▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
One Day Trip
นักท่องเที่ยว
[CR] Japan ในโลกเงียบ ~เที่ยววันเดียว อิ่มบุญ อิ่มท้อง และอิ่มใจ ที่ "คามาคุระ"
วิธีไปง่ายๆ ไม่ยากเลย เริ่มจากซื้อบัตร Free pass Enoshima – Kamakura (1,470 เยน) for 1 day รถไฟสาย Odakyu ที่สถานีชินจุกุ ครับ
ผมไปแบบสบายๆ ไม่ได้กำหนดอะไร เน้นชิลล์ไว้ก่อน เริ่มกันเลย ขึ้นรถไฟ Shinjuku ไปลงที่ Katase-Enoshima ออกจากสถานีรถไฟ เปิด Google Maps เดินดุ่ยๆ ไปที่ สถานี Enoshima ต่ออีกไม่ไกลเท่าไรฮะประมาณ 10 นาที กินลมชมวิวสวยๆ อากาศดี๊ดี แปปเดียวเองถึงละอ่ะ
สถานี Enoshima (06) ---> สถานี Hase (12)
แล้วก็มาถึง สถานี Enoshima ต่อรถไฟสาย Enoden ไปลงที่ สถานี Hase เพราะผมจะไปไหว้องค์พระไดบุทสึ กับเจ้าแม่กวนอิมครับ ดูเหมือนยุ่งยากเนอะ แต่จริงๆ มันเพลินมั่กๆ ใช้เวลาไม่นานเลย แบบแปปๆ ถึงละ
จากแผนที่ทั้งสองแห่งเดินไปไม่นานก็ถึงครับ ผมจะไปไหว้พระใหญ่ก่อนเนอะ ที่วัด Kotoku-in ออกจากสถานี Hase จะมีป้ายบอกทางตลอดครับ เดินไปเรื่อยๆ จะมีร้านขายอาหาร ของฝาก เรียงกันตลอดทาง กลิ่นงี้ยั่วจมูกตลอดเลย ไฮไลท์เด่นๆ จะเป็น เซมเบ้ปลาหมึก ราคา 300 เยนเท่านั้น
นี่เลยฮะ คนมุงกันเยอะ เอามั่งสิๆ ผมสั่งแผ่นนึง คุณลุงเจ้าของร้านใจดีแถมให้อีกแผ่นนึงแหละ ทำสดๆ ให้ดูเลย ครับเป็นปลาหมึกตัวเล็กๆ ผสมกับแป้ง ราดบนกระทะแบนๆ แล้วก็เอาฝากดให้เป็นแผ่น แปลกตาดีครับ ไม่รู้ปลาหมึกบวมๆ มันแบนไปเลยได้ไง ปลาหมึกนี่ติดมาในแผ่นเลย กัดกร๊อบ รสชาติหวานๆ เค็มๆ ปนๆกัน กลิ่นปลาหมึกนี่ชัดเจนมากเลย แต่ว่ามันอร่อยสุดๆ อ่ะ กัดไปก็ยิ้มไป เหมือนคนบ้า
มาๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงปากทางเข้าวัดครับ ร่มรื่นมากๆ ครับ ค่าเข้าวัด 200 เยนนะ
ประวัติคร่าวๆ ของ องค์พระไดบุทสึ ทำจากทองสำริด มีความสูง 13.35 เมตร หนักถึง 93 ตัน ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นครับ ปกติ องค์พระไดบุทสึ ได้ตั้งอยู่ในตัววัดครับ แต่ก็เกิดความเสียหายจากสึนามิ เมื่อปี 1495 ทำให้ตัววัดนั้นพังทลายหายไปหมดเลย เหลือแต่ องค์พระไดบุทสึ ที่ไม่เป็นอะไรเลยครับ
สามารถเข้าไปดูข้างในองค์พระได้นะครับ 20 เยน ภายในเป็นโครงสร้างครับ มีรายละเอียดว่าส่วนไหนใช้โครงสร้างแบบไหน ประวัติเล็กๆ น้อยๆ ครับ
หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว เดินย้อนกลับไปทางเดิม ไปต่อที่เพื่อไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ วัด Hasedera ครับ
ระหว่างทางกลับก็แวะหาอะไรเข้าปากไปเรื่อย มีร้านคร็อกเก้ ผมเลือกแบบคร็อกเก้เนื้อมา อร่อยใช้ได้เลย อากาศหนาวๆ กับครอกเก้ร้อนๆ กรอบๆ อุ่นหัวใจ
เดินมาอีกนิด ร้านถัดมา จัดไป โอปันยากิรูปองค์พระไดบุทสึไส้ครีมอุ่นๆ อร่อยมากครับชิ้นนี้ ไส้ครีมทะลักเน้นๆ คงไม่บาปนะครับ ...
