สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ยังไงถ้าเค้าฟ้องคุณก็ต้องได้เจอเค้าค่ะ พอถึงตอนนั้นลองไปขอโทษ ขอให้เค้ายอมความ/ถอนฟ้อง ถ้าเค้าเห็นใจ เรื่องก็น่าจะจบแค่ตรงนั้น แล้วก็จำเอาไว้เป็นบทเรียน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. จากประโยคนี้ “ แบบนี้มันจะมีประวัติติดตัวเลยใช่มั้ยแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลยคะ ไม่ได้ไปทำร้ายร่างกาย ไม่ได้ทำให้เจ็บตัว ทำไมต้องทำขนาดนี้เราไม่เข้าใจ นี่เหมือนโดนแกล้ง”
ถ้าเราเป็นคุณ C เราคิดหนักเลยนะเรื่องถอนฟ้อง เหมือนไม่ได้สำนึกอะไรเลย ยอมขอโทษให้เรื่องมันจบไปมากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. จากประโยคนี้ “ แบบนี้มันจะมีประวัติติดตัวเลยใช่มั้ยแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลยคะ ไม่ได้ไปทำร้ายร่างกาย ไม่ได้ทำให้เจ็บตัว ทำไมต้องทำขนาดนี้เราไม่เข้าใจ นี่เหมือนโดนแกล้ง”
ถ้าเราเป็นคุณ C เราคิดหนักเลยนะเรื่องถอนฟ้อง เหมือนไม่ได้สำนึกอะไรเลย ยอมขอโทษให้เรื่องมันจบไปมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 11
สังคมไทยเป็นอะไรมีตรรกะนึกจะไปด่าใครเขาก็ได้ เลิกได้แล้วนะ คุณไม่มีสิทธิ์ด่า เห็นคนอื่นทำก็ทำตามไม่ใช่ไม่ผิดนะ แค่ผู้เสียหายเขาไม่เอาเรื่อง จำไว้ว่าคำพูดมันทำร้ายคนได้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยค่ะ คุณเห็นคนอื่นใช้ชีวิตปกติ คุณไปรู้กับเขาหรอว่าเขาเจ็บมั้ย สภาพจิตใจเขาเป็นยังไง คุณไม่ได้โดนเองนิ ถ้าคุณสำนึกผิดคุณจะไม่มาบอกว่าเรื่องแค่นี้เอง คนฆ่าตัวตายหลายคนเพราะไอ้เรื่องแค่นี้เองแหละค่ะ พวกชอบด่าคนนี่แหละต้องโดนฟ้องเสียบ้างจะได้เข็ด ไม่งั้นไปรุมด่ารังแกคนเขาไปทั่ว ขอให้โชคดีแล้วเขายกฟ้องค่ะ วันหลังอย่าทำอีก
ความคิดเห็นที่ 6
หมิ่นประมาทมีทั้งอาญาและแพ่ง ตอนนี้คงโดนอาญาก่อน จบอาญาก็ว่าเรื่องแพ่งต่อ(อาญาค่าปรับเข้ารัฐ, แพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายเพื่อชดเชยคู่กรณี) เรื่องว่าเราลบทุกอย่างแล้วเอาผิดได้แค่ไหน อยู่ที่การเตรียมสำนวนของคู่กรณีค่ะ เรื่องโทษปรับหรือจำคุกแล้วแต่ศาลจะพิจารณา(จากความรุนแรงของข้อความ, จากลักษณะพฤติกรรมของคุณเองว่ามีการด่าซ้ำ ๆ แค่ไหน ฯลฯ การที่ไม่เคยต้องคดีมาก่อน “อาจจะ” ช่วยได้บ้างค่ะ) สุดท้ายคดีประเภทนี้ศาลมักเปิดโอกาสให้ไกล่เกลี่ยกันก่อนรอบหรือสองรอบ ถ้าตกลงกันได้(เช่น คุณลงขอโทษผ่านสื่อ หรือชดใช้ชดเชยอื่นๆ ที่คู่กรณีพอใจ) ก็ถอนฟ้องกันไป แต่อย่าลืมว่ามันเป็นสิทธของคู่กรณีเหมือนกันที่จะไม่ถอนฟ้อง คดีหมิ่นประมาทคุณจะมาบอกว่า “เรื่องแค่นี้เอง” ไม่ได้หรอก คนที่เสียหาย คนที่เจ็บจากคำพูดคุณเค้าไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแค่นี้เหมือนคุณ เค้าก็มีสิทธิเต็มที่ที่จะแจ้งความดำเนินคดีค่ะ อย่าไปคิดว่าเค้า “แกล้ง” คุณ
