[CR] First time in South Korea พาสปอร์ตหน้าขาวกับอากาศหนาวติดลบ (หนาวพอๆกัน)-->ละเอียดยิบ

สวัสดีค่าาาาา นี่เป็นรีวิวพันทิปครั้งแรก หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค้าาา กระทู้นี้อยากจะแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก การเตรียมตัวเมื่อต้องเที่ยวในสภาพอากาศหนาวติดลบ และการรับมือกับ ตม.เกาหลีใต้ที่เลื่องลือค่ะ  
การจองตั๋ว   
      จขกท ซื้อตั๋วเครื่องบินและที่พักไว้ตั้งแต่กลางเดือนแล้ว โดยจะเดินทางช่วงปลายเดือนธันวา 2560 จากเว็ปไซต์ expedia ข้อดีคือ จะได้ที่พักรวมกับตั่วเครื่องบินในราคาที่ถุกกว่าซื้อแยก ข้อเสียคือ ต้องใช้บัตรเครดิตและไม่สามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าและอาหารได้ ต้องซื้อแยก /// ราคารวมแล้วประมาณ 12,xxx (จำราคาแน่นอนไม่ได้ค่ะ5555) เป็นทริป 5 วัน 4 คืนบินกับสายการบินหางแดง ที่พักแถวทงแดมุนเป็นห้องเตียงแฝดค่ะ
การเตรียมตัว
       ช่วงปลายเดือนธันวาคม จะเป็นช่วง Winter ของเกาหลีอากาศจะหนาว ซึ่ง จขกท ได้ไปดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าในอินเตอร์เน็ตมาพบว่า อากาศจะอยู่ประมาณ 2-7 องศาเซลเซียส แต่ช่วงต้นธันวาอากาศที่โซลกลับหนาว หิมะตกหนัก อุณหภูมิต่ำยันติดลบ เพื่อนก็ส่งรูปน้ำในชักโครกที่เกาหลีเป็นน้ำแข็งให้ บ้างก็บอกว่าอย่าลืมทำประกันน้าาา (รู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนคอยห่วงใย T-T) แต่บ่ยั่นค่ะ เราได้ทำการศึกษาการเอาชีวิตรอดในอากาศหนาวติดลบ อย่างแรกคือ
    การเตรียมเสื้อผ้าค่ะ ช่วงบนของร่างกาย ชั้นแรก Heatech เอาแบบแนบเนื้อที่สุดนะคะ-->ชั้นที่สอง Sweater หรือเสื้อหนาวอะไรก็ได้ค่ะ -->ชั้นนอกสุดให้ใส่เป็น Coat/jacket (แนะนำให้กันหิมะได้เช่น พวกขนเป็ด) ส่วนช่วงล่างจะใส่เป็นถุงน่องกันหน้าและก็ใส่ยีนส์ทับค่ะ อ่ออออสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ มือกับเท้าเราจะหนาวกว่าส่วนอื่นมากกกก ให้ใส่เป็น ถุงมือ ที่ลมเข้ายากหน่อย และใส่ถุงเท้ากันหนาว รองเท้าบูธหรือผ้าใบก็้ได้ค่ะ  แค่นี้ก็รอดแล้วค่ะ (ลองใส่ทุกอย่างที่ไทยแล้ว ใส่แค่แปปเดียวรักแร้เปียกเลยค่ะ โอเคถือว่ารอด5555)
     ต่อมาคือ hotpack ไปหาซื้อตามร้านค้าที่เกาหลีได้เลยค่ะ เอาไว้ใส่ในเสื้อ อุ่นๆดีค่ะ และสุดท้ายเลยอย่าลืมยาประจำตัวกับอีโน แอร์เอ็กซ์ไปนะคะเพราะอาหารส่วนใหญ่ของเกาหลีจะมันๆ เนื้อๆ จะทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อง่ายค่ะ
       ต่อมาคือแพลนการเที่ยวและกิน รอบนี้ จขกท ไม่เน้นกินเท่าไหร่ จะมาช้อปและไปเที่ยวตามที่ต่างๆมากกว่า ส่วนใหญ่ก็หาข้อมูลจากกระทู้พันทิป ในทวิตเตอร์และก็เฟสบุ้คค่ะ โดยแพลนวันแรกคือ เที่ยว Dongdaemun Design Plaza,ดูทุ่งกุหลาบไฟ LED ไฟลท์ที่บินไปถึงตอนเย็นใกล้ค่ำ (เวลาของเกาหลีใต้จะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) ใกล้ที่พักของ จขกท มากเดินไปได้
