรุงเทพฯ --> ซัปโปโร
เรามาถึงสนามบินไทเปก็ดึกแล้ว แยกย้ายกันจับจองพื้นที่เพื่อพักผ่อนในค่ำคืนนี้
ภายในสนามบินมีที่นั่ง โซฟา ปลั๊ก จุดบริการครบถ้วน ใครหิวก็สามารถสั่งอาหารทานได้ สบายค่ะ ไม่ลำบาก
Day 2 วันที่สองของการเดินทาง เราเดินทางมายัง สนามบิน New Chitose ของซัปโปโร
เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมา เราก็มาเดินเล่นดูภายในสนามบินที่นี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและช็อปปิ้งได้เลย มีร้านค้า, ร้านอาหาร, พิพิธภัณฑ์, ร้านของเล่น, ร้านของฝาก, โรงหนัง, โรงแรม, ออนเซน อะไรจะเยอะปานนั้น
จากนั้นเราก็เดินทางจากสนามบิน New Chitose ไปสนามบินนาโกย่า อย่างว่านะค่ะ ถ้าวางแผนแต่แรกว่าจะไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ เราจะไม่บินมาลงนี่ค่ะ เราจะบินตรงตั้งแต่กรุงเทพฯไปลงนาโกย่าเลย พอถึงสนามบินนาโกย่าเราก็เข้าที่พักที่นี่ค่ะ Hotel Silk Tree Nagoya
ไว้จะมาลงรีวิวที่พักให้ดูนะค่ะ
Day 3 วันที่สาม เราซื้อทัวร์ วันเดย์ทริปค่ะ ราคา 5400 บาทไทย ของ Hi Japan Tour โดยกำหนดการเดินทาง เรานัดเจอกับทัวร์ที่ McDonald's JR Nagoya Station เวลา 8:50 น. ทางทัวร์จะมีแผนที่สถานที่นัดมาให้เรา พอมาถึงเราลงชื่อค่ะ จากนั้นเราก็จะได้ใบเลขที่นั่งบนรถมา
ระหว่างการเดินทางเราออกเดินทางโดยรถบัสของทัวร์ แค่เห็นวิวระหว่างทางก็สวยแล้ว
แวะรับประทานอาหารกลางวัน (ราคารวมอยู่ในทัวร์แล้ว)
รับประทานอาหารเสร็จ เราก็ออกเดินทางต่อมายัง ทาคายามะ ชมเมืองเก่า ที่นี่
เราใช้เวลาเที่ยวชมเมือง ทาคายะมะ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นทัวร์ก็พาไปมุ่งตรงไปที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ซึ่งตลอดการเดินทางเราเจอหิมะตกหนักตลอด
บรรยากาศเมื่อมองออกมาจากหน้าต่างภายในบ้านหลังหนึ่ง เราสามารถเข้าชมได้ค่ะ ด้านในนี้จัดให้ชมถึงสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของคนที่นี่
บรรยากาศด้านนอกหมู่บ้าน
เราเดินเข้าชมหมู่บ้านได้ไม่นาน ฟ้าก็เริ่มมืด เราเดินฝ่าความหนาวเย็นพร้อมกับลุยหิมะกันไปเรื่อยๆ
เราเดินมาเรื่อยๆก็จะได้เห็นภาพบรรยากาศแบบนี้ มันสวยมากจริงๆ
หลังจากเราเดินชมหมู่บ้านกันจนร่างกายไม่ไหวแล้ว ด้วยอากาศที่หนาวเย็น พร้อมหิมะที่ตกหนัก เราก็รีบจ้ำอ้าวเดินกลับขึ้นรถทัวร์กันเลยทีเดียว ทางทัวร์จะพามากลับมาส่งที่เดิมคือ Nagoya station คืนนี้เราพักกันที่เดิมคือ Hotel Silk Tree Nagoya
[CR] เที่ยวซัปโปโร (Sapporo) ฮอกไกโด (Hokkaido) ชิราคาวาโกะ (shirakawago light up) 2018
