สวัสดีคะ
นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงที่รักการท่องเที่ยว เที่ยวอะไรก้อได้ขอให้ได้เที่ยว
ขอให้ออกจากบ้านเป็นพอแล้ว แต่จะพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ คำพูดจะดูห้วนๆห้าวๆจนเพื่อนไม่อยากจะคุยเท่าไหร่55555 ขอให้ทุกคนเข้าใจเราด้วยนะ
เข้าเรื่องเลย เมื่อวันที่ 25-28 มกรา 2561 เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวฮ่องกง ถือว่าเป็นครั้งที่2ในชีวิต แต่ครั้งแรกนี่จำไม่ค่อยได้แล้ว ตอนนั้นไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ยังเด็กน้อยอยู่เลย ครั้งนี้ก็ขอทวนความทรงจำนิดนึงละกัน
Day1 25/1/2561
เราเดินทางด้วยสายการบิน cathay pacific เป็นสายการบินของฮ่องกงโดยตรงเลย ครั้งนี้เราบินไฟล์ทเช้า CX 616 , 06.30 (BKK) – 10.15(HKG) แต่วันนี้เครื่องดีเลย์ไปประมาณ40นาทีได้กว่าเราจะได้ออกเวลาประมาณ 7.10 แล้ว ไฟล์ทนี้เราบินด้วยเครื่อง airbus A330 ที่นั่งแบบ 2 - 4 - 2 มีจอทุกที่นั่ง
บินไปซักพักลูกเรือเริ่มเสริ์ฟอาหาร เท่าที่เราสังเกตุจะมีฝาสีเขียวกับฝาสีม่วง เราเลือกฝาสีม่วงมาเปิดออกมาเป็นสปาเก็ตตี้ ส่วนฝาสีเขียวจะเป็นเมนูพวกไข่ ไส้กรอก ส่วนของทานเล่นก็จะเป็นโยเกิร์ต ผลไม้ ขนมปังทาเนย (จะบอกว่าขนมปังอร่อยมาก5555)แต่เราลืมถ่ายมา ซอรี่ด้วยนะคะ อ้ออ อย่าลืมขอผ้าห่มด้วยนะคะ อากาศบนเครื่องหนาวใช้ได้เลย กินเสร็จก็หลับ
เราใช้เวลาบินทั้งหมดเกือบๆ 3 ชั่วโมงเราก้อถึงสนามบินเช็กแล็บก็อกซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติของฮ่องกง
ระหว่างที่กัปตันนำเครื่องบินไปจอดลูกเรือก้อจะแจกแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง กรอกตามนี้ได้เลย
ที่ฮ่องกงการไปอาคารผู้โดยสาร เราจะนั่งรถไฟใต้ดินไปซึ่งเป็นระยะทางสั้นๆ เวลาที่เราลงจะเป็นช่วงเวลาที่ทัวร์จีนลง
ซึ่งคนที่เข้าแถว ตม. ก็จะมากเช่นกัน ตม.ที่นี่ใจดี ดูเอกสารมองหน้าแล้วก็ให้ผ่านไป เสร็จจาก ตม.แล้วเราก็จะไปรับกระเป๋า เสร็จพิธีที่สนามบินแล้ว
ต่อไปถึงเวลาท่องโลกแล้ว 555555
ก่อนอื่นเลยต้องไปซื้อบัตร Octopus หรือบัตรปลาหมึก แต่ด้วยเพื่อนเราพึ่งมาก่อนหน้าเรา 1 อาทิด เราก้อเลยยืมบัตรเพื่อนมา แต่ๆๆไม่มีเงินนะจ๊ะ ต้องแวะเติมเงินก่อน
ทางไปซื้อบัตรOctopus หรือเติมเงิน หน้าตาจะเป็นแบบนี้(ยืมรูปท่านอื่นมาคะ)
พอเรารับกระเป๋าเสร็จเดินออกมาเราเลี้ยวซ้าย มันจะเป็นเค้าเตอร์อยู่ทางด้านขวาอยู่เยื้องๆกับ 7-11 ซื้อบัตรครั้งแรก 150HKD
ค่ามัดจำบัตร 50HKD บัตรปลาหมึกนี้สามารถใช้ขึ้นรถบัส รถราง และจ่ายเงินที่ 7-11ได้ ถือว่าเป็นบัตรอำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยวเลยก้อว่าได้