ความคิดเห็นที่ 37
ไม่ได้หมายถึงเรื่องติ่ง 100 % ส่วนใหญ่คนในโลกโซเชี่ยลกับชีวิตจริงก็ไม่ได้เหมือนกัน คือ ไม่ได้พูดเก่งเท่าพิมพ์เก่ง
บางทีเรื่องพวกนี้มันไม่ถึงศาลแต่ใช้วิธีการลงโทษทางสังคมมากกว่า มันสืบได้น่ะ ว่าเป็นใครไม่ยาก ถ้าเจอตัวแล้วเป็นเด็กก็ไปพูดคุยกับพ่อแม่ (บางครั้งจบแค่ตรงนี้เลย พ่อแม่หน้าซีดตกใจ ลูกตัวเองเป็นแบบนี้จริงเหรอ แต่ถ้าเจอพ่อแม่โอ๋ลูกก็เหนื่อยนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะไม่) ถ้าทำงานแล้ว ต่อด้วย รายงานไปถึงต้นสังกัด ส่ง HR หรือ อะไรที่จะไปถึงต้นสังกัดที่ทำงานอยู่ได้ โดยเฉพาะอาชีพที่มีเกียรติ มีหน้าตาเป็นที่นับถือของคนในสังคม เช่น วงการการศึกษา เอเจนซีและพวกติดท็อปไฟว์เบอร์ต้นๆ ของประเทศ นี่ตามง่ายสุดๆ
(ไม่ถึงกับตกงานแต่ถ้าคนฟ้อง รู้จักหรือมีเส้นสายในองค์กรใหญ่ๆ ที่ทำงานอยู่นะ ประวัติคุณก็จะไม่สวยล่ะ ) จิงๆ แม้แต่เว็บนี้เองก็สามารถตรวจสอบได้ ถ้าคุณรู้จักใครสักคนในนี้ หาว่า เป็นใครมาจากไหนประวัติยังไงมันไม่ได้ยากเลยแต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนฟ้อง
ส่วนศาลนี่ยังไม่เคยถึงเพราะ ใจอ่อนก่อน เอาจริงแค่รายงานต้นสังกัดที่ทำงาน ก็มากพอแล้ว แทบจะเสียอนาคตการทำงาน การใช้โซเชียลในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นการแสดงว่า E.Q. ของคนนั้นไม่เพียงพอ ยากจะโตไปในระดับที่สูงกว่านั้นได้ ไม่ว่าจะสายอาชีพไหน ส่วนตัววิธีนี้เวิร์คกว่าฟ้องศาล เหมาะกับคนมีคอนเนคชั่นเยอะๆ สะดวกและเห็นผลกว่าการใช้ระบบยุติธรรมและช่องโหว่ของกฎหมายบ้านเรา แล้วพวกนี้ถ้าทำงานวงการเดียวจะโยงและรู้ถึงกันเร็วมาก คือมันไม่ได้เสียแค่ที่ทำงานเดียวแต่ส่งไปถึง Career Path ในสายอาชีพได้เว้นจะเปลี่ยนสายการทำงาน
แต่ถามนิดเถอะ คุณไม่เคยขอโทษเขาเลยเหรอ ไม่แสดงความสำนึกผิดสักนิด มันถึงไปไกลขนาดนั้น แต่อ่านจากที่เขียนมาก็พอเข้าใจคือเด็กมาก เด็กแน่นอน เด็กแบบเอามาลงในพันทิปได้ ไม่รู้จักกฎหมายเรื่องโซเชี่ยล ไม่รู้จักหมายศาล และไม่รู้สำนึกที่เรียกว่าแย่ที่สุดกับการไม่รู้ทั้งหมดที่ว่ามา
ถ้าเราเจอแบบคุณนี่ เราก็ฟ้องนะ เจอในกระทู้แบบนี้ยิ่งโกรธ เสียเงิน เสียเวลาเท่าไหร่ช่างมัน คนฟ้องน่ะ มันมีเวลาพร้อมจะเสียอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะได้มาคือทำให้คุณรู้สึกผิดบ้างขึ้นมานิดนึงก็ยังดี ต้องการแค่นี้ จริงๆ เรารู้ผลเรื่องกฎหมาย ไอพี หรือพวกยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้ทำเนีย ฟ้องไปก็เท่านั้นล่ะ ที่นี่ประเทศไทย แต่สำหรับคนที่ได้หมายศาลครั้งแรกในชีวิตคงไม่สนุกเท่าไหร่ เป็นการทำสงครามประสาทกันนิดหน่อยเหมือนที่คุณกำลังวิตก ตื่นตระหนกมากๆ อยู่ แต่คนที่ต้องเครียดหนักกว่าคือพ่อแม่ของคุณนั่นล่ะ น่าสงสารพ่อแม่นะ บาปจริงๆ