สำหรับคนที่อยากเที่ยวหลายๆที่ แต่มีเวลาน้อย ทำได้ไม่ยากหรอก อยู่ที่ใจมากกว่า มาเที่ยวทั้งทีอะเนอะ ก็อยากไปหลายๆที่เป็นธรรมดาให้คุ้มกับค่าทริป ค่าตั๋วเครื่องบินที่บินมาซะหน่อย ทริปนี้เราใช้เวลา 6 คืน 7 วัน
ไฟท์บินเรา เวลาต่อเครื่องค่อนข้างนาน แล้วแต่ความสะดวกของเงินในกระเป๋าแต่ละคนนะ
การเตรียมตัวก่อนมา
1. หาอ่านข้อมูลต่างๆในพันทิปนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ที่เที่ยว การเดินทาง (พันทิปช่วยได้เยอะมาก)
2. ข้อมูลตารางเวลาการเดินรถไฟ JR ก็หาจากเวปนี้เลย hyperdia (ที่ญี่ปุ่นตารางเวลาการเดินรถค่อนข้างเป๊ะเว่อจะให้ไปแบบงูๆปลาๆก็เสียเวลาเราอีก) ศึกษาเลย http://www.hyperdia.com/en/
จุดพลิกทริป
วัตถุประสงค์แรกคือ เทศกาลหิมะที่ซัปโปโร (มันต้องมาช่วงนี้แหละงานนี้เขามีกำหนดวันจัดงาน)
ความบังเอิญ
บังเอิญสายตาดันผ่านไปเห็น shirakawago light up วันที่ 4 กุมภา (เห้ยตรงกับวันที่จะไปเลย ปีนี้จัดแค่ 4 วันซะด้วย ด้วยความอยากค่ะ เราก็หาๆๆข้อมูลทำไงดี อยากไปมาก)
ความโชคดี
โปรสายการบินภายในประเทศญี่ปุ่นก็มาจ้า โชคเข้าข้างเราเสียจริงๆ ช้าอยู่ใย จองเลยจ้า เราจองสายการบินแอร์เอเชีย บินไปกลับจาก Sapporo --> Nagoya ค่ะ
และก็จาก Nagoya กลับมา Sapporo อีกครั้ง
แต่สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบเรา แนะนำว่าให้จองสายการบินจากกรุงเทพมาลงนาโกย่าเลยค่ะ แล้วค่อยต่อมาที่ซัปโปโรนะค่ะ
-->มาดูแผนการเดินทางคร่าวๆกัน
Day 1 เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ลงไทเป เพื่อต่อเครื่อง
Day 2 จากไทเป มาลงที่สนามบิน New Chitose ของซัปโปโร และต่อเครื่องมาที่ นาโกย่า
Day 3 เที่ยว ทาคายามะ ย่านเมืองเก่า , หมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ ชมเทศกาล light up 2018
Day 4 เดินทางจากนาโกย่ามายังซัปโปโร เที่ยวที่ Hakodate
Day 5 พักที่ Kiroro Ski Resort
Day 6 เที่ยวโอตารุ , เดินชมงานเทศกาลหิมะที่สวนโอโดริ ซัปโปโร พักที่ โจซังเค
Day 7 เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
เป็นไงดูแล้วพักมันทุกเมืองกันเลยทีเดียว 55 ชีวิตจะได้พบเจออะไรใหม่ๆเสมอ สำหรับเรา การพักที่ที่เดียวมันไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่อะ เราเลือกที่จะเดินทางไปพักแต่ละเมืองมากกว่า ไปดูรายละเอียดการเดินทางฉบับเต็มกันค่า
Day 1 วันแรกของการเดินทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิมาลงที่ไทเป
ที่นั่งภายในสายการบิน ค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย อาหารก็แล้วแต่คนชอบเนอะ แต่สำหรับเราค่อนข้างดีเลย สายการบินนี้ China airline เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ 30 Kg มีอาหารให้ตลอดทุกเที่ยวบิน ค่าเครื่องประมาณ 12000-13000 บาทในราคาโปรที่เราได้มา ไป-กลับ กรุงเทพฯ --> ซัปโปโร
