เริ่มเลยนะครับ คือผมทำงานอยู่ที่นี่มา 2 ปี ได้แล้ว แล้วไม่นานมานี้ผมก็มีโอกาสได้เจอเธอ เพราะเธอเลือกมาทำงานที่นี่พอดี เธอบอกว่ามันใกล้บ้านของเธอ ตอนแรกผมก็ยังไม่ได้คิดจะจีบเธอนะครับ แต่ มันเริ่มจากความใกล้ชิดด้วยการที่เราได้ทำงานไกล้กันในระยะ 5 ก้าว แต่ว่าโต๊ะของเธอกับผมนั้นอยู่ห่างกันนิดนึงแบบว่ามีฉากกั้นและถ้าผมเอียงตัวนิสสสสส นึง ก็จะเห็นครับ จากการที่ได้เห็นเธอทุกวัน ก็เริ่มรุ้สึกว่า เธอ น่ารักดีนะ
ถึงตรงนี้แล้วขอพูดถึงนิสัยเธอสักนิดครับ บ้านเธอค่อนข้างมีฐานะครับ เธอเป็นคนเก่งคนนึง และเธอก็ค่อนข้างจะมีโลกส่วนตัวสูงครับ ประมาณว่าเสพติดการอยู่คนเดียว แต่เธอก็ทำงานร่วมกับคนอื่นได้นะ และเธอเป็นติ่งเกาหลีครับ คงครั่งใคร้มาก เห็นเปิดเฟสนักร้อง k-pop ตลอด ขนาดว่าเธอบอกไม่เล่นเฟสนะเนี้ย คงกลัวเราขอ เคยขอครับแต่ไม่รับ ไปที่การจีบกันต่อครับ เริ่มแรกผมก้คุยๆ ถามไถ่เรื่องราวการทำงานครับ เธอยังคงไม่รุ้ตัวแต่ก้ตอบช้าครับ แล้ววันนั้นเป็นวันที่เธอใกล้จะไปรับปริญญาพอดี ผมเลยมอบช่อดอกไม้เฟอเรโร่ให้ครับ ขอบอกไว้ก่อนว่าผมทำเอง ตั้งใจทำมากนะครับ ไม่สวยเท่าร้านทำแต่ก็ถ่ายรูปออกมาสวยอยู่นะ บัญชีผมยังลงรูปไม่ได้ไว้ลงได้จะเอามาให้ดูครับ พอเธอรับก็ขอบคุณตามมารยาทครับ หลังจาดนั้นผมก็ส่งข้อความไปบ้างครับ เพราะรู้ดีว่าเธอ โลกส่วนตัวสู๊งงงงงงงงงงง วันละไม่กี่ข้อความครับ แต่เธอไม่ค่อยตอบครับนั่นคงเพราะเธอไม่อยากคุยครับ ผมรุ้ได้จากเวลาถามเรื่องงานเธอจะตอบครับ แต่ถ้าถามเรื่องส่วนตัวนี่ ผ่านมา2-3วันอย่างมากแค่อ่านแต่ไม่ตอบครับ ก่อนกลับบ้านผมก็จะลาเธอด้วยการบอกว่า
กลับบ้านกันครั้บ ขับรถดีๆนะครับ อย่ากลับดึกนะ ประมาณนี้ครับ แล้วผ่านมา 1 เดือนครับ ผมก็ไม่ได้เจอเธอทุกวันนะครับ เนื่องจากเธอไปรับปริญญาบ้าง ผมก็ไปอบรมของที่ที่ทำงานบ้างคือเขาส่งตัวแทนไปนะครับ บางทีเธอก็จะไป แรกๆตอนเธอมาใหม่ๆเราคุยกันดีพอสมควรครับ แต่พอเธอรุ้ว่าผมจะจีบเท่านั้นแหละ หึหึ ความเฉยชาก็มาครับ ประมาณว่าชั้นไม่เห็นนาย ชั้นไม่อยากคุยกับนาย แต่ก็นั่นละครับ บางอย่างที่เธอทำไม่ได้ผมก็อาสาช่วยนะ อย่างช่วงเธอไปรับปริญญาญา ผมก็ดูแลในส่วนงานของเธอ แล้วมีอยุ่วันนึงผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอแล้วผมเลยทักเธอไปครับ ขอให้เธอช่วยในส่วนของงานชื้นหนึ่ง แต่ก็นั่นละครับเธอคงไม่อยากสุงสิงกับผมทุกวิถีทาง เธอเลยปฏิเสธทุกทาง อย่างเช่นถ้าผมไปทางนั้นเธอก็พูดจะดักไว้ ไปทางนี้ก็จะพูดดักไว้ เอาจนผมต้องบอกไปว่า "ไม่เป็นไรครับ งั้นก็ถ้าตรงไหนที่ทำได้ก็ช่วยอธิบายให้ผมนิสนึงละกัน" เธอก็ว่าเดี๋ยวจะดูให้ ถึงตรงนี้ผมเริ่มจะรู้ละครับว่าเธอรำคาญแต่ผมก็ไม่ได้ทักอะไรแล้วนะ จะคุยที่ทำงานบ้าง แต่ก้นั่นละต้องคิดก่อนพูดเสมอ มักจะคุยกันแต่เรื่องงาน และทุกครั้งที่กลับบ้านจากตอนนี้ เธอไม่ลาผมก่อนกลับบ้านละครับ เพราะผมเป็นรุ่นพี่ เธอ 2 ปี คือเธออายุน้อยกว่าผมครับ ตอนเธอมาใหม่เธอก้บอกนะครับว่าชอบยุ่คนเดียวและยังไม่อยากมีใครแต่ แต่ผมก็อยากลองจีบดูครับ คือเวลาจีบใครนี่ผมจิงจังนะครับ หลังจากที่ไม่มีแฟนมา 7 ปี ก็อยากลองดูอีกซักครั้ง
กลับมาที่เธอกันต่อครับ ความเฉยชาที่เธอแสดงออกไม่ได้มีแค่นั้นครับ อีกเหตุการณ์หนึ่งคือตอนกินข้าว ตอนมาใหม่ๆนี่เธอนั่งฝั่งตรงข้ามผมครับ คุยกันบ้างตามประสา แต่พอผมจีบเท่านั้นแหละ นั่งห่างเลยครับ คือเธอนั่งหัวโต๊ะเลย ประมาณว่า ไม่อยากเห็นหน้า คือบางทีผมก็สงสัยนะว่า
(มันต้องขนาดนี้เลยหรอ) และยังไม่หมดครับเธอยังพูดกับพี่ที่ทำงานอีกคนว่า รำคาญเวลามีคนส่งอะไรมาในไล อย่างสติ๊กเกอร์ ผมก็อ้าวเฮ้ย กูนี่หว่าจ๋อยเลยครับ เข้าใจเลยว่าเธอต้องการส่งสัญญาณ ถึงจุดนี้ผมก็เข้าใจแล้วครับและเริ่มยอมรับชะตากรรม อ่าแต่ยังไม่หมดครับผมไม่มีเฟสเธอก็จริงครับ แต่ก็ยังมีไล อยากรุ้เหมือนกันว่าเธอจะโพสอะไรในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา คือปกติเธอกลับบ้านช้ามากครับเกือบค่ำเลยด้วยซ้ำสถานที่ทำงานของเราอยู่ในชุมชนครับ ผมก็เป็นห่วงเธอธรรมดาครับเลยลองกลับช้าดูบ้าง คืออยากรู้ว่าเธอจะทักเราไหม เพราะปกติเราไม่กลับช้า แล้วเธอก้ทักจริงๆครับ
"ว่ายังไม่กลับหรอค่ะ" คือเวลาเราคุยกันนี่ เธอจะแทนตัวเองด้วยชื่อตัวเองแล้วลงท้ายด้วย ค่ะ ส่วนผมก็แทนตัวเองด้วย ผมแล้วลงท้ายด้วยครับ