เดินย้อนไปทางเดิมเรื่อยๆ ก็มาถึง วัด Hasedera
สวนภายในวัดนี่สวยมากๆ เลยครับ คนที่นี่ฝีมือจัดสวนสุดยอด คิดว่าถ้ายิ่งในช่วงฤดูซากุระ และช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคงสวยจับใจเลยล่ะ มีทั้งคนญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวก็มากันเยอะฮะ บริเวณภายวัดกว้างพอสมควร และก็ตั้งอยู่บนภูเขา เหนื่อยหน่อยๆ อย่าแพ้คนญี่ปุ่นล่ะ คนมีอายุนี่เดินขึ้นกับแบบชิลล์ๆ เลยอ่ะ
หลังจากเดินขึ้นมาเดินมา ก็มีที่นั่งพัก มองวิวทะเลไกลๆ กับลมเย็นๆ
มาในส่วนของ Kyozo เป็นหอที่เก็บรักษาพระสูตรหรือคัมภีร์ทางศาสนาครับ จะมีเสาไม้แกะสลักหมุนได้ ให้เราหมุนครับ ว่ากันว่าหากหมุนแล้วจะได้รับบุญเช่นเดียวกับการอ่านพระสูตรทั้งหมดครับ
ถัดมาด้านข้างๆ คือ วิหารที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิม 11 หน้า (Kannon-do hall) แกะสลักจากไม้หุ้มด้วยทอง รูปปั้นขององค์เจ้าแม่กวนอิมสูงถึง 9.18 เมตร ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้านในไม่ให้ถ่ายรูปนะครับ แต่บอกเลยว่า สวย และยิ่งใหญ่มากจริงๆ ครับ
ศาลเจ้าหอยนางรม (Kakigara Inari)
เท่าที่ผมอ่านมาคือ มีตำนานกล่าวไว้ว่า เจ้าแม่กวนอิมได้ไปติดเกาะอยู่แห่งหนึ่งทำให้ขาดเสบียง ด้วยเหตุนี้เจ้าแม่กวนอิมใช้นิ้วจุ่มลงในน้ำทะเลแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า สิ่งใดที่ท่านสามารถรับประทานได้ก็ขอให้ติดนิ้วท่านขึ้นมา ทันใดนั้นเองหอยนางรมก็มาติดที่มือของท่าน เลย ได้หอยนางรมนั้นมารับประทาน บ้างก็ว่าสาวกของท่านเอาไม้พายจุ่มลงไป แล้วอธิษฐานเช่นเดียวกันครับ
เป็นศาลขอพรให้มั่งคั่ง และโชคดี
ค่าฝาหอย 300 เยนครับ
ลานตุ๊กตาหินจิโซ (Jizo-do Hall) มีเยอะมากๆ เลยครับ ตุ๊กตาหินเหล่านี้คือพระจิโซ เพื่อส่งดวงวิญญาณเด็กที่ไม่ได้เกิดเนื่องจากการแท้ง หรือเสียชีวิตจากเจ็บป่วยก่อนวัยอันควรขึ้นสวรรค์ครับ บางรูปปั้นจะมีการแต่งตัวให้ด้วยครับ
ลงมาด้านล่างจะมีถ้ำ Benten-do hall ครับ เป็นถ้ำเตี้ยๆ ด้านในเป็นที่ประทับของท่าน Benzaiten เทพยาดาแห่งโชคลาภ
ด้านข้างๆ จะมีศาลของ เทพเจ้าไดโกะคุเตน (Daikokuten, だいこくてん) เป็น 1 ใน 7 เทพเจ้าโชคลาภของญี่ปุ่นครับ ถือถุงข้าวสาร กับค้อน ช่วยด้านการเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ และความร่ำรวยครับ มีแต่คนยืนต่อคิวไปลูบๆ องค์ท่านกัน ผมก็ไปลูบมาด้วย อิอิ เพี้ยงๆๆๆ
หลังจากเดินชมจนทั่วแล้ว จะไปต่อที่ เกาะ Enoshima ครับ แต่ก่อนจะไป หาอะไรลงท้องก่อนดีกว่า ไหนๆ ก็มาแล้ว ไม่ควรพลาด ข้าวหน้าปลาข้าวสาร (Shirasudon) เดินผ่านร้านนึงพอดี ป่ะครับเข้าๆ เป็นร้านเล็กๆ มีไม่กี่โต๊ะ อากาศในร้านอุ่นดี สั่งมาเซ็ตนึงฮะ กลิ่นปลาหอมๆ ตรงกลางจะเป็นปลาข้าวสารสดๆ เลยครับ รอบข้างจะเป็นแบบสุก จ้วงเข้าปากคู่กับขิงบด รสชาติจะสดชื่นๆ ไม่คาว หอมด้วย ส่วนเครื่องเคียงนี่ก็ทานคู่กับข้าวแบบว่าใช่เลยครับ กับซุปนี่ก็เข้ากันมากเลยนะ ซู๊ดดดด