เหตุต่อเนื่องจากกระทู้ก่อนหน้า “มาดูภาพป่าไม้จังหวัดน่าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แล้วจะรู้ว่าทำไมประเทศไทยถึงร้อนขนาดนี้!” ที่พอตั้งปุ้ปก็มีบางส่วนเข้ามาด่าคนที่น่านกันรัวๆเลย ซึ่งแรกๆเราก็คิดแบบนั้นนะ แต่ พอไปหาข้อมูลมาจากหลากหลายที่ กลับกลายเป็นรู้สึกสงสารคนที่นั่นมากๆเลยนะ อธิบายไปอาจยืดยาวและฟังไม่รู้เรื่อง เราลองมาจำลองสถานการณ์กันดีกว่า
สมมุติจังหวัดกรุงเทพมหานครที่เราๆท่านอยู่เนี่ยแหละ มีอยู่ทั้งหมด 50 เขต เป็นจังหวัดที่มีป่าไม้อันดับต้นๆของประเทศ จังหวัดที่เป็นต้นน้ำของสายน้ำกว่า 40% ที่กินที่ใช้ในประเทศ คนที่อยู่ในจังหวัดทุกคนล้วนอยู่กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รุ่นทวด ปู่ ย่า ตา ยาย อยู่มาตั้งแต่ 100 กว่าปีที่แล้ว อาชีพหลักๆของคนกรุงเทพในจังหวัดนี้คือการทำมาหากินปลูกพืชไร่ ด้วยความที่จังหวัดนี้เป็นแหล่งต้นน้ำ น้ำท่าจึงอุดมสมบูรณ์มากๆ ปลูกอะไรก็ขึ้นมีน้ำในการเพาะปลูก สามารถเก็บมาขายได้อย่างพออยู่พอกินกันทุกบ้าน
อยู่มาวันหนึ่งมีกฎหมายฉบับหนึ่งของประเทศประกาศ ตู้ม!!! มาบนพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประกาศให้ 90% ของเขตที่อยู่บนจังหวัดนี้กลายเป็นเขต.......พื้นที่ป่าสงวน.... อะไรคือเขตพื้นที่ป่าสงวน?...... คนในกรุงเทพบางคนรู้ว่าเขตพื้นที่ป่าสงวนคืออะไร ขณะที่หลายๆคนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ต่างคนต่างให้ข้อมูลกฎหมายฉบับนี้กัน มั่วบ้าง ถูกบ้าง การสำรวจพื้นที่ก่อนประกาศเขตพื้นที่ป่าสงวนเป็นไปอย่างสับสน บางบ้านตกสำรวจ บางบ้านก็ไม่ได้ให้ข้อมูลกับทางรัฐ ทุกอย่างเป็นไปอย่างวุ่นวายจนวันเวลาผ่านไป.........กว่า 45 เขตในกรุงเทพมหานครกลายเป็นพื้นที่ป่าสงวน โดยมีเพียง 5 เขตเท่านั้นที่ ไม่เป็นพื้นที่ป่าสงวน
หลังจากผ่านการประกาศพื้นที่ป่าสงวนไป คนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 45 เขต ที่ถูกกฎหมายประกาศให้เป็นพื้นที่ป่าสงวน ต่างพบว่าตัวเองไม่สามารถ “ทำอาชีพเดิม” ที่เคยทำมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายได้ ไม่ว่าจะปลูกพืช ทำเกษตร หรืออะไรก็ตามแต่ เพราะถูกจำกัดโดยกฎหมายป่าสงวน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.forest.go.th/phitsanulok/index.php?option=com_content&view=article&id=518%3Ap10&catid=13%3A2010-06-04-06-%25M-%25S&lang=th สายน้ำหลักที่เคยไหล่ผ่านหน้าบ้านก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้ เพราะแม้กระทั่งต่อท่อ หรือ สร้างท่อน้ำบนพื้นที่ต่างๆก็ไม่สามารถทำได้ รายได้ที่เคยได้ พื้นที่ ที่เคยเพาะปลูกหารายได้เลี้ยงครอบครัวกับกลายเป็นพื้นที่ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ หรือถ้าจะทำก็ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซ้ำร้ายบ้านที่ตัวเองเคยอยู่บางทียังอาจกลายเป็นบ้านที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าสงวน กลายเป็นบ้านที่ “ผิดกฏหมาย” ไปโดยปริยาย ทำให้คนกว่า 90% ของจังหวัดประสบปัญหาอย่างหนัก คนที่มีฐานะดีหน่อยต่างก็ทิ้งบ้านเรือนที่เคยอยู่ ไปหาพื้นที่ 5 เขตที่เหลือของจังหวัด แต่พื้นที่เพียง 5 เขตไม่สามารถรองรับประชากรที่ “ล้นออกมา” จาก 45 เขตได้หมดแน่นอน การแก่งแย่งพื้นที่ 5 เขตจึงเป็นไปอย่างรุนแรงและคนที่มีฐานะดีเท่านั้นจึงสามารถจับจองได้.......
