5 ข้อคิดจัดการเงินกับคู่ชีวิตยังไงให้รุ่ง

ชีวิตคนโสดพอเปลี่ยนเป็นชีวิตคู่มักจะเจอปัญหาเรื่องเงินแทบทุกรายไล่เรียงไปตั้งแต่ ค่ากินเที่ยวช้อปปิ้ง ค่าผ่อนรถผ่อนบ้าน ค่าสินสอดทองหมั้น ค่าจัดงานแต่งงาน ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเทอมลูก และอื่นๆอีกสารพัด ภาระที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ใครจะเป็นคนจ่ายต้องตกลงกันให้ดีด้วยเหตุผลและความเข้าใจก่อนใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรงหรือถึงขั้นเลิกรากันไป อย่างกรณีคู่ดาราที่คบหาดูใจกัน 10 ปีกำลังวางแผนแต่งงานกัน แต่กลับเจอมรสุมประเด็นสินสอด 80 ล้านจนต้องจบชีวิตคู่แบบไม่สวย

นอกจากภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นแล้วยังมีมุมของการเก็บเงินสร้างครอบครัวว่า ใครจะเป็นคนหาใครจะเป็นคนเก็บ รวมกระเป๋าหรือแยกกระเป๋าดี โดยเฉพาะผู้หญิงบางคนจะรู้สึกว่า เงินเราคือเงินของเรา เงินเขาก็คือเงินของเรา ซึ่งเหตุผลลึกๆแล้วไม่อยากให้ผู้ชายถือเงินเยอะเกินกลัวจะมีคนอื่น แต่ผมคิดว่าการใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เลือกทางที่ทั้งฝ่ายสบายใจด้วยเหตุผลซึ่งแต่ละคู่มีคำตอบไม่เหมือนกัน ดังนั้นผมขอแบ่งปันแนวทางที่ผมใช้ขจัดปัญหาเรื่องเงินไว้เป็นทางเลือกหนึ่งกับชีวิตคู่แล้วกันนะครับ

1.    จงพูดคุยเรื่องเงินก่อนใช้ชีวิตคู่
ผมคิดว่าเรื่องเงินจำเป็นต้องคุยกันให้เคลียร์ก่อนใช้ชีวิตคู่ด้วยเหตุผลและความเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคาใจจนเกิดเป็นปมปัญหาที่แก้ไขยาก ขอยกตัวอย่างเรื่องค่าสินสอดควรพูดคุยหาตัวเลขที่เหมาะสมกับทั้งสองฝ่าย และเงินก้อนนี้หลังงานแต่งใครจะได้รับไป โดยว่าที่คู่บ่าวสาวคุยกันก่อน แล้วค่อยไปคุยกับผู้ใหญ่แต่ละฝ่าย หลังจากนั้นมาดูระยะเวลาในการเตรียมสินสอดว่าเมื่อไรถึงจะเก็บเงินครบพร้อมแต่ง

2.    จงแบ่งปันทุกข์สุขร่วมกัน
ผมคิดว่าฐานะการเงินเป็นเรื่องที่ควรเปิดเผยกับคู่ชีวิต เวลามีปัญหาลงทุนเจ๊ง รายได้หดจนหมดตัว จะได้มีคนรับฟังทำให้ไม่เครียดจนเกินไปและช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหา บางคู่ไม่ยอมบอกเครียดจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย ในทางกลับกันเวลามีความสุขก็ต้องแบ่งปันเพื่อให้คู่ชีวิตเรามีความสุขด้วย ซึ่งอาจมีไอเดียใหม่ๆต่อยอดความสำเร็จ  

3.    จงช่วยกันทำงานหาเงิน
ผมเชื่อว่ามีแค่ 15% ของครอบครัวไทยที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยคนเดียวได้ ส่วนที่เหลือฐานะยังไม่รวยพอจนรู้สึกว่ามั่งคั่งอย่างมั่นคง ดังนั้นต้องช่วยกันทำงานทั้งคู่สร้างฐานะขึ้นมาก่อน เพื่อใช้เงินเลี้ยงดูจ่ายค่าเล่าเรียนลูก ใช้เงินหลังเกษียณยามที่ทำงานไม่ไหว และเผื่อเงินค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยหนัก

4.    จงแบ่งกันรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ผมคิดว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวแต่ละฝ่ายควรรับผิดชอบกันเอง ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนกลางแบ่งตามมูลค่ามากหรือน้อย กรณีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าช้อปปิ้ง ฯลฯ ฝ่ายชายในฐานะผู้นำครอบครัวควรออก ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายมากหน่อย เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ ควรช่วยกันออกตามรายได้ คนที่มีรายได้สูงกว่าก็ออกมากกว่า

5.    จงร่วมกันบริหารเงินออมให้งอกเงย
ผมคิดว่าการแยกกระเป๋ากันทำให้สองฝ่ายสบายใจและเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินให้แก่กัน แต่สิ่งที่ต้องทำคือช่วยดูแลให้พอร์ตเงินออมของทั้งคู่เติบโตและเอาชนะเงินเฟ้อได้จากการลงทุนที่ไม่เสี่ยงจนเกินไป สำหรับบางคู่มีปัญหาอีกฝ่ายเก็บเงินไม่อยู่ใช้เงินเก่ง ผมแนะนำให้เปิดบัญชีใหม่ขึ้นมาเป็นเงินกองกลางร่วมกันบริหารแยกจากบัญชีส่วนตัวเพื่อความโปร่งใส

หลายคู่อยู่ด้วยกันด้วยความรัก แต่จากกันด้วยความไม่เข้าใจ ผมหวังว่าแนวทางที่เล่าไปจะช่วยให้ชีวิตคู่ไม่เพียงหมดปัญหาเรื่องเงินแต่ยังทำให้ฐานะการเงินรุ่งเรืองครับ

ยิ้มจุ๊บๆเท่

https://www.facebook.com/BarryBellaTwin/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเงิน ครอบครัว แต่งงาน มนุษย์เงินเดือน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่