วันนี้ผมจะนำที่พักแนวเท่แอนด์เก๋แอนด์โมเดิร์นมาให้ได้รู้จักกันครับ
เชียงใหม่ จังหวัดนี้คงน้อยคนที่ไม่เคยสัมผัส และแน่นอนเมื่อเป็นเมืองใหญ่ระดับหัวกะทิ ก็ย่อมมีที่พักมากมายผุดเป็นดอกเห็ดอย่างกับในเกมส์มาริโอเชียวละ ปัญหาที่ตามมาที่ผมเจอก็คือ จะไปแต่ละที เลือกที่พักไม่ถูกเลยมันละลานตาไปหมด
และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมจดที่พักใส่ลิสต์ไว้ราว ๆ 20 แห่ง ก่อนจะคัดเข้ารอบจากคณะกรรมการข้างกาย สุดท้ายก็เป็นที่แห่งนี้ครับที่เข้าเส้นชัยในช่วงเดดไลน์สุดท้ายก่อนเดินทาง
"Pause and Play Hotel" โรงแรมขนาดกลาง ตั้งอยู่บนถนนช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดูแล้วน่าสนใจจนผมเทใจว่าจะไปพักในครั้งนี้ หลังจากที่นี่เริ่มมัดใจผมก็ต้องรีบมัดจำเพราะใกล้วันที่ต้องเดินทางเต็มแก่
หลังจากเสร็จสิ้นการจอง ก็ลองหาอ่านรีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พบว่าน่าจะคิดไม่ผิด แต่ก็ยังเก็บอารมณ์ไว้ไปสัมผัสเองดีที่สุด
ผมเดินทางมาถึงที่พักประมาณเกือบหกโมงเย็น ที่จอดรถไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน เพราะนอกจากใต้ตึกที่สามารถจอดได้ราวๆ 10 คัน ยังมีพื้นที่ด้านข้างเป็นลานจอดขนาดใหญ่ มีรปภ.ดูแลให้ 24 ชม.
พอจอดรถเสร็จก็รีบยกกระเป๋าคว้าข้าวคว้าของเดินเข้ามายังล็อบบี้ เพื่อจะรีบเอาของไปเก็บในห้อง ก่อนออกไปผจญภัยแถว ๆ ถนนคนเดินชื่อดังต่อ
สภาพของส่วนล็อบบี้ก็อย่างที่เห็น โอ้วแม่เจ้า มีโต๊ะพูลซะด้วย ถือว่าตกแต่งได้ดีครับ พื้นสะอาด สภาพใหม่สวยงามใช่ย่อยเลย
แต่หนึ่งในไฮไลท์ของพี่แก ก็คือนี่เลยครับ โซนนั่งเล่น ที่มีขนมนมเนย น้ำท่าให้ดื่มได้ฟรี ย้ำ!! ว่าฟรี 24 ชม.
ผมติดใจน้ำมะนาวในเหยือกนั่นจนมือลั่นไปหลายแก้ว อร่อยชุ่มชื่นไปถึงหัวใจเลยละ 5555
เอาละ ได้เวลาขึ้นไปยังห้องพักสักที ทางเดินก็ตกแต่งอย่างมีสไตล์เลย เรียกว่าใส่ใจทุกสัดส่วนก็ว่าได้
พ่ามมม!! ห้องพักเข้าขั้นสวยเลยสำหรับผม โดยเฉพาะผิวสัมผัสของพื้นลามิเนตที่นี่ มันทำให้เดินสบายเท้ามาก ๆ เรียกได้ว่าอยากจะเอามาปูที่บ้านบ้างเลยละ
การตกแต่งโดยรวมถือว่าทำได้ลงตัวสวยงามครับ ไม่ผิดหวังแน่นวล
ในส่วนของห้องน้ำ ขนาดไม่กว้างไม่แคบกำลังดี แต่แอบสวีท แต่อาจซีดสำหรับบางคน คือเจ้ากระจกใสบานใหญ่ตรงที่อาบน้ำนั่นแหละครับ เพราะมันปิดผ้าม่านจากด้านนอก เพราะฉะนั้นถ้าไปกับคนรักละสวีทแต่ แต่ถ้าไปกับเพื่อนละก็.....หุหุ ใจวัดใจละครับงานนี้ 5555
อาหารเช้าที่นี่จัดให้เต็ม ๆ แบบบุฟเฟต์ มีอาหารพอสมควรนะครับ ส่วนเรื่องรสชาติถือว่าแล้วแต่บุคคลเนอะ สำหรับผมเฉย ๆ นะ ไปดูอาหารกันดีกว่ามีจัดอะไรมาให้บ้าง
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้วก็อุ้มท้องแน่น ๆ เดินไปเก็บข้าวของเพื่อออกเดินทางกันต่อ
ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นว่า เอ๊ะ มีสระว่ายน้ำซ่อนอยู่ด้านหน้าโรงแรมด้วย ที่ต้องใช้คำว่าซ่อนเพราะไม่มีอะไรบ่งบอกชัดเจนว่าตรงนี้มีสระว่ายน้ำสักนิด
สระว่ายน้ำที่รูปทรงไม่ตรงเลขาคณิต มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามีใครมาใช้หรือเปล่า เพราะด้วยทำเลอยู่ในจุดอับสายตาพอควรเลย แต่ถ้าใครรู้อยู่แล้วก็สามารถมาใช้ได้อย่างไม่มีปัญหาละครับ
เอาละครับ วันนี้มีเรื่องมาเล่าขานอัพเดทกันประมาณนี้ ไว้พบกันใหม่นะครับ ดูแลสุขภาพครับทุกคน