เรามาถึงสนามบินไทเปก็ดึกแล้ว แยกย้ายกันจับจองพื้นที่เพื่อพักผ่อนในค่ำคืนนี้
ภายในสนามบินมีที่นั่ง โซฟา ปลั๊ก จุดบริการครบถ้วน ใครหิวก็สามารถสั่งอาหารทานได้ สบายค่ะ ไม่ลำบาก
Day 2 วันที่สองของการเดินทาง เราเดินทางมายัง สนามบิน New Chitose ของซัปโปโร
เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมา เราก็มาเดินเล่นดูภายในสนามบินที่นี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและช็อปปิ้งได้เลย มีร้านค้า, ร้านอาหาร, พิพิธภัณฑ์, ร้านของเล่น, ร้านของฝาก, โรงหนัง, โรงแรม, ออนเซน อะไรจะเยอะปานนั้น
จากนั้นเราก็เดินทางจากสนามบิน New Chitose ไปสนามบินนาโกย่า อย่างว่านะค่ะ ถ้าวางแผนแต่แรกว่าจะไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ เราจะไม่บินมาลงนี่ค่ะ เราจะบินตรงตั้งแต่กรุงเทพฯไปลงนาโกย่าเลย พอถึงสนามบินนาโกย่าเราก็เข้าที่พักที่นี่ค่ะ Hotel Silk Tree Nagoya
ไว้จะมาลงรีวิวที่พักให้ดูนะค่ะ
Day 3 วันที่สาม เราซื้อทัวร์ วันเดย์ทริปค่ะ ราคา 5400 บาทไทย ของ Hi Japan Tour โดยกำหนดการเดินทาง เรานัดเจอกับทัวร์ที่ McDonald's JR Nagoya Station เวลา 8:50 น. ทางทัวร์จะมีแผนที่สถานที่นัดมาให้เรา พอมาถึงเราลงชื่อค่ะ จากนั้นเราก็จะได้ใบเลขที่นั่งบนรถมา
ระหว่างการเดินทางเราออกเดินทางโดยรถบัสของทัวร์ แค่เห็นวิวระหว่างทางก็สวยแล้ว
แวะรับประทานอาหารกลางวัน (ราคารวมอยู่ในทัวร์แล้ว)
รับประทานอาหารเสร็จ เราก็ออกเดินทางต่อมายัง ทาคายามะ ชมเมืองเก่า ที่นี่
เราใช้เวลาเที่ยวชมเมือง ทาคายะมะ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นทัวร์ก็พาไปมุ่งตรงไปที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ซึ่งตลอดการเดินทางเราเจอหิมะตกหนักตลอด
บรรยากาศเมื่อมองออกมาจากหน้าต่างภายในบ้านหลังหนึ่ง เราสามารถเข้าชมได้ค่ะ ด้านในนี้จัดให้ชมถึงสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของคนที่นี่
บรรยากาศด้านนอกหมู่บ้าน
เราเดินเข้าชมหมู่บ้านได้ไม่นาน ฟ้าก็เริ่มมืด เราเดินฝ่าความหนาวเย็นพร้อมกับลุยหิมะกันไปเรื่อยๆ
เราเดินมาเรื่อยๆก็จะได้เห็นภาพบรรยากาศแบบนี้ มันสวยมากจริงๆ
หลังจากเราเดินชมหมู่บ้านกันจนร่างกายไม่ไหวแล้ว ด้วยอากาศที่หนาวเย็น พร้อมหิมะที่ตกหนัก เราก็รีบจ้ำอ้าวเดินกลับขึ้นรถทัวร์กันเลยทีเดียว ทางทัวร์จะพามากลับมาส่งที่เดิมคือ Nagoya station คืนนี้เราพักกันที่เดิมคือ Hotel Silk Tree Nagoya
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น