วันที่ 2 เช่าชุดฮันบก,พระราชวังเคียงบ๊กกุง,หมู่บ้านบกชอนฮันอก
วันที่ 3 Ehwa University,ย่านฮงแด
วันที่ 4 ย่านเมียงดง และ ย่านฮงแด (อีกรอบ)
วันที่ 5 เตรียมตัวเก็บของกลับไทย
        การเตรียมตัวสิ่งสุดท้ายคือ การเตรียมพร้อมเรื่องการเผชิญหน้ากับ ตม. จขกท ได้ทำการศึกษาจากกระทู้ต่างๆและถามผู้ที่เคยไปเที่ยวเกาหลีมา สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ 1. พาสปอร์ต เช็คพาสหมดอายุมั้ย หน้าไม่เหมือนตัวจริง เปลี่ยนชื่อมามั้ย กรณีต่างๆเราอาจจะโดนเรียกได้ให้เตรียมหลักฐานไว้
                       2. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ/โรงแรมที่พัก/แพลนเที่ยว เพื่อเป็นหลักฐานว่ามาเที่ยวเด้อออ
                       3. หลักฐานการทำงานหรือเรียน เช่น ใบรับรองการเรียน/ทำงาน, บัตรนิสิต, บัตรราชการ อื่นๆที่ระบุตัวตนว่าเรามีการงาน มีเรียน ไม่จำเป็นต้องลอบเข้ามาทำงานบ้านเขา และก็ ใบ immigration ที่ให้เขียนบนเครื่องพยายามกรอกช่องที่สำคัญให้หมดนะคะhttps://www.dplusguide.com/2017/immigration-korea ตัวอย่าง ใบ immigration ของเกาหลีค่ะ
                       5. ยิ้มแย้มแจ่มใส เวลาไปเผชิญหน้าพี่ตมทำตัวไม่มีพิรุธ ไม่ต้องกลัว มั่นใจไว้ค่ะ เข้าไปก็ Hello ไปเลยค่ะ ตอนเราเข้าไปเราก็ยิ้ม ทักทายอย่างอัธยาศรัยดีไป เขาถามอะไรก็ตอบไปเลยค่ะ ก่อนไปอาจจะเตรียมตัวไปก่อนก็ได้ค่ะถ้าบางคนกลัวหรือไม่ค่อยเก่งอังกฤษเว็บนี้เลยค่ะ https://www.kaplaninternational.com/th/blog/immigration-10questions
                       6. การแต่งตัว ไม่ต้องใหญ่มาก อย่าน้อยเกิน แต่งพอดีๆ เหมือนเรามาเที่ยว อาจจะมีพร็อพแบบแผนที่ หรือกล้องสะพายหน่อยดูมาเที่ยวจริงๆ5555
                       7. ถ้ากลัวไม่ได้จริงๆก็สะสมแต้มบุญไว้ตั้งแต่ไทย ไปทำบุญ ไหว้พระไว้ก็ได้ค่ะ5555 ล้อเล่นค่ะ จขกท คิดว่าถ้าเราไม่มีพิรุธ ตอบคำถามได้ มีหลักฐานยืนยันชัด ก็ไม่น่ามีปัญหาใดๆค่ะ
            

                                                      ขออนุญาตบินไปที่ โซล เกาหลีใต้  เลยนะคะ  ฟิ้ววววววว
วันแรก  
ครั้งนี้ จขกท ไปกะเพื่อน 2 คน ไม่เคยไปเกาหลีใต้กันทั้งคู่ พอลงเครื่องปุ๊บเราก็เดินตามคนอื่นเพื่อไปขึ้นรถไฟไปอีก terminal นึงแค่แป๊ปเดียวก็มาถึง แล้วก็เดินตามฝูงชนไปยัง ตม. ที่เลื่องลือ เราจะต้องเข้าช่องต่างชาติ ส่วนคนเกาหลี อ้ปป้าก็จะไปเข้าอีกส่วนนึง ก็มาต่อคิวค่อนข้างยาวเลย ขณะรออยู่ก็จะมีอาจัชชี่คนนึง หน้าดุหน่อยๆ ทำเสียงดังๆ เดินจัดระเบียบอยู่ มีคนถูกพาไปเข้าห้องเย็นประมาณ 3-4 คนได้ พอมาถึงตาเรา อาจัชชี่ก็ให้เรามาต่อแถวรอเพื่อเข้าไปหาตม. (จุดนั้นกลัวอาจัชชี่มาก) เราถูกแยกกับเพื่อนไปอยู่คนละแถว พอถึงเวลาต้องเดินเข้าไปแล้ว เราสลัดความกลัว สร้างความมั่นหน้าให้กับตัวเอง เดินยิ้มแย้มราวกลับได้กลับบ้านเกิด (ช่วงที่เรายืนอยู่หน้าตม.