สืบเนื่องจากกระทู้
https://ppantip.com/topic/37288074 นะคะ
ที่เคยถามไว้ว่า ของที่เจอในห้องน้ำคืออะไร .. และมีคนสนใจมากมาย จนเป็นกระทู้แนะนำ
เนื่องจากกระทู้ข้างต้น จขกท. มีความตั้งใจที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับของที่เจอจริง และเมื่อหลายๆความเห็นเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าแบ่งปันเพื่อเป็นการเตือนภัยสำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก จขกท. ก็ยินดีแบ่งปัน ตามที่เคยบอกไว้ค่ะ
เรื่องราวที่ จขกท. แบ่งปัน ขอเป็นกระทู้สำหรับเตือนภัยนะคะ ไม่ใช่เรื่องราวที่จะแฉ ดังนั้น จึงขอเล่าเฉพาะส่วนที่คิดว่าน่าจะเตือนภัย ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยที่เป็นเรื่องครอบครัว ขอไม่ลงรายละเอียด หวังว่าคนอ่านจะเข้าใจ
--------------------------------------------------------------
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องในครอบครัว ตามที่หลายๆคนคาดคิดค่ะ ...
"เจ้าของกล้อง" เป็นหนึ่งคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน เข้ามาอยู่ในครอบครัวเราประมาณ 3 ปี ส่วน จขกท. ไม่ได้อยู่บ้านนี้ เนื่องจากแต่งงานแยกออกมาแล้ว และ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลานสาว (อายุ 16) ขอนัดคุยกับ จขกท. บอกว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยากปรึกษา เกี่ยวกับ "เจ้าของกล้อง" และไม่อยากเล่าให้คนในบ้านฟัง เนื่องจากกลัวผลกระทบในครอบครัว ไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา แต่ไม่สบายใจมาก
เมื่อฟังเรื่องราวที่หลานสาวเล่า จขกท. เตือนหลานให้ระวังตัวให้มากขึ้น และติดตั้งกลอนประตูด้านใน (Door Guard) ให้หลานในห้องพัก ... ผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลานกลับมาเล่าให้ฟังว่า ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว จขกท. เตือนหลานอีกครั้งว่า ยิ่งเงียบๆแบบนี้ ยิ่งต้องระวังตัว...
นั่นคือต้นเหตุให้หลานสังเกตุระหว่างเข้าห้องน้ำในวันรุ่งขึ้น
หลานเจออุปกรณ์คล้าย power bank แต่สังเกตุเห็นด้านข้างที่หันออกมา มีลักษณะเหมือนเลนส์ของกล้อง และมีวงกลมคล้าย แฟลชกล้องถ่ายรูป จึงหันด้านที่เหมือนกล้องออก และเมื่อเสร็จธุระ หลานรีบหยิบอุปกรณ์ กลับเข้าห้อง และถ่ายรูปส่งให้ จขกท. ถามว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาเช้า จขกท. ยังไม่ได้อ่านข้อความ ระหว่างนั้น "เจ้าของกล้อง" เดินไปในห้องน้ำ และเมื่อไม่เจอของ ก็โวยวายถามคนในบ้าน ว่าใครเอาไปบ้าง (หลานเล่าว่า โวยวายดังมาก) โดยเคาะประตูถามหลาน หลานตอบว่าไม่ได้เอาไป และเก็บใส่กระเป๋านักเรียน ตั้งใจจะเอามาให้ จขกท. และจากนั้น "เจ้าของกล้อง" เดินกลับไปในห้องน้ำ และโทรหาหลานสาว บอกว่า "รู้นะว่าเอา power bank ไป เอาคืนมาเดี๋ยวนี้" ด้วยความกลัว หลานจึงต้องคืนไป
และจากที่ จขกท. ได้ภาพ จึงเอามาโพสถามใน pantip เพื่อความมั่นใจ ว่าสิ่งนี้คือกล้องจริงๆ...