วันเวลาผ่านไป คนที่อาศัยอยู่ในเขตป่าสงวน พยายามเลี้ยงชีวิตเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่ลักลอบปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ เพื่อหวังเก็บเกี่ยวพืชผลไว้กินไว้ขาย แต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ใช้น้ำปริมาณมากในการดูแลและใช้เวลานานกว่าจะโต พอจะโตไม่ทันจะเก็บเกี่ยวก็โดนเจ้าหน้าที่รัฐมาตัดไปเพราะปลูกอยู่บนพื้นที่ป่าสงวน ทุนที่ลงไปกับต้นไม้ใหญ่ก็สูญสลายไป....
ความเสี่ยงจากการลงทุนเรื่องพืชผล ทำให้เงินทุนยิ่งร่อยหรอ ครั้นจะไปทำอาชีพอื่นๆก็ไม่สามารถทิ้งบ้านที่เคยอยู่มาได้ เลยจำเป็นต้องหา “พืช” อะไรก็ได้มาปลูกเพื่อให้มีรายได้ และด้วยความที่ ข้าวโพดเป็นพืชเชิงเดี่ยวที่ใช้น้ำน้อยในการเพาะปลูก และระยะเวลาในการปลูกค่อนข้างสั้น (เก็บเกี่ยว 4 เดือน) เหมือนปลูกแล้วได้ “รายได้” มาเลี้ยงครอบครัวเลย สิ่งที่เกิดคือ........คนในพื้นที่ 45 เขต ต่างเฮโลไปปลูกข้าวโพด แม้จะผิดกฎหมาย แม้จะลุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนก็ยอม เจ้าหน้าที่จับได้ก็ไล่จับไป จับพื้นที่ตรงนี้ ก็หนีไปตรงโน้นเพื่อปลูกข้าวโพดไปเรื่อยๆ เพราะไม่ทำก็ไม่มีอาชีพอันไหนมาการันตี “รายได้” ของครอบครัวอีกแล้ว.........
จบละครับนิทานเปรียบเปรยเรื่องนี้ ลองคิดตามไปเรื่อยๆนะครับสมมุติคุณเป็นเจ้าของบ้านในพื้นที่ 45 เขตนั้น คุณจะทำยังไง ลองมาคุยกันในกระทู้นี้ดูครับ ขอบคุณครับ
หากสมมุติว่ากรุงเทพฯเป็นจังหวัดน่าน เป็นคุณจะทำยังไง?
สมมุติจังหวัดกรุงเทพมหานครที่เราๆท่านอยู่เนี่ยแหละ มีอยู่ทั้งหมด 50 เขต เป็นจังหวัดที่มีป่าไม้อันดับต้นๆของประเทศ จังหวัดที่เป็นต้นน้ำของสายน้ำกว่า 40% ที่กินที่ใช้ในประเทศ คนที่อยู่ในจังหวัดทุกคนล้วนอยู่กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รุ่นทวด ปู่ ย่า ตา ยาย อยู่มาตั้งแต่ 100 กว่าปีที่แล้ว อาชีพหลักๆของคนกรุงเทพในจังหวัดนี้คือการทำมาหากินปลูกพืชไร่ ด้วยความที่จังหวัดนี้เป็นแหล่งต้นน้ำ น้ำท่าจึงอุดมสมบูรณ์มากๆ ปลูกอะไรก็ขึ้นมีน้ำในการเพาะปลูก สามารถเก็บมาขายได้อย่างพออยู่พอกินกันทุกบ้าน
อยู่มาวันหนึ่งมีกฎหมายฉบับหนึ่งของประเทศประกาศ ตู้ม!!! มาบนพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประกาศให้ 90% ของเขตที่อยู่บนจังหวัดนี้กลายเป็นเขต.......พื้นที่ป่าสงวน.... อะไรคือเขตพื้นที่ป่าสงวน?...... คนในกรุงเทพบางคนรู้ว่าเขตพื้นที่ป่าสงวนคืออะไร ขณะที่หลายๆคนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ต่างคนต่างให้ข้อมูลกฎหมายฉบับนี้กัน มั่วบ้าง ถูกบ้าง การสำรวจพื้นที่ก่อนประกาศเขตพื้นที่ป่าสงวนเป็นไปอย่างสับสน บางบ้านตกสำรวจ บางบ้านก็ไม่ได้ให้ข้อมูลกับทางรัฐ ทุกอย่างเป็นไปอย่างวุ่นวายจนวันเวลาผ่านไป.........กว่า 45 เขตในกรุงเทพมหานครกลายเป็นพื้นที่ป่าสงวน โดยมีเพียง 5 เขตเท่านั้นที่ ไม่เป็นพื้นที่ป่าสงวน
