1) ตามความเห็นของ วอเร็น บัฟเฟตต์ ( Warren Buffett ) ยิ่งซื้อขายหุ้นบ่อยเเละถี่มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะขาดทุนก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น ส่วนผู้ที่ใด้มากที่สุดในกรณีนี้ คือ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
2) วอเร็น บ้ฟเฟตต์ ( Warren Buffett ) ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ตัวเองเคยใช้การวิเคราะห์แบบเทคนิค ( Technical Analysis )ในการซื้อขายหุ้นมาก่อนในช่วงเริ่มต้นการลงทุน แต่ไม่ประสบความสําเร็จ จึงหันมาใช้วิธีการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ( Value Investment ) ตามแนวทางของเบนจามิน เกรแฮม ( Benjamin Graham ) และ ในที่สุดก็เป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ( Value Investment ) = 30% และการลงทุนแบบเน้นการเติบโต ( Growth Investment ) = 70% ตามแนวทางของ ฟีลลิบ เอ็ม. ฟิชเช้อร์ ( Phillip M. Fisher ) จนประสบความสําเร็จในการลงทุนมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน
3) ตามความเห็นของ เบนจามิน เกรแฮม ( Benjamin Graham ) ผู้ที่ถือว่า เป็นบิดาของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ( Value Investment ) ตลาดในระยะสั้นเสมือนกับเครื่องนับคะแนน ( Count Machine ) แต่ในระยะยาวตลาดจะเป็นเสมือนกับเครื่องชั่งนํ้าหนัก ( Weight Scale )
ยิ่งซื้อขายหุ้นบ่อยและถี่มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะขาดทุนก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น
2) วอเร็น บ้ฟเฟตต์ ( Warren Buffett ) ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ตัวเองเคยใช้การวิเคราะห์แบบเทคนิค ( Technical Analysis )ในการซื้อขายหุ้นมาก่อนในช่วงเริ่มต้นการลงทุน แต่ไม่ประสบความสําเร็จ จึงหันมาใช้วิธีการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ( Value Investment ) ตามแนวทางของเบนจามิน เกรแฮม ( Benjamin Graham ) และ ในที่สุดก็เป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ( Value Investment ) = 30% และการลงทุนแบบเน้นการเติบโต ( Growth Investment ) = 70% ตามแนวทางของ ฟีลลิบ เอ็ม. ฟิชเช้อร์ ( Phillip M. Fisher ) จนประสบความสําเร็จในการลงทุนมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน
3) ตามความเห็นของ เบนจามิน เกรแฮม ( Benjamin Graham ) ผู้ที่ถือว่า เป็นบิดาของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ( Value Investment ) ตลาดในระยะสั้นเสมือนกับเครื่องนับคะแนน ( Count Machine ) แต่ในระยะยาวตลาดจะเป็นเสมือนกับเครื่องชั่งนํ้าหนัก ( Weight Scale )