พอผมลับมาก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วนะครับและเริ่มถอดใจ แต่ก็ยังแอบไปส่องไลเขาครับ คือคนมันชอบอะครับเธอน่ารัก ผมก็ไปเจอข้อความนึงเข้าจุ๊กเลยครับ แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรแล้วนะครับ คือก่อนหน้านั้นก็ทำใจไว้บ้างแล้ว ใจความของประโยคนั้นประมาณว่า (ทุกคนล้วนมี สเปก เป็นของตัวเอง ฉะนั้น เคารพใน สเปก ของคนอื่นด้วยแล้วชีวิตจะมีความสุข...) คือที่เธอว่ายังไม่อยากมีใครมันไม่ใช่ ไม่ใช่สเปกเขานี่หว่า แต่ก็นั่นละครับถึงเธอจะว่าอย่างนั้นผมก็ไม่เคยคิดที่จะโกรธเธอเลย เพราะผมชอบเธอ จิงจังและจิงใจ แม้สิ่งที่ได้กลับมาคือความเฉยชา และที่สำคัญคือผมก็กำลังจะออกจากที่ทำงานนี่แล้ว ไม่ใช่ว่าเพราะเสียใจเรื่องเธอหรอกครับ แต่ด้วยเหตุผลอื่น จริงๆก็อยากอยุ่ต่อแต่เขาไม่จ้างผมแล้วนี่สิ ผมเลยอยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ในความทรงจำครับ เพราะยังไงผมก็ชอบเธออ่านะ และนี่ก็ใกล้ถึงวันวาเลนไทแล้ว เพื่อนๆคิดว่าผมควรให้อะไรเธอไหมครับ คือผมคิดไว้อยู่นะว่าจะให้ ดอกกุหลาบที่พับจากเปลือกเฟอร์เรโร่ ผมทำเองครับ ไม่รู้ว่าจะอยุ่ถึง 14 กุมภาพันธ์ รึเปล่า กำลังจะไปสัมภาษณ์งานใหม่ครับ ลึกๆแล้วถึงเธอจะไม่ชอบผมและในอนาคตถึงเธอจะมีแฟนก็ตาม ผมก็คงจะเป็นห่วงเธอครับกลัวเธอเจอคนไม่ดี อยากให้เธอเจอคนดีๆที่ตรงสเปกเธอ อยากเห็นเธอมีความสุข แต่ตอนนี้อยุ่ในช่วงปรับปรุงบุคลิกตัวเองครับ สักวันถ้าเธอยังไม่มีใครและผมไม่มีใครผมจะไปคุยกับเธออีกครังนึงครับ ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้บ้างครับ ขอบคุณทุกท่านที่พยายามอ่านครับ ......
เคยถูกใครปฏิเสธด้วยความเฉยชามั้ย.....
ถึงตรงนี้แล้วขอพูดถึงนิสัยเธอสักนิดครับ บ้านเธอค่อนข้างมีฐานะครับ เธอเป็นคนเก่งคนนึง และเธอก็ค่อนข้างจะมีโลกส่วนตัวสูงครับ ประมาณว่าเสพติดการอยู่คนเดียว แต่เธอก็ทำงานร่วมกับคนอื่นได้นะ และเธอเป็นติ่งเกาหลีครับ คงครั่งใคร้มาก เห็นเปิดเฟสนักร้อง k-pop ตลอด ขนาดว่าเธอบอกไม่เล่นเฟสนะเนี้ย คงกลัวเราขอ เคยขอครับแต่ไม่รับ ไปที่การจีบกันต่อครับ เริ่มแรกผมก้คุยๆ ถามไถ่เรื่องราวการทำงานครับ เธอยังคงไม่รุ้ตัวแต่ก้ตอบช้าครับ แล้ววันนั้นเป็นวันที่เธอใกล้จะไปรับปริญญาพอดี ผมเลยมอบช่อดอกไม้เฟอเรโร่ให้ครับ ขอบอกไว้ก่อนว่าผมทำเอง ตั้งใจทำมากนะครับ ไม่สวยเท่าร้านทำแต่ก็ถ่ายรูปออกมาสวยอยู่นะ บัญชีผมยังลงรูปไม่ได้ไว้ลงได้จะเอามาให้ดูครับ พอเธอรับก็ขอบคุณตามมารยาทครับ หลังจาดนั้นผมก็ส่งข้อความไปบ้างครับ เพราะรู้ดีว่าเธอ โลกส่วนตัวสู๊งงงงงงงงงงง วันละไม่กี่ข้อความครับ แต่เธอไม่ค่อยตอบครับนั่นคงเพราะเธอไม่อยากคุยครับ ผมรุ้ได้จากเวลาถามเรื่องงานเธอจะตอบครับ แต่ถ้าถามเรื่องส่วนตัวนี่ ผ่านมา2-3วันอย่างมากแค่อ่านแต่ไม่ตอบครับ ก่อนกลับบ้านผมก็จะลาเธอด้วยการบอกว่า