[CR] นอนให้ฟิน กินให้พอ กับ Pause and Play Hotel จ.เชียงใหม่
เชียงใหม่ จังหวัดนี้คงน้อยคนที่ไม่เคยสัมผัส และแน่นอนเมื่อเป็นเมืองใหญ่ระดับหัวกะทิ ก็ย่อมมีที่พักมากมายผุดเป็นดอกเห็ดอย่างกับในเกมส์มาริโอเชียวละ ปัญหาที่ตามมาที่ผมเจอก็คือ จะไปแต่ละที เลือกที่พักไม่ถูกเลยมันละลานตาไปหมด
และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมจดที่พักใส่ลิสต์ไว้ราว ๆ 20 แห่ง ก่อนจะคัดเข้ารอบจากคณะกรรมการข้างกาย สุดท้ายก็เป็นที่แห่งนี้ครับที่เข้าเส้นชัยในช่วงเดดไลน์สุดท้ายก่อนเดินทาง
"Pause and Play Hotel" โรงแรมขนาดกลาง ตั้งอยู่บนถนนช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดูแล้วน่าสนใจจนผมเทใจว่าจะไปพักในครั้งนี้ หลังจากที่นี่เริ่มมัดใจผมก็ต้องรีบมัดจำเพราะใกล้วันที่ต้องเดินทางเต็มแก่
หลังจากเสร็จสิ้นการจอง ก็ลองหาอ่านรีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พบว่าน่าจะคิดไม่ผิด แต่ก็ยังเก็บอารมณ์ไว้ไปสัมผัสเองดีที่สุด
ผมเดินทางมาถึงที่พักประมาณเกือบหกโมงเย็น ที่จอดรถไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน เพราะนอกจากใต้ตึกที่สามารถจอดได้ราวๆ 10 คัน ยังมีพื้นที่ด้านข้างเป็นลานจอดขนาดใหญ่ มีรปภ.ดูแลให้ 24 ชม.
พอจอดรถเสร็จก็รีบยกกระเป๋าคว้าข้าวคว้าของเดินเข้ามายังล็อบบี้ เพื่อจะรีบเอาของไปเก็บในห้อง ก่อนออกไปผจญภัยแถว ๆ ถนนคนเดินชื่อดังต่อ
สภาพของส่วนล็อบบี้ก็อย่างที่เห็น โอ้วแม่เจ้า มีโต๊ะพูลซะด้วย ถือว่าตกแต่งได้ดีครับ พื้นสะอาด สภาพใหม่สวยงามใช่ย่อยเลย
แต่หนึ่งในไฮไลท์ของพี่แก ก็คือนี่เลยครับ โซนนั่งเล่น ที่มีขนมนมเนย น้ำท่าให้ดื่มได้ฟรี ย้ำ!! ว่าฟรี 24 ชม.
ผมติดใจน้ำมะนาวในเหยือกนั่นจนมือลั่นไปหลายแก้ว อร่อยชุ่มชื่นไปถึงหัวใจเลยละ 5555
เอาละ ได้เวลาขึ้นไปยังห้องพักสักที ทางเดินก็ตกแต่งอย่างมีสไตล์เลย เรียกว่าใส่ใจทุกสัดส่วนก็ว่าได้
พ่ามมม!! ห้องพักเข้าขั้นสวยเลยสำหรับผม โดยเฉพาะผิวสัมผัสของพื้นลามิเนตที่นี่ มันทำให้เดินสบายเท้ามาก ๆ เรียกได้ว่าอยากจะเอามาปูที่บ้านบ้างเลยละ
การตกแต่งโดยรวมถือว่าทำได้ลงตัวสวยงามครับ ไม่ผิดหวังแน่นวล
ในส่วนของห้องน้ำ ขนาดไม่กว้างไม่แคบกำลังดี แต่แอบสวีท แต่อาจซีดสำหรับบางคน คือเจ้ากระจกใสบานใหญ่ตรงที่อาบน้ำนั่นแหละครับ เพราะมันปิดผ้าม่านจากด้านนอก เพราะฉะนั้นถ้าไปกับคนรักละสวีทแต่ แต่ถ้าไปกับเพื่อนละก็.....หุหุ ใจวัดใจละครับงานนี้ 5555
อาหารเช้าที่นี่จัดให้เต็ม ๆ แบบบุฟเฟต์ มีอาหารพอสมควรนะครับ ส่วนเรื่องรสชาติถือว่าแล้วแต่บุคคลเนอะ สำหรับผมเฉย ๆ นะ ไปดูอาหารกันดีกว่ามีจัดอะไรมาให้บ้าง
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้วก็อุ้มท้องแน่น ๆ เดินไปเก็บข้าวของเพื่อออกเดินทางกันต่อ
ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นว่า เอ๊ะ มีสระว่ายน้ำซ่อนอยู่ด้านหน้าโรงแรมด้วย ที่ต้องใช้คำว่าซ่อนเพราะไม่มีอะไรบ่งบอกชัดเจนว่าตรงนี้มีสระว่ายน้ำสักนิด
สระว่ายน้ำที่รูปทรงไม่ตรงเลขาคณิต มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามีใครมาใช้หรือเปล่า เพราะด้วยทำเลอยู่ในจุดอับสายตาพอควรเลย แต่ถ้าใครรู้อยู่แล้วก็สามารถมาใช้ได้อย่างไม่มีปัญหาละครับ
เอาละครับ วันนี้มีเรื่องมาเล่าขานอัพเดทกันประมาณนี้ ไว้พบกันใหม่นะครับ ดูแลสุขภาพครับทุกคน