ภาพมันลางมากเพราะตื่นเต้นจำไม่ค่อยได้5555)  เราได้จนท ตม.ผู้หญิงเขาจะขอใบ immigration เราและพาสปอร์ต เขาก็พิมพ์ๆทำๆอะไรแค่แป๊ปเดียว มองหน้านิดเดียว ก็ปั๊มเลย ไม่ดงไม่ดูอะไรทั้งสิ้น แล้วก็ยื่นพาสปอร์ตส่งคืนให้เรา ณ จุดนั้นแบบงงมาก ช็อคมาก มีคำถามมากมายเกิดขึ้น แต่ก็สบายใจว่า เรารอดแล้วววววว ส่วนเพื่อนดันไปเข้าแถวผิดเพราะคนก่อนหน้าเพื่อนเราถูกพาเข้าไปห้องเย็นหมดเลย ถือว่าเราโชคดีมากกที่เข้าถูกช่อง แต่เราจำลักษณะของ จนท ตม.ของช่องเพื่อนเราไม่ได้เหมือนกัน55555 หลังจากรอด ตม.แล้วก็ลงมาเอากระเป๋า ไปต่อแถวเพื่อยื่นใบที่กรอกพร้อมใบ immigration เพื่อออก
การเดินทางไปที่พัก
สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำคือ การซื้อ T-money นะคะ ห้ามลืมมมมมมม ไม่งั้นความ ship หายจะเกิดเลยค่ะ
   รถไฟฟ้าใต้ดิน แนะนำให้เพื่อนๆโหลดแอป Subway korea เอาไว้เพราะรถไฟเกาหลีเยอะสายมากกกกกกก // รถไฟฟ้าใต้ตินจะมีทั้ง AREX และแบบ All stop    ---> AREX ราคาประมาณ 8XXX วอน(เราจำเลขเป๊ะๆไม่ได้) ซื้อจากเคาท์เตอร์ได้เลยค่ะ จากสนามบินอินชอนไป Seoul station เลยไม่จอดแวะจ้า ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง ที่นั่งดีมาก มีที่วางกระเป๋าแบ่งสัดส่วนได้ดี แต่ข้อเสียคือ คนที่แบกของหนักๆมาเยอะต้องออกแรงแบกขึ้นลงบันไดหน่อย
                       ----> แบบ All stop เราไม่ทราบราคาแน่ชัดแต่ถูกกว่า AREX จะจอดแวะป้ายอื่น ใช้ T-money ขึ้นได้ค่ะ
     รถบัส เราไม่มั่นใจราคามีหลายสายสามารถดูแผนที่ได้ในเว็บไซต์เลยค่ะ สะดวกกับคนแบกกระเป๋ามาใหญ่และหนักมาก นั่งยาวที่เดียวถึง

        มาต่อนะคะ เราเลือกการเดินทางโดยการใช้ AREX ค่ะ ไปลง Seoul Station เมื่อรถไฟไปถึงสถานีปลายทางแล้วเรากับเพื่อนจึงพากันหิ้วกระเป๋าเพื่อไปต่อ KTX ไปยัง สถานี dongdaemun history & culture park ไปยังที่พัก และแน่นอนค่ะเราต่อรถไฟมาลงสถานี dongdaemun history & culture park ได้ แต่ปัญหาคือ เราออกจากสถานีไม่ด้ายยยยย เพราะบัตรที่เราใช้มันไม่ใช่ T-money (T-T) เราติดอยู่ในสถานีอยู่นาน ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย คนที่ขายของอยุ่แถวนั้นก็ฟังเราไม่ออก ทางเราจึงได้ทำการปรึกษากับผู้คร่อมวอร์ดในวงการเกาหลีจึงได้หนทางรอดมาว่า ให้ออกมาทางพิเศษที่ อาจุมม่า อาจัชชี่ใช้ออก และจังหวะนั้นเราก็เห็นว่ามีอาจุมม่าท่านหนึ่งกำลังเปิดประตูอยู่เราและเพื่อนจึงรีบไปขออนุญาตอาจุมม่าออกด้วย (เรารู้สึกผิดมากค่ะ ไม่อยากให้ทุกคนทำตามนะคะ แต่เราไม่รู้จะทำไงจริงๆค่ะ55555) ขอบคุณอาจุมม่ามากนะคะ
       เราเดินเท้าออกมาตามทางออก 9 เดินข้ามแยกไปฝั่งตรงข้ามแล้วเดินต่อไปอีกนิดนึงก็ถึงโรงแรมของเราแล้ว โรงแรมที่เราพักชือ Youngbin Hotel พนักงานน่ารักมากค่ะ มีลิฟต์ รร.พึ่งรีโนเวทใหม่ด้วยมั้งคะ ห้องกว้างมากกกกกกกกกกก มีหน้าต่างบานใหญ่ ห้องน้ำดีมาก ชักโครกอัตโนมัติ สะอาดมีแม่บ้านทำความสะอาดตลอด มีตู้เย็น มีน้ำ มีข้าวเช้า มีซาวน่า มีครีมทาผิว หน้า มีเจลแต่งผม คือพร้อมมากกกกก เราให้ 9/10 (เราชอบย่านฮงแดมากกว่า) เตียงแฝด ห้องกว้างมาก (ถ่ายรูปมาน้อยมากกก ขอโทษด้วยนะคะT-T)
ครีมพร้อม ยาสระผม แชมพู ครีมนวด มียันเจลใส่ผมเลยค่ะ
เที่ยว Dongdaemun Design Plaza ดูดอกไม้ LED      
          หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่น หาอะไรกินแถวนั้น แล้วก็แวะไป Dongdaemun Design Plaza ตอนกลางคืนสวยมากกก แต่อากาศหนาวมากกกกก -2 องศา มือชา หน้าชาเหมือนไปฉีดโบท็อกมา
Dongdaemun Design Plaza กลางคืนสวยมากก
โซลตอนกลางคืนสวยมากค่ะ คนละแบบกะกรุงเทพเลย แสงสีอะไรพอๆกัน แต่ความสงบต่างกันมากค่ะ
แวะไปดูดอกกุหลาบ LED สวยมากค่ะ คู่รักมาถ่ายด้วยกันเยอะมากค่ะ เห็นแล้วตามันก็จะร้อนๆหน่อย

          เราเดินเล่นเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ (ระบุไม่ได้ว่าอยู่แถวไหน5555) ก็ไปเจอคลองคล้ายๆกับคลองชองเกชอนเลย คาดว่าน่าจะเป็นสาขาย่อยของชองเกชอน บรรยากาศดีมาก มีหิมะกองอยู่ ก็ไปแชะรูปเอาไว้เป็้นที่ระทึกนิสนึง ถ่ายเสร็จก็กลับโรงแรมนอนเลย

วันที่สอง เช่าชุดฮันบก,พระราชวังเคียงบ๊กกุง,หมู่บ้านบกชอนฮันอก
   เราออกเดินทางกันตอน 11.00 น เกือบเที่ยงแล้ว นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปยังสถานี gwanhwamun ออกทางออก9 ออกมาจะเจออนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง ด้านหลังจะเป็นพระราชวังเคียงบกกุง แถวนั้นเดินไปนิดเดียวก็จะเจอคลองชองเกชอน อนุสาวรีย์หอยม่วงตั้งตระหง่านอยู่

เช่าชุดฮันบก เดินเที่ยววัง       
เราไม่ได้ทำการศึกษาร้านที่จะเช่าชุดมาก่อนเลยเปิด map ดูก็เลยเดินตรงไปทางวัง เลาะไปทางด้านขวาของวังไปเรื่อยๆก็เจอกับร้านเช่าชุดฮันบกมากมาย เราตัดสินใจไม่ถูกเลยเลือกเข้าไปร้านอะไรไม่รู้เราจำร้านกันไม่ได้แต่ร้านติดกันทางออกรถไฟฟ้าใต้ตินเลย หลังจากนั้นก็ทำการเช่าชุดฮันบก ในร้านมีให้เลือกเยอะมาก มีเครื่องประดับ ทำผมให้ด้วย(ต้องเพิ่มเงิน) ค่าเสียหายประมาณ 600 บาท/4 ชั่วโมง (จริงๆมีถูกกว่านี้นะคะ) หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในวัง ถ้า ใส่ชุดฮันบกเข้าวังฟรี!!!!!!!!
พี่ทหารนิ่งมากเลยค่ะ สงสารพี่เค้าคงหนาวมาก
หนาวชนิดที่น้ำแข็งไปเลยค่าาา
ชุดฮันบกที่เราเลือกมาค่ะ เจ้าของร้านใจดีมากเห็นเรามัดผมอยู่ เลยถอดยางแล้วทำผมให้ใหม่ แถมเครื่องหัวให้เราใส่ฟรีด้วย (ตอนแรกผมสวยกว่านี้แต่มือเราซนชอบจับเล่น) แต่หนูขอโทษที่จำชื่อร้านไม่ได้
ชื่อสินค้า:   มือใหม่หัดเที่ยวโซล by นุ้งแพรวสายแบ๊ว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่