จากนั้น จขกท. จึงเริ่มเล่าให้คนในบ้านฟังเพื่อจับตาและเตรียมเอาผิดกับ "เจ้าของกล้อง"... แต่แล้วเรื่องก็ง่ายขึ้นมาก เมื่อ "เจ้าของกล้อง" คงไหวตัว จึงไปกรุงเทพ ในวันต่อมา โดยตั้งใจทิ้งอุปกรณ์นี้ไว้ คนในบ้าน จึงนำมาแกะ พบว่า ในส่วนที่เป็นกล้อง และช่องใส่อุปกรณ์ได้ถูกแกะออกไปแล้ว (ตามภาพ)
(ซีกหนึ่งของอุปกรณ์นี้ ฝั่งหนึ่งเป็น power bank เมื่อเสียบแล้ว ชาร์จไฟได้ปกติ แต่อีกด้านเป็นส่วนของกล้อง เมื่อถูกถอดออก ก็กลายเป็นแค่ power bank ปกติ เวลาแกะหน้ากากออกมันเป็นแค่สติ๊กเกอร์แปะไว้ แต่ถ้าไม่รู้จะพยายามแซะๆๆๆ ซึ่งจะทำให้แกะไม่ออกสักที)
เมื่อหลักฐานมีชัดเจนแล้ว จขกท. จึงให้หลาน บอกเรื่องนี้กับคนในบ้าน เพื่อให้ทุกคนรับรู้ และร่วมกันจัดการ... และก็เป็นไปตามนั้นค่ะ ครอบครัวเราไม่ให้คนคนนี้เข้ามาในบ้านอีกแล้ว ในส่วนของการเอาผิด ทางครอบครัวได้พาหลานไปพบตำรวจเพื่อแจ้งความเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องของทางตำรวจต่อไป แต่การเอาผิดจริง ต้องมีการสืบต่อ เนื่องจากอุปกรณ์ที่เป็นหลักฐาน ไม่มีในส่วนกล้อง และ SD Card แล้ว และยังไม่มีภาพที่ทำให้เสียหายออกมา... ก็คงต้องฝากไว้ที่ตำรวจที่จะดำเนินการต่อไปค่ะ
----------------------------------------
นอกจากอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาทุกวัน เราไม่สามารถควบคุมมันได้เลย เพราะคนไม่ดี ที่เอาของดีๆ มาใช้ในทางที่ผิด อาจจะมีอยู่รอบตัวเรา ซึ่งเราไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะมาในรูปแบบไหน จขกท. คงไม่สามารถเตือนภัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆได้ เพราะไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้นัก
แต่สิ่งหนึ่งที่ จขกท. ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คือความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะวัยรุ่น เรื่องราวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับหลานเลย ถ้าหลานกล้าที่จะพูด หรือปรึกษาคนที่ไว้ใจได้ตั้งแต่ต้น เพื่อช่วยหาทางป้องกัน คนไม่ดีมีอยู่รอบตัว และส่วนมากคนไม่ดี ก็จะแสเสร้งตีหน้าว่าเป็นคนดี จนเราดูไม่ออกค่ะ
เมื่อเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่พูด คนไม่ดีก็จะได้ใจ ทำร้าย รังแก
มีลูก สอนลูก มีหลาน สอนหลาน ค่ะ มีอะไรให้คุยกัน ส่วนคนที่รับฟังก็ขอให้เปิดใจฟัง ไตร่ตรอง ถึงแม้บางครั้ง สิ่งที่เด็กเล่า อาจจะยังไม่มีหลักฐาน อาจจะเป็นเรื่องปรุงแต่งขึ้นมา แต่มันก็คงดีกว่าเด็กไม่เล่าอะไรเลยใช่มั๊ยค่ะ
---------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้... หากกระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้าง จขกท. ก็ยินดี
แต่หากท่านใดเคลือบแคลงใจ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ คิดซะว่ากระทู้นี้เป็นนิยายที่ไม่ละเอียดเรื่องนึงนะคะ อย่าคิดมาก
สืบเนื่องจากกระทู้ "เจอสิ่งนี้ในห้องน้ำ เจ้าของบอกว่าเป็น power bank ...????"
