จากข่าวสืบเนื่องจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านหนึ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอาชีพข้าราชการเป็นเพียงไซด์ไลน์ ส่วนงานหลักคือทำธุรกิจ / เล่นหุ้น
ก็มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
ประกอบกับเป็นจังหวะเดียวกันที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมผู้ฆ่าเสือดำอย่างตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพล
เรื่องนี้ก็เลยถูกขยายและเปรียบเทียบให้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ถ้าลองมองอย่างเป็นกลาง ไม่ต้องเปรียบเทียบอะไร
ผมอยากทราบว่า ข้าราชการสามารถทำธุรกิจ หรือที่คนเจนวายฮิตมากๆ คือ การสร้าง passive income นั้น สามารถทำได้หรือไม่?
และเอาเข้าจริงๆ เราๆ ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะภาคเอกชน หรือราชการ เชื่อว่าหลายคนก็มาจับตรงนี้กันมากแล้ว ฮิตสุดคือเทรดหุ้น ใหม่สุดก็คริปโต
ซึ่งแน่นอนก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่สมัยยังทำงานอยู่ น้อยมากที่จะไม่ลอง “เทรด” ให้ตัวเองมั่นใจว่าสามารถหาเงินจากทางนี้ได้จริงๆ แล้วกระโดดจากงานประจำออกมาเล่นเลย
นั่นก็หมายความว่า คนปกติทั่วๆ ไป ก็เริ่มเทรดไปพร้อมๆ กับการทำงานประจำนั่นแหละครับ
ผมก็เลยงงว่า แล้วการที่ท่านออกมาบอกว่า งานหลักคือหุ้น ทำไมถึงโดนสังคมวิพากษ์มากนัก
เพราะถ้าไปถามข้าราชการเดินดินกินข้าวแกงธรรมดา ก็ต้องมีคนเทรดหุ้นแน่นอน และหลายคนก็ได้รายได้หลักจากตรงนี้จริงๆ
แล้วก็นำมาซึ่งคำถามที่สองคือ สรุปข้าราชการสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้หรือไม่
โดยเป็นการหามาโดยสุจริต ไม่ได้ใช้แต้มต่อหรือประโยชน์จากตำแหน่งของตัวเองเพื่อช่วยหาเงินในส่วนนั้น (ตัวอย่างเช่น แพทย์โรงพยาบาลรัฐ เล่นหุ้น ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นแพทย์ ผิดไหม ฯลฯ)
หรือว่า ข้าราชการ เป็นสิ่งที่ต้อง “เสียสละ” โดยรูปแบบอยู่แล้ว
กล่าวคือ “ไม่ควร” สร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง เพราะมีคำว่า “devotion” ติดดู หรือการเสียสละ
(ในขณะที่ พนักงานเอกชน สามารถสร้างความมั่งคั่งได้โดยไม่ผิด เพราะไม่มีเซนส์ของคำว่า “เสียสละเพื่อส่วนรวม” มาพ่วงด้วย)
ทั้งๆ ที่ในประเทศอื่นๆ กลับมองว่า ข้าราชการ หรือเอกชนนั้น ต่างกันเพียงว่า “นายจ้าง” คือรัฐ หรือเอกชน
และอาจมีการให้ค่าตอบแทน และสวัสดิการ ที่แตกต่างกันออกไปจริง
แต่เขาก็ไม่ได้มีเซนส์ว่า ข้าราชการต้อง “เสียสละเพื่อส่วนรวม” มากกว่าพนักงานเอกชน แต่อย่างใด
กลับกัน เป็นการจ้างงานตามความสามารถเท่าๆ กัน เพราะฉะนั้นจะรัฐ หรือเอกชน ก็ต้องพร้อม “จ่าย” ให้กับคนที่จะมาทำงาน อย่างยุติธรรม
ไม่ได้ใช้คำว่า “เสียสละ” เพื่อตะล่อมให้มาทำงานโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียอะไร น่ะครับ
สรุปแล้วข้าราชการสามารถเทรดหุ้นได้หรือไม่ครับ? ข้าราชการไม่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้?