คุณ อาจจะได้ใจ ไม่กลัวเพราะคิดว่าปิดหน้าจอ ออฟไลน์ก็จบ ไม่มีใครจับได้ว่าคุณเป็นใคร แต่ในทางตรงข้ามคุณก็จะไม่รู้เหมือนกันว่าฝั่งตรงข้ามเค้ามีอะไรเหมือนกัน นี่ล่ะความน่ากลัวของโลกโซเชี่ยล ไม่รู้เขา ไม่รู้เรา แต่ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้อะไรเลย
ปล ลบไปก็ไม่ทัน มีคนแคปแล้วเชื่อเถอะ
บางทีเรื่องพวกนี้มันไม่ถึงศาลแต่ใช้วิธีการลงโทษทางสังคมมากกว่า มันสืบได้น่ะ ว่าเป็นใครไม่ยาก ถ้าเจอตัวแล้วเป็นเด็กก็ไปพูดคุยกับพ่อแม่ (บางครั้งจบแค่ตรงนี้เลย พ่อแม่หน้าซีดตกใจ ลูกตัวเองเป็นแบบนี้จริงเหรอ แต่ถ้าเจอพ่อแม่โอ๋ลูกก็เหนื่อยนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะไม่) ถ้าทำงานแล้ว ต่อด้วย รายงานไปถึงต้นสังกัด ส่ง HR หรือ อะไรที่จะไปถึงต้นสังกัดที่ทำงานอยู่ได้ โดยเฉพาะอาชีพที่มีเกียรติ มีหน้าตาเป็นที่นับถือของคนในสังคม เช่น วงการการศึกษา เอเจนซีและพวกติดท็อปไฟว์เบอร์ต้นๆ ของประเทศ นี่ตามง่ายสุดๆ
(ไม่ถึงกับตกงานแต่ถ้าคนฟ้อง รู้จักหรือมีเส้นสายในองค์กรใหญ่ๆ ที่ทำงานอยู่นะ ประวัติคุณก็จะไม่สวยล่ะ ) จิงๆ แม้แต่เว็บนี้เองก็สามารถตรวจสอบได้ ถ้าคุณรู้จักใครสักคนในนี้ หาว่า เป็นใครมาจากไหนประวัติยังไงมันไม่ได้ยากเลยแต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนฟ้อง
ส่วนศาลนี่ยังไม่เคยถึงเพราะ ใจอ่อนก่อน เอาจริงแค่รายงานต้นสังกัดที่ทำงาน ก็มากพอแล้ว แทบจะเสียอนาคตการทำงาน การใช้โซเชียลในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นการแสดงว่า E.Q. ของคนนั้นไม่เพียงพอ ยากจะโตไปในระดับที่สูงกว่านั้นได้ ไม่ว่าจะสายอาชีพไหน ส่วนตัววิธีนี้เวิร์คกว่าฟ้องศาล เหมาะกับคนมีคอนเนคชั่นเยอะๆ สะดวกและเห็นผลกว่าการใช้ระบบยุติธรรมและช่องโหว่ของกฎหมายบ้านเรา แล้วพวกนี้ถ้าทำงานวงการเดียวจะโยงและรู้ถึงกันเร็วมาก คือมันไม่ได้เสียแค่ที่ทำงานเดียวแต่ส่งไปถึง Career Path ในสายอาชีพได้เว้นจะเปลี่ยนสายการทำงาน
แต่ถามนิดเถอะ คุณไม่เคยขอโทษเขาเลยเหรอ ไม่แสดงความสำนึกผิดสักนิด มันถึงไปไกลขนาดนั้น แต่อ่านจากที่เขียนมาก็พอเข้าใจคือเด็กมาก เด็กแน่นอน เด็กแบบเอามาลงในพันทิปได้ ไม่รู้จักกฎหมายเรื่องโซเชี่ยล ไม่รู้จักหมายศาล และไม่รู้สำนึกที่เรียกว่าแย่ที่สุดกับการไม่รู้ทั้งหมดที่ว่ามา