ที่เคยถามไว้ว่า ของที่เจอในห้องน้ำคืออะไร .. และมีคนสนใจมากมาย จนเป็นกระทู้แนะนำ
เนื่องจากกระทู้ข้างต้น จขกท. มีความตั้งใจที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับของที่เจอจริง และเมื่อหลายๆความเห็นเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าแบ่งปันเพื่อเป็นการเตือนภัยสำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก จขกท. ก็ยินดีแบ่งปัน ตามที่เคยบอกไว้ค่ะ
เรื่องราวที่ จขกท. แบ่งปัน ขอเป็นกระทู้สำหรับเตือนภัยนะคะ ไม่ใช่เรื่องราวที่จะแฉ ดังนั้น จึงขอเล่าเฉพาะส่วนที่คิดว่าน่าจะเตือนภัย ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยที่เป็นเรื่องครอบครัว ขอไม่ลงรายละเอียด หวังว่าคนอ่านจะเข้าใจ
--------------------------------------------------------------
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องในครอบครัว ตามที่หลายๆคนคาดคิดค่ะ ...
"เจ้าของกล้อง" เป็นหนึ่งคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน เข้ามาอยู่ในครอบครัวเราประมาณ 3 ปี ส่วน จขกท. ไม่ได้อยู่บ้านนี้ เนื่องจากแต่งงานแยกออกมาแล้ว และ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลานสาว (อายุ 16) ขอนัดคุยกับ จขกท. บอกว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยากปรึกษา เกี่ยวกับ "เจ้าของกล้อง" และไม่อยากเล่าให้คนในบ้านฟัง เนื่องจากกลัวผลกระทบในครอบครัว ไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา แต่ไม่สบายใจมาก
เมื่อฟังเรื่องราวที่หลานสาวเล่า จขกท. เตือนหลานให้ระวังตัวให้มากขึ้น และติดตั้งกลอนประตูด้านใน (Door Guard) ให้หลานในห้องพัก ... ผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลานกลับมาเล่าให้ฟังว่า ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว จขกท. เตือนหลานอีกครั้งว่า ยิ่งเงียบๆแบบนี้ ยิ่งต้องระวังตัว...
นั่นคือต้นเหตุให้หลานสังเกตุระหว่างเข้าห้องน้ำในวันรุ่งขึ้น
หลานเจออุปกรณ์คล้าย power bank แต่สังเกตุเห็นด้านข้างที่หันออกมา มีลักษณะเหมือนเลนส์ของกล้อง และมีวงกลมคล้าย แฟลชกล้องถ่ายรูป จึงหันด้านที่เหมือนกล้องออก และเมื่อเสร็จธุระ หลานรีบหยิบอุปกรณ์ กลับเข้าห้อง และถ่ายรูปส่งให้ จขกท. ถามว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาเช้า จขกท. ยังไม่ได้อ่านข้อความ ระหว่างนั้น "เจ้าของกล้อง" เดินไปในห้องน้ำ และเมื่อไม่เจอของ ก็โวยวายถามคนในบ้าน ว่าใครเอาไปบ้าง (หลานเล่าว่า โวยวายดังมาก) โดยเคาะประตูถามหลาน หลานตอบว่าไม่ได้เอาไป และเก็บใส่กระเป๋านักเรียน ตั้งใจจะเอามาให้ จขกท. และจากนั้น "เจ้าของกล้อง" เดินกลับไปในห้องน้ำ และโทรหาหลานสาว บอกว่า "รู้นะว่าเอา power bank ไป เอาคืนมาเดี๋ยวนี้" ด้วยความกลัว หลานจึงต้องคืนไป
และจากที่ จขกท. ได้ภาพ จึงเอามาโพสถามใน pantip เพื่อความมั่นใจ ว่าสิ่งนี้คือกล้องจริงๆ...
จากนั้น จขกท. จึงเริ่มเล่าให้คนในบ้านฟังเพื่อจับตาและเตรียมเอาผิดกับ "เจ้าของกล้อง"... แต่แล้วเรื่องก็ง่ายขึ้นมาก เมื่อ "เจ้าของกล้อง" คงไหวตัว จึงไปกรุงเทพ ในวันต่อมา โดยตั้งใจทิ้งอุปกรณ์นี้ไว้ คนในบ้าน จึงนำมาแกะ พบว่า ในส่วนที่เป็นกล้อง และช่องใส่อุปกรณ์ได้ถูกแกะออกไปแล้ว (ตามภาพ)
(ซีกหนึ่งของอุปกรณ์นี้ ฝั่งหนึ่งเป็น power bank เมื่อเสียบแล้ว ชาร์จไฟได้ปกติ แต่อีกด้านเป็นส่วนของกล้อง เมื่อถูกถอดออก ก็กลายเป็นแค่ power bank ปกติ เวลาแกะหน้ากากออกมันเป็นแค่สติ๊กเกอร์แปะไว้ แต่ถ้าไม่รู้จะพยายามแซะๆๆๆ ซึ่งจะทำให้แกะไม่ออกสักที)
เมื่อหลักฐานมีชัดเจนแล้ว จขกท. จึงให้หลาน บอกเรื่องนี้กับคนในบ้าน เพื่อให้ทุกคนรับรู้ และร่วมกันจัดการ... และก็เป็นไปตามนั้นค่ะ ครอบครัวเราไม่ให้คนคนนี้เข้ามาในบ้านอีกแล้ว ในส่วนของการเอาผิด ทางครอบครัวได้พาหลานไปพบตำรวจเพื่อแจ้งความเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องของทางตำรวจต่อไป แต่การเอาผิดจริง ต้องมีการสืบต่อ เนื่องจากอุปกรณ์ที่เป็นหลักฐาน ไม่มีในส่วนกล้อง และ SD Card แล้ว และยังไม่มีภาพที่ทำให้เสียหายออกมา... ก็คงต้องฝากไว้ที่ตำรวจที่จะดำเนินการต่อไปค่ะ
----------------------------------------
นอกจากอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาทุกวัน เราไม่สามารถควบคุมมันได้เลย เพราะคนไม่ดี ที่เอาของดีๆ มาใช้ในทางที่ผิด อาจจะมีอยู่รอบตัวเรา ซึ่งเราไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะมาในรูปแบบไหน จขกท. คงไม่สามารถเตือนภัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆได้ เพราะไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้นัก
แต่สิ่งหนึ่งที่ จขกท. ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คือความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะวัยรุ่น เรื่องราวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับหลานเลย ถ้าหลานกล้าที่จะพูด หรือปรึกษาคนที่ไว้ใจได้ตั้งแต่ต้น เพื่อช่วยหาทางป้องกัน คนไม่ดีมีอยู่รอบตัว และส่วนมากคนไม่ดี ก็จะแสเสร้งตีหน้าว่าเป็นคนดี จนเราดูไม่ออกค่ะ
เมื่อเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่พูด คนไม่ดีก็จะได้ใจ ทำร้าย รังแก
มีลูก สอนลูก มีหลาน สอนหลาน ค่ะ มีอะไรให้คุยกัน ส่วนคนที่รับฟังก็ขอให้เปิดใจฟัง ไตร่ตรอง ถึงแม้บางครั้ง สิ่งที่เด็กเล่า อาจจะยังไม่มีหลักฐาน อาจจะเป็นเรื่องปรุงแต่งขึ้นมา แต่มันก็คงดีกว่าเด็กไม่เล่าอะไรเลยใช่มั๊ยค่ะ
---------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้... หากกระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้าง จขกท. ก็ยินดี
แต่หากท่านใดเคลือบแคลงใจ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ คิดซะว่ากระทู้นี้เป็นนิยายที่ไม่ละเอียดเรื่องนึงนะคะ อย่าคิดมาก