กลับบ้านกันครั้บ ขับรถดีๆนะครับ อย่ากลับดึกนะ ประมาณนี้ครับ แล้วผ่านมา 1 เดือนครับ ผมก็ไม่ได้เจอเธอทุกวันนะครับ เนื่องจากเธอไปรับปริญญาบ้าง ผมก็ไปอบรมของที่ที่ทำงานบ้างคือเขาส่งตัวแทนไปนะครับ บางทีเธอก็จะไป แรกๆตอนเธอมาใหม่ๆเราคุยกันดีพอสมควรครับ แต่พอเธอรุ้ว่าผมจะจีบเท่านั้นแหละ หึหึ ความเฉยชาก็มาครับ ประมาณว่าชั้นไม่เห็นนาย ชั้นไม่อยากคุยกับนาย แต่ก็นั่นละครับ บางอย่างที่เธอทำไม่ได้ผมก็อาสาช่วยนะ อย่างช่วงเธอไปรับปริญญาญา ผมก็ดูแลในส่วนงานของเธอ แล้วมีอยุ่วันนึงผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอแล้วผมเลยทักเธอไปครับ ขอให้เธอช่วยในส่วนของงานชื้นหนึ่ง แต่ก็นั่นละครับเธอคงไม่อยากสุงสิงกับผมทุกวิถีทาง เธอเลยปฏิเสธทุกทาง อย่างเช่นถ้าผมไปทางนั้นเธอก็พูดจะดักไว้ ไปทางนี้ก็จะพูดดักไว้ เอาจนผมต้องบอกไปว่า "ไม่เป็นไรครับ งั้นก็ถ้าตรงไหนที่ทำได้ก็ช่วยอธิบายให้ผมนิสนึงละกัน" เธอก็ว่าเดี๋ยวจะดูให้ ถึงตรงนี้ผมเริ่มจะรู้ละครับว่าเธอรำคาญแต่ผมก็ไม่ได้ทักอะไรแล้วนะ จะคุยที่ทำงานบ้าง แต่ก้นั่นละต้องคิดก่อนพูดเสมอ มักจะคุยกันแต่เรื่องงาน และทุกครั้งที่กลับบ้านจากตอนนี้ เธอไม่ลาผมก่อนกลับบ้านละครับ เพราะผมเป็นรุ่นพี่ เธอ 2 ปี คือเธออายุน้อยกว่าผมครับ ตอนเธอมาใหม่เธอก้บอกนะครับว่าชอบยุ่คนเดียวและยังไม่อยากมีใครแต่ แต่ผมก็อยากลองจีบดูครับ คือเวลาจีบใครนี่ผมจิงจังนะครับ หลังจากที่ไม่มีแฟนมา 7 ปี ก็อยากลองดูอีกซักครั้ง
กลับมาที่เธอกันต่อครับ ความเฉยชาที่เธอแสดงออกไม่ได้มีแค่นั้นครับ อีกเหตุการณ์หนึ่งคือตอนกินข้าว ตอนมาใหม่ๆนี่เธอนั่งฝั่งตรงข้ามผมครับ คุยกันบ้างตามประสา แต่พอผมจีบเท่านั้นแหละ นั่งห่างเลยครับ คือเธอนั่งหัวโต๊ะเลย ประมาณว่า ไม่อยากเห็นหน้า คือบางทีผมก็สงสัยนะว่า
