สำหรับความคิดเรานะ โรงเรียนอื่นเราไม่รู้
คนเก่ง=นักกีฬาตัวจริง
คนไม่เก่ง=ตัวสำลอง/แทบไม่มีโอกาสได้เล่น
คนสวย=หลีด
ขี้เหร่=สเเตน
นักกีฬาหล่อ=ไม่ชนะคนก็ชอบ
นักกีฬาขี้เหร่=ชนะไปแทบไม่มีใครรู้ว่าอยู่เบอร์อะไร
หลีด=เช่าชุดหมดหลายพัน/ซ้อมเป็นอาทิตย์/ยืนเต้น5นาที
สเเตน=ซ้อมเป็นอาทิตย์/เเหกปากร้องเพลงทั้งวัน
นักกีฬาเก่ง=ชนะ
นักกีฬาอ่อน=แพ้
เล่นบอลยิงได้10ลูก=คนในทีมเฉยๆ
พลาด1ลูก=ด่าเหมือนไม่ใช่คน
ถามหน่อย*
ถ้าไม่ลองให้คนอ่อนเล่นเเล้วมันจะพัฒนาเป็นคนเก่งได้ยังไงอ่ะ
สโลเเกรน"แพ้ชนะ=อภัย"ยังใช้ได้อยู่หรอ?
จบเกมส์ก็มีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีก
ส่วนสเเตน*
มีส่วนสำคัญกว่าหลีดกว่าขบวนพาเหรดอีก ถ้าไม่มีเขาใครจะส่งเสียงเชียร์ ร้องเพลงทั้งวันมีมะนาวฝานเเค่นี้ให้กิน ถามจริงเอาค่าชุดหลีด7-8คนมาเลี้ยงน้ำสเเตนเชียร์เป็นสิบๆชีวิตดีกว่ามั้ย หน้าตาของสีก็จริง เเต่มันจะดีกว่าถ้าในสีสนับสนุนคนไม่เก่งให้มีความกล้า ไม่สนเเพ้หรือชนะ สนเเค่ว่าทำให้เด็กมีทักษะมากขึ้น ให้นักกีฬาไม่เก่งลงสนามบ้าง ให้สเเตนเชียร์เทียบเท่ากับหลีด เเค่นี้ก็ดีกว่าสีที่เก่ง หลีดสวย สเเตนเชียร์เลิศเเต่เบื้องหลังไม่มีความสุขเป็นไหนๆ
ทุกคนว่ายังไง????
กีฬาสีมีไว้เพื่ออะไร?
คนเก่ง=นักกีฬาตัวจริง
คนไม่เก่ง=ตัวสำลอง/แทบไม่มีโอกาสได้เล่น
คนสวย=หลีด
ขี้เหร่=สเเตน
นักกีฬาหล่อ=ไม่ชนะคนก็ชอบ
นักกีฬาขี้เหร่=ชนะไปแทบไม่มีใครรู้ว่าอยู่เบอร์อะไร
หลีด=เช่าชุดหมดหลายพัน/ซ้อมเป็นอาทิตย์/ยืนเต้น5นาที
สเเตน=ซ้อมเป็นอาทิตย์/เเหกปากร้องเพลงทั้งวัน
นักกีฬาเก่ง=ชนะ
นักกีฬาอ่อน=แพ้
เล่นบอลยิงได้10ลูก=คนในทีมเฉยๆ
พลาด1ลูก=ด่าเหมือนไม่ใช่คน
ถามหน่อย*
ถ้าไม่ลองให้คนอ่อนเล่นเเล้วมันจะพัฒนาเป็นคนเก่งได้ยังไงอ่ะ
สโลเเกรน"แพ้ชนะ=อภัย"ยังใช้ได้อยู่หรอ?
จบเกมส์ก็มีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีก
ส่วนสเเตน*
มีส่วนสำคัญกว่าหลีดกว่าขบวนพาเหรดอีก ถ้าไม่มีเขาใครจะส่งเสียงเชียร์ ร้องเพลงทั้งวันมีมะนาวฝานเเค่นี้ให้กิน ถามจริงเอาค่าชุดหลีด7-8คนมาเลี้ยงน้ำสเเตนเชียร์เป็นสิบๆชีวิตดีกว่ามั้ย หน้าตาของสีก็จริง เเต่มันจะดีกว่าถ้าในสีสนับสนุนคนไม่เก่งให้มีความกล้า ไม่สนเเพ้หรือชนะ สนเเค่ว่าทำให้เด็กมีทักษะมากขึ้น ให้นักกีฬาไม่เก่งลงสนามบ้าง ให้สเเตนเชียร์เทียบเท่ากับหลีด เเค่นี้ก็ดีกว่าสีที่เก่ง หลีดสวย สเเตนเชียร์เลิศเเต่เบื้องหลังไม่มีความสุขเป็นไหนๆ
ทุกคนว่ายังไง????