ถ้าเราเจอแบบคุณนี่ เราก็ฟ้องนะ เจอในกระทู้แบบนี้ยิ่งโกรธ เสียเงิน เสียเวลาเท่าไหร่ช่างมัน คนฟ้องน่ะ มันมีเวลาพร้อมจะเสียอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะได้มาคือทำให้คุณรู้สึกผิดบ้างขึ้นมานิดนึงก็ยังดี ต้องการแค่นี้ จริงๆ เรารู้ผลเรื่องกฎหมาย ไอพี หรือพวกยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้ทำเนีย ฟ้องไปก็เท่านั้นล่ะ ที่นี่ประเทศไทย แต่สำหรับคนที่ได้หมายศาลครั้งแรกในชีวิตคงไม่สนุกเท่าไหร่ เป็นการทำสงครามประสาทกันนิดหน่อยเหมือนที่คุณกำลังวิตก ตื่นตระหนกมากๆ อยู่ แต่คนที่ต้องเครียดหนักกว่าคือพ่อแม่ของคุณนั่นล่ะ น่าสงสารพ่อแม่นะ บาปจริงๆ
คุณ อาจจะได้ใจ ไม่กลัวเพราะคิดว่าปิดหน้าจอ ออฟไลน์ก็จบ ไม่มีใครจับได้ว่าคุณเป็นใคร แต่ในทางตรงข้ามคุณก็จะไม่รู้เหมือนกันว่าฝั่งตรงข้ามเค้ามีอะไรเหมือนกัน นี่ล่ะความน่ากลัวของโลกโซเชี่ยล ไม่รู้เขา ไม่รู้เรา แต่ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้อะไรเลย
ปล ลบไปก็ไม่ทัน มีคนแคปแล้วเชื่อเถอะ
ความคิดเห็นที่ 46
ตอนนั้นคึกคะนองเพราะคุณCเคยเป็นแฟนคลับวงที่เราชอบ แต่ตอนนี้ไปชอบอีกวงที่เป็นคู่แข่งวงเรา
คือไอดอลทั้ง2วงเค้าประกาศหรอค่ะว่าเป็นคู่แข่งกัน ฝั่งนี่ต้องด่าฝั่งนั้นเผื่อชัยชนะเค้าบอกหรอ ไอดอลส่วนใหญ่เค้าเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นมีแต่แฟนคลับนี่ละที่ชอบมาทะเลาะกันเอง ขอให้ผู้กรณีจัดหนักๆเลย จะได้มีกรณีตัวอย่าง อย่ามาคิดแค่คนอื่นเค้าก็ทำ คนเราโตๆ กันแล้วใช่ว่าจะคิดเองไม่ได่ว่าอะไรควรไม่ควร
คนบนโลกมีเป็นล้าน ความชอบไม่เหมือนกัน แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไม่ว่าคนอื่น "รู้จักเค้าดีหรือยังึงได้ไปด่าคนอื่น คนสมัยนี่ใช้โซเชี่ยวในทางที่ผิดมาก นึกอยากจะด่าใครก็ด่า วันนึงผลของการกระทำย้อนกลับมาคุณต้องรับให้ได้ค่ะ"
คือไอดอลทั้ง2วงเค้าประกาศหรอค่ะว่าเป็นคู่แข่งกัน ฝั่งนี่ต้องด่าฝั่งนั้นเผื่อชัยชนะเค้าบอกหรอ ไอดอลส่วนใหญ่เค้าเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นมีแต่แฟนคลับนี่ละที่ชอบมาทะเลาะกันเอง ขอให้ผู้กรณีจัดหนักๆเลย จะได้มีกรณีตัวอย่าง อย่ามาคิดแค่คนอื่นเค้าก็ทำ คนเราโตๆ กันแล้วใช่ว่าจะคิดเองไม่ได่ว่าอะไรควรไม่ควร
คนบนโลกมีเป็นล้าน ความชอบไม่เหมือนกัน แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไม่ว่าคนอื่น "รู้จักเค้าดีหรือยังึงได้ไปด่าคนอื่น คนสมัยนี่ใช้โซเชี่ยวในทางที่ผิดมาก นึกอยากจะด่าใครก็ด่า วันนึงผลของการกระทำย้อนกลับมาคุณต้องรับให้ได้ค่ะ"
แสดงความคิดเห็น
โดนติ่งด้วยกันฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทคะ