ในกระทู้ก่อนๆ จขกท. เคยตั้งคำถาม, แสดงความเห็นปนเหน็บแนมว่า ทำไมผู้หญิงที่เป็นแฟนช่องเจ็ด ถึงพยาย้ามมม.. พยายามเหลือเกินที่จะทำให้ช่องมีกระแส โน่นนี่นั่น จนบางทีรู้สึกว่ามัน "ล้น" เกิน ทำไมวะ จะดูอะไรกันเงียบๆไม่มีกระแสกันไม่เป็นหรือไง เลยพยายามที่จะเบรคๆบ้าง (ที่พยายามบอกไปในกระทู้จุดยืนนั่นแหละ) และก็ไม่ควรไปคิดแทนนักแสดงที่ย้ายสังกัดหรือเป็นอิสระว่าเป็นเพราะกระแส ซึ่งถ้าผู้อ้างเป็นคนวงในหรือญาติสนิทของเขาก็บอกกันได้ แต่ถ้าไม่ก็อย่าดีกว่า

แต่เร็วๆ นี้ จขกท. เชื่อแล้ว ว่ากระแสต่างๆนั้น ผู้หญิงเป็นผู้สร้างมากกว่าจริงๆ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ผู้หญิงชอบพูดคุย เลยดูคนเดียวไม่ได้ มันเหงา มันว้าเหว่ ต้องมีคนดูด้วย มีคนเม้ามอยด้วย ละครจบอารมณ์ไม่จบต้องไถทวิตอัพสเตตัสต่อ ทำให้ผู้หญิงสร้างกระแสออนไลน์ได้ดีกว่า

สิ่งที่ทำให้ จขกท. เห็นด้วยคือ ในทวิตเตอร์งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ครั้งที่ผ่านมา ที่ติดเทรนด์อันดับหนึ่งอยู่ประมาณสองวัน ทวีตที่มีการรีมากๆ นอกจากเรื่องการแปรอักษรและฟุตบอลแล้ว ก็เป็นภาพของหนุ่มหล่อในงานของทั้งสองสถาบัน ร้อยละ 95 เลยที่เป็นภาพผู้ชาย ผู้หญิงนี่มีน้อยมากๆ แสดงว่าผู้หญิงนั้นเป็นกลุ่มคนที่สร้างกระแสได้มากกว่าผู้หญิงจริงๆ

โอเค เห็นดังนั้นแล้ว จขกท.เชื่อละ ว่ากระแสต่างๆผู้หญิงนั้นเป็นผู้สร้าง ก็ขอโทษและขออภัยสำหรับความเข้าใจที่อาจไม่ตรงนักในอดีต จากนี้ไปก็จะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่รณรงค์ให้ช่องเจ็ดทำละคร, รายการอิงกระแสมากกว่าที่เป็นอยู่ ทำแนวที่เอาใจผู้ชมที่เป็น "ผู้หญิง" มากขึ้น และเอาใจวัยรุ่นที่เป็น "ผู้หญิง" มากขึ้น แต่จุดยืนของผมก็จะเป็นเหมือนเดิม คือควรเอากระแสไว้บ้าง ปีละ 2 - 3 เรื่อง ต่อจากนั้นพอฐานผู้ชมเป็นชาวเน็ตมากจนแทนที่ผู้ชมกลุ่มเก่าได้หมดแล้ว ค่อยอิงกระแสอย่างเต็มที่ (ณ ตอนนั้นกลุ่มใหม่ก็น่าจะเป็นผู้สร้างเรตติ้งแล้วเหมือนกัน) และไม่เห็นด้วยเหมือนเดิม ที่จะเรียกร้องหรือทำอะไรที่มันดูเวอร์เกิน

ที่จริงในด้านผู้ชม วงการนี้ค่อนข้างเป็นมาตาธิปไตย (Matriarchy) ที่ผู้หญิงเป็นใหญ่อยู่แล้ว กระแสหรืออะไรของผู้หญิงเลยกลบของส่วนอื่นๆไปค่อนข้างมาก