เปิดแพลนที่วางไว้ คือ เราต้องเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อน เราพักย่านSham Shui Po ตอนแรกเราก้อไม่รุ้หรอกว่ามันคือย่านไหน แต่เนื่องด้วยราคาถูกและอยู่ห่างจากมงก๊ก จิมซาจุ่ย ไม่กี่สถานี
โรงแรมที่เราพักชื่อ metroplace boutique hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่พนักงานที่นี่บริการดีเว่อออ ในแพลนเรา เราจะเดินทางไปโรงแรมด้วย airport express แต่แต่แต่ เพื่อนที่มาก่อนหน้าเราบอกไว้ว่าถ้าเดินทางไปโรงแรมด้วย airport express เราจะเสียประมาณ 100กว่าเหรียญ ซึ่งดีเป็นเงินไทยแล้วก้อ 4 ร้อยกว่าบาทเลยทีเดียว โอเคเป็นอันว่า เราต้องเดินทางด้วยวิธีอื่นแล้ว เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า เราเลือกที่จะไปโดยรถบัส จากที่เราเติมเงินบัตรปลาหมึกแล้วเราก้อมุ่งหน้าสู่ Bus Station เดินตามป้ายสีฟ้าๆเลยจ้า
รถบัสมีหลายสายมาก เราก็ลองสุ่มๆเอาว่าโรงแรมอยู่ใกล้ถนนเส้นไหนแล้วเอาไปเทียบกับเส้นทางการเดินรถบัส สรุปรถบัสที่ใกล้โรงแรมเราคือสาย A21 การขึ้นรถที่ฮ่องกงจะต้องขึ้นหน้าลงหลัง ภายในรถบัสจะมีช่องสำหรับวางกระเป๋าโดยเฉพาะ
เส้นทางการเดินรถสาย A21 (ลืมบอกไปว่าถ้าเดินทางไม่ไกลมากแนะนำให้เดินทางด้วยรถประจำทางจะถูกกว่ารถไฟใต้ดิน และแนะนำให้โหลดแอป KMB.LWB ซึ่งเป็นแอปรถประจำทางติดไว้ด้วย ช่วยได้มากเลยคะ)
พอถึงโรงแรมเราทำการ chick-in ฝากกระเป๋า โรงแรมของเราจะประมาณนี้คะ
เดี๋ยวมาต่ออีกทีนะ
[CR] เที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน ตามฉบับมนุษย์เงินเดือน
นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงที่รักการท่องเที่ยว เที่ยวอะไรก้อได้ขอให้ได้เที่ยว
ขอให้ออกจากบ้านเป็นพอแล้ว แต่จะพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ คำพูดจะดูห้วนๆห้าวๆจนเพื่อนไม่อยากจะคุยเท่าไหร่55555 ขอให้ทุกคนเข้าใจเราด้วยนะ
เข้าเรื่องเลย เมื่อวันที่ 25-28 มกรา 2561 เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวฮ่องกง ถือว่าเป็นครั้งที่2ในชีวิต แต่ครั้งแรกนี่จำไม่ค่อยได้แล้ว ตอนนั้นไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ยังเด็กน้อยอยู่เลย ครั้งนี้ก็ขอทวนความทรงจำนิดนึงละกัน
Day1 25/1/2561
เราเดินทางด้วยสายการบิน cathay pacific เป็นสายการบินของฮ่องกงโดยตรงเลย ครั้งนี้เราบินไฟล์ทเช้า CX 616 , 06.30 (BKK) – 10.15(HKG) แต่วันนี้เครื่องดีเลย์ไปประมาณ40นาทีได้กว่าเราจะได้ออกเวลาประมาณ 7.10 แล้ว ไฟล์ทนี้เราบินด้วยเครื่อง airbus A330 ที่นั่งแบบ 2 - 4 - 2 มีจอทุกที่นั่ง บินไปซักพักลูกเรือเริ่มเสริ์ฟอาหาร เท่าที่เราสังเกตุจะมีฝาสีเขียวกับฝาสีม่วง เราเลือกฝาสีม่วงมาเปิดออกมาเป็นสปาเก็ตตี้ ส่วนฝาสีเขียวจะเป็นเมนูพวกไข่ ไส้กรอก ส่วนของทานเล่นก็จะเป็นโยเกิร์ต ผลไม้ ขนมปังทาเนย (จะบอกว่าขนมปังอร่อยมาก5555)แต่เราลืมถ่ายมา ซอรี่ด้วยนะคะ อ้ออ อย่าลืมขอผ้าห่มด้วยนะคะ อากาศบนเครื่องหนาวใช้ได้เลย กินเสร็จก็หลับ