(มันต้องขนาดนี้เลยหรอ) และยังไม่หมดครับเธอยังพูดกับพี่ที่ทำงานอีกคนว่า รำคาญเวลามีคนส่งอะไรมาในไล อย่างสติ๊กเกอร์ ผมก็อ้าวเฮ้ย กูนี่หว่าจ๋อยเลยครับ เข้าใจเลยว่าเธอต้องการส่งสัญญาณ ถึงจุดนี้ผมก็เข้าใจแล้วครับและเริ่มยอมรับชะตากรรม อ่าแต่ยังไม่หมดครับผมไม่มีเฟสเธอก็จริงครับ แต่ก็ยังมีไล อยากรุ้เหมือนกันว่าเธอจะโพสอะไรในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา คือปกติเธอกลับบ้านช้ามากครับเกือบค่ำเลยด้วยซ้ำสถานที่ทำงานของเราอยู่ในชุมชนครับ ผมก็เป็นห่วงเธอธรรมดาครับเลยลองกลับช้าดูบ้าง คืออยากรู้ว่าเธอจะทักเราไหม เพราะปกติเราไม่กลับช้า แล้วเธอก้ทักจริงๆครับ
"ว่ายังไม่กลับหรอค่ะ" คือเวลาเราคุยกันนี่ เธอจะแทนตัวเองด้วยชื่อตัวเองแล้วลงท้ายด้วย ค่ะ ส่วนผมก็แทนตัวเองด้วย ผมแล้วลงท้ายด้วยครับ
พอผมลับมาก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วนะครับและเริ่มถอดใจ แต่ก็ยังแอบไปส่องไลเขาครับ คือคนมันชอบอะครับเธอน่ารัก ผมก็ไปเจอข้อความนึงเข้าจุ๊กเลยครับ แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรแล้วนะครับ คือก่อนหน้านั้นก็ทำใจไว้บ้างแล้ว ใจความของประโยคนั้นประมาณว่า (ทุกคนล้วนมี สเปก เป็นของตัวเอง ฉะนั้น เคารพใน สเปก ของคนอื่นด้วยแล้วชีวิตจะมีความสุข...) คือที่เธอว่ายังไม่อยากมีใครมันไม่ใช่ ไม่ใช่สเปกเขานี่หว่า แต่ก็นั่นละครับถึงเธอจะว่าอย่างนั้นผมก็ไม่เคยคิดที่จะโกรธเธอเลย เพราะผมชอบเธอ จิงจังและจิงใจ แม้สิ่งที่ได้กลับมาคือความเฉยชา และที่สำคัญคือผมก็กำลังจะออกจากที่ทำงานนี่แล้ว ไม่ใช่ว่าเพราะเสียใจเรื่องเธอหรอกครับ แต่ด้วยเหตุผลอื่น จริงๆก็อยากอยุ่ต่อแต่เขาไม่จ้างผมแล้วนี่สิ ผมเลยอยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ในความทรงจำครับ เพราะยังไงผมก็ชอบเธออ่านะ และนี่ก็ใกล้ถึงวันวาเลนไทแล้ว เพื่อนๆคิดว่าผมควรให้อะไรเธอไหมครับ คือผมคิดไว้อยู่นะว่าจะให้ ดอกกุหลาบที่พับจากเปลือกเฟอร์เรโร่ ผมทำเองครับ ไม่รู้ว่าจะอยุ่ถึง 14 กุมภาพันธ์ รึเปล่า กำลังจะไปสัมภาษณ์งานใหม่ครับ ลึกๆแล้วถึงเธอจะไม่ชอบผมและในอนาคตถึงเธอจะมีแฟนก็ตาม ผมก็คงจะเป็นห่วงเธอครับกลัวเธอเจอคนไม่ดี อยากให้เธอเจอคนดีๆที่ตรงสเปกเธอ อยากเห็นเธอมีความสุข แต่ตอนนี้อยุ่ในช่วงปรับปรุงบุคลิกตัวเองครับ สักวันถ้าเธอยังไม่มีใครและผมไม่มีใครผมจะไปคุยกับเธออีกครังนึงครับ ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้บ้างครับ ขอบคุณทุกท่านที่พยายามอ่านครับ ......