ก็มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
ประกอบกับเป็นจังหวะเดียวกันที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมผู้ฆ่าเสือดำอย่างตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพล
เรื่องนี้ก็เลยถูกขยายและเปรียบเทียบให้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ถ้าลองมองอย่างเป็นกลาง ไม่ต้องเปรียบเทียบอะไร
ผมอยากทราบว่า ข้าราชการสามารถทำธุรกิจ หรือที่คนเจนวายฮิตมากๆ คือ การสร้าง passive income นั้น สามารถทำได้หรือไม่?
และเอาเข้าจริงๆ เราๆ ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะภาคเอกชน หรือราชการ เชื่อว่าหลายคนก็มาจับตรงนี้กันมากแล้ว ฮิตสุดคือเทรดหุ้น ใหม่สุดก็คริปโต
ซึ่งแน่นอนก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่สมัยยังทำงานอยู่ น้อยมากที่จะไม่ลอง “เทรด” ให้ตัวเองมั่นใจว่าสามารถหาเงินจากทางนี้ได้จริงๆ แล้วกระโดดจากงานประจำออกมาเล่นเลย
นั่นก็หมายความว่า คนปกติทั่วๆ ไป ก็เริ่มเทรดไปพร้อมๆ กับการทำงานประจำนั่นแหละครับ
ผมก็เลยงงว่า แล้วการที่ท่านออกมาบอกว่า งานหลักคือหุ้น ทำไมถึงโดนสังคมวิพากษ์มากนัก
เพราะถ้าไปถามข้าราชการเดินดินกินข้าวแกงธรรมดา ก็ต้องมีคนเทรดหุ้นแน่นอน และหลายคนก็ได้รายได้หลักจากตรงนี้จริงๆ
แล้วก็นำมาซึ่งคำถามที่สองคือ สรุปข้าราชการสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้หรือไม่
โดยเป็นการหามาโดยสุจริต ไม่ได้ใช้แต้มต่อหรือประโยชน์จากตำแหน่งของตัวเองเพื่อช่วยหาเงินในส่วนนั้น (ตัวอย่างเช่น แพทย์โรงพยาบาลรัฐ เล่นหุ้น ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นแพทย์ ผิดไหม ฯลฯ)
หรือว่า ข้าราชการ เป็นสิ่งที่ต้อง “เสียสละ” โดยรูปแบบอยู่แล้ว
กล่าวคือ “ไม่ควร” สร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง เพราะมีคำว่า “devotion” ติดดู หรือการเสียสละ
(ในขณะที่ พนักงานเอกชน สามารถสร้างความมั่งคั่งได้โดยไม่ผิด เพราะไม่มีเซนส์ของคำว่า “เสียสละเพื่อส่วนรวม” มาพ่วงด้วย)
ทั้งๆ ที่ในประเทศอื่นๆ กลับมองว่า ข้าราชการ หรือเอกชนนั้น ต่างกันเพียงว่า “นายจ้าง” คือรัฐ หรือเอกชน
และอาจมีการให้ค่าตอบแทน และสวัสดิการ ที่แตกต่างกันออกไปจริง
แต่เขาก็ไม่ได้มีเซนส์ว่า ข้าราชการต้อง “เสียสละเพื่อส่วนรวม” มากกว่าพนักงานเอกชน แต่อย่างใด
กลับกัน เป็นการจ้างงานตามความสามารถเท่าๆ กัน เพราะฉะนั้นจะรัฐ หรือเอกชน ก็ต้องพร้อม “จ่าย” ให้กับคนที่จะมาทำงาน อย่างยุติธรรม
ไม่ได้ใช้คำว่า “เสียสละ” เพื่อตะล่อมให้มาทำงานโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียอะไร น่ะครับ