หลังจากผ่านการประกาศพื้นที่ป่าสงวนไป คนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 45 เขต ที่ถูกกฎหมายประกาศให้เป็นพื้นที่ป่าสงวน ต่างพบว่าตัวเองไม่สามารถ “ทำอาชีพเดิม” ที่เคยทำมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายได้ ไม่ว่าจะปลูกพืช ทำเกษตร หรืออะไรก็ตามแต่ เพราะถูกจำกัดโดยกฎหมายป่าสงวน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สายน้ำหลักที่เคยไหล่ผ่านหน้าบ้านก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้ เพราะแม้กระทั่งต่อท่อ หรือ สร้างท่อน้ำบนพื้นที่ต่างๆก็ไม่สามารถทำได้ รายได้ที่เคยได้ พื้นที่ ที่เคยเพาะปลูกหารายได้เลี้ยงครอบครัวกับกลายเป็นพื้นที่ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ หรือถ้าจะทำก็ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซ้ำร้ายบ้านที่ตัวเองเคยอยู่บางทียังอาจกลายเป็นบ้านที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าสงวน กลายเป็นบ้านที่ “ผิดกฏหมาย” ไปโดยปริยาย ทำให้คนกว่า 90% ของจังหวัดประสบปัญหาอย่างหนัก คนที่มีฐานะดีหน่อยต่างก็ทิ้งบ้านเรือนที่เคยอยู่ ไปหาพื้นที่ 5 เขตที่เหลือของจังหวัด แต่พื้นที่เพียง 5 เขตไม่สามารถรองรับประชากรที่ “ล้นออกมา” จาก 45 เขตได้หมดแน่นอน การแก่งแย่งพื้นที่ 5 เขตจึงเป็นไปอย่างรุนแรงและคนที่มีฐานะดีเท่านั้นจึงสามารถจับจองได้.......
วันเวลาผ่านไป คนที่อาศัยอยู่ในเขตป่าสงวน พยายามเลี้ยงชีวิตเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่ลักลอบปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ เพื่อหวังเก็บเกี่ยวพืชผลไว้กินไว้ขาย แต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ใช้น้ำปริมาณมากในการดูแลและใช้เวลานานกว่าจะโต พอจะโตไม่ทันจะเก็บเกี่ยวก็โดนเจ้าหน้าที่รัฐมาตัดไปเพราะปลูกอยู่บนพื้นที่ป่าสงวน ทุนที่ลงไปกับต้นไม้ใหญ่ก็สูญสลายไป....
ความเสี่ยงจากการลงทุนเรื่องพืชผล ทำให้เงินทุนยิ่งร่อยหรอ ครั้นจะไปทำอาชีพอื่นๆก็ไม่สามารถทิ้งบ้านที่เคยอยู่มาได้ เลยจำเป็นต้องหา “พืช” อะไรก็ได้มาปลูกเพื่อให้มีรายได้ และด้วยความที่ ข้าวโพดเป็นพืชเชิงเดี่ยวที่ใช้น้ำน้อยในการเพาะปลูก และระยะเวลาในการปลูกค่อนข้างสั้น (เก็บเกี่ยว 4 เดือน) เหมือนปลูกแล้วได้ “รายได้” มาเลี้ยงครอบครัวเลย สิ่งที่เกิดคือ........คนในพื้นที่ 45 เขต ต่างเฮโลไปปลูกข้าวโพด แม้จะผิดกฎหมาย แม้จะลุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนก็ยอม เจ้าหน้าที่จับได้ก็ไล่จับไป จับพื้นที่ตรงนี้ ก็หนีไปตรงโน้นเพื่อปลูกข้าวโพดไปเรื่อยๆ เพราะไม่ทำก็ไม่มีอาชีพอันไหนมาการันตี “รายได้” ของครอบครัวอีกแล้ว.........
จบละครับนิทานเปรียบเปรยเรื่องนี้ ลองคิดตามไปเรื่อยๆนะครับสมมุติคุณเป็นเจ้าของบ้านในพื้นที่ 45 เขตนั้น คุณจะทำยังไง ลองมาคุยกันในกระทู้นี้ดูครับ ขอบคุณครับ