เราใช้เวลาบินทั้งหมดเกือบๆ 3 ชั่วโมงเราก้อถึงสนามบินเช็กแล็บก็อกซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติของฮ่องกง
ระหว่างที่กัปตันนำเครื่องบินไปจอดลูกเรือก้อจะแจกแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง กรอกตามนี้ได้เลย
ที่ฮ่องกงการไปอาคารผู้โดยสาร เราจะนั่งรถไฟใต้ดินไปซึ่งเป็นระยะทางสั้นๆ เวลาที่เราลงจะเป็นช่วงเวลาที่ทัวร์จีนลง
ซึ่งคนที่เข้าแถว ตม. ก็จะมากเช่นกัน ตม.ที่นี่ใจดี ดูเอกสารมองหน้าแล้วก็ให้ผ่านไป เสร็จจาก ตม.แล้วเราก็จะไปรับกระเป๋า เสร็จพิธีที่สนามบินแล้ว
ต่อไปถึงเวลาท่องโลกแล้ว 555555
ก่อนอื่นเลยต้องไปซื้อบัตร Octopus หรือบัตรปลาหมึก แต่ด้วยเพื่อนเราพึ่งมาก่อนหน้าเรา 1 อาทิด เราก้อเลยยืมบัตรเพื่อนมา แต่ๆๆไม่มีเงินนะจ๊ะ ต้องแวะเติมเงินก่อน
ทางไปซื้อบัตรOctopus หรือเติมเงิน หน้าตาจะเป็นแบบนี้(ยืมรูปท่านอื่นมาคะ)
พอเรารับกระเป๋าเสร็จเดินออกมาเราเลี้ยวซ้าย มันจะเป็นเค้าเตอร์อยู่ทางด้านขวาอยู่เยื้องๆกับ 7-11 ซื้อบัตรครั้งแรก 150HKD
ค่ามัดจำบัตร 50HKD บัตรปลาหมึกนี้สามารถใช้ขึ้นรถบัส รถราง และจ่ายเงินที่ 7-11ได้ ถือว่าเป็นบัตรอำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยวเลยก้อว่าได้
เปิดแพลนที่วางไว้ คือ เราต้องเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อน เราพักย่านSham Shui Po ตอนแรกเราก้อไม่รุ้หรอกว่ามันคือย่านไหน แต่เนื่องด้วยราคาถูกและอยู่ห่างจากมงก๊ก จิมซาจุ่ย ไม่กี่สถานี
โรงแรมที่เราพักชื่อ metroplace boutique hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่พนักงานที่นี่บริการดีเว่อออ ในแพลนเรา เราจะเดินทางไปโรงแรมด้วย airport express แต่แต่แต่ เพื่อนที่มาก่อนหน้าเราบอกไว้ว่าถ้าเดินทางไปโรงแรมด้วย airport express เราจะเสียประมาณ 100กว่าเหรียญ ซึ่งดีเป็นเงินไทยแล้วก้อ 4 ร้อยกว่าบาทเลยทีเดียว โอเคเป็นอันว่า เราต้องเดินทางด้วยวิธีอื่นแล้ว เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า เราเลือกที่จะไปโดยรถบัส จากที่เราเติมเงินบัตรปลาหมึกแล้วเราก้อมุ่งหน้าสู่ Bus Station เดินตามป้ายสีฟ้าๆเลยจ้า
รถบัสมีหลายสายมาก เราก็ลองสุ่มๆเอาว่าโรงแรมอยู่ใกล้ถนนเส้นไหนแล้วเอาไปเทียบกับเส้นทางการเดินรถบัส สรุปรถบัสที่ใกล้โรงแรมเราคือสาย A21 การขึ้นรถที่ฮ่องกงจะต้องขึ้นหน้าลงหลัง ภายในรถบัสจะมีช่องสำหรับวางกระเป๋าโดยเฉพาะ เส้นทางการเดินรถสาย A21 (ลืมบอกไปว่าถ้าเดินทางไม่ไกลมากแนะนำให้เดินทางด้วยรถประจำทางจะถูกกว่ารถไฟใต้ดิน และแนะนำให้โหลดแอป KMB.LWB ซึ่งเป็นแอปรถประจำทางติดไว้ด้วย ช่วยได้มากเลยคะ)
พอถึงโรงแรมเราทำการ chick-in ฝากกระเป๋า โรงแรมของเราจะประมาณนี้คะ
เดี๋ยวมาต่ออีกทีนะ